ซูฉิงเป็นไข้จนสะลึมสะลือ นอนอยู่บนเบาะ เพ้อออกมาตามสัญชาตญาณ “ทรมานเหลือเกิน”
เธอไม่เพียงแค่มีอาการแพ้ ยังเป็นไข้ด้วย…
เห็นท่าทางซูฉิง ฮ่อหยุนเฉิงทั้งปวดใจทั้งกังวล ครุ่นคิดไปมา เขาจึงโทรติดต่อเฮ่อหวงเหว่ย
ในเวลานี้เฮ่อหวงเหว่ยกำลังเข้าร่วมสัมมนาวิชาการทางการแพทย์ เมื่อถึงคิวที่เขาต้องพูด โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของเขาก็สั่นขึ้นมา
เขาก้มศีรษะมอง เป็นฮ่อหยุนเฉิงโทรมา
เฮ่อหวงเหว่ยไม่กล้าชักช้า เดินไปรับโทรศัพท์นอกห้องประชุม “พี่ฮ่อ มีเรื่องอะไร?”
“มาเมืองใหม่สุยเย่วหน่อย รีบมาตอนนี้เลย” เสียงเย็นของฮ่อหยุนเฉิงพูด
“ใครไม่สบาย? รุนแรงมั้ย? รออีกเดี๋ยวได้มั้ย? ผมกำลังประชุมอยู่” เฮ่อหวงเหว่ยมองไปทางห้องประชุม
ไม่รอให้เฮ่อหวงเหว่ยพูดจบ ฮ่อหยุนเฉิงก็ตัดบทเขาอย่างหมดความอดทน “ให้นายมาก็รีบมา อย่าไร้สาระ”
“ก็ได้” เฮ่อหวงเหว่ยหมดทางทางเลือก จึงได้แต่ไปขอลา
หลังจากวางสาย ฮ่อหยุนเฉิงก็ก้มลงอุ้มซูฉิงด้วยมือทั้งสองข้าง นัยน์ตาปารกฏความกังวลใจและความห่วงใย เขาเอ่ยปลอบเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ซูฉิง ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวหมอก็มาแล้ว”
ซูฉิงพิงหน้าอกของฮ่อหยุนเฉิง รู้สึกแค่เพียงว่าร่างกายของเธอกำลังทรมานจากพิษไข้ หน้าอกของฮ่อหยุนเฉิงเย็นสบายสบายราวกับแอ่งน้ำ
ชูฉิงเอนตัวเข้าไปในอ้อมอกของฮ่อหยุนเฉิงโดยไม่รู้ตัว ถูไถเข้ากับหน้าอกของเขาไม่หยุด
การกระทำโดยไม่รู้ตัวของเธอที่ถูไถหน้าอกของฮ่อหยุนเฉิงจนคันยุบยับราวกับมีกระแสไหลผ่าน ทำให้เขาลมหายใจเขาเครียดขึง
ผู้หญิงคนนี้ไม่สบายจนกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว ยังจะจุดไฟไม่หยุด
ฮ่อหยุนเฉิงสูดลมหายใจ รีบไล่ความรู้สึกเหล่านั้นออกไป ก้าวเข้าไปในห้อง วางซูฉิงลงบนเตียงหลังใหญ่อย่างระมัดระวัง
“ทรมานเหลือเกิน…ร้อนเหลือเกิน…”
ซูฉิงอยู่ในความงุนงง ทั้งตัวของเธอร้อนและคันราวกับว่าถูกย่างด้วยไฟ เธอเอื้อมมือออกไปเกาใบหน้าโดยไม่รู้ตัว
มือแกร่งของฮ่อหยุนเฉิง กดมือของซูฉิงไว้ นำเสียงทุ้มต่ำพูดว่า “อย่าขยับมั่วๆ เกาแล้วจะเป็นแผลเป็น”
“คัน คันมาก…” :ซูฉิงเม้มริมฝีปากเล็ก ใบหน้าทุกข์ทรมาน
แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยเห็นท่าทางกล้ำกลืนแบบนี้ของซูฉิง นัยน์ตาลุ่มลึกของฮ่อหยุนเฉิงก็มีระลอกความปวดพาดผ่านอย่างอดไม่ได้
เขาลูบแก้มของซูฉิงแผ่วเบา “ซูฉิง อดทนอีกนิดนะ หมอกำลังจะถึงแล้ว”
ในเวลานี้เฮ่อหวงเหว่ยก็รีบเร่งมาที่นี่เช่นกัน
เห็นฮ่อหยุนเฉิงกอดซูฉิงไว้ในอ้อมกอดด้วยใบหน้าปวดใจ เฮ่อหวงเหว่ยก็ตระหนักได้ในทันที
ทุกครั้งที่ฮ่อหยุนเฉิงให้เขารีบร้อนมา เกี่ยวข้องกับซูฉิงทั้งหมด
ดูท่าแล้วฐานะซูฉิงในใจฮ่อหยุนเฉิงพิเศษเป็นอย่างมาก
ฮ่อหยุนเฉิงรักถนอมซูฉิงจริงถึงได้กัวลวเกี่ยวกับเธอแบบนี้
“พี่ฮ่อ คุณซูเป็นอะไร?”
เฮ่อหวงเหว่ยก้าวเข้าไปถาม
“รีบดูอาการซูฉิงเร็ว เธอมีอาการแพ้” ฮ่อหยุนเฉิงเหลือบสายตาขึ้นมองเฮ่อหวงเหว่ย น้ำเสียงร้อนรนขึ้นหลายส่วน
เฮ่อหวงเหว่ยก้มหน้ามองซูฉิงบนเตียง ก็เห็นว่าร่างกายเธอมีอาการแพ้ ไม่ใช่แค่บวมแดงแต่ยังมีผื่นขึ้นจำนวนมาก
เฮ่อหวงเหว่ยขมวดคิ้ว เขาพึมพำว่า “อาการแพ้ของคุณซูรุนแรงมาก ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้?”
“เธอแพ้แพลทินัมคงเป็นเพราะไม่ระวังไปสัมผัสแพลทินัมเข้า” เห็นท่าทางทรมานของซูฉิง ใจของฮ่อหยุนก็กระตุกขึ้นมา พูดเสียงเย็นว่า” นายรีบรักษาเธอหน่อย”
“อืม” เฮ่อหวงเหว่ยผงกศีรษะ หยิบยาต้านอาการแพ้จากล่วมยา ปรับเข็มฉีดยา “ผมจะฉีดยาต้านอาการแพ้ให้คุณซูก่อน”
พูดไปพลางก้มตัวลงฉีดยาที่แขนของซูฉิง
ฉีดยาเจ็บเล็กน้อย ซูฉิงขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว อยากชักแขนออก
ฮ่อหยุนเฉิงรีบกดแขนเธอไว้ ไม่ให้เธอขยับมั่วซั่ว น้ำเสียงอ่อนโยนที่หาได้ยาก “ซูฉิง อดทนหน่อยนะ ฉีดยาแล้วจะได้หายเร็วๆไง”
“เสร็จแล้ว” เฮ่อหวงเหว่ยฉีดยาเสร็จ ก็นำยาขวดหนึ่งออกมา ส่งให้ฮ่อหยุนเฉิง “พี่ฮ่อ นี่คือยาต้านอาการแพ้ พี่ให้คุณซูกินทุกววัน วันละสามมื้อ มื้อละสามเม็ด”
ฮ่อหยุนเฉิงรับขวดยามา อ่านอย่างละเอียด” มันใช่ได้เหรอ?”
“ผมพูดนะพี่ฮ่อ พี่ไม่เชื่อผมที่เป็นหทอหรือไง?” เฮ่อหวงเหว่ยยักไหล่อย่างหมดทางเลือก
เป็นห่วงจนสับสน ดูไม่ผิดเลยจริงๆ
ท่านประธานฮ่อที่หยิ่งทระนงและทรงอำนาจ เมื่อผู้หญิงอันเป็นที่รักไม่สบาก็มือไม้อ่อนไปหมด
“แต่ว่าไข้ของเธอยังสูงมาก” ดวงตาลุ่มลึกของฮ่อหยุนเฉิงจ้องเขม็งไปที่ซูฉิงบนเตียง
“ที่ไข้ขึ้นเป็นเพราะอาการแพ้” เฮ่อหวงเหว่ยพูดยิ้มๆ “แค่อาการแพ้ดีขึ้น ไข้ก็จะลดไปเอง”
“เป็นอย่างนี้เหรอ?” ฮ่อหยุนเฉิงย่นคิ้ว
เฮ่อหวงเหว่ยตบบ่าฮ่อหยุนเฉิง “วางใจเถอะ ไม่มีเรื่องหรอก แค่อาการแพ้เท่านั้น ไม่กี่วันก็ดีขึ้นแล้ว”
“อืม” ฮ่อหยุนเฉิงผงกศีรษะด้วยสีหน้าราบเรียบ
“ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมไปก่อนนะ ผมยังต้องไปประชุมต่อ” เฮ่อหวงเหว่ยเก็บล่วมยา มองเวลาพลางพูด
หลังจากเฮ่อหวงเหว่ยไปแล้ว ฮ่อหยุนเฉิงก็ก้มศีรษะมองซูแง
พบเพียงหน้าของเธอที่แดงขึ้นเรื่อยๆ คิ้วงามก็ขมวดแน่น ครางอยู่เนืองๆ ท่าทางทรมานอย่างมาก
“ซูฉิง เธอรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?” ฮ่อหยุนเฉิงกุมมือซูฉิงอย่างอ่อนโยน ถามอย่างใส่ใจ
เมื่อครู่ก็ฉีดยาไปแล้ว แต่เหตุใดท่าทางของซูฉิงยังไม่ดีขึ้นเลย?
ซูฉิงสะลึมสะลือไปหมด งึมงำอย่างไม่มีสติ “ทรมากเหลือเกิน…คันจะตายแล้ว”
“ฉันป้อนยาให้เธอกินดีมั้ย? กินยาก็จะไม่ทรมานแล้ว” น้ำเสียงอ่อนโยนของฮ่อหยุนเฉิงปลอบประโลมซูฉิง
นั่งหัวเตียง โอบซูฉิงไว้ ให้ศีรษะของเธอพิงอยู่ที่แขนของเขา
มือข้างหนึ่งโอบซูฉิง มืออีกข้างเปิดขวดยาออก หยิบยาเม็ดสีขาวขึ้นมาป้อนเข้าไปในปากซูฉิงอย่างระมัดระวัง
“ขมจัง…” ซูฉิงเหยียดมุมปากอย่างไม่รู้ตัว หันศีรษะหนี
ฮ่อหยุนเฉิงประคองศีรษะของซูฉิง ใช้ช้อนตักน้ำอุ่นป้อนเข้าไปในปากของซูฉิง เกลี้ยกล่อมเธออย่างอ่อนโยน
“เด็กดี กลืนลงไปนะ”
“ไม่เอา…ขม…” ซูฉิงขมวดคิ้ว น้ำและยาถูกพ่นออกมา
แบบนี้ไม่ได้
ฮ่อหยุนเฉิงมองหญิงสาวในอ้อมแขน ครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหยิบยาอีกเม็ดมาใส่ในถ้วยแล้วคนให้เข้ากับน้ำอุ่น
ฮ่อหยุนเฉิงหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มน้ำอุ่นที่ละลายยาแล้วประคองศีรษะของซู่ชิงด้วยมือทั้งสองข้าง ก้มศีรษะลงประกบริมฝีปากของเขาเข้ากับริมฝีปากสีแดงของเธอโดยไม่ลังเล…