บทที่ 75 มิติส่วนตัว!

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

“ต้องอาบน้าก่อน ร่างกายเราสกปรกเกินไป!”

เย่เทียนขมวดคิ้วเมื่อได้กลิ่นสาปเหงื่อบนตัวเขา เขารีบลุกขึ้นยืนและกระโดดลงไปในทะเลสาบ

หลังจากชําระล้างร่างกายแล้ว เขาก็กระตุ้นลมปราณเพื่อให้เสื้อผ้าของเขาแห้ง โดยไม่จําเป็นต้องตากผ้านี่ถือเป็นความสามารถของผู้ฝึกยุทธ (***สะดวกจริงๆ)

“เย่เทียน คุณไม่เป็นไรนะ?”

เย่วหลิงเดินเข้ามาและถาม

“ไม่เป็นไร!”

เย่เทียนส่ายหัว

เขาไม่เพียงแค่ไม่เป็นไร แต่เขายังได้กําไรมหาศาล แต่เรื่องนี้เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ทําได้เพียงปิดบังเย่วหลิงเท่านั้น

“เย่เทียน พรสวรรค์ของคุณเปลี่ยนไปบ้างไหม? ”

เย่วหลิงถามด้วยความสงสัย

“เรื่องนี้ยังไม่ชัดเจน ผมรู้สึกว่าพลังจิตแข็งแกร่งขึ้นมาก อย่างอื่นผมยังไม่รู้”

เย่เทียนกล่าว

“คุณต้องลองใช้พรสวรรค์ของคุณดู บางทีคุณอาจจะสังเกตเห็นมัน!”

เย่วหลิงพยายามปลอบใจเย่เทียน

ที่จริงแล้วสิ่งที่เธอคิดในใจก็คือ พรสวรรค์ของเยเทียนไม่ได้เปลี่ยนไป เลยต้องเสียดอกบัวทองดารากระจ่างไปหนึ่งดอก แต่เธอกลัวว่าคําพูดนั้นจะกระทบกระเทือนเย่เทียนจึงได้แต่ปลอบ ใจเขาเช่นนี้อย่างไรก็ตามเธอคิดมากเกินไป

“ไปกันเถอะ!”

ตอนนี้เย่เทียนได้สิ่งที่เขาต้องการแล้ว การอยู่ที่นี่ไปก็ไร้ประโยชน์ มันจะดีกว่าถ้าเขาไปที่อื่นเพื่อหาโอกาส

เย่วหลิงเห็นด้วยและตามเย่เทียนออกจากถ่า

ก่อนที่เย่เทียนจะจากไป เย่เทียนขอให้เย่วหลิงช่วยเก็บศพของหมาป่าจันทร์เสี้ยวไว้ในถุงเก็บสมบัติ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่าเขาต้องการศพของหมาป่าจันทร์เสี้ยว แม้ว่าตอนนี้ศพของหมาป่าจันทร์เสี้ยวไร้ประโยชน์สําหรับเขาแล้วก็ตามแต่เขาต้องนํามันไปเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต

ศพของหมาป่าจันทร์เสี้ยวไม่ได้ใหญ่มากนัก มันเก็บได้ง่ายมาก เย่วหลิงจึงช่วยเขาระหว่างทาง

เย่เทียนค่อยๆศึกษาพรสวรรค์ด้านมิติ เย่วหลิงไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความผันผวนของมิติดังนั้นเธอจึงไม่สามารถสังเกตว่าเย่เทียนแอบศึกษาพรสวรรค์ด้านมิติอยู่มิฉะนั้นเธอคงจะตกใจมากแน่ๆ

หลังจากนั้นไม่นาน นอกจากการเคลื่อนย้ายพริบตาแล้ว ความสามารถในการรับรู้มิติและตราประทับมิติก็ถูกเย่เทียนใช้อย่างคล่องแคล่ว

นอกจากนี้เย่เทียนยังพบว่าตราประทับมิติและเคลื่อนย้ายพริบตาสามารถใช้ร่วมกันได้เช่นทิ้งตราประทับมิติไว้ในที่ใดที่หนึ่งแล้วเคลื่อนย้ายไปยังที่ที่มีตราประทับมิติอยู่

นี้คือการเคลื่อนย้ายตําแหน่ง

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเย่วหลิงอยู่ข้างๆ เขาจึงต้องดําเนินการทดลองนี้ในภายหลัง

“ถึงเวลาเปิดมิติส่วนตัวแล้ว!”

เย่เทียนรู้สึกประทับใจกับความสามารถนี้มาก ด้วยมิติส่วนตัวเขาสามารถใส่สิ่งต่างๆได้ มากมายเขาไม่จําเป็นต้องแบกมันด้วยตัวเองอีกแล้ว

แน่นอนว่าการเปิดมิติส่วนตัวต้องดําเนินการอย่างลับๆ ไม่ให้เย่วหลิงสังเกตเห็น

การเปิดมิติส่วนตัวของเขานั้น เพียงแค่ใช้ความสามารถด้านมิติเพื่อทิ้งตราประทับมิติไว้บนร่างกายจากนั้นเขาใส่พลังแห่งมิติเข้าไปในตราประทับมิติและบีบมิติขนาดเล็กแล้วขยายมิติออกไป

สําหรับขนาดมิติส่วนตัวที่สามารถเปิดได้ นั้นเกี่ยวข้องกับระดับพรสวรรค์และความแข็งแกร่งของเขา

“เริ่มกันเลย!”

เย่เทียนทิ้งรอยประทับของมิติไว้บนกระดูกที่ข้อมือซ้ายของเขา

จากนั้นเขาก็ควบคุมพรสวรรค์ด้านมิติและค่อยๆถ่ายเทพลังแห่งมิติเข้าไปในตราประทับมิติ

วูบบ!!!!

พลังแห่งมิติจํานวนมากได้รวมตัวกับตรามิติและในที่สุดก็ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ตราประทับมิติบนกระดูกถูกบีบจิตสํานึกของเขาเข้าไปในมิติและเปิดมิติ

เมื่อพลังแห่งมิติถูกถ่ายเทเข้าไป ภายในจิตสํานึกของเย่เทียน มีจุดเล็กๆก็ปรากฏขึ้นมา

จุดเล็ก ๆ นี้เริ่มเป็นต้นกําเนิด หลังจากดูดซับพลังแห่งมิติจํานวนมากมันก็ค่อยๆก่อตัวเป็นพื้นที่ขนาดเล็กประมาณหนึ่งลูกบาศก์เซนติเมตรมิติส่วนตัวไม่ได้มีพื้นที่เล็กขนาดนี้พื้นที่ขนาดเล็กนี้ยังคงขยายขนาดใหญ่ขึ้นได้

ยิ่งพลังแห่งมิติไหลเข้ามามากเท่าใด พื้นที่ขนาดเล็กก็จะค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นเท่านั้น

ประมาณสิบนาทีต่อมาพื้นที่ขนาดเล็กในที่สุดก็ขยายออกกลายเป็นหนึ่งลูกบาศก์เมตร

แต่เย่เทียนยังไม่รู้สึกถึงขีดจํากัดของเขา เขายังคงสามารถขยายมิติส่วนตัวนี้ได้อีก

ครึ่งวันต่อมา

ในที่สุดเย่เทียนก็รู้สึกถึงขีดจํากัดของเขา ไม่ว่าเขาจะถ่ายเทพลังมิติมากเท่าใด เขาก็ไม่สามารถขยายพื้นที่ได้อีก

เขาส่งจิตสํานึกของเขาเข้าไปในมิติส่วนตัวและมองสํารวจอย่างละเอียด

มิติส่วนตัวเป็นเหมือนบ้านทรงสี่เหลี่ยมที่มีความยาว 5 เมตรซึ่งหมายความว่ามีพื้นที่ทั้งหมด125 ลูกบาศก์เมตร

พื้นที่เช่นนี้มีขนาดใหญ่มาก มีน้อยคนนักที่จะมีถุงเก็บสมบัติที่มีพื้นที่ใหญ่ขนาดนี้

ถุงเก็บสมบัติของเย่วหลิงค่อนข้างดี ตามที่เย่วหลิงบอก ถุงเก็บสมบัติของเธอมีขนาดเพียงแค่ 30 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้นแต่ในความเป็นจริงแล้วเธอไม่สามารถเก็บของได้มากนักนอกจากนี้ถุง เก็บสมบัติยังสามารถถูกคนแย่งไปได้หากถูกขโมยไปสิ่งของก็จะหายไปด้วย

แต่มิติส่วนตัวของเขา ไม่มีใครที่จะสามารถแย่งไปได้ แม้ว่าแขนของเขาจะถูกตัดออกเย่เทียนก็สามารถติดต่อกับมิติส่วนตัวได้ เว้นเสียแต่ว่าจะมีคนสามารถทําลายมิติส่วนตัวได้

แต่มิติส่วนตัวนั้นแข็งแกร่งมาก มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะถูกทําลายโดยใครบางคน

ในระยะสั้นเราต้องค่อยๆ เก็บของไว้ทีละน้อย

หลังจากเปิดมิติส่วนตัวแล้ว เย่เทียนก็แอบส่งของมีค่าบางอย่างจากกระเป๋าไปยังมิติส่วนตัว

อย่างเช่นดอกไม้วิญญาณสวรรค์สองดอกนั้น เขาค่อยๆส่งมันไปยังมิติส่วนตัว

นอกจากนี้เขายังได้ส่งสมุนไพรหลายอายุหลายร้อยปีไปยังพื้นที่ส่วนตัวของเขา

สําหรับสิ่งอื่น ๆ เขายังคงเก็บไว้ในกระเป๋า เพื่อไม่ให้ผิดสังเกต

ตูม!!!!

ในระยะไกล มีเสียงการต่อสู้ดังขึ้น จากความผันผวนของพลังปราณการต่อสู้นั้นรุนแรงมาก

“เย่วหลิง มีคนหรือสัตว์อสูรกําลังต่อสู้กันอยู่!”

เย่เทียนกล่าว

จากเสียงของการต่อสู้ มันอยู่ห่างจากที่นี่เพียง 10 ลี้ ระยะทางนี้ไม่ไกลเกินไปสําหรับนักรบผู้เชี่ยวชาญ

“ไปดูกันเถอะ!”

เย่วหลิงกล่าว

เย่เทียนพยักหน้าและพาเย่วหลิงไป

ห่างจากจุดเกิดเหตุสามลี้ เย่เทียนก็ใช้ความสามารถในการรับรู้มิติเพื่อตรวจสอบ

ฮ่ม!!

คลื่นการรับรู้มิติกระจายออกไปและพุ่งออกไปด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อที่

ในตอนนี้การรับรู้ของเยเทียนราวกับทะลุมิติมาถึงระยะสาม …..

ภาพทิวทัศน์ที่ห่างออกไปสามลิ้ถูกเย่เทียนมองเห็นได้ทั้งหมด

นี่คือความสามารถในการรับรู้มิติ ไม่เพียงแต่จะสามามารถตรวจจับจากระยะไกลเท่านั้นแต่ยังมองได้ชัดเจนยิ่งขึ้นแต่หากใช้พลังจิตตรวจสอบอย่างมากก็ทําได้เพียงรับรู้สถานการณ์คร่าวๆเท่านั้นไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ชัดเจนเท่าเย่เทียน

“หึม!”

เย่เทียนเห็นนักรบผู้เชี่ยวชาญห้าคนกําลังล้อมสัตว์อสูรอยู่ ไม่ไกลจากสัตว์อสูรตัวนั้นมีหญ้าส์แดงเพลิงอยู่ทั่วทั้งต้นของมันยังมีเปลวเพลิงที่กําลังลุกโชนดูแล้วมันไม่น่าจะใช่สิ่งของธรรมดาเลย

“นี่มันหญ้าอะไร?”

เย่เทียนไม่ได้มีความรู้อะไรมากนัก เป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่รู้จักหญ้าชนิดนี้แต่เย่วหลิงอาจจะรู้จักมัน

นักรบผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 คน เป็นผู้ฝึกยุทธที่แข็งแกร่ง และ 2 ในนั้นยังมีพรสวรรค์ประเภทโจมตีความแข็งแกร่งของพวกเขาอยู่ในระดับแนวหน้าของนักรบผู้เชี่ยวชาญและสัตว์อสูรระดับสูงที่นักรบผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 คนล้อมไว้ก็เป็นสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์ในการโจมตีเช่นกัน

หากพวกเขาค่อยๆ รุมล้อมด้วยความระมัดระวัง สัตว์อสูรตัวนี้จะต้องตายอย่างแน่นอนและทั้งห้าคนก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

แต่ตอนนี้ทั้งห้าคนนั้นบ้ามาก พวกเขาใช้ท่าไม้ตายออกไปอย่างต่อเนื่องไม่สนใจที่จะเก็บพลังไว้เลยกระทั่งยอมบาดเจ็บเพื่อโจมตีสัตว์อสูรระดับสูงตัวนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการจะสังหารมันให้เร็วที่สุด

“พวกเขาทั้ง 5 เร่งรีบขนาดนี้ ดูเหมือนว่าหญ้าต้นนี้จะไม่ธรรมดาเลย!”

เย่เทียนคาดเดา

“เย่วหลิง พวกเรารีบหน่อยเถอะ!” เย่เทียนหันไปพูดกับเย่วหลิง

“ตกลง!”

“เย่วหลิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า แต่เธอก็เคลื่อนไหวตามเย่เทียนไปอย่างรวดเร็ว

น่าเสียดายที่ต้นไม้ในป่าหนาแน่นเกินไป ทําให้พวกเขาไม่สามารถใช้ความเร็วได้อย่างเต็มที่เย่วหลิงเร่งความเร็วขึ้นเล็กน้อยแต่เธอก็เกือบจะไม่สามารถควบคุมร่างกายได้จนเกือบชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่

สิบวินาทีต่อมา

เย่เทียนและเย่วหลิงก็มาถึงบริเวณที่เกิดการต่อสู้