บทที่ 76 หญ้าจิตวิญญาณเพลิง !

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

เมื่อเย่เทียนและเย่วหลิงมาถึงนักรบทั้งห้าคนก็ฆ่าสัตว์อสูรตัวนั้นได้

“มีคนมา! เร่งมือเร็วเข้า!”

หนึ่งในนักรบผู้เชี่ยวชาญเร่งเร้า

พรึบ!

นักรบผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งมาถึงหญ้าเปลวเพลิงอย่างรวดเร็ว และเก็บหญ้าเปลวเพลิงใส่ไว้ในถุงเก็บสมบัติทันที

อย่างไรก็ตาม

“นั่นมันหญ้าจิตวิญญาณเพลิง!”

เย่วหลิงอุทานออกมา

ฟูม!!!!

จิตสังหารแผ่ซ่านออกมา เป็นจิตสังหารที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากนักรบผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 คน

ทันใดนั้นทั้งห้าคนก็พุ่งเข้ามาล้อมรอบเย่เทียนและเย่วหลิง

“จางไค นายจะทําอะไร?”

เย่วหลิงชี้ไปที่นักรบผู้เชี่ยวชาญอย่างโกรธเคือง

ใบหน้าของจางไคเต็มไปด้วยความดุร้าย

“เย่วหลิง เจ้าคิดว่าข้าจะทําอะไร? เราก็รู้ถึงคุณค่าของหญ้าวิญญาณเพลิงดีในเมื่อเจ้าเห็นมันแล้วเจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าให้มีชีวิตรอดออกไปหรือ?”

สีหน้าของเย่วหลิงชะงักไป เธอเข้าใจความหมายของจางไคดี ถ้าเธออยู่เป็นจางไคบางทีเธอก็อาจจะทําแบบเดียวกันกับจางไคก็ได้ ไม่ใช่เพียงเพราะความสําคัญของหญ้าวิญญาณเพลิงแต่ที่สําคัญกว่านั้นคือตระกูลเย่วและตระกูลจางมีการแข่งขันกันในธุรกิจกันมานานแล้ว

แต่เพราะอยู่ในฐานทะเลมาร ทั้งสองตระกูลจึงไม่กล้าลงมือต่อกันเพราะกฎเข้มงวดของฐาน
ทะเลมาร

แต่ที่นี่คือเขตแดนลับ หากมีโอกาสสังหารผู้ฝึกยุทธของตระกูลตรงข้ามแล้วจะต้องรออะไรอีก?

“ฆ่าพวกมันทั้งสองคน ตระกูลจางของเราไม่สามารถปล่อยให้มีใครรู้เรื่องหญ้าวิญญาณเพลิง”จางไคกล่าวพร้อมปลดปล่อยจิตสังหารออกมา

“ครับ นายน้อย!”

นักรบผู้เชี่ยวชาญอีกสี่คนตอบ

พวกเขาล้วนเป็นนักรบผู้เชี่ยวชาญของตระกูลจาง ครั้งนี้พวกเขาถูกส่งมาช่วยจางไคในเขตแดนลับ เพื่อให้จางไคสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากขึ้นลูกหลานสายตรงที่เป็นนักรบผู้เชี่ยว ชาญของตระกูลจางมีไม่มากนักดังนั้นพวกเขาจึงกล้าเสียโควต้าไปเช่นนี้

แต่ตระกูลเย่วไม่ได้เป็นเช่นนั้น พวกเขามีลูกหลานเป็นนักรบผู้เชี่ยวชาญมากมายและด้วยเหตุนี้การที่เย่วหลังมอบโควต้าให้กับเย่เทียนจึงทําให้หลายคนไม่พอใจ

นักรบผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 คนเป็นนักรบผู้เชี่ยวชาญขั้นปลาย

ในความเห็นของจางไค แม้ว่านักรบผู้เชี่ยวชาญขั้นปลายอย่างเย่วหลังจะฝึกฝนทักษะดาบระดับทองแดงก็ยังไม่ใช่คู่มือของพวกเขา สําหรับครูฝึกยุทธอีกคนที่อยู่ข้างๆพวกเขาไม่ได้สนใจมันเลยแม้แต่น้อย

พวกเขารู้จักนักรบผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งของฐานทะเลมารเป็นอย่างดี แต่เย่เทียนไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น”เย่วหลิงผมสามารถสังหารคนพวกนี้ได้หรือไม่?”

เย่เทียนถาม “ได้”

เย่วหลิงพยักหน้า

เธอไม่มีความสามารถพอที่ฆ่าจางไคและพวกอีก 5 คน แต่เย่เทียนทําได้ เย่วหลิงเคยเห็นพลังของเย่เทียนด้วยตาของตัวเอง แม่ไม่ใช่อัจฉริยะอย่างหยุนเฟิงที่มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้อันดับหนึ่งของฐานทะเลมารแต่มันเพียงพอที่จะติดหนึ่งในสิบของอัจฉริยะด้านการต่อสู้ของฐานทะเลมารซึ่งจางไคไม่สามารถติดได้แม้แต่หนึ่งในร้อยข่าย

“งั้นก็ง่ายแล้ว!”

เย่เทียนกล่าวเบา ๆ ราวกับว่าเขากําลังตัดสินประหารชีวิตจางไคและคนอื่น ๆ

“เจ้าหนู เจ้าเองก็อยากจะสังหารพวกเราเช่นกันหรอ ฮ่าๆๆๆ!!!”

พวกเขาหัวเราะ

ในช่วงเวลาสั้น ๆ ทั้งห้าคนก็ได้พุ่งเข้าใส่เย่เทียนและเย่วหลิง “เงาสังหาร”

เสียงเรียบ ดังขึ้นในหูของทั้งห้าคน

วินาทีถัดมา

จิตสํานึกของทั้งห้าคนค่อยๆหายไป และสายตาสุดท้ายของพวกเขากลับเห็นร่างไร้หัวซึ่งเป็นร่างที่พวกเขาคุ้นเคย!

และนี่ก็เป็นจิตสํานึกสุดท้ายของพวกเขา

ตุบ ตุ๊บ ตุบ!!!!!

นางทั้ง 5 ล้มลงกับพื้น เย่วหลิงที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ตกใจอีกครั้ง

แม้ว่าเย่วหลิงจะได้เห็นเย่เทียนลงมือมาหลายครั้ง แต่ทุกครั้งเธอก็ทําให้เธอตกใจมาก

จางไคถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะในฐานทัพทะเลมาร มีพรสวรรค์ไม่ด้อยไปกว่าเธอ และเนื่องจากเธออยู่ในขั้นปลายของระดับนักรบผู้เชี่ยวชาญดังนั้นความแข็งแกร่งของเขาจึงต้อยกว่าเธอเล็กน้อย แต่เย่เทียนกลับสังหารนักรบผู้เชี่ยวชาญถึงห้าคนในพริบตา

หลังจากเย่เทียนฆ่านักรบผู้เชี่ยวชาญคนแล้ว เขาก็เดินเข้าไปค้นศพของพวงมันและพบถุงเก็บสมบัติสองใบ

“ยอดเยี่ยม แค่นี้ก็ไม่ต้องปิดบังมิติส่วนตัวแล้ว!”

เย่เทียนมองไปยังถุงเก็บสมบัติด้วยความตื่นเต้น

เขาไม่กล้าเก็บสมุนไพรที่เก็บเกี่ยวได้ตลอดทางเข้าไปในมิติส่วนตัวเพราะเขากลัวว่าเย่วหลิงจะผิดสังเกตตอนนี้เขาได้รับถุงเก็บสมบัติมาแล้วแน่นอนว่าเขาสามารถใช้มิติส่วนตัวโดยไม่ ผิดสังเกตอีกไม่ว่าเย่เทียนจะใส่สิ่งของไว้ในถุงเก็บสมบัติหรือส่งมันเข้ามิติส่วนตัวของเขาก็ไม่มีใครสงสัยเขาอีกเย่วหลิงจะคิดว่าเย่เทียนใส่มันเข้าไปในถุงเก็บสมบัติ

ถุงเก็บสมบัติใช้อําพรางมิติเก็บส่วนตัวของเย่เทียน

“เย่วหลิง ถุงเก็บของสองใบนี้ พวกเราแบ่งมันคนละใบ!”

เย่เทียนกล่าว

สีหน้าของเย่วหลิงดูกังวลเป็นอย่างมาก และตื่นเต้นมากเช่นกัน เธอรีบกล่าวว่า

“เปเทียน เอาหญ้าจิตวิญญาณเพลิงออกมา ฉันต้องการเห็นมัน”

“ตกลง!”

เย่เทียนพยักหน้า

เจ้าของถุงเก็บสมบัติตายแล้ว ดังนั้นเขาและเย่วหลิงเพียงส่งพลังปราณเข้าไปก็จะกลายเป็นเจ้านายคนใหม่ของมันทันทีจากนั้นเย่เทียนก็หยิบหญ้าจิตวิญญาณเพลิงออกมาจากถุงเก็บสมบัติ

“มันคือหญ้าวิญญาณเพลิงระดับสาม!”

ลมหายใจของเย่วหลิงเริ่มถี่ขึ้น มันน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าการได้รับดอกวิญญาณสวรรค์เสียอีก

เย่เทียนเห็นทุกอย่างในสายตาเขา เขารู้ว่าหญ้าวิญญาณอัคคีนี้เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากไม่เพียงแต่จะทําให้จางไคและคนอื่นๆบ้าคลั่งแม้แต่เย่วหลิงก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้…

“เย่ว์หลิง หญ้าวิญญาณเพลิงคืออะไร?”

เย่เทียนถาม

เย่วหลิงมองไปที่เย่เทียนและขบฟันแน่น เธอลังเลเล็กน้อยและกล่าวขอร้อง “เย่เทียนฉันสามารถมอบทุกอย่างในถุงเก็บสมบัติของทั้งสองใบให้คุณได้ฉันขอเพียงหญ้าวิญญาณเพลิงต้นนี้ เท่านั้นไม่สิฉันจะเพิ่มเงินให้คุณอีก 50,000 ล้าน ”

“เย่วหลิง สิ่งนี้มีประโยชน์อะไรกันแน่? ถ้ามันมีประโยชน์กับคุณจริงๆ ผมก็ยินดีที่จะมอบมันให้
คุณ”

เย่เทียนรีบพูด

ในที่สุดเย่วหลิงก็บอกถึงประโยชน์ของหญ้าวิญญาณเพลิง

“หญ้าวิญญาณมันสามารถมอบพรสวรรค์ให้กับผู้ฝึกยุทธได้ และต้นนี้เป็นหญ้าจิตวิญญาณเพลิงระดับสามหากผู้ฝึกยุทธระดับสูงหรือผู้ฝึกยุทธระดับปรมาจารย์ได้ปรับแต่งหญ้าวิญญาณเพลิงมันจะทําให้พวกเขาได้รับพรสวรรค์ประเภทอัคคีระดับเริ่มต้นได้แม้แต่ตัวตนระดับราชาก็ต้องการ ปรับแต่งหญ้าวิญญาณเพลิงนี้แต่พวกเขาจะได้รับพรสวรรค์ประเภทอัคคีแต่จะเป็นเพียงระดับรองหรือระดับอ่อนแอเท่านั้นแต่ถึงกระนั้นมันก็ยังมีค่ามากยกตัวอย่างเช่น ตัวตนระดับราชาที่ไม่มีพรสวรรค์พิเศษหากได้รับหญ้าวิญญาณอัคคีมามันจะเพิ่มพลังการต่อสู้ของพวกเขาเป็นสองเท่า!”

เย่เทียนได้ยินดังนั้นในที่สุดเขาก็เข้าใจคุณค่าของหญ้าวิญญาณเพลิงต้นนี้ด้วยคุณสมบัติของมันมันจะทําให้ได้รับพรสวรรค์พิเศษแม่ไม่ใช้พรสวรรค์ในการคัดลอกเช่นเขาแต่ผลของมันก็ยังด้อยกว่าพรสวรรค์ในการคัดลอกของเขามากสิ่งนี้สามารถทําให้ผู้คนได้รับพรสวรรค์ประเภทไฟระดับเริ่มต้นเท่านั้นแม้เย่เทียนจะไม่ต้องการมันแต่กับผู้ฝึกยุทธคนอื่นๆมันเป็นสมบัติที่ล้ําค่ายิ่ง!

ผู้ฝึกยุทธที่มีพรสวรรค์พิเศษยังคงเป็นส่วนน้อย ผู้ฝึกยุทธส่วนใหญ่ไม่มีความสามารถพิเศษใดๆ และในหมู่พวกเขาก็ยังมีอัจฉริยะในการบ่มเพาะอยู่ไม่น้อย

“เย่เทียน ตระกูลเย่วของเรามีระดับราชาแต่ปู่ของฉันเท่านั้น และท่านปู่ก็มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้นแต่เขาก็ไม่ได้มีพรสวรรค์พิเศษหากฉันนําหญ้าวิญญาณอัคคีนี้ไปมอบให้กับ

ท่านปู่ ความแข็งแกร่งของตระกูลเย่วเราจะเพิ่มขึ้นอีก 1-2 เท่า นี่เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สําหรับตระกูลเย่วและพรสวรรค์พิเศษของคุณก็มีมากมาย และต่างก็อยู่ในระดับสูงหญ้าวิญญาณอัคคีไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของคุณได้อย่างมากก็เป็นเพียงการเพิ่มพลังโจมตีของคุณขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นฉันหวังว่าคุณจะมอบหญ้าวิญญาณเพลิงต้นนี้ให้ฉัน!” เย่วหลิงเอ่ยขอร้องอย่างจริงใจ

เย่เทียนแสร้งทําเป็นครุ่นคิดอยู่หนึ่งนาทีก่อนจะพูดว่า

“ได้ ผมจะให้คุณ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่วหลิงก็ยิ้มอย่างมีความสุข
( MINE : ถ้ารู้ว่าเย่เทียนคัดลอกพรสวรรค์ได้เย่วหลิงจะทําหน้ายังไงนะ)