บทที่ 40 ภารกิจสุดหินของผู้อำนวยการโม่

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

ฟางหนิงกำลังเฝ้าดูระบบแจ้งเตือน ก็พบว่าสามารถจัดการปีศาจแมงมุมหน้าคนได้สำเร็จแล้วอย่างง่ายดาย

ในขณะนี้ระบบได้ทำการติดตั้งวิชากำลังภายใน ‘วิชาหัวใจมังกรเพลิง’ ขณะนี้อยู่ในร่างมังกรจริง และ ‘วิชาหัวใจมังกรเพลิง’ ได้เลื่อนขั้นเป็น ‘ทักษะเทพมังกรเพลิง’ แล้วชั่วคราว

ระบบได้ใช้รูปแบบเคลื่อนไหวอันลึกซึ้ง ‘ลมหายใจมังกรเพลิง’

ระบบได้ทำการโจมตีปีศาจแมงมุมเจ็ดใบหน้า

ปีศาจถูกคุณลักษณะหยางเข้าโจมตี ถูกมังกรอันน่าเกรงขามยับยั้ง และถูกโจมตีโดยพลังปราณอันรุนแรง

ละเว้นการป้องกัน! ระเบิดพลังโจมตี! จู่โจมเต็มกำลัง! จู่โจมสังหาร!

ระบบได้ใช้รูปแบบการเคลื่อนไหวอันลึกซึ้ง ‘มังกรเพลิงกลืนนภา!’

ระบบโจมตีร่างจริงของปีศาจแมงมุมเจ็ดใบหน้า

ปีศาจถูกสังหาร

ระบบได้กำจัดภัยคุกคามอันใหญ่หลวงต่อประชากรในท้องถิ่นเรียบร้อยแล้ว

ระบบได้รับชื่อเสียงความกล้าหาญอย่างท้วมท้น และโมดูลเกียรติยศถูกเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการ สถานะปัจจุบัน: ย้ายชื่อไปอีกฝั่ง ปัจจุบันเพิ่มขึ้นหนึ่ง และบวกหนึ่งช่องพลังปราณ ปัจจุบันมีช่องว่างพลังปราณเพิ่มขึ้นสองช่อง ได้รับทักษะ ‘การสยบ’ เป็นระดับแรก และทุกคนที่เป็นศัตรูของระบบจะต้องถูกระงับต่างกันไปตามระดับของจิตตานุภาพ

ระบบได้รับค่าพลังปราณ ขั้นแรกช่องพลังปราณกลับมาเต็มแล้ว ขั้นที่สองช่องพลังปราณกลับมาเต็มแล้วเช่นกัน

หลังจากฟางหนิงอ่านการแจ้งเตือนของระบบเสร็จสิ้น เขาก็ทั้งประหลาดใจและดีใจ ไม่แปลกใจเลยที่ระบบไม่ต้องการเปลี่ยนสถานที่ฟาร์มปีศาจ เพราะหลังจากเปิดโมดูลเกียรติยศจริงๆ แล้ว เขาก็ได้รับช่องพลังปราณมากมาย

ช่องพลังปราณเป็นอย่างไร ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย

เพียงแต่เขายังมีอีกหนึ่งคำถาม “ถ้าอย่างนั้นตอนที่แมงมุมตายไปแล้ว จะเป็นยังไง?”

ระบบกล่าว “ขอบคุณที่โฮสต์เตือนเมื่อครู่นะ ระบบเลยไม่ได้ทำให้มันกลายเป็นเศษซากเหมือนครั้งที่แล้ว หลังจากที่ระบบกลืนกินแมงมุมและโยนมันเข้าไปในโกดังเก็บของของร้านช่างตีเหล็ก การตั้งค่ากฎก็แจ้งเตือนให้เห็นว่ามันสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างอาวุธวิเศษได้เพราะเป็นวัสดุหายาก ก่อนหน้านี้พวกเราใช้อาวุธวิเศษที่ทำจากปีศาจธรรมดา แต่อาวุธวิเศษชิ้นนี้จะสร้างจากวัสดุหายาก”

ฟางหนิงเอ่ย “ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไม่มีการเตือนตอนที่ได้รับค่าประสบการณ์ แต่ด้วยวิธีนี้ ความฝันของแกที่จะไปสู่เลเวล 15 ก็ไม่สำเร็จแล้วล่ะสิ”

ระบบกล่าว “ค่าประสบการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ แต่อุปกรณ์ชิ้นนี้หายากมาก”

ฟางหนิงเอ่ย “จริงๆ แล้วอุปกรณ์ที่ติดตั้งคืออะไรกันแน่ แกต้องบอกข้อดีของมันหน่อยสิ”

ระบบกล่าว “ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ สิ่งที่โฮสต์ต้องรู้ก็คือเมื่อติดตั้งแล้วช่องความโกรธของพวกเราก็จะเพิ่มขึ้นเยอะเลย”

ฟางหนิงเอ่ย “งั้นก็แสดงว่าหลังจากนี้ไม่ต้องกังวลว่าค่าความโกรธจะไม่พอใช้ใช่ไหม”

ระบบตอบกลับ “แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมการใช้อย่างไม่จำกัด แต่ว่ายังมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง เมื่อกี้ตอนที่ระบบกำลังต่อสู้ โฮสต์กระตุ้นพร้อมกับรักษาสภาวะความโกรธอันรุนแรงทะยานฟ้าเอาไว้ได้ เรื่องนี้ไม่เคยรู้มาก่อน แต่ตอนนี้เรามีประสบการณ์แล้ว โฮสต์ลองคิดดูอีกครั้งสิ”

ฟางหนิงมีเหงื่อเย็นไหลซึมออกมา ดูเหมือนว่าหลังจากนี้จะมีการต่อสู้ที่สำคัญมากขึ้นอีกในอนาคต เขาอาจจะต้องรับผิดชอบเพิ่มบัฟการต่อสู้ของภารกิจ แต่ไม่ถึงขั้นระบบที่ต้องจัดการกับปีศาจตัวใหญ่ แถมยังมีเวลาอ่านนิยายและเล่นเกม ถ้าเขาคิดไม่ผิด การเพิ่มบัฟการต่อสู้หนนี้ และหลังจากการต่อสู้ครั้งสำคัญ ระบบอาจจะอยากเข้าสู่โลกใหม่แห่งที่สองแล้ว

“ฮ่าฮ่า อย่างน้อยแกก็ทำภารกิจช่องความโกรธสำเร็จ ว่าแต่…รางวัลของภารกิจนั้นล่ะ?”

ระบบ “รางวัลภารกิจอะไรกัน? ครั้งที่แล้วไม่ใช่ว่าช่วยทำอาหารให้โฮสต์ล่วงหน้าแล้วเหรอ”

ฟางหนิงเอ่ยเสียงหดหู่ “ช่างหัวช่องรางวัลของภารกิจเถอะ แต่รางวัลจากการฆ่าปีศาจในครั้งนี้ล่ะ? ฉันออกแรงไปไม่น้อยเลยนะ”

ระบบกล่าว “ก็นั่นไง เจ้านักเขียนอะไรนั่นที่นอนอยู่ตรงนั้นยังไม่ตาย โฮสต์ชอบอ่านนิยายมากไม่ใช่เหรอ รีบไปหาเขาสิ เพราะความโกรธของโฮสต์พุ่งขึ้นสูงมาตลอดการต่อสู้ ภารกิจนี้เลยสำเร็จ ทำผลงานไม่น้อยเลยจริงๆ ระบบให้เวลาโฮสต์หนึ่งชั่วโมงเพื่อผ่อนคลาย การได้ต้นฉบับจากเขา ก็คือรางวัลในครั้งนี้”

ฟางหนิงถ่มเลือดออกมาจากปากแล้วคิดในใจว่า ‘ฉันอุตส่าห์เป็นมันสมองให้ระบบที่ไร้มนุษยธรรมของแก แต่แกกลับมาบอกฉันว่านี่คือของรางวัลภารกิจเนี่ยนะ!’

โม่ซิ่งยืนอยู่ข้างเซ่าหานที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความงุนงงและแววตาไร้ความรู้สึก อีกฝ่ายโดนปีศาจตะปบจนร่างแยกขาดออกจากกัน แต่ไม่นานร่างก็ผสานเข้าด้วยกันได้อีกครั้ง!

เป็นอย่างที่คิดไว้ โลกนี้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ!

เขาก้มตัวลงและตบหัวของเซ่าหาน “อย่างที่ฉันเคยพูด คราวนี้เป็นภารกิจสุดหินจริงๆ พูดไว้ไม่มีผิดใช่ไหม?”

เซ่าหานยังคงมึนงง แค่ตอบไปตามจิตใต้สำนึกว่า “แน่นอน ฉันถูกทรมานระหว่างปฏิบัติภารกิจ และฉันก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอด”

โม่ซิ่งเอ่ย “ถ้ามีคนถามว่าทำไมตอนนี้นายถึงยังสบายดี นายอยากจะตอบว่ายังไง”

เซ่าหานไม่เข้าใจความหมายของผู้อำนวยการโม่ เขาหยั่งเชิงถาม “อยู่ๆ อัศวิน A ก็กลายเป็นมังกรมาช่วยชีวิตเอาไว้”

โม่ซิ่งไม่พอใจ “ฉันได้ยินมาว่านายยังเป็นนักเขียนนิยายด้วย ทำไมถึงยังมีคนอ่านล่ะ นายลองคิดดู”

จู่ๆ เซ่าหานก็พูดว่า “โอ้ เข้าใจแล้ว ภายใต้การนำที่แข็งแกร่งของผู้อำนวยการโม่ เราต่อสู้กับปีศาจตัวนั้นหลายร้อยรอบ และในตอนท้ายพวกเราก็ไร้เรี่ยวแรงและบาดเจ็บสาหัสมาก ในตอนที่สวรรค์ก็สั่นสะเทือนด้วยเลือดอันอบอุ่นของพวกเรา มังกรตัวจริงลงมาจากฟากฟ้าเพื่อฆ่าปีศาจ และมังกรตัวจริงก็ถูกกระตุ้นด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเรา สุดท้ายฝนที่ตกลงมาก็เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของพวกเรา…”

โม่ซิ่งพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นจึงหันไปหาสมาชิกในทีมคนอื่นๆ แล้วตะโกนว่า “ได้ยินชัดเจนทั้งหมดใช่ไหม นี่คือคำตอบของภารกิจในวันนี้ จงจำไว้ให้ดี! อัศวิน A อะไรนั่น กลายร่างเป็นมังกรและเข้าต่อสู้กับปีศาจไม่ใช่เรื่องจริง! ทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้น!! และจะไม่ปรากฏในรายงานภารกิจวันนี้! พวกวิดีโอ ฉันตัดต่อแล้ว!”

พวกสมาชิกในทีมพากันตกใจ ทั้งหมดต่างก็ยืนตัวตรง “ครับ ผู้อำนวยการ!”

ทันทีที่พวกเขาตอบรับ ก็ได้ยินเสียงดัง ‘ตึง!’ ดังขึ้น!

ในขณะที่ทุกคนต่างเพ่งมองไปยังที่มาของเสียงนั้น ปรากฏว่าวัตถุรูปร่างแปลกปลอมที่อยู่ตรงกลางจัตุรัสที่เพิ่งตกลงมาจากท้องฟ้าและกระแทกเข้ากับพื้น ก็ทำให้เกิดฝุ่นตลบคลุ้งไปทั่ว

ทุกคนประหลาดใจ เป็นไปได้ไหมที่พระเจ้าจะได้ยินว่าผู้อำนวยการโกหกทุกคนอย่างโจ่งแจ้ง จึงส่งบางสิ่งลงมาเพื่อลงโทษพวกเขา โม่ซิ่งเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เพราะหากเป็นอย่างนั้นจริง สถานการณ์คงวุ่นวายมาก!

โชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนค่อยๆ ปีนขึ้นมาผ่านฝุ่นผง เห็นแค่ว่าเขาจมูกช้ำและหน้าบวม ผมเผ้ายุ่งเหยิง ร่างกายเต็มไปด้วยดินโคลน ใบหน้าไร้อารมณ์ ถือดาบอยู่ในอ้อมแขน และหลังจากที่ชายคนนั้นลุกขึ้น เขาก็เดินกะโผลกกะเผลกมาทางโม่ซิ่ง

โม่ซิ่งเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ “ดาบไร้ปราณีเซวียเฟิงเหรอ”

เซวียเฟิงค่อยๆ ขยับเข้ามาแล้วเอ่ยถาม “ปีศาจอยู่ที่ไหน”

โม่ซิ่งเอ่ย “ถูกพวกเราจัดการแล้ว”

เซวียเฟิงเอ่ย “โอ้ ถ้าอย่างนั้นฉันไปละ”

โม่ซิ่งเอ่ย “ไปดีมาดี ไม่ไปส่งนะ”

เซวียเฟิงเดินไปไม่กี่ก้าว ก็หันกลับมาทันที

โม่ซิ่งตกใจ หรือว่าเขาจะเห็นอะไรบางอย่าง แต่แล้วอีกฝ่ายก็ถามขึ้น “ใครคือวีรบุรุษที่มาถึงคนแรกเหรอ”

โม่ซิ่งตกใจและตอบกลับทันทีว่า “รหัสไฟล์ของผู้ปลุกพลังศิลปะการต่อสู้ในเมืองของเรา สำนักสัจธรรมของพวกคุณ ‘สำนักเทพเนตรสีแดง’ ไห่เฉิง กำหนดระดับพลัง F ให้ ไม่มีอะไรให้น่าตกใจ”

เซวียเฟิงพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าเชื่อใน ‘สำนักเทพเนตรสีแดง เขาไม่พูดอะไรต่อ จากนั้นก็เดินกะเผลกจากไป

หลังจากกำจัดปีศาจแล้ว เขาก็รายงานภารกิจ และรู้สึกตกใจกับปาฏิหาริย์ที่เซ่าหานได้รับการช่วยชีวิต

โชคดีที่เจอดาบไร้ปราณี ชายที่เป็นทั้งที่ปรึกษาและมีบทบาทสำคัญของสำนักสัจธรรม โชคดีที่อีกฝ่ายไม่ถามอะไรมากความ

โม่ซิ่งสอนสมาชิกในทีมให้พูดแบบนั้นแต่ก็ไม่ใช่เพราะเห็นแก่ชื่อเสียง เพราะอย่างไรก็ตาม รายงานยังคงบอกว่ามังกรตัวจริงเป็นผู้สังหารปีศาจ

ตอนแรกเขาคิดว่าอัศวิน A จะถูกกำจัด แต่ว่าหลังจากนั้นโม่ซิ่งกลับเปลี่ยนใจเร็วมาก หลังจากสถานการณ์พลิกผัน…

เขายังสามารถเก็บอัศวิน A ไว้ใช้ประโยชน์ได้อีกในอนาคต

เหมือนดังคำกล่าวของเซินโม่ ‘การเป็นผู้นำที่ดีนั้นเกิดจากการใช้คนอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้มีคนบาดเจ็บล้มตาย…’

สำนักสัจธรรมทางเหนือ

“ผู้เฒ่าสวี่ ตรวจพบกลิ่นอายของพละกำลังอันแรงกล้าซึ่งได้ปะทุขึ้นอย่างฉับพลันในทิศทางของกำแพงฉี มันเป็นพลังหยางครอบงำอันแข็งแกร่ง แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากความผิดปกติใดๆ ในฐานข้อมูล ขั้นแรกประมาณการว่าอย่างน้อยก็ A+ ขึ้นไป”

“อะไรกัน! จู่ๆ ก็มีพลังมหาศาลอะไรขนาดนั้นได้ยังไง แล้วปีศาจที่เพิ่งมาเมื่อกี้เป็นยังไงบ้าง”

“ผู้เฒ่าสวี่ กลิ่นอายของปีศาจหายไปแล้ว หยางที่ครอบงำกลิ่นอายพละกำลังก็หายตามไปด้วย รายละเอียดเฉพาะจะได้รับการยืนยันหลังจากที่สำนักงานหน่วยกิจการพิเศษในท้องถิ่นส่งเอกสารและวิดีโอมา”

“ตกลง รอให้พวกเขาส่งวิดีโอมาก่อนแล้วค่อยมาวิเคราะห์ ว่าแต่ตอนนี้ดาบไร้ปราณีอยู่ที่ไหน”

“นักบินรายงานว่า เขากระโดดลงจากเครื่องบินแล้ว”

“กระโดดลงมาเมื่อไร”

“หลังจากที่กลิ่นอายสองกลุ่มจางหายไป…”

“โอเค ดูเหมือนว่าที่สุดแล้วเขาจะไม่ดีเท่าไห่เฉิง ความไวต่อกลิ่นอายพละกำลังยังไม่มากพอ เมื่อเขากลับไปและให้เวลาเขาพักฟื้นหนึ่งสัปดาห์ มันจะดีขึ้นเมื่อเขาได้เรียนรู้การใช้ดาบมากกว่านี้”

เมื่อมังกรเพลิงปรากฏตัว คุณนายจ้าวซึ่งกำลังสืบสวนสถานการณ์ของคนงานที่ลาออกโดยไม่มีเหตุผลชัดเจนในฟาร์มหลายแห่งของซิงเฉิงกรุ๊ป จู่ๆ ใบหน้าก็เปลี่ยนสี แล้วหันขวับไปมองย่านกำแพงฉีในยามค่ำคืน

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือลมหายใจของมังกรตัวจริง! เป็นไปได้ยังไง พลังชีวิตแบบนี้เพิ่งจะอยู่ในช่วงเวลาฟื้นตัว และเทพมังกรตัวจริงยังหล่อเลี้ยงจิตใจของชาวเสินโจว ไม่มีทางมายังโลกง่ายๆ แน่นอน หรือจะมีใครบางคนรู้วิธี อีกอย่างก่อนหน้านี้ยังเกิดภัยพิบัติใหญ่หลวงขึ้นด้วย อาจไปกระตุ้นเทพมังกรตัวจริงที่กำลังตั้งครรภ์เข้า แม้ว่าฉันจะไปถึงระดับสูงสุดในศิลปะการแปลงร่างมังกรแล้ว แต่ฉันก็ทำได้เพียงฝึกฝนให้เป็นมังกรคะนองน้ำเท่านั้น มังกรที่แท้จริงคือศัตรูตัวฉกาจของฉัน ฉันอยากกลับไปเร็วๆ จริงๆ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ต้องรู้ให้ได้”

เธอไม่สงสัยฟางหนิงเลยสักนิด อีกฝ่ายยังเร็วเกินไปที่จะเข้าใจทักษะทั้งหมด อีกอย่างทักษะการกลายร่างเป็นมังกรที่เธอมอบให้อีกฝ่ายก็เป็นแค่ขั้นแรก แม้ว่าเขาจะเรียนรู้ทั้งหมด ก็ยังไม่สามารถแปลงร่างเป็นมังกรคะนองน้ำได้หรอก แล้วจะนับประสาอะไรกับมังกรตัวจริง

แต่เธอจะแน่ใจได้ยังไงว่าเมื่ออีกฝ่ายได้รับยาอายุวัฒนะแล้วจะมอบให้กับสามีของเธอจริงๆ งูเป็นสัตว์เลือดเย็นโดยธรรมชาติ ไม่ควรตั้งความหวังสู่ความสำเร็จไว้กับธรรมชาติของมนุษย์

คุณนายจ้าวพูดจบ เธอเหลือบมองไปทางฟาร์มด้วยแววตาเยือกเย็น แล้วหันหลังจากไป

…………………………………………….