ตอนที่ 557 หายโกรธหรือยัง
ป๋อจิ่งชวนขมวดคิ้วมุ่นในที่สุด
“คุณจะช่างสงสัยเกินไปแล้ว”
เผยอวิ๋นเจ๋อเพียงแค่ยกมุมปากขึ้นลางๆ ดวงตาเรียวยาวมองไปทางเฉินฝานซิงด้วยท่าทางใช้ความคิด
“แต่ว่า…น้ำหอมราคาสองร้อยล้านนี้…หมดไปง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ”
จู่ๆ ใครก็ไม่รู้พูดประโยคนี้ออกมา ภายในงานเงียบไปชั่วขณะก่อนจะสูดหายใจด้วยความตกตะลึงอีกครั้ง
จริงด้วย ที่เฉินฝานซิงทำแตกเมื่อกี้ มันคือน้ำหอมที่มีราคาถึงสองร้อยล้านเลยนะ”
อีกอย่าง ยังไม่ใช่ของเธออีกด้วย
ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ เป็นของที่ผู้บริหารกิจการเครือป๋อซื่อเพิ่งประมูลไปได้เมื่อครู่นี้
นี่ยังไม่ได้รับการอนุญาต ก็…ทำแตกแบบนี้แล้วเหรอ
เฉินเชียนโหรวโกรธจนหน้ามืดตายลาย เวลานี้หวังเพียงแค่ว่าเฉินฝานซิงจะหายสาบสูญไปต่อหน้าเธอ
“พี่เหิง...”
เธอไม่อยากอยู่ตรงนี้ต่อเพียงวินาทีเดียว จึงคว้ามือซูเหิงตั้งใจจะกลับไปก่อน ปรากฏว่ากลับได้ยินประโยคนี้ขึ้นมา
เธอพลันเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย ใบหน้าซีดขาวแฝงไปด้วยความคาดหวัง
ทำน้ำหอมของผู้บริหารป๋อซื่อแตก อีกอย่างยังมีมูลค่าถึงสองร้อยล้าน ต่อให้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกันแล้วจะอย่างไร
คืนนี้หักหน้าป๋อจิ่งชวนด้วยเงินประมูล “หนึ่งหยวน” ถึงสองครั้งแล้ว ความอดทนของคนมีขีดจำกัด
อาจจะมีครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สองได้ แต่ไม่มีทางมีครั้งที่สามที่สี่ได้แน่
หลักการที่ใครๆ ก็ให้การยอมรับทำตาม นับประสาอะไรกับคนที่ได้ชื่อว่าเย็นชาดุจน้ำแข็ง อารมณ์ยากจะคาดเดาอย่างป๋อจิ่งชวน
คืนนี้เฉินฝานซิงทำให้เธอขายหน้า เธอเองก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าเฉินฝานซิงทำผิดต่อป๋อจิ่งชวนครั้งแล้วครั้งเล่า สรุปแล้วจะลงเอยอย่างไรกันแน่
มือที่จับแขนของซูเหิงไว้ค่อยๆ เก็บกลับมา สายตาจ้องเขม็งไปยังเฉินฝานซิง ในใจรู้สึกตั้งตารอเรื่องต่อไปที่เธอจะต้องเผชิญอย่างใจจดใจจ่อ
ฟ่านหรูอวิ๋นเห็นดังนั้นก็รีบพูดขึ้นมา
“เฉินฝานซิง ตั้งใจจะทำตัวให้ดูน่าเกรงขามเพื่อความสะใจเพียงชั่วครู่ แต่คิดบ้างหรือเปล่าว่านั่นคือของที่ผู้บริหารป๋อเสียเงินสองร้อยล้านเพื่อประมูลมา คิดได้หรือยังว่าจะชดใช้ยังไง”
เฉินฝานซิงเมื่อเห็นแบบนั้น ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองทางป๋อจิ่งชวน
เวลานี้ ตำแหน่งที่นั่งผิดเพี้ยนวุ่นวายไปหมดแล้ว มีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากดมกลิ่นน้ำหอมขวดนั้นที่เฉินฝานซิงทำแตกให้ชัดเจนจึงย้ายที่นั่งจากด้านหลังขึ้นมาด้านหน้า
สายตาของหลายคนต่างก็อยู่บนตัวของป๋อจิ่งชวน
รูปร่างสูงตระหง่านของป๋อจิ่งชวนนั่งอยู่ตรงหน้า ขาเรียวยาวทั้งสองข้างไขว้กัน ชุดสูทสีดำที่รีดเรียบไร้รอยยับดูผ่าเผย สองมือวางอยู่บนที่วางแขนของเก้าอี้อย่างสบายๆ บริเวณปลายแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตามีประกายจากคัฟลิงค์เพชรสองเม็ดส่องสะท้อนดึงดูดสายตา เห็นข้อมือที่เห็นกล้ามเนื้อและเส้นเลือดอย่างชัดเจน
เขานั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ บนตัวแผ่ซ่านความสง่างามที่หนักแน่นมั่นคงออกมา
ผู้คนแทบจะกลั้นหายใจกันหมด เฝ้ารอท่าทีที่จะเกิดขึ้นต่อไปทั้งหมดของป๋อจิ่งชวนอย่างเงียบงัน
ผู้รับผิดชอบในการจัดงานครั้งนี้ถึงกับหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดเหงื่อบนหน้าผากด้วยมือที่สั่นระริกพร้อมกับวิ่งออกมาจากด้านหลังเวทีด้วยความรีบร้อน
“คุณป๋อ นี่ นี่มัน…”
นัยน์ตาดำขลับของป๋อจิ่งชวนลืมขึ้นมาช้าๆ ฝ่ายผู้รับผิดชอบจัดงานเหงื่อผุดพรายเต็มหน้าผากในชั่วพริบตา
ทว่าสายตาของป๋อจิ่งชวนกลับมองผ่านเขาไปอย่างเรียบๆ ก่อนจะไปหยุดอยู่บนใบหน้าของเฉินฝานซิง
“หายโกรธหรือยัง”
เฉินฝานซิงดวงตาฉายประกาย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบและคมชัด
“พอได้”
สถานที่ที่จัดงานที่กว้างใหญ่ตกอยู่ในภวังค์แห่งความเงียบสงัดไปชั่วขณะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลิ่นหอมที่เรียบง่ายเป็นเอกลักษณ์ที่อบอวลอยู่กลางอากาศ ยิ่งทำให้เฉินฝานซิงในเวลานี้ดูน่าขำเข้าไปอีก
“หึ…”
ไม่รู้ว่าใครอดไม่ไหวหลุดขำออกมา
“โง่เง่า หน้าด้านหน้าทน นี่ไม่ใช่ว่าทำให้เหตุการณ์มันแย่ลงไปกว่าเดิมหรอกเหรอ”
ตอนที่ 558 ความโกรธ
“โง่เง่า หน้าด้านหน้าทน นี่ไม่ใช่ว่าทำให้เหตุการณ์มันแย่ลงไปกว่าเดิมหรอกเหรอ”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความประชดประชันแดกดันดังขึ้น ผู้คนล้วนแต่อดส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมาเบาๆ ไม่ได้
ทั้งรู้สึกว่าเฉินฝานซิงน่าสงสาร และก็รู้สึกว่าเธอน่ารังเกียจ
เสียงหัวเราะราวกับติดต่อกันได้ สายตาที่มองเฉินฝานซิงต่างก็เป็นสายตาที่ทิ่มแทงเข้าไปถึงจิตใจ
สายตาของป๋อจิ่งชวนนิ่งขรึมลงไปถนัดตา เฉินฝานซิงมองดูสายตาที่อ่อนโยนของป๋อจิ่งชวนค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชา
ในใจของเฉินเชียนโหรวรู้สึกดีขึ้นมาทันที คืนนี้ที่เธอเสียหน้า ถือว่ากู้คืนกลับมาได้นิดหน่อยแล้ว
นอกจากอินรุ่ยเจวี๋ยและเผยอวิ๋นเจ๋อที่หน้าตาดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร และจี้อี้ที่โกรธจนแทบจะกระโดดออกไปป่าวประกาศความสัมพันธ์ของทั้งสองคนในทันที ทั้งงานก็มีเพียงแค่ผู้ตั้งประมูลคนเดียวที่ตา จมูก ปากแทบจะกระจุกมารวมอยู่ด้วยกัน มือปิดบังใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง ไม่อยากจะมองสีหน้าของผู้คนในงานในเวลานี้
ช่างอัปลักษณ์น่าเกลียดเสียจริง
“ผู้ที่มีฝีมือเหนือชั้นนั้นอาจหาญ คำร่ำลือเกี่ยวกับคุณหนูใหญ่สกุลเฉินเป็นเรื่องจริงเสียด้วย หาเรื่องใครไม่หา ดันไปหาเรื่องผู้บริหารกิจการเครือป๋อซื่อ”
“พฤติกรรมแบบนี้ โดนคุณชายซูทิ้งก็พอจะเข้าใจได้”
ประโยคนี้ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก แค่ฟังก็รู้ทันทีว่าเป็นเหล่าผู้ปกป้องของเฉินเชียนโหรว
เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นไม่กลัวเรื่องเดือดร้อนอยู่แล้ว
ผ่านไปครู่ใหญ่ น้ำเสียงที่เย็นชาราวกับถูกห่อหุ้มด้วยน้ำแข็งก็ดังขึ้นมาจากที่ไหนสักแห่ง
“ตลกมากเหรอ”
เสียงนั้นแทบจะกลบเสียงหัวเราะทั้งงานได้ ทั้งยังมีพลังข่มขู่ที่ทำให้คนตกตะลึง คนที่ตอบสนองเร็วรีบหุบยิ้มในทันทีพลันมองป๋อจิ่งชวนด้วยความไม่เข้าใจ
เสียงหัวเราะค่อยๆ เงียบลง แต่ว่าก็ยังคงมีคนส่งเสียงซุบซิบนินทาเฉินฝานซิงที่อยู่บนเวที เสียงหัวเราะที่กระจายอยู่เป็นหย่อมๆ ยังคงไม่หยุด
น้ำเสียงราบเรียบเยือกเย็นดังขึ้นกว่าเดิม ความน่าเกรงขรามดุดันแทบจะทำให้ทุกคนสำลัก
“ตลกเหรอ”
เขาลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ร่างสูงตระหง่านยืดยาวอย่างกะทันหัน ความสง่าผ่าเผยอันแรงกล้าแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายโดยไม่ต้องออกแรงพยายาม ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติเวลานี้เย็นชาจนน่ากลัว
นัยน์ตาดำขลับกวาดสายตาผ่านใบหน้าทุกคนอย่างนิ่งเรียบ ทั้งๆ ที่ไม่ได้แสดงสีหน้าออกมามากนัก แต่กลับทำให้ทุกคนตกใจกลัว
“ใครบอกผมได้ไหม เรื่องอะไรที่ทำให้พวกคุณชอบใจขนาดนั้น”
เผยอวิ๋นเจ๋อสอดส่ายสายตาไปยังมุมหนึ่งของงานปราดหนึ่ง ริมฝีปากเรียวบางเม้มแน่นก่อนจะค่อยๆ ละสายตากลับมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ นิ้วมือที่เห็นข้อต่อชัดเจนนวดขมับเบาๆ
ทุกคนพากันเงียบไม่กล้าเปิดปาก ไม่รู้ว่าป๋อจิ่งชวนโกรธมาจากไหน
ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะดูเขาบันดาลโทสะใส่เฉินฝานซิง แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้มาลงที่บนตัวพวกเขาเสียได้
จากนั้น สายของป๋อจิ่งชวนก็มาหยุดตรงที่ผู้รับชอบจัดงานคนนั้น ก่อนจะพูดเสียงเรียบเฉย
“ยกของประมูลในคืนนี้ขึ้นมาให้หมด”
เหงื่อที่อาบบนใบหน้าของผู้รับผิดชอบจัดงานไหลเป็นสายน้ำ ค่อยๆ หยดลงมาทีละหยดตามรูปคาง
“ทำไม” สายตาของป๋อจิ่งชวนทอดมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังโค้งตัวจนแทบจะถึงพื้นพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ผม…ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
ผู้คนพากันส่งเสียงฮือฮา ไม่รู้ว่าเวลานี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
ไม่นานนัก ผู้รับชอบก็ยกของกองหนึ่งมากองไว้ข้างเฉินฝานซิง
เวลานี้สีหน้าของป๋อจิ่งชวนถึงจะดูโอนอ่อนลงมาบ้าง เขามองที่เฉินฝานซิง แล้วพูดเรียบๆ
“ถ้ายังไม่หายโกรธก็เขวี้ยงต่อ เขวี้ยงจนกว่าจะหาย”
“…”
“…”
“…”
ผู้คนดวงตาเบิกโพลงด้วยความตะลึง
สรุปว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่