และเมื่อมองไปที่ประมุขวิญญาณมืดและสวีเจิ้นที่กำลังกระเสือกกระสนดิ้นรน จากใบหน้าที่ทุกข์ทรมานของเขา รวมไปถึงหู ตา จมูกและปากก็ไม่หยุดที่จะมีเลือดไหลออกมา แม้ว่านางจะโง่มากแค่ไหนก็รู้ได้ว่าเสียงขลุ่ยที่เอ้อระเหยและเศร้าสร้อยนี้ ไม่ได้เป็นบทเพลงที่ดีอะไร

วิญญาณทั้งเจ็ดแห่งหุบเขามืดเป็นถึงผู้มีฝีมือสูง

โดยเฉพาะประมุขวิญญาณมืด

เยี่ยจิ่งหานกลับใช้เพียงบทเพลงเดียวก็สามารถจัดการพวกเขาได้? เช่นนี้ต้องมีพละกำลังที่ลึกมากเช่นไร

เมื่อหันไปมอง นางเห็นสวีซานเหนียงซึ่งถูกดอกชากัดกินอยู่บนพื้นและเหลือเพียงโครงกระดูก และหนังศีรษะของนางก็ชาเล็กน้อย

สวีซานเหนียงก็ถูกฆ่าตายโดยเขาด้วยอย่างนั้นหรือ

หากเขาเป็นคนฆ่า วิธีการนี้ช่างเลือดเย็นสาดกระเซ็นอย่างมาก

“อ๊า……”

สวีเจิ้นโอดครวญด้วยความทรมาน เจ็บปวดจนโขกศีรษะกับพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เลือดไหลออกมาอย่างรุนแรงจากหน้าผากของเขา และเขาไม่รู้ตัวเลย แต่กลับกระแทกหนักกว่าที่เคยเรื่อยๆ

ราวกับมีเพียงการกระแทกไปเรื่อยๆ เช่นนี้ ร่างกายจึงจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

ประมุขวิญญาณมืดตะโกนออกมาด้วยความเป็นกังวล “เหล่าเจิ้น หยุดโขกได้แล้ว หากยังโขกต่อไปศีรษะต้องบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน”

ไกลออกไป มีรัศมีอันทรงพลังมาจากที่ไกลและใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว

ดวงตาของเยี่ยจิ่งหานแข็งทื่อ เสียงขลุ่ยเร็วขึ้น ประมุขวิญญาณมืดทนไม่ได้อีกต่อไปและเกราะป้องกันก็ได้พังทลายลง เขาไม่อาจสู้เสียงเวทมนตร์มารลวงได้ จากนั้นร่างกายของเขาก็ล้มลงไปและกระอักเลือดออกมา เขาบาดเจ็บสาหัสจนแทบหมดลมหายใจ

และสวีเจิ้นก็ระเบิดเป็นหมอกเลือดสีแดงในทันที

“เยี่ยจิ่งหาน เจ้ามีจุดอ่อนเสียแล้ว”

เสียงอันอบอุ่นและน่ารื่นรมย์นั้นดังขึ้นมาช้าๆ เสียงนั้นเหมือนเสียงของธรรมชาติ และทำให้ผู้คนต่างจมดิ่งลงไปอย่างช่วยไม่ได้

และสิ่งที่ตามเสียงนั้นมาก็คือชายชุดขาว

ชายชุดขาวมาจากฟากฟ้า สวมใส่ชุดสีขาวและท่าทางของเขาเหมือนหยก ไม่มีแม้แต่ไรฝุ่น เขาสวมหน้ากากผีเสื้อและมองไม่เห็นรูปร่างหน้าตาของเขา แต่เขามีความสง่างามและไร้ตัวตน และเพียงชำเลืองมองก็ทำให้ผู้คนแทบทนไม่ได้ที่จะประหลาดใจ

กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว

มีอีกหนึ่งคนที่สวมหน้ากาก?

โลกใบนี้เป็นอะไรไป?

แต่ละคนล้วนนิยมสวมหน้ากาก?

เช่นนั้นพรุ่งนี้นางก็จะไปหาซื้อหน้ากากมาสวมใส่บ้างสักหนึ่งอัน?

แต่สิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ ท่าทางของชายชุดขาวนั้น แน่นอนว่าต้องเป็นหนึ่งในร้อยและไม่แย่ไปกว่าเยี่ยจิ่งหานเลย

“ควับ……”

ชายชุดขาวยกมือขวาขึ้น จากนั้นฉินสีขาวที่อยู่ข้างหลังก็ตกลงมาในมือของเขา เมื่อมืออันขาวเรียวของเขาดีดขึ้น การโจมตีที่ร้ายแรงนี้ก็พุ่งเข้าไปที่เยี่ยจิ่งหาน

เยี่ยจิ่งหานยิ้มอย่างเยือกเย็นและเปลี่ยนเสียงขลุ่ย ราวกับเสียงกลองงในสงคราม

เสียงบึ๊มดังขึ้น

เสียงขลุ่ยและเสียงฉินปะทะเข้าหากันและภูเขาทั้งลูกก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง

กู้ชูหน่วนเซอยู่หลายครั้งและรู้สึกยืนได้ไม่มั่นคง

เป็นวิธีฆ่าที่ร้ายกาจอย่างมาก

เสียงขลุ่ยและเสียงฉินต่างไม่ยอมลดละซึ่งกันและกัน การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด

นกและสัตว์ป่าในป่าเขาต่างตกใจจนวิ่งหนี

ประมุขวิญญาณมืดบาดเจ็บสาหัสและเกือบจะเสียชีวิต เขาเห็นการสู้รบครั้งใหญ่ของเยี่ยจิ่งหานและเหวินเส่าอี๋ จากนั้นมองกู้ชูหน่วนอย่างชั่วร้ายและใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เพื่อหลบหนี

จอมมารเบะปากและรู้สึกน่าเบื่อหน่าย

เป็นการยากที่จะได้พบเจอกับพี่หญิง แต่พวกเขาสองคนกลับเข้ามาพัวพันอะไรด้วย?

และเมื่อมองไปที่ประมุขวิญญาณมืดที่แอบหลบหนี อารมณ์ที่ไม่ดีอยู่แล้ว แค่เพียงดีดนิ้วก็ทำให้ร่างกายของเขาแตกระเบิดกลายเป็นหมอกเลือดสีแดงและไม่มีแม้แต่ซากศพให้เห็นต่างหน้า

จอมมารวิ่งเหยาะๆ มาที่ข้างกายของกู้ชูหน่วน ราวกับกระต่ายขาวตัวเล็กที่กำลังหวาดกลัวและร้องไห้ “พี่หญิง ทำไมท่านเพิ่งจะมา อาม่อตกใจเกือบตาย”

กู้ชูหน่วนหันไปมอง

ผู้ชายคนนี้ คือซือม่อเฟยที่รู้จักที่หุบเขาพิศวิญญาณไม่ใช่หรือ?

ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่ด้วย?