กลิ่นหอมจางๆ ของดอกไม้มาจากปลายจมูก จอมมารกำลังโอบแขนของนาง เมื่อปลายจมูกกระตุกและเสียงก็ค่อยๆ ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา “พี่หญิง อาม่อคิดว่าจะไม่ได้เจอท่านเสียแล้ว”

กู้ชูหน่วนประคับประคองเขาให้ยืนตรง

เจ้าหมอนี่ แอบแต๊ะอั๋งนางจนได้ใจหรืออย่างไร? มีโอกาสก็โถมตัวเข้ามาที่นางอยู่เรื่อยเลย

อย่าคิดว่านางเป็นคนโง่

ตอนแรกที่นางปรากฏตัวขึ้นที่หุบเขากลืนวิญญาณ จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดขึ้น หุบเขาพิศวิญญาณอยู่ห่างไกลจากหุบเขากลืนวิญญาณไกลเช่นนั้น หากเขาไม่ได้มีความสามารถสูงละก็ เช่นนั้นเขาจะมาที่หุบเขากลืนวิญญาณได้อย่างไร

ตัวตนของเขาช่างน่าประหลาดใจมากเหลือเกิน

กู้ชูหน่วนกะพริบตาเจ้าเล่ห์และดวงตาที่สวยงามคู่นั้นก็เผยให้เห็นความคิดของนาง

“อาม่อ เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”

“ข้าถูกคนจับตัวมา”

“อ้อ ใครกันนะช่างโหดร้ายเช่นนี้ กล้าที่จับตัวอาม่อของข้ามา”

จอมมารยิ้มอย่างหยดย้อย แม้แต่ดอกไม้ก็ยังสู้ความหวานของรอยยิ้มเขาไม่ได้ “พี่หญิง ท่านต้องการแก้แค้นให้กับข้าอย่างนั้นหรือ?”

“แน่นอน ใครให้เจ้ามาเป็นน้องชายของข้าล่ะ”

คำนี้เมื่อพูดออกไป ความหดหู่เล็กน้อยของจอมมารก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ และแม้แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ยังเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

เสียงของกู้ชูหน่วนเปลี่ยนไปและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “เสี่ยวอาม่อ หากข้าถูกรังแก เจ้าจะช่วยข้าหรือไม่?”

จอมมารเหลือบมองไปยังคราบเลือดที่มุมปากของนางภายใต้ผ้าคลุม จากนั้นรู้สึกถึงบาดแผลภายในที่นางได้รับ และรอยยิ้มของเขาอดไม่ได้ที่จะห่อเหี่ยวลงเล็กน้อย “ใครหน้าไหนกล้ารังแกพี่หญิง คอยดูอาม่อจะทำให้เขาเสียใจที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้”

“พูดเช่นนี้ เจ้าจะล้างแค้นให้กับข้า?”

“แน่นอน”

“อาม่อ คือเขา” กู้ชูหน่วนชี้ไปยังเหวินเส่าอี๋ชายชุดขาวที่กำลังต่อสู้กับเยี่ยจิ่งหาน “รังแกข้า”

หากเขาไม่เข้ามาก่อกวน เช่นนั้นเยี่ยจิ่งหานก็ฆ่าผู้นำกองธงกล้วยและถล่มหุบเขาพิศวิญญาณไปได้นานแล้ว

เมื่อเห็นเขาลงมืออย่างไม่ลดละและโจมตีให้เยี่ยจิ่งหานพ่ายแพ้ ต่อให้เขารูปร่างหน้าตาดีเช่นไรเขาก็ไม่ใช่คนดีอะไร

เยี่ยจิ่งหานหายใจติดขัดและได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ศิลปะการต่อสู้ของเขาเมื่อเทียบกับเยี่ยจิ่งหานแล้วนับว่าสูสีกันมาก หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เยี่ยจิ่งหานจะต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอน

นางก็ไม่สามารถแน่ชัดได้ถึงตัวตนที่แท้จริงและความสามารถทางการต่อสู้ของซืออาม่อ เพียงแค่พูดลองเชิงเพื่อทดสอบออกมาเท่านั้น

หากสามารถช่วยเหลือได้ก็นับเป็นเรื่องดี หากช่วยไม่ได้ก็ปล่อยไป ถึงอย่างไรเสีย การต่อสู้ระหว่างผู้มีฝีมือสูงระดับนั้น ไม่ใช่ว่าคนธรรมดาจะสามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้

ใบหน้าของจอมมารทรุดลงและมีความเศร้าโศกและลำบากใจเล็กน้อย “พี่หญิง ฝีมือการต่อสู้ของพวกเขาสูงส่ง อาม่อเกรงว่าจะสู้พวกเขาไม่ได้ อาม่อก็หวาดกลัวเช่นกัน อาม่อไม่มีความสามารถทางด้านการต่อสู้เลย”

“อ้อ……ที่แท้เจ้าก็พูดได้ แต่ทำไม่ได้นี่เอง ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรเสีย เราก็เพิ่งจะเจอหน้ากันสองครั้งเท่านั้น เจ้าไม่ช่วยข้าก็เป็นเรื่องธรรมดา”

“พี่หญิงไม่ชอบอาม่อที่เป็นเช่นนี้หรือ……เอ่อ……ประเภทนี้หรือ?”

“ข้าชอบคนที่มีความสามารถมีฝีมือการต่อสู้ขั้นสูง มีความกล้าหาญและผู้ชายที่รักและทะนุถนอมภรรยาแบบไร้ข้อจำกัด”

“ปัง……”

จอมมารยกมือขวาขึ้น และดอกไม้กินคนดอกหนึ่งก็พันรอบๆ เหวินเส่าอี๋อย่างแปลกประหลาด

เขาลงมืออย่างกะทันหันและความเร็วนั้นรวดเร็วมาก รวมไปถึงดอกลำโพงทุกดอกก็แบกรับแรงกดดันอันยิ่งใหญ่ที่จะทำลายท้องฟ้าและทำลายโลก

สีหน้าของเหวินเส่าอี๋เปลี่ยนไป

เสียงดีดฉินก็เปลี่ยนไปทันที เสียงกึกก้องดังจู่โจมไปที่ดอกลำโพง

แต่ดอกไม้เหล่านั้นก็เป็นเหมือนวิญญาณที่ลอยล่อง พวกมันไม่เพียงแต่สามารถหลบเลี่ยงเสียงดีดฉินได้เท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนรูปร่างรูปทรงเพื่อจู่โจมเหวินเส่าอี๋อย่างต่อเนื่อง

ภายใต้การโจมตีของสองปรมาจารย์ จอมมารและเยี่ยจิ่งหาน ทำให้เหวินเส่าอี๋แสดงสัญญาณของการปฏิเสธทันที

กู้ชูหน่วนตกตะลึง

นางคิดไม่ถึงเลยว่า ซืออาม่อที่ดูอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงเช่นนี้ กลับ……กลับมีฝีมือขั้นสูงลึกล้ำเช่นนี้

เช่นนั้นแล้วนั่นคือดอกอะไร ที่สามารถมุดดินได้หลายสิบเมตรและสามารถพังทลายภูเขาได้ทั้งลูก

ปัดโธ่……

เขาเป็นใครกันแน่นะ?