ตอนที่ 612 หุนหันพลันแล่น Ink Stone_Fantasy
“ก่อนที่จะออกไป มีอยู่สองเรื่องที่พวกเราจะต้องรู้เอาไว้” กู่ฉิงซานกล่าว
เมื่อได้ยินเขาพูด ทุกคนก็แสดงออกถึงท่าทีฟังอย่างตั้งใจ
เพราะท้ายที่สุดนี้ เขาเป็นถึงชายที่สามารถโค่นหนึ่งแสนกองทัพผี สังหารสองร้อยล้านผู้เข้าสู่วิถีมาร และทำลายระบบของราชามารลงได้ด้วยตนเอง
และแน่นอน ว่ามันเป็นเพราะฝ่าบาทที่ทรงประทับอยู่บนบ่าของชายผู้นี้ด้วยเช่นกัน
กู่ฉิงซาน “เรื่องแรกก็คือ ลอร่าจะต้องสวมใส่เกราะกษัตริย์เสียก่อน จะได้ไม่มีปัญหาในด้านความปลอดภัยตามมา หลังจากที่เราออกไปข้างนอก”
“ข้าเห็นด้วย” อีเลียตกลงทันที
ลอร่ากล่าวอย่างไม่เต็มใจ “กู่ฉิงซาน เป็นเจ้าที่ใส่เกราะรบเอาไว้ไม่ดีกว่าหรือ ตัวเราถูกปลุกให้ตื่นขึ้นโดยสมบูรณ์แล้ว แถมยังได้รับพรมาถึงสามประการ แค่เพียงที่ลี้ภัยแห่งหมื่นโลกาก็ไม่มีใครสามารถตรวจพบถึงตัวเราได้แล้ว”
“แบบนั้นไม่ได้ ท่านจะต้องฟังคำของกระหม่อม” กู่ฉิงซานดุ
มองไปยังเด็กสาวตัวน้อยที่ดูเศร้าๆ กู่ฉิงซานก็ลดเสียงตัวเองลง กล่าวอย่างช้าๆ “ในเรื่องของการต่อสู้ ทุกสิ่งอย่างมักจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอยู่เสมอๆ ดังนั้นท่านไม่ควรที่จะพึ่งพาเพียงสกิลเดียว เพราะมันไม่สามารถใช้ในการตัดสินทุกอย่างได้ เข้าใจหรือไม่?”
“เข้าใจก็ได้…”
ลอร่าพอเห็นเขายืนยันหนักแน่น ตนเองจึงตอบรับไปคำหนึ่ง
เมื่อเห็นถึงฉากนี้ ทหารพิทักษ์ก็ลอบพยักหน้ากันอย่างลับๆ
ใช่แล้วล่ะ ลอร่าเป็นสายเลือดคนสุดท้ายของราชวงศ์ แม้ว่าทุกอย่างในตอนนี้จะจบลงด้วยดีแล้วก็จริง แต่หากเธอออกไปข้างนอกก็ยังไม่แน่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
ดังนั้น ความปลอดภัยของกษัตริย์ย่อมต้องมาก่อน ห้ามประมาทเลินเล่อใดๆ ทั้งสิ้น!
ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกให้มากความ เกราะเทพบินเข้าหาลอร่า และกลายเป็นประกายแสงเล็กๆ โอบล้อมรอบกายเธอทันที
“ไม่ต้องกังวลไป ข้าอยู่ที่นี่แล้ว” เกราะเทพกล่าว
กู่ฉิงซานพยักหน้า “โอเค งั้นพวกเรามาพูดกันถึงเรื่องที่สองกันต่อเลย ซึ่งเรื่องนี้จะขึ้นอยู่กับอีเลีย”
“ข้าหรือ?” อีเลียถาม
“ใช่ และนี่ยังเป็นคำขอร้องส่วนตัวจากผมอีกด้วย”
“เรื่องอะไร? ลองว่ามาสิ”
“เป็นเพราะความแข็งแกร่งของผมที่ต่ำเกินไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ หากได้ถูกเปิดเผยออกไป มันย่อมสามารถสั่นสะเทือนทุกฝ่ายได้อย่างแน่นอน และถ้าเป็นแบบนั้น มันจะสร้างปัญหาให้กับผม ดังนั้น ผมเลยอยากจะขอร้องว่า เป็นคุณจะได้ไหมที่ออกหน้ายอมรับว่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นฝีมือของตัวเองแทนผม”
ฝูงชนพอได้ฟังก็อดไม่ได้ที่จะจมลงสู่ห้วงความคิด
แน่นอนว่าจากทั้งหมดที่ตอบรับการเรียกขานของทริสเต้ ในบรรดาผู้ที่อายุต่ำกว่าสามสิบปี กู่ฉิงซานย่อมเป็นตัวตนที่โดดเด่น
อย่างไรก็ตาม หากเป็นในโลกเก้าร้อยล้านชั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตัวตนทรงอำนาจที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าอย่างเทียบไม่ติด เขาก็ยังเป็นแค่เพียงมือใหม่เท่านั้น
เป็นมือใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก แต่กลับสามารถกำจัดระบบของราชามาร สั่นสะเทือนตลอดทั้งโลกเก้าร้อยล้านชั้นได้
แน่นอน ว่าหากเรื่องนี้หลุดรอดออกไป ตัวเขาย่อมดึงดูดความอยากรู้อยากเห็นของผู้คนมากมาย ถึงจะมีผู้คนอยู่ไม่น้อยที่เข้ามาหาเขาด้วยเจตนาดี แต่ก็ย่อมต้องมีผู้คนที่มีเจตนาร้ายอยู่เช่นกัน
จากนั้นคงมีผู้คนนับไม่ถ้วนต้องการที่จะตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเขา และพยายามที่จะลอบตรวจสอบสมบัติและสกิลที่เขามี
เพราะย่อมไม่มีใครเต็มใจเชื่อว่าเขาสามารถบรรลุเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้ด้วยมันสมองของตัวเอง
สถานการณ์ดังกล่าวจะสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่ออนาคตและการพัฒนาของกู่ฉิงซาน
อย่างไรก็ตาม หากทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยฝีมือของ ‘เหมันต์ยามค่ำอีเลีย’ แล้วล่ะก็ มันจะไม่นับว่าเป็นปัญหาอะไร
เพราะยังไงเสีย วิหคหนามเป็นเผ่าพันธุ์ที่ครอบครองสมบัติมากมาย ดังนั้นพวกเขาก็ย่อมต้องมีวิธีที่สามารถใช้รับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันได้
ยิ่งไปกว่านั้น อีเลียก็ยังเป็นหนึ่งในตัวตนที่แข็งแกร่ง ที่มีชื่อเสียงไปตลอดทั้งโลกเก้าร้อยล้านชั้น
ผู้คนมากมายจะยอมรับผลลัพธ์ในครั้งนี้ได้อย่างง่ายดาย แถมยังมีแนวโน้มที่จะยกย่องในความสำเร็จของอีเลียอีกด้วย
ดังนั้น การให้อีเลียออกมารับหน้าทุกอย่าง จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
หากอีเลียออกมารับหน้าแทน ก็จะเทียบเท่าได้กับเป็นการช่วยปิดบัง และเป็นเกราะป้องกันให้แก่กู่ฉิงซาน
ในวันต่อๆ มา เขาก็จะได้สามารถมีสมาธิในการฝึกฝน โดยไม่มีเรื่องราวใดๆ จากโลกภายนอกเข้ามาแทรกแซง
ลอร่าเปิดบทสนทนากับอีเลีย “อีเลีย เจ้าสามารถเป็นผู้รับหน้าในเรื่องนี้จะได้หรือไม่?”
อีเลียไตร่ตรองอย่างจริงจัง ก่อนจะเอ่ยถามกู่ฉิงซานด้วยรอยยิ้ม “แล้วผลประโยชน์ที่พวกเราเผ่าพันธุ์หนามจะได้รับหลังจากการรับหน้าในครั้งนี้เล่า คืออะไร?”
กู่ฉิงซานกล่าวทันที “เนื่องจากจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทุกอย่างมันมาจากวิหคหนามทริสเต้ แต่คุณในฐานะนายพลอันทรงเกียรติ กลับสามารถแก้สถานการณ์ ช่วยเหลือองค์กษัตริย์ให้รอดพ้นจากอันตราย สังหาร สองร้อยล้านผู้เข้าสู่วิถีมาร และทำลายระบบของราชามารลงได้ เรื่องราวเหล่านี้จะส่งเสริมให้คุณกลายเป็นตัวตนที่ทรงพลานุภาพมากที่สุด”
เขากล่าวต่อ “ในกรณีนี้ มันจะส่งผลให้ความคิดของผู้คนที่มีต่ออาณาจักรหนามเปลี่ยนไป หากพวกเขาคิดจะลงมือใดๆ กับอาณาจักรหนาม อย่างน้อยพวกเขาต้องย้อนไปทบทวนดูดีๆ ไม่น้อยกว่าสองครั้งอย่างแน่นอน และนั่นจะนับว่าเป็นผลประโยชน์อย่างมหาศาล สำหรับลอร่าในอนาคต”
อีเลียถอนหายใจ “ฝีปากในการโน้มน้าวของเจ้านี่ช่างยอดเยี่ยมเสียจริงๆ แต่การที่เจ้าสามารถกำจัดระบบของราชามารลงได้มันจะทำให้เจ้าได้รับชื่อเสียงครั้งใหญ่ในโลกเก้าร้อยล้านชั้นเชียวนะ เจ้าจะทิ้งมันไปดื้อๆ เลยหรือ?”
กู่ฉิงซานส่ายหัวของเขา “การได้รับชื่อเสียงมันยังเร็วเกินไปสำหรับผม ตอนนี้ผมแค่อยากจะทุ่มสมาธิไปกับการฝึกฝน เพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่า”
อีเลียไม่ลังเลอีกต่อไป เธอพยักหน้า และกล่าว “อันที่จริง แค่เรื่องที่เจ้าช่วยลอร่าเอาไว้ ข้าก็เต็มใจจะรับฟังคำขอของเจ้าอยู่แล้ว”
“ยอดไปเลย ถ้าอย่างงั้นพวกเรามาปรึกษากันก่อน จะได้แน่ใจว่าพอออกไปจะพูดตรงกัน” กู่ฉิงซานกล่าว
“งั้นพวกเจ้าจงเตรียมตัวให้พร้อมเสีย หลังจากเสร็จเรื่องนี้พวกเราจะออกไปทันที” อีเลียสั่ง
ทหารพิทักษ์แห่งอาณาจักรเริ่มที่จะทำการตรวจสอบอุปกรณ์ของพวกเขา และเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ทันที
ส่วนอีเลีย เธอแยกตัวออกไปหารือรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับกู่ฉิงซานอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเวลาทั้งสองเอ่ยปาก เรื่องราวมันจะไม่เบี่ยงเบนออกไป
ไม่กี่นาทีต่อมา
อีเลียก็หยิบบอลสีเงินขึ้น และบีบมันอย่างแรง
บอลสีเงินแตกกระจาย พวกมันกลายเป็นเส้นโลหะขนาดใหญ่นับไม่ถ้วน ไหลย้อนทวนขึ้นไปในอากาศ
สองมือของอีเลียประกบกัน ประทับตราและเริ่มร่ายคาถา
พร้อมกันกับการร่ายคาถาของเธอ เส้นโลหะเหล่านั้นก็ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน ก่อร่างเป็นม่านเหล็กขนาดใหญ่ ห่อหุ้มฝูงชนเอาไว้ทันที
ต่อมา แสงจรัสก็พวยพุ่งออกจากม่านเหล็ก ทะลวงสู่ฟากฟ้า
ชั่วพริบตานั้นเอง ม่านเหล็กก็ทะลุผ่านชั้นอากาศ และหายออกไปจากโลกใบนี้
ภายในโรงแรมอัลเบอัส
โซนที่นั่งพิเศษ
ทริสเต้ยังคงถูกจี้โดยเหล่าปากกระบอกปืน
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ กลับไม่มีใครกล้าที่จะลงมือกับเธอ
เพราะหากตกอยู่ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ทริสเต้จะฉวยจังหวะนั้นปลดตราประทับในโลกที่ถูกผนึกของเธอ ปลดปล่อยระบบของราชามารออกไปปกคลุมตลอดทั้งอัลเบอัสและโลกนับล้านๆ ใบ
และนั่นเป็นฝันร้าย
สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนจะถูกบังคับให้ดาวน์โหลดระบบ และกลายเป็นทาสของระบบราชามาร
ยิ่งเวลาผ่านไป สถานการณ์ก็จะยิ่งแย่ลง
จิตวิญญาณพฤกษาศักดิ์สิทธิ์ เลดี้เทสส์ถอนหายใจ “ทริสเต้ เจ้าเป็นถึงยอดทหารผู้ที่เลื่องชื่อในอาณาจักรหนาม เหตุใดจึงเลือกเส้นทางเช่นนี้ ข้าล่ะไม่อยากจะเชื่อจริงๆ”
“ยอดทหาร?”
สีหน้าของทริสเต้เผยถึงความเยาะหยัน ปากเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “ทาสที่ต้องคอยรับหน้าที่เป็นวัวเป็นควายให้กับราชวงศ์ มันสมควรที่จะถูกเรียกว่ายอดทหารจริงๆ หรือ?”
ทว่าในตอนนั้นเอง รังสีแสงพลันสว่างวาบ และผุดออกมาจากบอลคริสทัลอย่างกะทันหัน
ลอร่า กู่ฉิงซาน อีเลีย และทหารพิทักษ์ปรากฏกายขึ้นในโซนพิเศษขึ้นพร้อมกัน
“ลอร่า!” ทริสเต้ตะโกน
“ลอร่า! อีเลีย! นี่มันเรื่อง-” เทสส์อุทานด้วยความประหลาดใจ
“อย่าขยับ!”
ทุกชนิดของปืนระเบิดเสียงเตือนขึ้นทันที
พวกเขาต่อต้านทริสเต้ชนิดหัวชนฝา บีบบังคับมิให้เธอลงมือกับลอร่า
เกิดเหตุการณ์สับสนวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย
“ถอยออกไปก่อน” กู่ฉิงซานเร่งกล่าวเสียงกระซิบ
ฝูงชนที่คอยปกป้องลอร่า รีบถอยกลับมาเบื้องหลังเลดี้เทสส์อย่างรวดเร็ว
ในสายตาของทริสเต้ กระบวนของทหารพิทักษ์ที่กำลังปกป้องลอร่าช่างเข้มงวดยิ่งนัก
ลอร่ามองไปยังทริสเต้
เฝ้ารอจนกระทั่งทุกคนหยุดฝีเท้าลง เธอจึงเริ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เจ้าคิดว่าการรับใช้ราชวงศ์นั้นเปรียบดั่งการตกเป็นทาสอย่างงั้นหรือ?”
แม้ว่าจะประหลาดใจกับคำถาม แต่ทริสเต้ก็ยังตอบกลับไป “ถูกต้อง! เพราะสิ่งที่ข้าต้องทำทุกวันนี้ล้วนไม่พ้นเกี่ยวข้องกับอาหาร เสื้อผ้า และการเดินทางของเจ้าทั้งสิ้น ทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการจะทำเลย!”
ลอร่า “แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า ย่อมไม่มีใครสามารถบีบบังคับให้เจ้ารับใช้ราชวงศ์ได้ หากเจ้าต้องการ เจ้าก็สามารถจากไปได้เลยโดยไม่มีใครห้ามปรามมิใช่หรือ?”
“แต่ว่านะทริสเต้ ทำไมล่ะ? ทำไมกัน ทำไมเจ้าถึงสังหารพ่อแม่ และน้องชายของข้า?”
“พวกเขาทุกคนล้วนดีกับเจ้าเสมอมา กระทั่งรางวัลอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่เจ้าครอบครองอยู่ในมือขณะนี้ ก็เป็นราชวงศ์ที่พระราชทานให้ แต่ทำไมสุดท้ายเจ้าถึงสังหารพวกเขา?”
ทริสเต้ไร้คำจะกล่าวไปชั่วจังหวะหนึ่ง
แต่ในไม่ช้า บนใบหน้าของเธอก็เริ่มผุดรอยยิ้มอันแสนคลุ้มคลั่ง
“นั่นเพราะข้ามีความฝัน ความฝันที่ไม่ว่าตัวเองจะต้องเสียสละสิ่งใดก็จักต้องบรรลุมันให้จงได้อยู่!”
“เสียสละ? ด้วยชีวิตคนอื่นเนี่ยนะ? มันยุติธรรมงั้นหรือ?”
“ยุติธรรม?” ทริสเต้ประชดประชัน “ลอร่าเอ๋ย เจ้ามันยังเด็กนัก ในโลกเก้าร้อยล้านชั้นมันไม่มีคำว่ายุติธรรมหรอก!”
ดวงตาของลอร่าเริ่มแดงเรื่อ เธอเอ่ยบัญชา “ไป! จงไปจับตัวเธอ เราต้องการที่จะจัดการกับกบฏของอาณาจักรต่อหน้าทุกคน!”
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!” อีเลียขานรับ
เธอเริ่มก้าวตรงไปยังทริสเต้
ทริสเต้เริ่มเกร็งบอลคริสทัลในมือทันที
“อย่าเข้ามานะ!” เธอร้องตะโกน
“ทริสเต้ มันจบแล้ว และเจ้าจะต้องชดใช้ในการกระทำของเจ้า” อีเลียส่ายหัว
และยังคงก้าวต่อไปไม่หยุด
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เข้าใจถึงสถานการณ์ในตอนนี้สินะ?” ทริสเต้ชูบอลคริสทัลสูงขึ้น ปากเอ่ยข่มขู่ “อีเลีย ตราบใดที่เจ้ากล้าตรงเข้ามาอีกแม้เพียงก้าว ข้าจะปลดผนึกโลกใบนี้ และปลดปล่อยระบบของราชามารออกมาทันที”
“เมื่อถึงเวลานั้น ต่อให้ข้าต้องตาย แต่ทุกอย่างที่นี่ก็จะจบลง ทุกคนจะต้องกลายเป็นทาสของระบบ ไม่เว้นกระทั่งเจ้า!”
“ฮี่ๆ ฮ่าๆๆ”
ทริสเต้หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“…” อีเลีย
“…” ลอร่า
“…” กู่ฉิงซาน
“…” ทหารพิทักษ์
อีเลียหยิบเถาวัลย์หนามออกมา และโยนมันไปในอากาศ
“จิตวิญญาณของรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์เอ๋ย ในนามของเจ้า ขอจงสำแดงพันธนาการที่ไม่มีวันหลุดพ้นออกมาด้วยเถิด” เธอร่ายมนตร์คาถาพึมพำ
เถาวัลย์หนาม บินไปทางทริสเต้ทันที
เมื่อเห็นถึงเถาวัลย์นี้ สีหน้าของทริสเต้ก็แปรเปลี่ยนกลับกลาย เธอร้องตะโกนอย่างสิ้นหวัง “เป็นเจ้าเองนะที่บังคับให้ข้าทำแบบนี้!”
เธอกดมือของตนลงแนบกับบอลคริสทัล ปากอ้าตะโกน “จงถูกปลดปล่อย!”
“ไม่นะทริสเต้ เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้…” เลดี้เทสส์อุทานออกมา
“พวกเราลงมือ!” ปืนกลตะโกนอย่างเร่งร้อน
อย่างไรก็ตาม มันสายเกินไปแล้ว
บนบอลคริสทัล รอบตัวมันเกิดกระแสไอเย็นระเบิดออก อุณหภูมิทั้งหมดภายในห้องลดต่ำลง
ในขณะเดียวกัน เถาวัลย์หนามก็มาถึงตัวทริสเต้ พันธนาการเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา
บังเกิดความเงียบงันขึ้นในโซนพิเศษ
บอลคริสทัลตกกระทบลงกับพื้น กระเด้งกระดอนไม่กี่ครั้งก็หยุดลง
ขณะที่ไอเย็นเยียบยังคงถูกปลดปล่อยออกมาจากบอลคริสทัลอย่างต่อเนื่อง จนพื้นบริเวณรอบๆ มันกลายเป็นน้ำแข็ง
จากนั้น
ก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นอีกเลย
………………………………………………