ตอนที่ 589 ส่งมอบสินสอด
ด้านนอก ผู้คนกำลังพูดคุยกันพลางมองสินสอดแต่ละกล่องถูกยกเข้าจวนตระกูลหลิน ต่างชื่นชมการส่งสินสอดอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา สินสอดที่มีอย่างน้อยร้อยกล่องทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกตื่นตาตื่นใจจริงๆ!
ส่วนด้านใน นอกจากสมาชิกคนสำคัญของจวนตระกูลหลิน ผู้หญิงพวกนั้นล้วนไม่ได้เข้าไปห้องโถงใหญ่ แต่ให้เหล่าทหารอารักขาในจวนเชิญออกจากพื้นที่ สินสอดร้อยกล่องวางไว้ในลานบ้านหน้าห้องโถงก่อน สินสอดร้อยกล่องที่อัดเต็มวางแน่นขนัดไปทั้งเรือน ทำให้ผู้หญิงพวกนั้นมองจนอิจฉาในใจไม่หยุด
ภายในห้องโถงใหญ่ คนที่นั่งตรงตำแหน่งอาวุโสคือหลินป๋อเหิงผู้นำตระกูลหลิน เฟิ่งจิ่วกับผู้เฒ่าเกิ่งสองคนนั่งตรงตำแหน่งที่หนึ่งและสองด้านล่างซ้าย หลินเฉิงจื้อนั่งถัดจากพวกเขา ส่วนคนที่นั่งด้านล่างขวาก็คือลูกชายคนอื่นๆ อีกสองสามคนของเขากับเหล่าผู้อาวุโส
“แม่หนูเฟิ่ง วันที่พวกเจ้าเลือกคือวันไหน ทำไมถึงส่งสินสอดมาเร็วเพียงนี้ ยังมีท่านปู่เจ้าอีก? ทำไมเขาไม่มาด้วย?” หลินป๋อเหิ่งเอ่ยถาม อันที่จริงไม่ได้สนใจว่าคนที่ส่งสินสอดจะเป็นผู้เฒ่าเฟิ่งหรือไม่ แค่นึกว่าเขาจะมาแต่กลับไม่เห็น จึงถามไปเช่นนี้
เฟิ่งจิ่วมองไปทางเขา กล่าวยิ้มๆ ว่า “เลือกวันเรียบร้อยแล้วขอรับ เป็นวันที่สิบสามเดือนสิบสอง พวกเราวางแผนว่าจะส่งสินสอดก่อนวันมงคล ส่วนท่านปู่ หลังจากกลับไปเขาเก็บตัวฝึกบำเพ็ญตลอด ยามนี้บรรลุจากระดับบรรพชนนักรบไประดับจักรพรรดินักรบแล้ว ช่วงนี้เขายังอยากบรรลุขั้นอีกเพื่อไปให้ถึงระดับนักรบทรงเกียรติ ด้วยเหตุนี้จึงได้แต่ให้ข้ากับท่านปู่เกิ่งมาส่งสินสอดแทน”
พูดถึงตรงนี้ เธอยิ้มเล็กน้อย ประสานมือบอกว่า “หากมีตรงไหนที่ทำได้ไม่ดี หวังว่าท่านปู่หลินกับท่านทั้งหลายจะไม่ถือสา”
“ฮ่าๆๆๆ ไม่หรอก”
หลินป๋อเหิงหัวเราะเสียงดัง ในใจกลับประหลาดใจ จึงถามว่า “ซานหยวนเพิ่งกลับไปไม่นานก็บรรลุระดับจักรพรรดินักรบแล้ว? ทำไมถึงรวดเร็วเพียงนี้ บรรลุระดับนักรบทรงเกียรติภายในเวลาสั้นๆ? อาจจะทำไม่ได้กระมัง?”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็เอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ข้ายังบอกว่าให้เขาทำเท่าที่ได้ก็พอ บรรลุขั้นได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แค่พยายามถึงที่สุดก็เพียงพอแล้ว”
“ใช่! พยายามถึงที่สุดก็พอ เขาแค่สนใจสายตาคนอื่นเกินไป” เขาส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วมองไปทางผู้เฒ่าเกิ่ง “ครั้งนี้รบกวนสหายเกิ่งจริงๆ การเดินทางครั้งนี้พวกเจ้าเหน็ดเหนื่อยแล้ว ต้องพักผ่อนในจวนสักสองวันล่ะ”
“ไม่ลำบากเลย ได้มาส่งสินสอดแทนซานหยวนถึงจวนอันสูงศักดิ์ก็เป็นเกียรติแก่ข้าเช่นกัน”
ผู้เฒ่าเกิ่งพูดยิ้มๆ ตอนนี้พวกเขาคุยกันไปสักพัก จนกระทั่งองครักษ์ด้านนอกเข้ามารายงานว่าสินสอดร้อยกล่องถูกขนเข้ามาหมดแล้ว ถึงจะหยิบรายการสินสอดออกมา พร้อมเดินเข้าไปมอบให้ด้วยสองมือ
“ท่านผู้นำตระกูลหลิน นี่คือรายการสินสอด ขอเชิญทุกท่านตามข้าออกไปตรวจนับและส่งมอบสินสอดขอรับ”
“ดี เช่นนั้นพวกเราก็ไปด้วยกันเลย” หลินป๋อเหิงพยักหน้า ให้สัญญาณไปทางผู้อาวุโสพวกนั้น ก่อนจะเดินออกไปพร้อมๆ กัน ครั้นมาถึงด้านนอก เมื่อเห็นสินสอดที่กองเรียงรายเต็มเรือน ใบหน้าแต่ละคนต่างมีรอยยิ้ม
สินสอดร้อยกล่องก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาตระกูลหลินจะไม่เคยเห็น เพียงแต่การที่พวกเขานำสินสอดร้อยกล่องมาได้ จะเห็นได้ถึงความสำคัญที่พวกเขามีให้กับงานแต่งครั้งนี้ ทำให้ตระกูลหลินปลาบปลื้มในใจอย่างยิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ต้องพูดถึงสินสอด ลำพังแค่พวกเขาเข้าเมืองมาส่งสินสอดให้ ความยิ่งใหญ่เกรียงไกรตลอดทางมานี้ก็ให้เกียรติตระกูลหลินมากพอแล้ว
รายการสินสอดทั้งหมดแบ่งเป็นสามส่วน ฝ่ายชายหนึ่งส่วน ฝ่ายหญิงหนึ่งส่วน และครอบครัวฝ่ายหญิงอีกหนึ่งส่วน ยามนี้ผู้เฒ่าเกิ่งถือหนึ่งส่วนในนั้นไว้พลางอ่านสินสอดในรายการ มีทหารอารักขายกกล่องมาวางเบื้องหน้าทุกคน เปิดให้พวกคนตระกูลหลินดู จากนั้นค่อยปิดลง และยกส่วนของครอบครัวฝ่ายหญิงไปวางไว้ในคลัง
………………………………………………….
ตอนที่ 590 เป็นไปไม่ได้
ทุกคนฟังผู้เฒ่าเกิ่งอ่านชื่อสมบัติล้ำค่า ก็เห็นทหารอารักขาพวกนั้นที่มาส่งสินสอดยกกล่องมาเปิดออก เพชรนิลจินดามากมายทอแสงวาววับ แวววาวเสียจนพวกเขาเห็นแล้วแอบอุทานในใจ
ไข่มุกทะเลใต้เอย คทาทองคทาหยกต่างๆ เอย กล่องทุกใบถูกเปิดออกเบื้องหน้าพวกเขาอย่างเต็มตา แม้จะเตรียมใจมาแต่แรก พวกเขาก็ยังคงตั้งตารออย่างตื่นเต้นไปตามการตรวจนับของผู้เฒ่าเกิ่ง
ทรัพย์สินล้ำค่า ผ้าไหมผ้าแพร สมบัติเก่าแก่ และสมุนไพรเลอค่าทั้งร้อยกล่อง หลังจากประทับตราก็ยกเข้าคลังตระกูลหลินไปทีละกล่องๆ จนกระทั่งถึงกล่องที่เหลือใบสุดท้าย กลับเห็นว่าเสียงผู้เฒ่าเกิ่งคนนั้นชะงัก มองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง ก่อนจะกระแอมไอภายใต้การส่งสัญญาณจากนาง
“กล่องใบสุดท้าย ยาล้ำค่าหนึ่งร้อยขวด!”
ได้ยินคำพูดนี้ ผู้คนตระกูลหลินต่างนิ่งไปสักพัก ทุกคนมองหน้ากัน หมายความว่าอย่างไร? ยาล้ำค่าหนึ่งร้อยกล่อง? ของปลอมหรือเปล่า ราชวงศ์เฟิ่งหวงแค่ปกครองแคว้นเล็กระดับเก้า แล้วไปได้ยาล้ำค่าร้อยขวดมาจากไหน? น่าจะเป็นยาทั่วๆ ไป จากนั้นคงอายที่จะพูดจึงบอกว่าเป็นยาล้ำค่ากระมัง?
ทุกคนมีสีหน้าท่าทีแปลกใจ ใครๆ ก็ไม่คิดว่าคำพูดนี้เป็นจริง ถึงอย่างไรยาล้ำค่าร้อยขวด เรื่องเช่นนั้นมันเหลือเชื่อเกินไป ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่
จนกระทั่งกล่องใบสุดท้ายนั้นถูกยกเข้ามาและเปิดกล่องออก ยาที่วางไว้ห้าสิบขวดทั้งหมดสองชั้นจึงปรากฏอยู่เบื้องหน้าทุกคน ถึงเวลานี้เมื่อเห็นยาทั้งร้อยขวดนั้น สีหน้าพวกเขายังคงแปลกพิกล
เฟิ่งจิ่วเห็นท่าทีพวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงเผยรอยยิ้มลึกซึ้งออกมา ไม่มีคำอธิบายใดๆ ให้มาก แค่เงียบมองกล่องใบนั้นถูกปิดลง ตีตราประทับ และถูกยกเข้าคลังไป
มีเพียงหลินเฉิงจื้อที่สังเกตเห็นรอยยิ้มลึกซึ้งตรงริมฝีปากนาง เขาไม่ปริปากแค่แอบคิดในใจ
หลังจากส่งมอบเรียบร้อย คนตระกูลหลินก็จัดเลี้ยงต้อนรับพวกเขา ระหว่างงานเลี้ยงซู่ซีโผล่มารับรองทุกคน และจัดเตรียมสถานที่พักผ่อนให้พวกเขา หลังจากงานเลี้ยง เฟิ่งจิ่วมาที่เรือนของซู่ซี คุยกับนางสักพักเพื่อบอกเรื่องที่ตอนนี้ผู้เฒ่าเฟิ่งกำลังฝึกบำเพ็ญ
“หากไม่ใช่เพราะกำลังฝึกบำเพ็ญ ท่านปู่คงมาด้วยตัวเองแล้ว เขาให้ข้ามาบอก ขอให้ท่านน้าซู่ซีอย่าได้ถือโทษเขา” เฟิ่งจิ่วมองหญิงผู้อ่อนโยนเบื้องหน้าคนนี้ ในดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ซู่ซีสีหน้าเบิกบาน ขานรับว่า “อืม ข้ารู้แล้ว หลังเจ้ากลับไปให้เขาระวังสุขภาพด้วย อย่าหักโหมนัก”
เฟิ่งจิ่วยิ้มรับ แล้วยื่นรายการสินสอดให้นาง “แผ่นนี้ให้ท่านน้าซู่ซี เก็บไว้ดีๆ นะเจ้าคะ”
“ได้” นางรับมาเก็บไว้ บอกว่า “เจ้าเดินทางมาคงเหนื่อยแล้ว กลับไปพักผ่อนแต่หัวค่ำเถอะ! พรุ่งนี้ข้าจะเข้าไปทานอาหารเช้าด้วยกันกับเจ้า”
“เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าจะกลับไปก่อน” เธอยิ้มรับ จากนั้นหมุนตัวจากไป
ส่วนภายในเรือนอีกด้านหนึ่ง เมื่อหลินเฉิงจื้อนึกถึงรอยยิ้มที่เฟิ่งจิ่วเผยออกมาตอนส่งมอบสินสอดวันนี้ ในใจเขาสงสัยอยู่ตลอด ยาร้อยขวดนั้นจะเป็นแค่ยาทั่วไปจริงหรือ? หากเป็นยาธรรมดาพวกเขาคงไม่ส่งมาเป็นสินสอด แต่หากเป็นยาล้ำค่าจริงก็เป็นไปไม่ค่อยได้เท่าไร!
ถึงอย่างไรยาล้ำค่าก็เป็นของหายาก ทุกขวดล้วนมีราคาที่เงินไม่อาจซื้อได้ แค่เดี๋ยวเดียวพวกเขาจะหามาร้อยขวดได้อย่างไร?
“อืม เหมือนจะเป็นไปไม่ได้เท่าไร” เขาพึมพำ เสียงเบาเสียจนมีเพียงตนเองที่ได้ยิน
ฮูหยินใหญ่เห็นสามีนางเดินไปเดินมาอยู่ตรงนั้นตลอด ไม่รู้กำลังคิดอะไร บ้างขมวดคิ้วบ้างพูดกับตัวเองเป็นครั้งคราว จึงเอ่ยถามยิ้มๆ อย่างอดไม่ได้ “ท่านเป็นอะไรมาทั้งคืน? ท่านเดินวนไปมาไม่เวียนหัว แต่ข้ามองจนเวียนหัวไปหมดแล้ว”
………………………………………………….