ตอนที่ 587 รู้กันทั่วเมือง + ตอนที่ 588 ชื่อเสียงเกรียงไกร

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า

ตอนที่ 587 รู้กันทั่วเมือง

ซู่ซีมองพวกเขาสองคน กล่าวว่า “ไม่ละ ประเดี๋ยวข้ายังต้องปักปลอกหมอนลายเป็ดยวนยางอีก!” ชุดแต่งงานนางเป็นของที่มารดาทิ้งไว้ให้ เดิมนึกว่าคงไม่ได้ใช้ แต่เก็บมาหลายปีเพียงนี้ ในที่สุดก็ได้เอาออกมาใช้แล้ว

ชุดแต่งงานไม่ต้องปัก นางจึงปักปลอกหมอนลายเป็ดยวนยางไว้คู่หนึ่ง แต่ครั้งนี้เป็นเจ้าสาวรองานแต่งก็วุ่นวายไปหมด ไม่รู้ว่าควรทำอะไรบ้าง ประกอบกับคนที่อยากเจอไม่อยู่ข้างกาย จึงเกียจคร้านทั้งวัน ไม่มีอารมณ์ทำอะไรเลย

ทั้งสองได้ยินคำพูดนางก็ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา พร้อมหัวเราะออกมา ปลอกหมอนเป็ดยวนยางปักตั้งแต่ซานหยวนจากไปจนถึงตอนนี้ยังไม่เรียบร้อย ความเร็วนี้จริงๆ แล้วถือว่าช้าเลยทีเดียว โชคดีที่นางไม่ต้องปักชุดแต่งงาน มิเช่นนั้นต้องปักไปถึงเมื่อไรไม่รู้

พ่อลูกสองคนนั่งเป็นเพื่อนนางในลานบ้านสักพัก คุยเล่นกันไป ผ่านไปพักหนึ่งเมื่อสองคนคิดจะกลับ ก็เห็นพ่อบ้านร้อนรนวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“มะ มาแล้ว! ท่านผู้นำตระกูล มะ มาแล้วขอรับ!”

“อะไรมารึ?” หลินป๋อเหิงถามพลางเหลือบมองเขา

แม้แต่หลินเฉิงจื้อกับซู่ซียังมองตามไป สายตาหยุดลงบนร่างพ่อบ้านที่มีสีหน้าตื่นเต้นดีใจ

“สินสอดส่งมาแล้วขอรับ!” พ่อบ้านกล่าวด้วยสีหน้าดีอกดีใจ

“อะไรนะ สินสอดส่งมาแล้ว?” หลินป๋อเหิงกับหลินเฉิงจื้อมองหน้ากัน นี่จะเร็วเกินไปกระมัง? เพิ่งกลับไปไม่ถึงสิบวันก็ส่งสินสอดมาไวถึงเพียงนี้เชียว?

ส่วนซู่ซีก็ลุกยืนขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ ถามว่า “จริงหรือ ซานหยวนล่ะ? เขามาส่งสินสอดด้วยหรือไม่?”

“ยังไม่เห็นขอรับ รู้แค่ว่าขบวนใหญ่มาก เรือเหาะลำหรูหรานั้นบินตรงเข้าเมืองซานเจียง กำลังมุ่งมายังจวนตระกูลหลินเรา บนตัวเรือติดอักษรมงคลคู่ตัวใหญ่ไว้ ทำให้ทุกคนในเมืองพูดคุยกันด้วยความตกใจ และตามหลังเรือเหาะมามุงดูเรื่องคึกคักทางตระกูลหลินเราขอรับ”

ได้ยินคำพูดเช่นนี้พ่อลูกสองคนก็ตาค้าง รีบเอ่ยว่า “เร็ว รีบตามข้าออกไปดูหน่อย” หลินป๋อเหิงพูดจบ ยังสั่งซู่ซีอีกว่า “เจ้าอยู่ในเรือนอย่าออกไป หญิงรองานแต่งจะโผล่หน้าออกไปไม่ได้ ประเดี๋ยวหากซานหยวนมา พี่ใหญ่จะส่งคนมาบอกเจ้าเอง”

ซู่ซียินดีอยู่ในใจ รู้ว่าธรรมเนียมเป็นเช่นนี้จึงพยักหน้า กล่าวเตือนด้วยสีหน้าแดงก่ำดูเหนียมอาย “ข้ารู้แล้ว พี่ใหญ่ พวกท่านรีบไปดูเถอะ”

“ฮ่าๆๆ พี่ใหญ่รู้แล้ว เฉิงจื้อ ไปกันเถอะ!” หลินป๋อเหิงมองตาลูกชาย จากนั้นก้าวยาวเดินออกไป

ยามนี้ทุกคนในจวนตระกูลหลินต่างรู้ข่าว จึงพากันเร่งเดินออกมา เมื่อพวกเขามาถึงประตูใหญ่ก็เห็นเรือเหาะที่ติดอักษรมงคลคู่ตัวใหญ่บินมาทางนี้ ความเร็วของเรือเหาะชี้อีกทั้งบินต่ำมาก เสียงดอกไม้ไฟแต่ละเสียงลอยมาจากบนเรือเหาะ เสียงตู้มดังขึ้นกลางอากาศ ดอกไม้ระย้าหลากสีสันกระจายออกมา ปลิวร่วงลงจากเวหา ช่างงดงามยิ่งนัก

นอกจากดอกไม้ไฟ หลังจากเข้ามาในเมืองยังมีลูกกวาดมงคลโปรยลงมาตลอดทาง ยิ่งทำให้ชาวบ้านในเมืองกู่ร้องแซ่ซ้องไม่สิ้นสุด

ทั้งเมืองซานเจียงคึกคักขึ้นมา เสียงกู่ร้องดังไม่ขาดสาย พวกกลุ่มอำนาจกับตระกูลพากันออกมาชมด้วยความแปลกใจอย่างยิ่ง ต้องรู้ไว้ว่า ปกติแล้วเรือเหาะเข้ามาในเมืองไม่ได้ แต่เรือเหาะลำนี้กลับบินตรงเข้ามา เห็นได้ว่าผู้ครอบครองเรือเหาะมีภูมิหลังไม่ธรรมดา

ได้ยินเสียงแซ่ซ้องในเมืองดังไม่ขาดสาย รวมถึงฝูงชนซึ่งรวมตัวมามุงดูเรื่องครึกครื้นที่จวนตระกูลหลิน ขณะที่ทุกคนในตระกูลหลินต่างแปลกใจกันมาก ก็ปีติยินดียิ่งเช่นกัน ขบวนและการเคลื่อนไหวเช่นนี้ ทั่วเมืองรู้กันหมดแล้วว่าตระกูลหลินจะตบแต่งสามีให้สตรี ช่างวิเศษเสียจริงๆ! อีกทั้งยังให้เกียรติพวกเขามากพอด้วย

………………………………………………….

ตอนที่ 588 ชื่อเสียงเกรียงไกร

ดอกไม้ไฟและลูกกวาดมงคลหลากสีโปรยปรายอยู่เหนือประตูใหญ่ตระกูลหลิน เมื่อเรือเหาะกลางอากาศค่อยๆ ลดต่ำลงมาที่พื้น บริเวณโดยรอบก็เต็มไปด้วยคนที่มามุงดูเรื่องคึกคัก

คนตระกูลหลินล้อมอยู่หน้าประตู มองภาพรื่นเริงตรงหน้านี้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ในใจตื่นเต้นอย่างยิ่ง การส่งสินสอดที่มีรูปแบบแตกต่างและการเคลื่อนไหวที่สนั่นหวั่นไหวทั่วเมืองเช่นนี้ คนที่ไม่รู้ยังนึกว่าตระกูลหลินของพวกเขาจะตบแต่งหญิงสาวกันวันนี้เลย!

อันที่จริง วันนี้แค่ส่งสินสอดเท่านั้นเอง

ในเวลานี้เอง ผู้คนรอบๆ ประหลาดใจครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะพากันพูดคุย บนเรือเหาะมีหนุ่มน้อยรูปงามที่สวมชุดคลุมสีแดงเดินออกมา หนุ่มน้อยรูปโฉมโดดเด่น หล่อเหลาเป็นที่หนึ่ง กลางหว่างคิ้วมีกลิ่นอายซุกซนเปิดเผยกระจายออกมา เมื่อปรากฏตัวก็ดึงดูดเสียงอุทานและสายตาตกตะลึงจากผู้คนโดยรอบ

“ดูสิ หนุ่มน้อยคนนั้นหน้าตาโดดเด่นจริงๆ!”

“ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่งดงามนัก!”

“เป็นเด็กหนุ่มบ้านไหนกันแน่ ท่าทางไม่ธรรมดาเลยจริงๆ”

“ไม่รู้ว่าหนุ่มน้อยคนนี้แต่งงานหรือยัง?”

ท่ามกลางเสียงพูดคุยของทุกคน เฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงสาวก้าวเดินลงมาจากเรือเหาะ คล้อยหลังเธอเดินลงมา ผู้เฒ่าเกิ่ง เหลิ่งซวง และพวกหลัวอวี่ทุกคนต่างตามมาด้านหลัง นอกจากชุดสีดำของเหลิ่งซวง ยามนี้บนร่างองครักษ์ทั้งแปดสวมชุดคลุมสีเงินขององครักษ์ตระกูลเฟิ่งเหมือนๆ กัน รูปโฉมหล่อเหลา ทั่วร่างมีกลิ่นอายดุร้ายกระจายอยู่ น่าสะพรึงราวกับกระบี่คมที่รอออกจากฝัก

ท่ามกลางกลุ่มคนพวกนี้ หนุ่มน้อยชุดแดงที่เดินตรงหน้ายิ่งดูแพรวพราวไม่ธรรมดา นายบ่าวแบ่งแยกกันชัดเจน แค่แวบเดียวทุกคนก็มองออกว่าหนุ่มน้อยรูปหล่อที่อายุยังน้อยเป็นนายของคนพวกนั้น

“ท่านปู่หลิน ข้ามาส่งสินสอดแทนท่านปู่ขอรับ” เฟิ่งจิ่วก้าวไปข้างหน้าพลางประสานมือพูดยิ้มๆ จนกระทั่งมาถึงตรงหน้าพวกเขา

“ฮ่าๆๆ ที่แท้เป็นเสี่ยวจิ่ว!” หลินป๋อเหิงเดิมจะเรียกแม่หนูเฟิ่ง แต่เห็นนางยังคงสวมชุดผู้ชาย ดังนั้นจึงเปลี่ยนมาเรียกเสี่ยวจิ่วแทน ขณะเดียวกันสายตาก็กวาดผ่านบนร่างนาง และมองไปยังผู้เฒ่าเกิ่งข้างๆ

“ท่านนี้เป็นสหายรักของท่านปู่ ท่านผู้เฒ่าตระกูลเกิ่งแห่งเมืองอวิ๋นเยวี่ยเรา ครั้งนี้ได้รับความไว้วางใจจากท่านปู่กับท่านพ่อให้เข้ามาพร้อมกับข้า” เฟิ่งจิ่วยิ้มพลางแนะนำให้ทั้งสองรู้จัก

“ท่านผู้นำตระกูลหลิน ข้านับถือท่านมานาน” ผู้เฒ่าเกิ่งประสานมือยิ้ม สำหรับหลินป๋อเหิง เขาเพิ่งได้ยินแม่หนูเฟิ่งเอ่ยถึงระหว่างทาง จึงชื่นชมในวิธีการจัดการและนิสัยใจคอของคนคนนี้มาก

ได้ยินเช่นนี้ หลินป๋อเหิงก็ยิ้มพลางคารวะกลับ “ที่แท้เป็นสหายรักของซานหยวน เชิญๆๆ เสี่ยวจิ่ว สหายเกิ่ง เชิญด้านในเถอะ” เขาทำมือเชื้อเชิญให้พวกเขาเข้าไปด้านใน

เฟิ่งจิ่วยิ้มเล็กน้อย สาวก้าวเดินไปด้านในพร้อมกับผู้เฒ่าเกิ่ง เหลิ่งซวงตามหลังไปติดๆ ส่วนองครักษ์ทั้งแปดอยู่สั่งไพร่พลที่ตามมาให้ยกสินสอดลงมาทีละกล่องๆ จากนั้นขนย้ายไปในจวนตระกูลหลิน

ทุกคนที่มุงดูเห็นสินสอดแต่ละกล่องถูกยกไปยังจวนตระกูลหลิน แต่ละคนต่างตะลึงไม่สิ้นสุด

“นี่แค่ส่งสินสอดหรือ? ข้านึกว่าเข้ามาสู่ขอเสียอีก! ขบวนส่งสินสอดนี้จะใหญ่เกินไปแล้วกระมัง?”

“เจ้าจะรู้อะไร? ว่ากันว่าคนตระกูลหลินที่แต่งงานคือหญิงนามว่าซู่ซีท่านนั้น เป็นน้องสาวแท้ๆ ของผู้นำตระกูลหลิน คนที่แต่งกับนางคือจักรพรรดิหลวงราชวงศ์เฟิ่งหวง เล่ากันว่าราชวงศ์เฟิ่งหวงนี่เป็นราชวงศ์ที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ หนำซ้ำจักรพรรดิหลวงกับผู้นำตระกูลหลินยังเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันด้วย”

“แล้วหนุ่มน้อยชุดแดงนั่นเป็นใคร? หรือเป็นองค์ชายจากราชวงศ์เฟิ่งหวง?”

“นี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่ากันว่าผู้ครองแคว้นราชวงศ์เฟิ่งหวงมีบุตรสาวแค่คนเดียว ไม่เคยได้ยินว่ามีบุตรชาย”

………………………………………………….