ตอนที่ 334 : ไข่อสูร ?
ในตอนที่ทุกคนพากันลุ้นอยู่นั้น ไม่นานก็ผ่านไป 30 นาที ตอนนั้นเฉินเหล่าได้เดินขึ้นมาจากหลังเวที เขาเหมือนจะเตรียมการทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เขาตรงเวลาอย่างมาก
“เดาว่าในตอนที่รออยู่นี้ ทุกคนต่างคงพากันตื่นเต้นอย่างมากแน่ ๆ ฉันเองก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย ตอนนี้เรามาเริ่มประมูลของชิ้นสุดท้ายกันเถอะ”
เมื่อได้ยินที่เฉินเหล่าพูดมา ทุกคนต่างก็พากันเงียบทันที
ทุกคนคาดหวังว่าจะมีอะไรโผล่ขึ้นมาบนเวที คนในชั้นหนึ่ง ชั้นสองแลชั้นสามต่างก็พากันมองไปที่เวที
พวกเขารู้ว่าของที่จะปรากฏขึ้นมานี้คือสินค้าชิ้นสุดท้ายในวันนี้
ภายใต้สายตาของทุกคนก็มีชายสองคนได้ทำการเข็นกล่องขนาดใหญ่ที่ประดิษฐ์เป็นน้ำตกจำลองขึ้นมาบนเวที ในกล่องนั้นมีไข่วางไว้อยู่
แม้ว่าไข่นี่จะใหญ่ แต่มันดูธรรมดาไม่ได้มีอะไรพิเศษ ความพิเศษอย่างเดียวของมันก็แค่เป็นสีขาวสะอาด นอกนั้นไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลย
มันไม่ได้มีคลื่นพลังกระจายออกมา มันไม่ได้มีพลังชีวิต แน่นอนว่านั่นคือสิ่งที่คนในชั้นหนึ่งเห็น
แต่ในสายตาของคนในชั้นสองและชั้นสามนั้น พวกเขารับรู้ได้ถึงพลังชีวิตของมันแต่พวกเขาก็ไม่อาจจะเห็นได้ว่าไข่นี่มีอะไรดี
ไข่อสูรที่ถูกใช้เป็นสินค้าชิ้นสุดท้ายสำหรับหอสมบัติสวรรค์นั้นจะต้องไม่ธรรมดาแน่ แค่ว่าพวกเขาไม่รู้ว่ามันคือไข่ของอะไร
พวกเขาไม่อาจจะเห็นได้จริง ๆ ว่าไข่นี่มีอะไรโดดเด่น
ดังนั้นผ่านไปสักพักจึงเกิดเสียงพึมพำดังขึ้นมา
“ไข่อสูรที่ถูกใช้เป็นสินค้าชิ้นสุดท้าย ทำไมมันถึงได้ดูธรรมดาแบบนี้ได้ หอสมบัติสวรรค์คงไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดหรอกนะ”
“ด้วยชื่อเสียงของหอสมบัติสวรรค์แล้ว พวกเขาคงไม่ทำเรื่องน่าผิดหวังแบบนี้ ในความเห็นของฉันแล้ว ไข่ที่ดูธรรมดานี่จะต้องพิเศษอย่างแน่นอน บางทีมันอาจจะเป็นไข่ของสัตว์ขั้นเทพก็ได้ ? ”
“สัตว์อสูรระดับเทพงั้นหรือ นายคิดมากเกินไป มันยังไม่ได้รับการยืนยันว่ามีสัตว์อสูรระดับนั้นอยู่ไม่ใช่หรือไง แล้วจะเอาไข่ของมันมาจากไหน”
“ใช่ นายคิดมากเกินไปแต่นี่เป็นถึงหอสมบัติสวรรค์ มันอาจจะเป็นจริงก็ได้”
“จะเป็นไข่ของอะไรฉันไม่รู้หรอกนะแต่ทำไมฉันไม่รู้สึกถึงพลังชีวิตของมันเลย ถ้าฟักออกมามันจะได้อสูรจริง ๆ หรือ ? ”
“ใช่ ฉันเองก็ไม่รู้สึกถึงพลังชีวิตจากมันเลย รึว่าเราแข็งแกร่งไม่พอ”
“รึว่าหอสมบัติสวรรค์อยากหลอกทุกคน ? ฉันไม่เชื่อว่าไข่นี่จะหายากยิ่งกว่าเกราะของท่านหลู่”
“ฉันเห็นด้วย หวังว่าหอสมบัติสวรรค์จะมีคำอธิบายที่มีเหตุผลนะ”
“เฉินเหล่ารีบอธิบายมาได้แล้วว่าไข่นี่มันอะไรกัน ? ”
…
เฉินเหล่าที่อยู่บนเวทีรับรู้ได้ว่าทุกคนเริ่มไม่พอใจขึ้นมา แต่เขาก็ไม่ได้ลนลาน เขาได้พูดขึ้นมา “นี่คือไข่ที่หอสมบัติสวรรค์พยายามค้นคว้ามานาน ระดับของมันไม่อาจจะรู้ได้และไม่รู้ว่ามันเป็นสัตว์อสูรแบบไหน”
เมื่อได้ยินที่เฉินเหล่าพูดมา ทุกคนก็พากันเครียดขึ้นไปอีก แม้แต่คนที่ชั้นสองก็พากันขมวดคิ้ว
มีแค่คนบนชั้นสามที่เผยสีหน้าครุ่นคิดออกมา พวกเขารู้ว่าเมื่อหอสมบัติสวรรค์ใช้มันเป็นสินค้าชิ้นสุดท้ายแล้ว มันก็ต้องมีความลับอะไรอยู่แน่
พวกเขาไม่ได้พูดอะไรออกมาและรอฟังคำอธิบายของเฉินเหล่าต่อ
เฉินเหล่าไม่ได้ใส่ใจกับท่าทีของทุกคนและเปิดปากพูดขึ้นมา “มาเริ่มจากต้นกำเนิดของไข่นี่และเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อเดือนก่อนผู้ตรวจสอบคนหนึ่งของกลุ่มเราได้เข้าไปในมิติลับที่ยังไม่ได้รับการสำรวจ เขาโชคดีที่เข้าไปในส่วนลึกสุดของมิติลับได้ ที่นั่นเหมือนกับลานกว้าง ภาพตรงหน้านั้นมันมหัศจรรย์อย่างมาก เขาได้เสี่ยงบันทึกภาพตรงหน้านั้นไว้ ตอนนี้ทุกคนมองดูฉากนั้นที่จอภาพได้ ”
เมื่อพูดจบ เฉินเหล่าก็เดินหลบไปข้าง ๆ ก่อนที่เวทีจะมืดลงแล้วมีจอขนาดใหญ่ฉายภาพขึ้นมาที่เวที
แม้หลายคนจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงพวกเขาจะหงุดหงิดแต่ก็พากันมองไปที่หน้าจออยู่ดี
“เราต้องตรวจสอบเรื่องนี้”
คนบนชั้นสองและสามพากันมองไปที่จอ พวกเขามีลางสังหรณ์ว่าฉากที่บันทึกมานั้นคือความลับที่พวกเขาไม่รู้มาก่อน
ภายใต้สายตาของทุกคน จอก็เปล่งแสงออกมา ภาพนั้นพร่ามัวเล็กน้อยแต่ก็ยังพอมองเห็นได้คร่าว ๆ
สิ่งแรกที่ปรากฏขึ้นมาในภาพนั้นคือยอดเขาสูง ด้านล่างนั้นมีแท่นลึกลับตั้งอยู่
แท่งแห่งนั้นมีตัวหนังสือลึกลับสลักเอาไว้ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือที่แท่นมีไข่ใบนี้ ที่วางอยู่บนเวทีวางไว้อยู่
ไข่นั้นตั้งอยู่บนแท่นไม่ต่างจากไข่ทั่วไป แต่เมื่ออยู่บนแท่นนั้นแล้ว มันก็ทำให้ไข่นี่โดดเด่นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุด เพราะส่วนที่น่าแปลกใจที่สุดคือรอบ ๆ แท่นวางไข่นั้นมีสัตว์อสูรที่น่ากลัวอยู่
แม้ว่าจะมองเห็นแค่ภาพแต่ทุกคนก็ยังรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของสัตว์อสูรเหล่านั้นได้
สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นคือเหล่าสัตว์อสูรพากันคุกเข่าให้กับแท่นหินนั้น
ถูกแล้ว พวกนั้นคุกเข่าให้ !
และมันจะน่าตกใจแค่ไหน !
เมื่อในส่วนที่ใกล้แท่นที่สุดมีสัตว์อสูรที่น่ากลัว 3 ตัวอยู่
แม้ว่าจะเห็นแค่ด้านหลังของมันผ่านจอภาพ แต่ก็ทำให้ทุกคนตกใจกลัวได้
พวกเขาถึงกับขนลุกขึ้นมา…