ตอนที่ 333 : สินค้าชิ้นสุดท้าย

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统)

ตอนที่ 333 : สินค้าชิ้นสุดท้าย

ถึงจะเป็นแบบนั้น จางจื้อเฉียงก็ไม่อยากหักหน้าไป๋พั่วหล้าง เขาได้แต่ตัดสินใจว่าต่อไปจะต้องเอาคืนทั้งสามคนให้ได้ ไม่งั้นแล้วเขาก็ต้องแค้นใจแบบนี้ไปเรื่อย ๆ

เมื่อเห็นว่าไวน์เหลือแค่ครึ่งขวด จางจื้อเฉียงก็ปวดใจยิ่งกว่าเดิม

นี่คือของที่เขาเก็บมานาน แต่ตอนนี้เหลือไม่ถึงครึ่ง มันทำให้เขารู้สึกหดหู่อย่างมาก

ไม่ใช่แค่ไวน์ที่หายไปครึ่งขวด แต่เป็นเพราะท่าทีของทั้งสามคนที่ดูพึงพอใจนั้นมันช่างน่าหงุดหงิด

แค่ได้กลิ่นก็ยังอดใจยากแล้ว จางจื้อเฉียงได้แต่กลืนน้ำลาย เขาคิดว่าเขาจะดื่มมันด้วยดีรึไม่ ?

เมื่อเห็นท่าทีของทั้งสามและกลิ่นไวน์ที่ลอยคลุ้งไปทั่วห้อง จางจื้อเฉียงก็เกือบอดใจไม่ไหว

ยังไงซะเขาก็ไม่ได้ดื่มไวน์นี่มานานแล้ว

“แค่คำเดียว แค่จิบเดียว” สุดท้ายจางจื้อเฉียงก็อดใจไม่ไหว เขาเอาแก้วออกมา ตอนที่กำลังจะเทไวน์ใส่แก้วนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

มันทำให้จางจื้อเฉียงหยุดชะงักไป สำหรับอีกสามคนที่เหลือนั้นพวกเขายังพอใจกับไวน์ในมือ ไม่ได้หันกลับไปสนใจที่ประตูแม้แต่น้อย

เพราะตอนนี้ในสายตาของพวกเขามีแต่ไวน์เท่านั้น

จางจื้อเฉียงเก็บแก้วและไวน์ ก่อนจะเดินไปเปิดประตู

เมื่อเดินมาถึงประตูเขาก็รู้ว่ามีใครมาหา แม้ว่าเขาจะไม่อยากเปิดประตูแต่ก็ไม่อาจจะทำได้

ที่ด้านนอกมีชายวัยกลางคนยืนอยู่ เขาคือฟางฉิงหัวเจ้าเมืองของเมืองหัวเซี่ย

ตอนที่จางจื้อเฉียงเปิดประตูออกนั้น ฟางฉิงหัวก็ได้กลิ่นหอมของไวน์ เขาแสดงสีหน้ายินดีออกมาทันที

ยังไงซะในฐานะเจ้าเมืองแล้ว เขาก็เคยกินไวน์นี่มาก่อน เขาคิดถึงรสชาติของมันอย่างมาก

“อะแฮ่ม” จางจื้อเฉียงอดไม่ได้ที่จะกระแอมออกมาเพื่อเรียกสติอีกฝ่าย

“ฉันลืมตัวไป ขอโทษที” ฟางฉิงหัวได้สติกลับมาและยิ้มออกมาอย่างกระอักกระอ่วน

“ไม่รู้ว่าเจ้าเมืองมีธุระอะไรถึงได้มาที่นี่” จางจื้อเฉียงมองไปที่ฟางฉิงหัวแล้วเปิดปากถามขึ้นมา

พวกเขากับฟางฉิงหัวนั้นสนิทกัน พวกเขารู้ว่าฟางฉิงหัวเป็นคนยังไง

“หือ ? ” ฟางฉิงหัวไม่ได้แสดงท่าทีของเจ้าเมืองออกมาแม้แต่น้อย

หากคนอื่น ๆ เห็นแบบนี้คงพากันหัวเราะออกมาแน่

“เข้ามาก่อนสิ ดูเหมือนว่าวันนี้ฉันคงหลบหน้านายไม่ได้” จางจื้อเฉียงถอนหายใจออกมาราวกับยอมรับโชคชะตาทุกอย่าง

ฟางฉิงหัวรีบเข้าไปในห้องทันที เขาไม่ได้เกรงใจอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

“ไวน์ศักดิ์สิทธิ์ที่รักของฉัน ” จางจื้อเฉียงแทบอยากจะร้องไห้ออกมาก่อนจะปิดประตูแล้วเดินกลับเข้ามาในห้อง

ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อหลังจากนั้น ไม่นานฟางฉิงหัว, เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ก็ออกมาจากห้องก่อนจะกลับไปยังห้องของตัวเอง

หากคนอื่นมาเห็นเข้าอาจจะคิดว่าพวกนี้คงคิดวางแผนกันอยู่

ขนาดฟางอี้เองก็คิดแบบนั้น

“พ่อไปไหนมา ช่วงนี้ดูมีพิรุธนะ” ตอนที่ฟางฉิงหัวกลับมาที่ห้อง ฟางอี้ก็ถามขึ้นมา

“แกไม่ต้องยุ่งสักเรื่องจะได้ไหม” ฟางฉิงหัวไม่ได้สนใจที่ฟางอี้ เขานอนลงบนโซฟาก่อนจะหลับตาลงเพื่อลิ้มรสไวน์ที่หลงเหลือในปาก

“การประมูลเริ่มเมื่อไหร่เรียกพ่อด้วย” หลังจากที่พูดจบ ฟางฉิงหัวก็ไม่ได้พูดอะไรกับฟางอี้ต่อ

“เรียกกะผีสิ” ฟางอี้พูดจบก็เดินไปที่หน้าต่างและมองไปที่เวทีด้านล่างก่อนจะมองไปที่ชั้นสอง

“การประมูลจะจบแล้วหรือ ? ”

“นายจะกลับบ้านตอนไหน ? ”

จ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมยได้ส่งข้อความหาหวังเย่า

หลังจากที่ตอบกลับทั้งสองคนแล้ว หวังเย่าก็ลองตรวจสอบเว็บของหอสมบัติสวรรค์ดู

คนส่วนมากยังคงถกเถียงกันอยู่ว่าสินค้าชิ้นสุดท้ายในวันนี้จะเป็นอะไร

ยังไงซะเกราะระดับ SSS ที่ท่านหลู่สร้างขึ้นมาก็เป็นของรองชิ้นสุดท้าย งั้นของชิ้นสุดท้ายก็ต้องทำให้คนตื่นเต้นได้แน่

“ของรองสุดท้ายก็เป็นเกราะระดับ SSS ดังนั้นของชิ้นสุดท้ายก็ต้องมีค่าเท่ากันรึมากกว่า”

“มันอาจจะเป็นเกราะระดับ SSS ที่ท่านหลู่สร้างขึ้นมาอีกชิ้นก็ได้ ? ”

“ใช่ ฉันคิดว่าเกราะนั่นน่ะทำให้ฉันรู้สึกว่ามันอยู่ระดับสูงสุดในหมู่ของที่นำมาประมูลแล้วล่ะ”

“มันไม่น่าจะมีอะไรเหนือกว่านั้นได้”

“การประมูลจะเป็นยังไงต่อ ฉันล่ะตื่นเต้นจริง ๆ ”

“ใช่ ฉันเห็นด้วย ของชิ้นสุดท้ายต้องเป็นของดีแน่ ๆ ”

“เมื่อหอสมบัติสวรรค์หาเกราะระดับ SSS ได้ งั้นเดาว่าของชิ้นสุดท้ายก็ต้องไม่ด้อยกว่ากันแน่”

“มารอดูกันเถอะ”

“มันจะเริ่มในอีกไม่กี่นาที ฉันถึงกับใจสั่นเลย”

“น้องชาย นายไม่ใช่คนเดียวหรอก ฉันเองก็เป็นเหมือนกัน”

ข้อความในเว็บนั้นมาจากคนที่อยู่ชั้นหนึ่ง

พวกเขาต่างก็รอคอยว่าของชิ้นสุดท้ายในการประมูลวันนี้จะเป็นอะไร ?

คนบนชั้นสองเองก็พากันเดาว่าของชิ้นสุดท้ายจะเป็นอะไร

เพราะหอสมบัติสวรรค์นั้นปกปิดข้อมูลเอาไว้เป็นอย่างดี

แม้แต่กองกำลังหลักของเมืองและสำนักภายนอกก็ไม่รู้เรื่องนี้ พวกเขาไม่ได้ข้อมูลมันมาแม้แต่น้อย นี่พอจะเห็นได้ว่าหอสมบัติสวรรค์ปิดความลับเก่งแค่ไหน

บางทีมันอาจจะเป็นของหายากที่ทำให้หอสมบัติสวรรค์ต้องปิดบังข้อมูลนี้เอาไว้