ตอนที่ 332 : ข้ออ้างของไป๋พั่วหล้าง

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统)

ตอนที่ 332 : ข้ออ้างของไป๋พั่วหล้าง

“ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าจะกลับคำพูด แต่มันจำเป็นต้องเร่งรีบขนาดนี้เลยหรือ ? ” เมื่อเห็นท่าทีของเฉี่ยนเจินเฉียนและฮวงเทียนเจวี๋ยน จางจื้อเฉียงก็ถอนหายใจออกมา “ก็ได้ ฉันจะเอาให้พวกนายตอนนี้เลยก็ได้”

เมื่อได้ยินแบบนั้น เฉี่ยนเจินเฉียนและฮวงเทียนเจวี๋ยนก็แสดงสีหน้าพอใจออกมา แต่ปากก็ยังบ่นไม่หยุด “รีบเทมาได้แล้ว อย่าคิดที่จะเบี้ยว”

“นี่พวกนายกังวลขนาดนั้นเลยรึไง ? ” จางจื้อเฉียงถอนหายใจออกมาก่อนจะเอาขวดไวน์ออกมาจากกระเป๋ามิติ

“เมื่อเราตกลงกันแล้ว นายก็ไม่ต้องบ่น เรายกเกราะนั่นให้กับนายแล้วไม่ใช่รึไง ? ตอนนี้ฉันอยากได้ไวน์สักแก้ว” เฉี่ยนเจินเฉียนมองไปที่ขวดในมือของจางจื้อเฉียงด้วยตาที่เป็นประกายแต่ปากก็ยังบ่นออกมา

“เราไม่ได้บังคับอะไรนายสักหน่อย อย่ามัวไร้สาระ รีบเทให้ฉัน 1 แก้ว” ฮวงเทียนเจวี๋ยนจ้องไปที่ขวดในมือของจางจื้อเฉียง เหมือนพร้อมจะปล้นมันมาอย่างไรอย่างนั้น

ไป๋พั่วหล้างได้แต่เงียบไม่กล้าพูดอะไร

ตัดสินจากคำพูดของพวกนี้แล้ว ไวน์ขั้นศักดิ์สิทธิ์ที่พวกนี้พูดถึงคือของที่หาได้ยาก เลยทำให้พวกนี้แสดงท่าทีแบบนี้ออกมา

“พวกนายไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้ ผู้ตรวจสอบถึงกับแห่มาที่นี่เพราะไวน์ นี่พวกนายไม่รู้รึไงว่าภาพลักษณ์ของเราก็สำคัญเหมือนกัน” แต่แม้ว่าจะพูดแบบนั้นแต่จางจื้อเฉียงก็ยังเอาแก้วออกมา 3 ใบ เขาวางมันลงบนโต๊ะก่อนจะเทไวน์ใส่แก้วจนทำให้กลิ่นหอมลอยฟุ้งออกมา

บอกได้ว่าแค่กลิ่นอย่างเดียวก็ทำให้พวกเขาตื่นเต้นจนแทบบ้าได้แล้ว มันยากที่จะคิดว่าเมื่อดื่มไปแล้วมันจะอร่อยแค่ไหน

กลิ่นของมันทำให้ร่างกายพวกเขาสดชื่นขึ้นกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าพร้อมร่างกายที่ร้อนขึ้นมา

นี่ขนาดพวกเขาแข็งแกร่ง หากเป็นคนที่อ่อนแอแล้ว แค่ดมกลิ่นอย่างเดียวก็อาจจะทำให้พวกนั้นสลบไปเลยก็ได้

หากคนอ่อนแอกินเข้าไป งั้นพวกนั้นก็อาจจะเมาไปหลายวัน

นี่ไม่ได้พูดเกินไป นี่คือผลของไวน์ขั้นศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ

มีแค่คนที่แข็งแกร่งเท่านั้น ที่พอรับจะพลังของไวน์นี่ได้

แน่นอนว่าคนทั่วไปคงไม่อาจจะมีไวน์แบบนี้ในครอบครอง นี่คือรางวัลของผู้ตรวจสอบระดับสูง

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไวน์นี่ไม่ใช่แค่ถูกเรียกว่าไวน์ที่ดีที่สุดในโลกเหมือนกับไวน์ภูติที่พลังของมันจะไม่สลายไป ที่สำคัญกว่านั้นมันมีโอกาสสูงที่จะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น

ดังนั้นจึงเห็นได้ว่ามันหาได้ยากแค่ไหน

แม้แต่ผู้ตรวจสอบอย่างพวกเขาแม้ว่าจะใช้เวลาหลายปีแต่ก็มีมันแค่ไม่กี่ขวด

ของที่พวกเขาได้มานั้น พวกเขากินหมดแล้ว มีแค่จางจื้อเฉียงที่เหลือมันอยู่

ของแบบนี้ เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ หมายตาไว้นานแล้วแค่ไม่มีโอกาสจะขอมันจากจางจื้อเฉียง แต่ตอนนี้คือโอกาสที่เหมาะสมที่สุด หากไม่รีบคว้ามันเอาไว้จนให้รอตอนไหนอีก

ยังไงซะพวกเขาก็ไม่ได้ลิ้มรสไวน์นี่มาสักพักแล้ว พวกเขาลืมไปด้วยซ้ำว่ามันรสชาติยังไง

จางจื้อเฉียงยื่นแก้วให้กับเฉี่ยนเจินเฉียนและฮวงเทียนเจวี๋ยน ก่อนที่ทั้งสองจะรีบรับมันไป แต่ทั้งสองคนไม่ได้ดื่มมันทันที แต่กลับดมกลิ่นและเผยสีหน้าพอใจออกมา

“กลิ่นนี่ฉันไม่ได้สุดดมมันมานานแล้ว ในที่สุดฉันก็ได้ดมกลิ่นมันอีกครั้ง” เฉี่ยนเจินเฉียนแทบจะวางจมูกไว้บนแก้วแล้วสูดกลิ่นไวน์เข้าไปเต็มปอด

“ไม่ว่าจะดมกี่ครั้งก็น่าพอใจเหมือนเดิม ” ฮวงเทียนเจวี๋ยนพูดขึ้น เขาเองก็แทบจะเอาจมูกวางบนแก้วแล้วเหมือนกัน

อย่าคิดว่าพวกนี้ทำตัวไร้สาระ นี่คือไวน์ขั้นศักดิ์สิทธิ์ พวกนี้จะใจเย็นกันได้ยังไง

ไวน์ขั้นศักดิ์สิทธิ์นั้นความอร่อยของมันจะคงอยู่ไปอีกนาน

จางจื้อเฉียงไม่สนใจทั้งสองคนและเทไวน์แก้วสุดท้ายครึ่งแก้ว เขาเหมือนนึกบางอย่างออกและหยุดมือไป

“ไม่สิ ฉันรับปากแค่เฉี่ยนเจินเฉียนกับฮวงเทียนเจวี๋ยน ไม่ได้รับปากกับไป๋พั่วหล้าง เขาถอนตัวออกไปตั้งแต่แรก ทำไมฉันต้องเอาไวน์ให้เขาด้วย”

เมื่อคิดได้แบบนั้น จางจื้อเฉียงก็ได้สติกลับมา เขาอยากเทไวน์กลับลงไปในขวด แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีเงาหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วและหยิบแก้วนั่นไป เมื่อมองตามก็พบว่าแก้วนั่นตกอยู่ในมือของไป๋พั่วหล้างแล้ว

ไป๋พั่วหล้างยกแก้วขึ้นดมด้วยสีหน้าพึงพอใจเป็นอย่างมาก

“นายทำอะไร ? ” จางจื้อเฉียงถามขึ้นมา

“ทำไม มันยังไม่ชัดเจนอีกรึไง ฉันจะกินไวน์นี่ไง” ไป๋พั่วหล้างพูดขึ้น

“นายถอนตัวไปตั้งแต่แรกนี่ ฉันไม่ได้ตกลงกับนาย นายเอาไวน์ฉันคืนมา” จางจื้อเฉียงจ้องไปที่ไป๋พั่วหล้างแล้วบ่นออกมา

“ฉันหิวน้ำพอดี ฉันต้องดื่มอะไรสักหน่อย นายอย่างกไปหน่อยเลย เหล่าจาง” ไป๋พั่วหล้างยกแก้วขึ้นดมโดยไม่หันไปมองจางจื้อเฉียงด้วยซ้ำ

“คิดไม่ถึงจริง ๆ ” จางจื้อเฉียงแทบกระอักเลือดออกมา หิวน้ำหรือ ? อย่าคิดว่าเขามองไม่ออก ที่ไป๋พั่วหล้างเข้ามาในห้องก็เพราะอยากได้ไวน์นี่อยู่แล้ว

หน้าไม่อายจริง ๆ ถ้าอยากได้ทำไมไม่พูดดี ๆ ?

ทำไมต้องใช้ข้ออ้างแบบนี้ด้วย ?

แน่นอนว่าภาพลักษณ์ของไป๋พั่วหล้างน่ะไม่สำคัญเท่ากับไวน์ตรงหน้า

ตราบใดที่ได้ดื่มมัน งั้นมันก็คุ้มค่าแม้ว่าภาพลักษณ์จะเสียไป