มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 116
ชายหนุ่มที่แต่งตัวด้วยชุดสูทและรองเท้าหนังได้เปิดประตูและเดินเข้ามา
แต่งตัวดูดี เขาดูมีอายุประมาณยี่สิบเจ็ดหรือยี่สิบแปดปี
ทันทีที่เขาเข้ามา จอร์จและภรรยาของเขาก็ยืนขึ้นทันทีขณะที่แสดงความเคารพ
“ยูวิน ชาร์ลส์ พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง?”
ผู้ชายที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเขาคือเลขาของชาร์ลส์ เซลเลอร์ เขายังเป็นลูกชายของลูกพี่ลูกน้องของภรรยาของจอร์จด้วย
พวกเขาเกี่ยวดองกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โดยที่เขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องห่าง ๆ ของอลิซด้วยเช่นกัน
จอร์จตั้งใจจะขอความช่วยเหลือของยูวินในการสร้างเส้นทางให้เขาเพื่อที่เขาจะได้พึ่งพาความสัมพันธ์ทางธุรกิจของชาร์ลส์ได้ อย่างน้อยที่สุด เขาไม่ต้องการให้บริษัทของเขาต้องล้มละลาย ง่าย ๆ เช่นนั้น
ยูวินส่ายหัวของเขาและยิ้มแห้ง ๆ
“ผมขอโทษนะ คุณลุง ชาร์ลส์มาที่ร้านอาหารนี้เมื่อสักครู่ ดังนั้นผมจึงคิดว่าเขาจะลงมาที่นี่ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาจะยุ่งอยู่กับการให้ความบันเทิงกับแขกคนสำคัญมากคนหนึ่งที่นี่ มันหมายความว่าเขาไม่เต็มใจจริง ๆ ในตอนนี้ ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องรอเขาที่นี่”
“ฉันรู้ว่าชาร์ลส์จะไม่ลงมานี่ แต่ยูวิน อย่างน้อยพวกเราสามารถขึ้นไปชั้นบนและดื่มอวยพรเพื่อแสดงความรู้สึกของเราได้หรือไม่?” จอร์จวิงวอนอย่างเจ็บช้ำน้ำใจ
เจารู้ว่ามันไม่สุภาพมาก
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ทางธุรกิจของชาร์ลส์คือทางเลือกสุดท้ายของเขา และถ้าไม่มีพวกเขา เขาก็ไม่มีทางออกอื่น ๆ แล้วจริง ๆ
การที่ทำให้ครอบครัวที่มีอิทธิพลในเมืองเมย์เบอร์รี่ขุ่นเคืองใจ โดยทั่วไปพวกเขาก็จบเห่กันแล้ว
จอร์จติดแหงกอยู่ในห้วงของตัวเอง
“ใช่ ยูวิน ถ้านายจะช่วย ก็ช่วยครอบครัวเราเถอะ!”
ถึงแม้ว่าอลิซมักจะเป็นคนเย็นชา และเย่อหยิ่งเสมอมา แต่เธอไม่มีทางเลือกนอกจากขอร้องความช่วยเหลือของยูวินในครั้งนี้
ยูวินถอนหายใจ “ในฐานะหลานชายของคุณ คุณลุงและคุณป้าครับ ผมเข้าใจความรู้สึกของพวกคุณเป็นอย่างดี” เขาพูดขึ้น “อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณกำลังขอร้องมันเป็นไปไม่ได้ บางทีผมอาจจะช่วยถ้ามีโอกาสอีกครั้งในอนาคต?”
และนั่นคือสิ่งที่เขาพูด
ถ้าเรื่องนี้ไม่ถูกแก้ไขในวันนี้ ก็จะไม่มีอนาคตใด ๆ อยู่แล้ว
จอร์จตระหนักได้อย่างรวดเร็ว
มันไม่ใช่ว่าชาร์ลส์ยุ่งอยู่ เขาแค่ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือพวกเขา
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม มันคงจะยุ่งยากมากเกินไปเนื่องจากว่านี่คือครอบครัวไรย์ที่พวกเขากำลังพูดถึงอยู่
ดังนั้น ความหวังอันริบหรี่สุดท้ายของพวกเขาก็ถูกทำให้ริดรอนไป
ทุกคนมีสีหน้าถมึงทึงบนใบหน้าของพวกเขา
“ขอบฟ้าไร้ของเขตคือความรักของฉัน ดอกไม้ที่ผลิบานที่เชิงเขา จังหวะอะไรที่แกว่งไกวมากที่สุด? เพลงไหนคือเพลงที่มีความสุขมากที่สุด?”
ตอนนี้นเองเสียงเรียกเข้าของเจอรัลด์ก็ได้เล่นเพลง ‘ชาติพันธุ์ที่เจ๋งที่สุด’
อ๋า!
เขาเปลี่ยนมันเป็นเสียงเรียกเข้าเมื่อไหร่กัน?
นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
ขอบคุณสำหรับทำนองเพลงที่ดังขึ้นอย่างกระทันหัน บรรยากาศในห้องกลายเป็นอึดอัดอย่างมาก
มุมปากของเจอรัลด์กระตุกเล็กน้อย
อลิซ เจสลิน และคนอื่น ๆ ทั้งหมดต่างก็จ้องมาที่เจอรัลด์ด้วยความรังเกียจ
“โอ้มายก๊อด มีคนเช่นนี้อยู่ได้อย่างไร? ช่างน่าสมเพชอะไรอย่างงี้!” เจสลินคำรามอย่างไม่มีพิธีรีตอง
ในขณะนั้น เจอรัลด์ก็ได้รับสายแล้ว
มันเป็นสายจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก
“เฮลโล?”
“นี่ใช่คุณคลอฟอร์ดหรือเปล่าครับ?”
เสียงของชายวัยกลางคนส่งผ่านมาจากปลายสายของอีกด้าน
เจอรัลด์สามารถเดาได้ว่าน่าจะเป็นเวสลีย์ทันทีที่เขาได้ยินเสียงนี้
เวสลีย์ แฮร์ริสันจากสำนักงานการพาณิชย์!
“ครับผมเอง!”
“ผมรู้มันเป็นความบุ่มบ่ามเล็กน้อยของผมที่จะโทรหาคุณ มันเป็นอย่างนี้ครับ คุณคลอฟอร์ด พวกเราได้รวบรวมผู้นำจากภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาบางอย่างของที่ดินของบริษัทและศูนย์ความบันเทิงสองสามแห่งที่คุณได้ลงทุนไป ผมต้องการใช้เสรีในการถามว่าคุณพอจะมีเวลาว่างหรือไม่ครับ? พวกเราหวังจริง ๆ ว่าคุณจะสามารถเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวเองได้!” เวสลีย์พูดด้วยรอยยิ้ม
“โอ้ โอ้ ได้ครับ!”
เจอรัลด์ตัดสินใจว่าเขาจะไปดูเพราะเขาก็เกือบจะกินอาหารเสร็จแล้ว
“เยี่ยมไปเลยครับ คุณคลอฟอร์ด พวกเราจะไปพบกันที่ร้านอาหารมาเจสติกฟินิกซ์ ตอนนี้ คุณอยู่ที่ไหนครับ? ผมจะจัดคนขับรถไปเพื่อรับคุณ”
“หืม? ร้านอาหารมาเจสติกฟินิกซ์หรือครับ? มันบังเอิญว่าผมก็อยู่ที่ร้านอาหารมาเจสติกฟินิกซ์ ตอนนี้ด้วยเหมือนกัน!”