ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 150

นางทำได้เพียงวางความหวังไว้บนแหวนแห่งจิตวิญญาณ เพราะว่า ร่างกายของนางอ่อนล้าอย่างรุนแรง นางไม่ได้กินอะไรมาเป็นเวลาสองวันแล้ว บวกกับความผิดปกติก่อนหน้านี้ การทานดอกคำฝอย อาการบาดเจ็บจากการถูกวางยาพิษ ก็แทบจะทำให้นางหมดเรี่ยวแรงแล้ว

นางดูเชือกที่มัดนางไว้ด้วย มันคือเชือกป่าน เชือกป่านชนิดนี้เหนียวมาก ในตอนนี้นางก็จนปัญญาจะแกะมันออก

ในช่วงแปดปีที่อยู่ในกลุ่มสายลับพิเศษ นี่ไม่ใช่เวลาที่อันตรายที่สุดสำหรับนาง แต่เป็นเวลาอ่อนแอที่สุด

นางหวังว่าเซียวท่า จะได้เห็นรองเท้าลายปักที่นางทิ้งไว้ แต่จะติดตามมาถึงที่นี่ได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเซียวท่าแล้ว

สองคนนั้นลากจื่ออานขึ้นไปที่สุสาน แล้วทิ้งเซี่ยอานลงในนั้น

กลางวันแสก ๆ แต่ที่นี่กลับไม่มีแสงแดดเลยสักนิด ลมกระโชกแรง มีเสียงอีการ้องดังไปทั่วทุกหนทุกแห่ง สยองขวัญและน่าขนลุกอย่างบอกไม่ถูก

เมื่อได้ยินเสียงชักดาบ จื่อก็รู้ว่านางไม่อาจแสร้งทำเป็นเวียนหัวได้อีกต่อไป นางพยายามลุกขึ้นยืนและถอยหลังไปหนึ่งก้าว แสร้งทำเป็นตกใจกลัวแล้วกล่าว “พวกเจ้าจะทำอะไร?”

องครักษ์สองคนนี้ คนหนึ่งอ้วนคนหนึ่งผอม ใบหน้าแลดูไม่ได้โหดร้าย แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้โดยง่าย

“คุณหนูใหญ่ ขออภัยท่านด้วย ไท่เฟยต้องการชีวิตท่าน หากท่านอยากจะโทษใครสักคน ก็ต้องโทษชีวิตของท่านที่ไร้ค่าเอง” องครักษ์ร่างผอมที่ถือดาบไว้เดินไปหานาง เขาก็คือคนที่เพิ่งจะต่อยนางไป

จื่ออานถอยห่างออกไปทีละก้าว ๆ หวังว่าพลังงานของแหวนแห่งจิตวิญญาณจะเพียงพอให้นางคลายเชือกที่มัดมือนางไว้ด้านหลังได้

“พี่องครักษ์ทั้งสองท่าน เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? ไท่เฟยจะต้องการฆ่าข้าได้เช่นไร? ข้าคือพระคู่หมั้นของท่านอ๋องนะ” จื่ออานถ่วงเวลาไว้ และดำเนินการปรับแหวนให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องต่อไป

เชือกที่อยู่บนข้อมือ กับแหวนแห่งจิตวิญญาณที่อยู่ที่อยู่ตรงนิ้ว ต้องให้แหวนเล็งเป้าไปที่เชือกตรงข้อมือ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย

องครักษ์ร่างอ้วนกล่าวเยาะเย้ย “พระคู่หมั้น? หากท่านมีวาสนาเช่นนั้นจริง ๆ ท่านก็คงจะไม่มีจุดจบเช่นนี้ ท่านก็ยอมรับชะตากรรมเสียเถิด หลับตาอย่างเชื่อฟัง พวกเราสองพี่น้องรับปากท่าน จะให้ท่านจากไปอย่างสงบ ไม่ต้องทนเจ็บปวดมากจนเกินไป”

จื่ออานถอยห่างออกไปทีละก้าว ๆจนกระทั่งถึงขอบของหน้าผา นางมองไปที่ด้านหลังเล็กน้อย และพบว่าด้านล่างเป็นหน้าผา อย่างไรก็ตาม มีที่ราบที่ยื่นออกมาเล็กน้อยบนหน้าผา หากเชี่ยวชาญแล้ว สามารถตกลงไปที่พื้นราบได้ ก็จะมีโอกาสรอดแม้จะน้อยนิด

ถ้าแก้เชือกไม่ได้ นางก็ทำได้เพียงต้องกระโดดลงไป ถ้าไม่กระโดด ก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้ากระโดด ก็ยังมีความหวังอยู่บ้าง

องครักษ์ร่างผอมที่เห็นนางถอยหลังอยู่เรื่อย ๆ ก็ได้กล่าวเตือนนาง “ถ้าท่านยังคงถอยหลังอยู่แบบนี้ก็จะตงลงไป ตายด้วยเงื้อมมือของพวกข้า อย่างน้อย ๆท่านก็จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดมาก”

สองคนนี้อยู่กับกุ้ยไท่เฟยมานานหลายปีแล้ว และพวกเขาก็ไม่ได้เป็นคนที่เลวร้ายมากนัก ทั้งพวกเขายังรู้อีกว่าเซี่ยจื่ออานไม่สมควรต้องตาย เพียงแต่พวกเขาได้รับคำสั่ง ไม่ทำก็ไม่ได้ พวกเขาทำได้เพียงให้นางตายจากไปอย่างสงบเท่านั้น

จื่ออานกดลงไปบนแหวนแห่งจิตวิญญาน แต่ว่าแหวนมีพลังงานไฟฟ้าไม่เพียงพอ ที่จะยิงทะลุเชือกได้ ส่วนใหญ่นางจะยิงเลยเชือกไป นางหันกลับไปอย่างเด็ดเดี่ยวและกระโดดจากไป

องครักษ์ทั้งสองไม่คิดว่านางจะใจเด็ดถึงขนาดนี้ยอมฆ่าตัวตายดีกว่ายอมตายในเงื้อมมือของพวกเขา

“น่าเสียดายสตรีเช่นนางเสียจริง!” องครักษ์ร่างผอมกล่าวเบา ๆ

องครักษ์ร่างอ้วนเก็บดาบเข้าฝัก และเดินไปดูที่ริมหน้าผา “ด้านล่างมีพื้นราบอยู่”

“เจ้าคิดว่านางจะสามารถกระโดดลงไปบนพื้นราบได้เหรอ? สตรีผู้อ่อนแอนางนึง ทั้งยังถูกมัดมือไว้อีก หากนางกระโดดลงไปพื้นราบได้จริง ๆ พวกเราก็ต้องมองเห็นสิ”

องครักษ์ร่างอ้วนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “มันก็จริง กลับกันเถอะ”

ทางฝั่งของจวนอ๋อง ได้เกิดความโกลาหลขึ้น

องค์รัชทายาททราบถึงอาการบาดเจ็บของมู่หรงเจี๋ยและเสด็จมาเยี่ยม แต่อ๋องอันอ้างว่ามู่หรงเจี๋ยได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่พบใครทั้งนั้น พร้อมทั้งปิดประตูใส่หน้าองค์รัชทายาท