นี่เป็นเหรียญทองของคณะหนึ่งเดียว หานเฟิงมองจนน้ำลายจะไหล
“ทองใหญ่มากเลย”
ลู่ฝานถามเบาๆ ว่า “ศิษย์พี่หานเฟิง ที่ผ่านมาไม่ได้ใหญ่แบบนี้เหรอ”
หานเฟิงก้มหน้าพูดเบาๆ “ที่ผ่านมาใหญ่ประมาณฝ่ามือ จะเทียบกับอันนี้ได้ยังไง ศิษย์น้องลู่ฝาน เหรียญทองพวกนี้ปลุกเสกด้วยค่ายกลพิเศษ ด้านในมีพลังปราณอันแข็งแกร่ง เดิมทีขนาดเท่าฝ่ามือ ก็เพียงพอให้ฉันกับพวกศิษย์พี่ฉู่สิงดูดซับไปหลายวันแล้ว ครั้งนี้ใหญ่ขนาดนี้ น่าจะทำให้เรายกระดับได้เป็นขั้นเลยล่ะ”
ลู่ฝานกะพริบตามองเหรียญทอง แววตาเริ่มลุกโชน ที่แท้เหรียญทองพวกนี้ มีประโยชน์แบบนี้นี่เอง ถ้าได้เหรียญทองทั้งเก้าเหรียญมาอยู่ในมือ งั้นพวกเขาจะได้ผลดีมากแค่ไหนกัน
ขณะที่ลู่ฝานคิดจะกวาดล้างเก้าคณะ จู่ๆ มีเสียงดังขึ้นในหัว
“เหรียญทองนี้ดูท่าไม่เลว เจ้านายใหม่ของฉัน ฉันกลืนกินมันได้ไหม”
ลู่ฝานสะดุ้ง รีบมองซ้ายมองขวา ใครส่งเสียงหาเขาถึงในสมอง ผลการฝึกตนต้องแข็งแกร่งอยู่บ้าง
“ไม่ต้องมองแล้ว ฉันคือภูติเจดีย์ของเจดีย์เสวียนเก้ามังกร ฉันอยู่ในสมองนาย”
ลู่ฝานเบิกตาโต เจดีย์เสวียนเก้ามังกรงั้นเหรอ
ลู่ฝานอดไม่ไหว ล้วงมือลงไปในเข็มขัดตัวเอง เจดีย์มีภูติเจดีย์ด้วยเหรอ แถมยังพูดในสมองเขาได้ด้วย
ลู่ฝานสงสัยว่าตัวเองโดนวิชาชั่วร้ายหรือเปล่า
เสียงดังขึ้นในหัวอย่างต่อเนื่อง
“ไม่ต้องสงสัยแล้ว นายไม่เคยได้ยินภูติอาวุธเหรอ วิชาชั่วร้ายไหนจะฟังความรู้สึกในใจนายได้ เจ้านายใหม่ที่น่ารัก ดูเหมือนนายต้องเรียนรู้อีกเยอะ ฮ่าๆๆๆ วางใจเถอะ ฉันจะสอนนายช้าๆ”
มือของลู่ฝานจับถูกจวนอากาศธาตุในเข็มขัด นิ้วสัมผัสโดนแสงสีดำจุดเล็กๆ เขาก็เข้าใจทุกอย่างทันที
เซียนสือฟางทิ้งทุกอย่างให้เขา รวมถึงเจดีย์เสวียนเก้ามังกรกับจวนอากาศธาตุด้วย
ตอนนี้ทั้งจวนอากาศธาตุเป็นของเขาแล้ว เมื่อจิตใจวูบไหว ประตูคุ้มครองในจวนอากาศธาตุจะเปิดออกตามหัวใจ
ลู่ฝานคิดในใจ “เจดีย์เสวียนเก้ามังกรได้ยินว่าพลังการฟื้นฟูของแกแข็งแกร่งมาก จริงหรือเปล่า”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรตอบกลับว่า “พลังฟื้นฟูเหรอ หึหึ นั่นเป็นทักษะเล็กน้อยของฉันเท่านั้น ไม่มีอะไรที่ฉันทำไม่ได้ ตอนนี้พละกำลังของนายยังไม่พอ รอให้ต่อไปนายมีพละกำลังแข็งแกร่งขึ้น ฉันช่วยนายได้หมด การฟื้นคืนชีพก็ยังทำได้ นายรีบแข็งแกร่งขึ้นเร็วๆ ถือโอกาสหาสมบัติสวรรค์ อาวุธวิเศษให้ฉันได้กลืนกิน มีฉันอยู่ นายได้รับประโยชน์นับไม่ถ้วน เห็นของที่เจ้าของคนก่อนทิ้งเอาไว้หรือเปล่า 80 เปอร์เซ็นต์ได้มาเพราะฉัน เฮ้อ น่าเสียดายฉันบาดเจ็บสาหัส ใช้พลังที่เก็บเอาไว้ไปเกือบหมด ไม่งั้นคงช่วยนายคลายมนตร์ได้ ทำให้นายยกระดับผลการฝึกตนได้เร็วขึ้น เอาล่ะ ไม่พูดกับนายมากแล้ว พูดก็ต้องใช้พลังงาน ขอถามอีกครั้ง เหรียญทองนี้ให้ฉันกลืนกินได้ไหม”
ลู่ฝานพูดในใจอย่างแน่วแน่ “ตอนนี้ไม่ได้ ต่อไปค่อยว่ากัน”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรถอนหายใจอย่างเสียดาย เสียงค่อยๆ หายไป
ลู่ฝานยกยิ้มมุมปาก เหมือนเขาได้ของสุดเจ๋งมาหนึ่งชิ้น
ตอนนี้ศิษย์พี่ใหญ่เดินเข้าไปเอาเหรียญทองของคณะหนึ่งเดียว ท่านผอ.กวาดตามองทุกคน จากนั้นพูดว่า “งั้นเริ่มการต่อสู้จัดอันดับของสถาบันอย่างเป็นทางการ ระยะเวลาหนึ่งเดือน”
พูดจบ ท่านผอ.สะบัดมือ พลังปราณสว่างกลายเป็นผงอยู่บนท้องฟ้า โปรยลงมาบนตัวทุกคน
ผงพวกนี้เพิ่งร่วงลงบนตัวลู่ฝาน ลู่ฝานรู้สึกว่าปราณชี่ของตัวเองโดนกระตุ้น เม็ดไข่มุกในตันเถียน โดนกระตุ้นจนปล่อยปราณชี่ออกมา
ผงบนแขนลู่ฝาน รวมตัวกันเป็นอักษรยันต์เล็กๆ ด้านบนเขียนคำว่าบู๊ไว้ชัดเจน
ลู่ฝานสัมผัสได้ว่าพลังฟ้าดินบริสุทธิ์ โดนอักษรยันต์ดูดซับ แปรเปลี่ยนเป็นพลังให้นักบู๊ดูดซับ
หานเฟิงยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ เห็นสีหน้าลู่ฝานตกใจเล็กน้อย
หานเฟิงพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ฮ่าๆ นี่เป็นสวัสดิการแท้จริงของสถาบันสอนวิชาบู๊ อักษรยันต์บู๊ สัมผัสถึงประสิทธิภาพการดูดซับพลังของมันหรือยัง ฉันมาสถาบันสอนวิชาบู๊เพราะสิ่งนี้ หลายปีมานี้ฉันเก็บอักษรยันต์บู๊ได้หลายอันแล้ว”
หานเฟิงพูดพลางถลกแขนเสื้อให้ลู่ฝานดู
ด้านบนเป็นอักษรยันต์บู๊สี่อัน หานเฟิงพูดเบาๆ อย่างได้ใจ “พวกปัญญาอ่อนคณะอื่น คิดว่าคณะหนึ่งเดียวไม่ดี พวกเขาไม่รู้ว่าเมื่อเข้าคณะหนึ่งเดียว จะมีโอกาสได้รับอักษรยันต์บู๊ นักเรียนยอดฝีมือคณะอื่นที่ได้อักษรยันต์บู๊ ก็ไม่บอกเรื่องนี้กับพวกเขา ดังนั้น……หึหึ!”
ลู่ฝานก็หัวเราะออกมา อย่างที่ศิษย์พี่หานเฟิงพูด นี่เป็นสิ่งดีที่หาได้ยาก
การฝึกของนักบู๊ อาศัยพลังฟ้าดินกลั่นร่างกาย อาศัยร่างกายเป็นพื้นฐานฝึกพลังปราณ ส่วนการดูดซับพลังฟ้าดินมาใช้ นั่นเป็นทักษะที่ผู้ฝึกชี่ชำนาญที่สุด
ด้วยเหตุนี้ อักษรยันต์ที่สามารถทำให้นักบู๊ดูดซับพลังฟ้าดินเหมือนผู้ฝึกชี่ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการฝึกฝน เป็นสิ่งล้ำค่ามาก ราคาของมันเท่ากับยาทิพย์หนึ่งเม็ด
แม้ในตัวลู่ฝานมีวิชาผู้ฝึกชี่ ตัวเขาสามารถดูดซับพลังฟ้าดินมาใช้ แต่พลังฟ้าดินที่ปราณชี่ต้องการ เหนือกว่าพลังชี่กับพลังปราณทั่วไป ดังนั้นการมีอักษรยันต์แบบนี้ช่วยเขาดูดซับให้เร็วขึ้น เป็นเรื่องดีอย่างเห็นได้ชัด