เอี๋ยนชิงจำได้อย่างชัดเจน พละกำลังของลู่ฝานห่างชั้นจากแดนปราณนอกอีกเยอะ จะใช้พลังปราณส่งเสียงของแดนปราณนอกได้อย่างไร
แต่ความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้า ลู่ฝานทำให้เขาเห็นแล้ว
เอี๋ยนชิงจิตใจวูบไหว หรือว่าลู่ฝานได้อะไรดีๆ จากจวนอากาศธาตุ
เอี๋ยนชิงยิ่งคิดยิ่งรู้สึกมีความเป็นไปได้ ไม่งั้นลู่ฝานโดนเขาซัดจนบาดเจ็บแบบนั้น ทำไมถึงออกมาได้อย่างปลอดภัยเช่นนี้
แววตามีความเย็นชา เอี๋ยนชิงยิ้มร้ายกาจให้ลู่ฝาน
ลู่ฝานจ้องเขาเขม็ง จากนั้นจึงละสายตาออกมา
สี่คนที่ตามเอี๋ยนชิงมา มีสองคนที่ลู่ฝานรู้จัก
หยู่ซินที่เคยเจอกันหนึ่งครั้ง เดินขึ้นไปด้วยสีหน้าราบเรียบ ลู่ฝานเห็นเขาแล้วอยากหัวเราะ หยู่ซินกับเหลิ่งหาน มอบของให้เขาไม่น้อยเลย รอให้พักผ่อนก่อน ลู่ฝานกะจะเปิดเตากลั่นยาสักหน่อย
ด้านหน้าหยู่ซินคือฮ่วนเย่ว์ที่มัดผมหางม้า
ใบหน้าฮ่วนเย่ว์มีรอยยิ้มเย่อหยิ่ง เธอชักสีหน้าไปทางท่านผอ. เหมือนกำลังยั่วยุ
ท่านผอ.ไม่สนใจฮ่วนเย่ว์ หันหน้าไปทางอื่น
ตอนนี้ลู่ฝานยังจำได้ การพูดคุยของฮ่วนเย่ว์กับท่านผอ. ในหอคอยฝึกฝน ท่านผอ.คงทำอะไรฮ่วนเย่ว์ไม่ได้เช่นกัน เพราะอาจารย์ของฮ่วนเย่ว์ คือเซียนบู๊แดนหยินหยางระยะรู้ความที่แท้จริง
นักเรียนคณะหยินหยางเงยหน้าส่งเสียงเชียร์ให้พวกเอี๋ยนชิงบนหอคอย
นักเรียนคณะอื่น ไม่มีท่าทีจะช่วยพวกเขาส่งเสียงเชียร์ แต่ละคนจ้องเสื้อผ้าและอาวุธของพวกเอี๋ยนชิง แล้วส่งเสียงชื่นชมและอิจฉาออกมา
นักเรียนยอดฝีมือของแปดคณะมากันหมดแล้ว หานเฟิงลุกขึ้นแล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ศิษย์น้องทุกท่าน ไปกันเถอะ ถึงตาพวกเราขึ้นไปแล้ว”
ลู่ฝานพยักหน้า แล้วลุกขึ้นยืน
ศิษย์พี่ใหญ่ยกมือขึ้น “รอฉันสักครู่ ให้ฉันเอาก้นออกมาก่อน”
ศิษย์พี่ใหญ่พูดพลาง พยายามเอาไขมันของตัวเอง ออกมาจากเก้าอี้ จากนั้นยิ้มแล้วเด้งตัวขึ้นไป
พวกลู่ฝานทั้งห้าคนขึ้นมาด้านบน พวกเขาแตกต่างจากคณะอื่น ไม่มีเสียงเชียร์ใดๆ มันถูกแทนที่ด้วยเสียงดูหมิ่นเย้ยหยัน
“โอ๊ย นี่นักเรียนคณะหนึ่งเดียวนี่นา ฮ่าๆ ห้าคนพอดีเลย ฉันกำลังคิดว่าถ้าพวกเขาคนไม่พอ จะทำอย่างไร”
“เหอะๆ ไม่รู้เหรอ ไม่กี่ปีก่อนพวกเขาก็คนไม่พอตลอด สี่คนสู้กับห้าคน แพ้อย่างเละเทะ”
“เฮ้อ คณะคนน้อยแบบนี้ สู้ไม่เปิดดีกว่า”
“ฉันก็คิดอย่างนั้น คณะขยะแบบนี้ มีไปทำไม”
……
พวกลู่ฝานได้ยินเสียงพูดคุยด้านล่าง ก็มองหน้ากันแล้วยิ้ม
รอให้คนพวกนี้เห็นพวกเขากวาดล้างคณะอื่น พวกเขาจะไม่มีทางพูดแบบนี้แล้ว
นักเรียนทั้งหมด 44 คน ยืนเรียงเป็นแถวหน้ากระดาน
ท่านผอ.ลุกขึ้นยืน พูดเสียงก้องว่า “พวกนายคือคนมีความสามารถของเก้าคณะ เป็นความหวังของสถาบันสอนวิชาบู๊ การต่อสู้จัดอันดับของสถาบันครั้งนี้ ฉันหวังว่าพวกนายจะเอาพละกำลังของตัวเองออกมา เพื่อเกียรติของคณะตัวเอง อีกทั้งสิ่งที่ไม่เหมือนก่อนคือ การต่อสู้จัดอันดับของสถาบันปีนี้ คณะที่มีคนได้เหรียญทองสามเหรียญขึ้นไป จะได้โอกาสชมเคล็ดวิชาบู๊ระดับฟ้าหนึ่งครั้ง ขอให้นักเรียนทุกคนทำให้เต็มที่”
เมื่อได้ยินว่าเคล็ดวิชาบู๊ระดับฟ้า ทุกคนถึงกับอึ้งไป
ลู่ฝานรู้สึกว่าเลือดในตัวพลุ่งพล่าน เคล็ดวิชาบู๊ระดับฟ้าเชียวนะ เคล็ดวิชาบู๊ระดับฟ้าในตำนานที่ทำได้ทุกอย่าง มีพลังมหาศาล
ประโยคเดียวกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนกระตือรือร้นที่จะต่อสู้ ท่านผอ.เงยหน้าชี้ไปบนฟ้า
“รับเหรียญทอง!”
ทันใดนั้น สายฟ้าสีทองเก้าสายฟ้าผ่าลงมา
เหรียญทองเก้าเหรียญ ขนาดประมาณคน ผ่านสายฟ้ามาอยู่ตรงพวกลู่ฝาน
ลู่ฝานเงยหน้ามองเหรียญทองข้างหน้า ด้านบนมีตัวอักษรเขียนไว้ชัดเจน
“หนึ่งเดียว!”