บทที่ 352
บทที่ 352

ชิวเจิ้นจัดการให้ตามคำขอของถังหยิน และเพื่อเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เด็กหนุ่มจึงไม่ได้บอกพวกแม่ทัพเรื่องการแกล้งตาย ทว่ากลับให้กระจายข่าวไปว่าเขาตายระหว่างการรักษาแทน

เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป ทั้งกองทัพเทียนหยวนต่างก็โศกเศร้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกองทัพปิงหยวนที่ติดตามถังหยินมานานที่สุด …พวกเขาดูเศร้าจากใจจริง

คืนนั้น โคมไฟสีขาวถูกแขวนไปทั่วค่าย พวกทหารต่างก็พันผ้าสีขาวรอบเอวรวมไปถึงแม่ทัพด้วยเช่นกัน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านนอกทำให้พวกทหารเปิงที่อยู่บนกำแพงเมืองรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ พวกเขาจึงไม่รอช้า รีบไปรายงานเรื่องนี้กับหลีฉี่ในทันที

หลีฉี่ เย่เฉิง เสี่ยวฮุ่ย หวางซ่ง และคนอื่น ๆ ต่างก็ขึ้นมาบนหอคอยกำแพงแล้วมองไปยังพวกเทียนหยวน หลังจากเห็นทุกอย่างพวกเขาก็พากันประหลาดใจ ก่อนเป็นหลีฉี่ที่ถามขึ้น “ทำไมถึงมีโคมไฟสีขาวเต็มไปหมดเลย ?”

เย่เฉิงเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออก “แม่ทัพหลี่ ถ้าหากเป็นเช่นนี้แสดงว่าถังหยินตายแล้วเป็นแน่ !”

ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็ตกตะลึง จากนั้นก็เป็นหลีฉี่ที่ได้สติแล้วหัวเราะออกมา “ในที่สุดเมืองหยานของข้าก็เป็นอิสระเสียที !”

คนอื่นนอกจากเขาต่างก็ประกบมือให้ทางหลีฉี่ “ถังหยินตายแล้ว และเมื่อกองทัพเทียนหยวนไม่มีผู้นำแบบนี้ พวกเขาจะต้องหมดกำลังใจแน่ ทางที่ดีพวกเราต้องเข้าโจมตีให้เร็วที่สุด !”

แม้ว่าพวกเขาจะดีใจที่ถังหยินตายไปแล้ว แต่ความคิดดังกล่าวก็ดูจะเสี่ยงไปอยู่ดี “ข้าว่ายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม”

“ท่านแม่ทัพ…”

“หยุดพูดได้แล้ว แม้ว่าถังหยินจะตาย แต่กองทัพเทียนหยวนก็ใช่ว่าจะอ่อนแอ พวกเราจะผ่อนคลายไม่ได้ ! พวกเจ้าจะต้องปกป้องเมืองให้ถึงที่สุด ใครก็ตามที่ออกจากเมืองข้าจะประหารมัน !” พูดจบหลีฉี่ก็เดินลงจากกำแพงไปข้างล่าง

ทุกคนต่างก็ถอนหายใจอย่างหมดหวัง ในบรรดาทุกคนมีเพียงแค่เย่เฉิงที่ใจเย็นที่สุด เพราะเมื่อถังหยินตายแล้ว งั้นมันก็เป็นเขานี่แหละที่ได้ผลประโยชน์ที่สุด ! ดังนั้นแล้วการจะให้ออกไปรบกับพวกเทียนหยวนตอนนี้จึงไม่คุ้มค่าเลย ด้วยถ้าหากแพ้ขึ้นมา เขาก็จะไม่ได้อะไรกลับมาอยู่ดี …เพราะฉะนั้นอยู่เฉย ๆ ดีกว่า !

นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่หลีฉี่ปฏิเสธการออกไปโจมตีพวกเทียนหยวน

วันรุ่งขึ้นท้องฟ้าแจ่มใส

ในครั้งนี้บรรยากาศความเศร้าของกองทัพเทียนหยวนต่างก็แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน พวกทหารมีการผูกผ้าสีขาวรวมไปถึงพวกแม่ทัพด้วยเช่นกัน ทั้งค่ายนั้นเงียบกริบไม่มีใครพูดแม้แต่คนเดียว และหลังจากมื้อเช้า พวกแม่ทัพก็ได้จัดการให้พวกทหารเก็บของกลับไปยังเมืองหลีฮู่

พวกทหารที่คิดว่าแม่ทัพใหญ่ของตนตายไปแล้วพากันหมดกำลังใจสู้ พวกเขาจึงได้พากันคิดจะถอนทัพกลับไป

และถึงค่ายของพวกเขาจะมีขนาดใหญ่ แต่มันก็ใช้เวลาเพียงรุ่งเช้าเพื่อเก็บทุกสิ่งอย่างแล้วออกไปจากที่นี่ พวกทหารเทียนหยวนต่างก็เดินกันคอตกกลับไปอย่างโศกเศร้า

หน่วยสอดแนมที่เห็นพวกเทียนหยวนกำลังถอนทัพกลับไปก็ไม่อาจอดกลั้นความตื่นเต้นได้อีก พวกเขาพากันร้องตะโกนไปบนกำแพงเมืองหยาน “พวกมันถอยไปแล้ว พวกเรารอดแล้ว !”

เสียงตะโกนนี้ทำให้ทุกคนบนกำแพงเมืองพากันขึ้นมาดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตาตัวเอง และแม้จะไม่เห็นว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รับรู้ได้ว่าพวกศัตรูกำลังเดินทัพกลับไป “พวกมันกลับไปแล้ว ! พวกเทียนหยวนกลับไปแล้ว !”

ข่าวนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วและทำให้พวกเปิงฮึกเหิมมากขึ้น ไม่มีใครสนใจหรอกว่าถังหยินจะเป็นหรือตาย ขอแค่พวกเขามีชีวิตรอดแล้วก็เป็นอันพอ !

เสี่ยวฮุ่ย กับแม่ทัพคนอื่น ๆ ต่างก็พากันขึ้นมาบนกำแพงเมืองแล้วเห็นอย่างที่เขาลือกัน พวกเขามองหน้าแล้ววิ่งลงจากกำแพงเพื่อรบเร้าให้หลีฉี่ทำการไล่ล่าพวกเทียนหยวนให้หมด

ในเวลานี้หลีฉี่ก็เริ่มใจเอนเอียงบ้างแล้ว ด้วยเรื่องนี้เองก็อยู่ในการคาดเดาของเขาอยู่แล้ว เพราะเมื่อแม่ทัพใหญ่ตาย พวกทหารก็ต้องถอยทัพกลับไป !

ในระหว่างนี้เอง ก็เป็นพวกเย่เฉิงกับคนอื่น ๆ ที่ลงมาหาเขา

เมื่อพวกเย่เฉิงเข้ามา พวกเขาก็พลันก้มหัวให้แล้วกล่าว “แม่ทัพหลี่ ถังหยินตายแล้ว พวกเทียนหยวนกำลังล่าถอยกลับไป นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะไล่ล่าพวกมัน !”

“ใช่แล้ว ถ้าหากกองทัพไร้ผู้นำ มันก็ไม่ต่างอะไรจากกองเนื้อ พวกเราควรไล่ล่ามัน !”

“แม่ทัพหลี่ ออกคำสั่งให้ไล่ตามมันเถอะ !”

“ได้โปรออกคำสั่งด้วยท่านแม่ทัพหลี่ !”

พวกแม่ทัพต่างก็พูดกันอย่างรวดเร็วจนไม่เปิดโอกาสให้หลีฉี่ได้พูดเลย

หลีฉี่กลืนน้ำลายแล้วก้มหัวเงียบไป

เมื่อเห็นท่าทีลังเลแบบนั้น ทุกคนก็อยากเข้าไปตบหัวเขาสักที

“แม่ทัพหลี ท่านจะลังเลอะไรอยู่อีกล่ะ ?”

จากนั้นก็เป็นแม่ทัพหลี่ที่พูดขึ้น “ถ้าเกิดว่าพวกมันวางแผนเอาไว้ ?”

“มันคงไม่ทำอะไรไร้สาระแบบนั้นหรอกน่า !” เสี่ยวฮุ่ยไม่ทนอีกต่อไปแล้ว “ถังหยินตายไปแล้วมันจะเล่นกลอะไรได้อีก ? ถ้าท่านไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ ท่านจะเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ และถ้าท่านไม่ไป พวกเราก็จะไปกันเอง แล้วถ้าฝ่าบาทจะโทษล่ะก็พวกเราจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง ! แต่ถ้าท่านพลาดโอกาสนี้ไป ฝ่าบาทจะต้องโทษท่านด้วยแน่ !!!”

เสี่ยวฮุ่ยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องขู่อีกฝ่ายด้วยเรื่องนี้ เพราะเขานั้นรู้ดี ว่าซ่งเทียนชื่นชอบอะไรแบบนี้มากแค่ไหน และถ้าหากพลาดไป เขาจะต้องถูกคาดโทษไปตลอดชีวิตแน่ !

หลีฉี่ก้มหน้าครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะพูดออกมา “ในเมื่อแม่ทัพทุกนายอยากจะไล่ตามพวกเทียนหยวน งั้นแล้วก็ทำตามที่พวกเจ้าต้องการเถอะ”

ทุกคนที่ได้ยินต่างก็พากันดีใจเป็นที่สุด

หลีฉี่พูดต่อ “ทว่า พวกเราต้องเหลือคนเอาไว้ป้องกันเมืองด้วย ใครจะรับหน้าที่นั้น ?”

ทุกคนอยากออกไปรบเพื่อเอาหน้าอยู่แล้ว ไม่มีใครอยากอยู่แนวหลังเพื่อสนับสนุนหรอก แต่ถึงกระนั้นเย่เฉิงก็พูดขึ้น “ข้าเอง ข้าจะเป็นคนอยู่ปกป้องเมืองหยานเองท่านแม่ทัพหลี”

หลีฉี่ที่ได้ยินแบบนั้นก็ปลื้มใจมากที่ยังมีคนรับหน้าที่นี้ “เยี่ยมมากท่านแม่ทัพเย่เฉิง ข้าภูมิใจในตัวท่านจริง ๆ”

“ใช่แล้ว แม่ทัพเย่เฉิงควรจะเป็นคนที่ปกป้องเมืองที่สุดแล้ว” แม่ทัพทุกคนพูดออกมาเพราะเย่เฉิงได้หน้าเรื่องการฆ่าถังหยินไปแล้ว ดังนั้นเขาควรจะอยู่ป้องกันเมืองไปเสีย

หลีฉี่ที่ไม่อยากจะออกไปไล่ล่าพวกเทียนหยวนก็ต้องจำใจทำตามข้อตกลงนี้อย่างช่วยไม่ได้

ในตอนนี้มีทหาร 6 หมื่นนายที่พร้อมสู้ในเมืองหยาน ดังนั้นหลีฉี่จึงอนุญาตให้ทหารเพียง 5 หมื่นนายออกไปรบกับพวกเทียนหยวนด้านนอกเท่านั้น

ว่าแล้วกองทัพหลีฉี่ก็พลันเคลื่อนตัวออกจากเมืองด้วยความรวดเร็วไล่ตามกองทัพเทียนหยวนได้ทันภายในเวลา 1 ชั่วยาม

หน่วยสอดแนมของถังหยินที่เห็นแบบนั้นก็ได้รีบไปแจ้งแก่พวกทหารที่กำลังกลับไปยังหลีฮู่ และพวกอู่กวนกับทุกคนที่รอซุ่มโจมตีอยู่นอกเมือง

หลังจากอู่กวนได้รับรายงาน เขาก็ยิ้มออกมาทันทีที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน และถ้าตามที่เขาคำนวณเอาไว้ กองทัพเมืองหยานเสียทหารไปมากมาย คนพวกนั้นน่าจะเหลือประมาณ 6 หมื่นนายเท่านั้น และการที่พวกมันออกมากัน 5 หมื่นนายแบบนี้ นั่นก็หมายความว่าในเมืองหยานก็แทบไม่มีทหารเหลืออยู่เลย !!!

เขาครุ่นคิดแล้วหันไปมองพวกทหารที่อยู่ข้างหลัง

อู่กวนและจ้านหูมีกำลังทหารเพียง 2 หมื่นนายเท่านั้น ทว่าพวกเขาก็ถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือ ดังนั้นแค่นี้ มันก็น่าจะมากพอแล้ว !

…ตอนนี้มีแค่สิ่งเดียวเท่านั้น รอเวลาอีกเพียงนิดเท่านั้น ขอแค่พวกเปิงออกจากเมืองไปไกลกว่านี้หน่อย มันก็จะได้เวลา ที่พวกเขาจะบุกยึดเมืองหยาน !!!