บทที่ 29 คาบเรียนคณิตศาสตร์ของดาร์ก เดม่อน
เมื่อดาร์กได้รับการแจ้งเตือนนี้ เขาก็ตกตะลึง
เขาอ่านหลาย ๆ รอบเพื่อยืนยันว่าชื่อของเขาถูกเขียนไว้ในหนังสือแจ้งเตือน!
‘ศาสตราจารย์ลิลลี่กำลังคิดจะทำอะไร?’
ตั้งแต่จบวิชาประลองไปจนถึงคาบวิชาคณิตศาสตร์ มีเวลาพักแค่สามสิบนาที
ดาร์กรีบไปที่ห้องทำงานของศาสตราจารย์ลิลลี่เพื่อสอบถาม
ประตูห้องทำงานไม่ได้ล็อก และภายในนั้นก็เงียบสงบ
เมื่อดาร์กเคาะไปสองสามครั้ง จากนั้นเขาก็แง้มประตูเข้าไป
ทันใดนั้น แอลกอฮอล์กลิ่นแรงที่ลอยอวลอยู่ในอากาศก็พุ่งออกมาจากรอยแง้มของประตู จนเกือบจะซัดดาร์กออกไป!
‘โอ้พระเจ้า กลิ่นนี่มันอะไรกัน?’
ดาร์กปิดจมูกของเขาทันที จากนั้นรวบรวมความกล้า และเสี่ยงชีวิตเพื่อผลักประตูห้องทำงานให้เปิดออก!
แล้วเขาก็ได้เห็นภูตน้อยตัวเหม็นนอนอยู่บนโต๊ะที่มักใช้วางหนังสือ การบ้าน และกล่องดินสอ!
ปีกแมลงปอของศาสตราจารย์ลิลลี่ซ้อนทับกันจนย่น และบนโต๊ะก็รายล้อมไปด้วยขวดไวน์กองพะเนิน
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?!
“ดาร์กเหยอ? @_@”
ศาสตราจารย์ลิลลี่พยายามลืมตา เมื่อเห็นว่าเป็นดาร์ก เธอก็ยกแขนขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “ฉัน… ฉันหวังพึ่งเธอนะ!”
พอพูดจบ ศาสตราจารย์ลิลลี่ก็หลับตาลงอีกครั้งและกรนเหมือนกับหมูตาย
“…”
‘มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันเนี่ย?’
เขารีบปิดประตูเพื่อไม่ให้สภาพที่น่าอายของหัวหน้าอาจารย์ประจำบ้านนักปราชญ์ถูกเปิดเผย
หลังจากที่ดาร์กยืนยันว่าศาสตราจารย์ลิลลี่เพิ่งหลับไป เขาก็พาเธอออกจากโต๊ะและวางลงบนโซฟาข้าง ๆ โต๊ะทำงาน
โชคดีที่ศาสตราจารย์ลิลลี่เป็นเพียงภูตน้อยที่บอบบาง มิฉะนั้น เขาอาจจะไม่สามารถขยับตัวเธอได้
ฟึ่บ!
มีบางอย่างหลุดออกจากมืออีกข้างของศาสตราจารย์ลิลลี่
ดาร์กก้มลงหยิบมันขึ้นมา มันเป็นการ์ดดอกไม้สวยงามซึ่งประดับด้วยดอกไม้สีคราม
‘แม่มดสีคราม?’
ความรักอันบริสุทธิ์และความเมตตากรุณา แม่มดสีครามผู้รักษาสัญญา
เมื่อเขาสัมผัสการ์ด ดอกไม้บนการ์ดจะเคลื่อนออกด้านข้าง และเผยให้เห็นบุคคลที่ปกคลุมไปด้วยดอกไม้ เป็นมนุษย์วัยรุ่นที่มีใบหน้ากลมและรอยยิ้มหวาน ๆ ราวกับภูต
‘นี่คือใคร?’
ดาร์กขมวดคิ้ว แต่รู้สึกว่าเขาไม่ควรดูความลับของคนอื่น จึงสอด [การ์ดดูดวงความรัก] กลับเข้าไปในมือของศาสตราจารย์ลิลลี่
จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อคลุมออกแล้วสวมให้ศาสตราจารย์
หลังจากนั้นเขาก็หันหลังออกจากห้องทำงาน พร้อมเริ่มการสอน!
…
มันเป็นเพียงการสอนแค่หนึ่งบทเรียนเท่านั้น
วิชาคณิตศาสตร์ในชั้นปีหนึ่งนั้นเรียบง่ายเสียจนน่ากลัว
แม้ว่าดาร์กจะไม่มีเวลาเตรียมการสอน แต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องเตรียมบทเรียนจริง ๆ
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือต้องเผชิญหน้ากับนักเรียนของทั้งสี่บ้านพร้อมกัน
เนื่องจากศาสตราจารย์โจนส์และศาสตราจารย์ลิลลี่ได้ปรับชั้นเรียน บ้านทั้งสี่จึงเรียนสองคาบด้วยกันในช่วงเช้า
เขาไม่ค่อยห่วงบ้านขุนนางและบ้านอัศวิน
แต่สำหรับนักเรียนของบ้านนักปราชญ์และบ้านคนเขลานั้น ดาร์กไม่รู้จักพวกเขาเลยจริง ๆ
โชคดีที่มันเป็นเพียงการสอนแค่บทเรียนเดียว
‘ฉันหวังว่าจะผ่านมันไปได้นะ’
‘แต่ฉันควรสอนอะไรพวกเขาดีล่ะ? หรือว่า… จะเป็นสมการเลขยกกำลังดีนะ?’
…
เสียงกริ่งดังขึ้น
ดาร์กเดินเข้ามาในห้องเรียนตอนนาทีสุดท้าย
เพราะเป็นห้องเรียนขนาดใหญ่ นักเรียนจากบ้านทั้งสี่จึงนั่งเรียงกันเป็นสี่แถว
เมื่อดาร์กเดินเข้ามาในห้องเรียน บรรยากาศภายในห้องเรียนก็เงียบแปลก ๆ
อาจเป็นเพราะไม่มีใครคิดว่าวันหนึ่งนักเรียนรุ่นเดียวกันจะไปยืนสอนพวกเขาอยู่บนโพเดียม
ดาร์กสัมผัสได้ถึงสายตาของนักเรียนในชั้นปีเดียวกัน แต่เขากลับไม่รู้สึกอึดอัดสักนิด
ในฐานะบุตรชายของดัชเชสเพียงคนเดียวในอาณาจักรและวัลคีรีซึ่งเป็นหนึ่งในดาบคู่ของอาณาจักร เขาจึงได้รับความสนใจมาตลอด
เพราะได้รับคำชมและคำเยินยอที่มากเกินไป ทั้งยังปล่อยตัวตามใจชอบจนบ่มเพาะนิสัยเลวร้ายขึ้นมา
แต่โชคดีที่มันไม่สายเกินไปที่จะแก้ไข
ดาร์กก้าวขึ้นไปบนแท่น
จากนั้นเขาก็ได้สัมผัสมุมมองพิเศษเฉพาะของศาสตราจารย์เคเซอร์ทันที!
“ปรากฏว่ามันไม่ง่ายสำหรับศาสตราจารย์เคเซอร์เลย”
มีอาจารย์สามคนในสถาบันที่สูงน้อยกว่าร้อยห้าสิบเซนติเมตร
แต่ศาสตราจารย์ลิลลี่และศาสตราจารย์ดีดี้ต่างก็เป็นภูตมีปีก จึงมักจะบินอยู่ในอากาศเสมอ
มีเพียงศาสตราจารย์เคเซอร์เท่านั้นที่ลำบากเป็นพิเศษ!
ดาร์กอายุสิบสองปีในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบเซนติเมตรแล้ว และเขาก็ดูไม่เตี้ยเลยตอนที่ยืนอยู่กับนักเรียนชั้นปีเดียวกัน
แต่ทันทีที่ดาร์กยืนอยู่บนแท่น เขารู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป
จากนั้นเขาก็มองลงมาและสังเกตว่ามีแท่นวางเท้าซ่อนอยู่ใต้โพเดียม!
…
ดาร์กที่จู่ ๆ ก็สูงขึ้นเล็กน้อย แนะนำตัวเองก่อน “สวัสดีทุกคน ผมคือดาร์ก เดม่อน เชื่อว่าน่าจะมีคนจำนวนน้อยที่ไม่รู้จักผม สรุปสั้น ๆ ก็คือผมจะสอนวิชานี้เป็นการชั่วคราว และถ้าอยากรู้อะไรถามก่อนได้เลย”
สำหรับคาบเรียนเก้าสิบนาที ดาร์กได้วางแผนที่จะใช้เวลาสองสามนาทีในการตอบคำถาม จากนั้นใช้เวลาหลายสิบนาทีพูดคุยเกี่ยวกับการบ้านที่สอนในชั้นเรียนที่แล้ว และสุดท้ายก็พูดถึงเนื้อหาบางส่วนที่ปีหนึ่งยังไม่ได้เรียน
อาจเป็นเพราะเขาหน้าตาดีพร้อมด้วยรอยยิ้ม บรรยากาศในห้องเรียนจึงผ่อนคลายลงมาก
เอ็มม่า มอร์ติสแห่งบ้านอัศวิน ยกมือขึ้น และดาร์กก็พยักหน้าให้เธอ
เอ็มม่าถามทันที “ศาสตราจารย์ลิลลี่ไปไหน? ทำไมเธอถึงมาสอนไม่ได้?”
แน่นอน นักเรียนทุกคนต้องการทราบคำตอบของคำถามนี้ และเกิดความโกลาหลในชั้นเรียนขึ้นเล็กน้อยด้วยเหตุนี้
ดาร์กอดยิ้มไม่ได้ “เมื่อคืนนี้ ศาสตราจารย์ลิลลี่ได้ศึกษาเกี่ยวกับปีศาจของลาปลาซ เธอเพิ่งหลับไปไม่นานเพราะความอ่อนเพลีย”
เอ็มม่าถามด้วยความสงสัยอีก “ปีศาจของลาปลาซคืออะไร?”
ดาร์กตอบ “สัตว์วิเศษชนิดหนึ่ง”
เอ็มม่านั่งลงอย่างสงสัย
นักเรียนใหม่อีกคนจากบ้านนักปราชญ์ยกมือขึ้นทันที
ดาร์กพูดว่า “นักเรียนจากบ้านนักปราชญ์ คุณมีคำถามอะไรไหม?”
นักเรียนใหม่พูดอย่างฉุนเฉียว “ทำไมนายถึงยืนบนโพเดียมได้?”
ดาร์กตอบว่า “เพราะผมเคยแก้การบ้านให้คุณ”
สีหน้าของเด็กชายคนนั้นแข็งทื่อทันที และเขาก็นั่งลงอย่างเชื่องช้า
จากนั้น นักเรียนหลายคนยกมือขึ้นเพื่อถามคำถาม
นักเรียนส่วนใหญ่ของบ้านนักปราชญ์รู้สึกไม่พอใจ ในขณะที่นักเรียนของบ้านอัศวินดูไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ ส่วนนักเรียนของบ้านคนเขลาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก แต่นักเรียนของบ้านขุนนางกลับรู้สึกภูมิใจผิดกับสามบ้านที่เหลือ
ดาร์กเพียงเหลือบมองไปรอบ ๆ และสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ มากมายจากเพื่อนนักเรียน
นักเรียนของบ้านขุนนางใช้โอกาสนี้เพื่อเยาะเย้ยบ้านอัศวิน
ดาร์กกำลังคิดที่จะเตือนพวกเขา แต่ก็เห็นโรเบิร์ตยกมือขึ้นเสียก่อน
“โรเบิร์ต บร็อกไฮม์ เชิญ”
โรเบิร์ตยืนขึ้นและถามคำถามที่เขาสนใจมากที่สุด “ขอโทษนะ แต่คะแนนสำหรับวิชานี้ยังนับอยู่ไหม?”