เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1017 แผนการลึกล้ำ

แปลโดย iPAT

 

ในภาพขนาดใหญ่

 

“สีเขียว รีบไป!” สีเหลืองคว้าแขนสีเขียวและส่งเขาออกไป

 

“ไม่ ข้าไม่ไป! มันยังช่วยมันได้ วิญญาณทารกอมตะยังมีชีวิต!” สีเขียวกรีดร้อง “ปล่อยข้า มันคืองานวิจัยทั้งชีวิตของข้า!”

 

“เจ้าคิดว่าการระเบิดครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุงั้นหรือ? ดูทรัพยากรอมตะระดับแปดที่เหลืออยู่ ดูพวกมันให้ดี!” สีเหลืองตะโกน

 

ร่างของสีเขียวสั่นสะท้านขึ้น เมื่อเขาตระหนักถึงบางสิ่ง หน้าผากของเขาก็ปกคลุมไปด้วยเหงื่ออันเย็นเยียบ เขากล่าวด้วยความหวาดกลัว “ทรัพยากรอมตะเหล่านี้เต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์ แม้จะอยู่ในค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่และซ่อนอยู่ในโลกใต้บาดาลของภาคเหนือ มันก็ยังถูกค้นพบงั้นหรือ?”

 

“มีเพียงปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์เท่านั้นที่สามารถหลบหนีจากเจตจำนงสวรรค์ เป็นเรื่องปกติที่พวกเราจะถูกค้นพบ ไม่จำเป็นต้องท้อใจ พวกเราจะพยายามใหม่คราวหน้า” สีเหลืองปลอบใจ

 

สีเขียวกลายเป็นพูดไม่ออกแต่กวาดตามองไปรอบๆ

 

…..

 

“ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วว่าการอนุมานของเจ้าผิดพลาด ข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมรดกของเทพปีศาจบัวแดง” ผู้อมตะต้าหลี่กล่าวอย่างหมดหนทาง

 

ฝ่ายตรงข้ามเป็นกลุ่มผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ร่างกายปกคลุมไปด้วยกลุ่มเมฆหมอกและเผยให้เห็นเพียงรอยสักรูปดอกบัวสีแดงกลางหน้าผากเท่านั้น

 

พวกเขาเผยรอยยิ้มเย็น “ข้าใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจากมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงในการอนุมาน แล้วมันจะผิดได้อย่างไร? มรดกที่แท้จริงอีกชิ้นของเทพปีศาจบัวแดงอยู่กับเจ้า”

 

ต้าหลี่เงียบก่อนจะเปิดปากกล่าว “ไม่มีสิ่งใดต้องพูดคุยอีกต่อไป มาสู้กันเถอะ”

 

หลังกล่าวจบคำ เขาทะยานร่างออกไปทันที

 

“ในที่สุดเจ้าก็หยุดบ่ายเบี่ยง” ผู้อมตะลึกลับเต็มไปด้วยเจตจำนงแห่งการต่อสู้

 

หลังการต่อสู้อันยาวนาน

 

ผู้อมตะต้าหลี่ไม่สามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้าม เขาถูกปราบปรามโดยคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล

 

…..

 

ในที่สุดหมื่นภัยพิบัติอากาศสดใสก็จบสิ้นลง

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่ได้ต่อต้าน นั่นทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ร่างของเขาหดเล็กลงเกือบหนึ่งในสามส่วน

 

เมฆสีเทาหายไปครึ่งหนึ่งแล้ว แต่นั่นหมายความว่ามันยังเหลืออีกครั้งหนึ่ง

 

อย่างไรก็ตามหมื่นภัยพิบัติต่อไปกลับเริ่มปรากฏขึ้น มันกำลังรวมตัวกันอยู่เหนือศีรษะของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ดูเหมือนตราบเท่าที่เทพปีศาจจิตวิญญาณยังคงอยู่ สวรรค์จะไม่ยอมปล่อยเขาไป

 

หมื่นภัยพิบัติ น้ำมันพิษ!

 

หยดน้ำมันสีดำร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า

 

มันราวกับน้ำเดือดที่กัดกร่อนร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณและสร้างควันลอยขึ้นสู่อากาศ น้ำมันพิษไหลเข้าสู่บาดแผลของเขาและกัดกร่อนจากภายใน

 

ฝนน้ำมันพิษทำให้ร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณเริ่มเน่าเปื่อยผุพังในอัตราเร็วที่สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า

 

แต่เขากลับไม่ตอบโต้

 

อิงอู๋เซี่ยที่อยู่ด้านล่างรู้สึกกังวล

 

เขาต้องการกรีดร้อง แต่หากเขาคิดมากเกินไป เขาจะถูกคุกปฐพีดูดลงไปมากกว่านี้

 

“เหตุใดพวกเจ้าทำตัวเช่นนี้?” อิงอู๋เซี่ยมองโป้ชิง

 

ตั้งแต่เริ่มต้นผีดิบอมตะโป้ชิงยังไม่ขยับเขยื้อนราวกับเขาได้ตายไปแล้ว

 

โชคดีที่พวกเขาอยู่ใต้เท้าของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ร่างกายที่ใหญ่โตของเทพปีศาจจิตวิญญาณช่วยบังฝนน้ำมันพิษให้กับพวกเขา

 

ห่างออกไปไกลมาก

 

ไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิงกำลังหลบหนี

 

มีกลุ่มผู้อมตะภาคใต้กำลังไล่ล่าพวกเขามาจากด้านหลัง

 

ความเป็นอริศัตรูต่อผู้อมตะต่างถิ่นของผู้คนทั้งห้าภูมิภาคค่อนข้างรุนแรง กระทั่งในทะเลตะวันออกที่เปิดรับผู้อมตะต่างภูมิภาคมากที่สุดยังไม่ทำให้คนเหล่านี้มีช่วงเวลาที่ง่ายดาย พวกเขามักถูกรังแกและกดขี่โดยผู้อมตะเจ้าถิ่นเสมอ

 

ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ หลังจากไห่ลั่วหลันเกือบสังหารผู้อมตะภาคใต้คนหนึ่ง สถานการณ์จึงดำเนินไปถึงจุดที่ไม่สามารถควบคุม

 

ผู้อมตะภาคใต้พุ่งเข้าโจมตีไห่ลั่วหลันด้วยความโกรธ

 

นอกจากนี้พวกเขายังเรียกกำลังเสริม

 

ไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิงไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีตั้งแต่แรก พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก่อนแล้ว พวกเขาต่อสู้และล่าถอย ภายใต้การเคลื่อนไหวนี้ พวกเขาจึงออกห่างจากภูเขาอี้เทียนมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ไม่ว่าความทะเยอทะยานของไห่ลั่วหลันจะยิ่งใหญ่เพียงใด นางก็ไม่กล้าเข้าใกล้ภูเขาอี้เทียนอีก

 

ที่นั่นไม่ใช่สถานที่สำหรับผู้อมตะระดับหก

 

ไม่ใช่สำหรับผู้อมตะระดับเจ็ดเช่นกัน สำหรับผู้อมตะระดับแปด พวกเขาเป็นได้เพียงตัวละครรอง

 

หลังจากทั้งหมดที่นั่นเป็นสนามรบของเทพปีศาจจิตวิญญาณกับสวรรค์!

 

หมื่นภัยพิบัติน้ำมันพิษหยุดลงแล้ว ตอนนี้เทพปีศาจจิตวิญญาณถูกโอบล้อมไปด้วยอีกภัยพิบัติหนึ่ง

 

หมื่นภัยพิบัตินี้ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์

 

มันไร้รูปร่างและปราศจากตัวตน มีเพียงกลิ่นอายลึกลับที่ลอยอบอวลอยู่รอบๆเท่านั้น

 

กลิ่นอายลึกลับทำให้ร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณเกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ขณะเดียวกันในเมฆสีเทายังมีภาพอื่นปรากฏขึ้น

 

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อไอออกมาเป็นเลือดหลังจากใช้วิญญาณเผยความลับสวรรค์ เขาพึมพำ “ดังนั้นฟางหยวนก็มีวิญญาณกาลเวลา ไม่แปลกใจเลยที่เขาสามารถหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะและเดินทางไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูของภาคกลาง จากนั้นเขายังเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือและเป็นเหตุให้วังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงพังทลายลง”

 

“เนื่องจากเขาเป็นปีศาจต่างโลกที่ครอบครองวิญญาณกาลเวลา เขาจึงรอดพ้นจากชะตากรรม ฮ่าฮ่า นี่อาจเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการต่อต้านสวรรค์ ข้าจะช่วยปกปิดร่องรอยของเจ้ากับไท่เป่ยหยุนเฉิงเพื่อไม่ให้ผู้อมตะคนอื่นอนุมานเกี่ยวกับพวกเจ้า”

 

…..

 

ฉินไป่เฉิงลอบมองค้างคาวมรณะและภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอยู่ห่างๆ

 

นี่เป็นช่วงเวลาที่ตงฟางชางฟานกำลังดำเนินการยึดครองร่าง

 

“ตงฟางชางฟานใช้วิธียึดครองร่างแต่ร่างหลักของเขาถูกค้นพบโดยเจตจำนงสวรรค์ส่งผลให้เขาพบภัยพิบัติที่รุนแรง เมื่อร่างหลักของเราพยายามฟื้นคืนสู่ชีวิต เขาจะพบกับภัยพิบัติที่รุนแรงกว่านี้”

 

ผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์พยักหน้าอยู่ด้านข้าง “พวกเราควรจากไปได้แล้ว การทดสอบเจตจำนงสวรรค์สิ้นสุดลงแล้ว แต่เหตุใดฉูหลงยังไม่กลับมา?”

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เทพธิดาเจียงหยูปรากฏตัวขึ้นด้วยการแสดงออกที่ไม่ดีนัก “ฉูหลงตายแล้ว ภารกิจยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะกระท่อมฟางล้มเหลว”

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ฉินไป่เฉิงถาม “ฉูหลงเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งไฟและยังมีความสำเร็จระดับปรมาจารย์เอก”

 

“มันเป็นเพราะผู้สืบทอดของปีศาจอมตะกระท่อมฟาง” เทพธิดาเจียงหยูตอบ “คนผู้นี้ปกปิดตัวตนไว้ลึกมาก ข้าแทบไม่สามารถกลับมาเช่นกัน”

 

“ปีศาจอมตะกระท่อมฟาง…ฮืม ลืมมันไปซะ เราจะยอมแพ้ในครั้งนี้ ก่อนแผนการใหญ่จะเริ่มขึ้น เราไม่สามารถเปิดเผยตัวตนเพื่อคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้และทำให้เจตจำนงสวรรค์มีโอกาสโจมตีพวกเรา” ฉินไป่เฉิงคิดก่อนกล่าว

 

…..

 

หุบเขาเหล่าโป

 

สมาชิกนิกายเงากำลังเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้อมตะจากภาคกลาง

 

ฉินไป่เฉิงมองฟงจิวเก้อและถอนหายใจ “เจตจำนงสวรรค์มาถึงที่นี่แล้ว เพื่อปกป้องฟางหยวน ม่านเยี่ยนซื่อช่วยปกปิดร่องรอยให้เขาแต่กลับนำกลุ่มผู้อมตะภาคกลางมาที่นี่”

 

“พวกเราจะทำอย่างไร?” เทพธิดาเจียงหยูถาม

 

“เราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องต่อสู้” ฉินไป่เฉิงกัดฟันกล่าว

 

…..

 

“แค่ก แค่ก แค่ก” ม่านเยี่ยนซื่อไออย่างต่อเนื่อง เขาดูอ่อนเพลียราวกับกำลังจะขาดใจตาย

 

“ข้าใช้วิญญาณเผยความลับสวรรค์โดยแลกกับอายุขัยหนึ่งร้อยปี แต่มันก็คุ้มค่า ข้าอนุมานได้ว่าวิญญาณกาลเวลาอยู่ในสภาพที่ไม่ดีนัก มันถูกใช้ไปแล้ว”

 

“ฟางหยวนไปที่ภูเขาอี้เทียนก่อนเวลา เห็นได้ชัดว่าเขารู้อนาคต ข้าสามารถสรุปได้ว่าร่างหลักของเราล้มเหลวไปแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงใช้มรดกของเทพปีศาจบัวแดงช่วยส่งฟางหยวนไปกำเนิดใหม่ในอดีตเพื่อเปลี่ยนอนาคต โชคดีที่วิญญาณกาลเวลาเป็นวิญญาณอมตะระดับหกเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดต้องกลัว”

 

“ในกรณีนี้ฟางหยวนเป็นตัวชี้วัดที่ดีที่สุด เมื่อมองเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น ข้าจะสามารถแก้ไขแผนการ”

 

“การค้นวิญญาณของเขาเป็นเรื่องง่ายแต่มันจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์หรือไม่?”

 

…..

 

“ตามแผนการของข้า โป้ชิงกับเทพเจ็ดดาราสามารถเหนี่ยวรั้งวังสวรรค์ ผลลัพธ์นี้ดีกว่าครั้งก่อนหน้า”

 

ม่านเยี่ยนซื่อนั่งอยู่ในศาลาหินและมองไปยังกลุ่มเมฆหมอกด้านหน้า

 

“ด้านกองกำลังพันธมิตรผีดิบ พวกเขาเตรียมตัวพร้อมแล้วและสามารถเป็นกำลังเสริม มันจะดีที่สุดหากสามารถเก็บพวกเขาเอาไว้ เห้อ…ข้าหวังว่าเราจะไม่ต้องใช้พวกเขา”

 

“ตอนนี้ข้าเหลืออายุขัยเพียงยี่สิบปีก่อนตาย มันเป็นธรรมชาติที่ร่างแยกจะกลับไปรวมกับร่างหลัก แต่ก่อนตายข้าควรช่วยร่างหลักอนุมานภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น”

 

ครู่ต่อมา

 

“แค่ก แค่ก แค่ก ข้ายังไม่ตายงั้นหรือ? นี่หมายความว่าข้าสามารถอนุมานภัยพิบัติทั้งหมด? ไม่ มันเป็นเพราะผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายเงาทั้งหมดที่ช่วยกันอนุมานมาจากรุ่นสู่รุ่น”

 

“ฮ่าฮ่า ช่างน่าขันนัก ด้วยการใช้วิญญาณเผยความลับสวรรค์เป็นแกนหลักของท่าไม้ตายอมตะ พวกเราสามารถอนุมานเนื้อหาสำคัญของภัยพิบัติทั้งหมดจริงๆ แต่วิญญาณอมตะดวงนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะสวรรค์พิภพ เขาพยายามกำจัดอิทธิพลของร่างหลักแต่ผู้ใดจะคิดว่าหลังจากเขาตาย เขาจะช่วยเหลือพวกเราได้มากถึงเพียงนี้”

 

…..

 

เห็นเหตุการณ์เหล่านี้ ผู้อมตะวังสวรรค์ตกใจมาก

 

ปรากฏว่านิกายเงาอนุมานภัยพิบัติทั้งหมดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่เคลื่อนไหวงั้นหรือ?

 

หมื่นภัยพิบัติลึกลับผ่านไป หมื่นภัยพิบัติใหม่ลงมา

 

หมื่นภัยพิบัติ เถาวัลย์มังกร!”

 

เถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งลงมาจากท้องฟ้าและเกี่ยวพันร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณเอาไว้

 

ในที่สุดมันก็กลายเป็นกรงเถาวลัย์กักขังเทพปีศาจจิตวิญญาณเอาไว้ภายใน

 

พวกมันแทงเข้าไปในร่างกายของเทพปีศาจจิตวิญญาณและดูดกลืนจิตวิญญาณของเขาเพื่อเป็นสารอาหารหล่อเลี้ยงตัวมันเอง

 

“มีบางสิ่งผิดปกต!”

 

“เขาทำเช่นนี้เพราะมีวัตถุประสงค์บางอย่าง ดูที่ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา!”

 

ผู้อมตะวังสวรรค์มองไปรอบๆและเริ่มตระหนักถึงบางสิ่ง

 

เนื่องจากนิกายเงาสามารถอนุมานภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะเตรียมตัวรับมือกับพวกมันเอาไว้แล้ว

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่ได้ต่อต้านภัยพิบัติเพราะเขาพยายามหล่อเลี้ยงค่ายกลวิญญาณด้วยจิตวิญญาณของเขาเอง

 

“เขาพยายามหลอมรวมสิ่งใด? เขากระทั่งใช้ตนเองเป็นวัสดุในการหลอมรวม!”

 

“ไม่เพียงเท่านั้น เขายังใช้พลังงานแห่งเต๋าจากภัยพิบัติให้เป็นประโยชน์อีกด้วย!”

 

ผู้อมตะวังสวรรค์อ้าปากค้างเมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่เพียงเสียสละตนเองแต่เขายังใช้พลังอำนาจของภัยพิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมาย

 

แต่เป้าหมายของเขาคือสิ่งใด?

 

ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาบรรลุถึงขั้นตอนสุดท้าย ภายในกลุ่มก้อนเมฆสีดำมีแสงสว่างส่องประกายขึ้น

 

หัวใจของเจ้าวังสวรรค์จมดิ่งลง

 

เขากล่าวด้วยความเคร่งเครียด “เราไม่สามารถปล่อยให้เหตุการณ์นี้ดำเนินต่อไป เราต้องทำลายแผนการของเขา ไม่ว่าเขากำลังหลอมรวมสิ่งใด เราก็ต้องทำลายมัน!”

 

“แต่เราไม่สามารถเคลื่อนไหว”

 

“ไม่ พวกเรายังมีโอกาส นี่เป็นบางสิ่งที่เจ้าวังสวรรค์ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ข้อมูลนี้ถูกวิจัยและเก็บเป็นความลับมาตลอด” เจ้าวังกล่าว

 

ผู้อมตะวังสวรรค์รู้สึกดีใจและประหลาดใจ “แล้วเหตุใดท่านไม่ใช้มัน!?”

 

เจ้าวังเผยรอยยิ้มขมขื่นก่อนจะบอกราคาของมัน

 

เมื่อได้ยินเรื่องนี้ กลุ่มผู้อมตะวังสวรรค์กลายเป็นเงียบงัน