ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 153
นางมีแผลเป็นบนใบหน้าและบนร่างกายก็มีด้วยเช่นกัน ตอนที่นางกระโดดลงจากหน้าผา ถึงแม้ว่าจะตกลงบนพื้นราบชั้นแรก แต่นางก็ไม่สามารถทรงตัวได้ และได้กลิ้งลงมาที่พื้นราบถัดไปแล้วจากนั้นนางก็รีบซ่อนตัวที่หินที่ยื่นออกมาด้านล่างอย่างรวดเร็ว
รอจนองครักษ์ทั้งสองจากไป นางถึงกล้าที่จะปรากฏตัวออกมา โชคดีที่ตรงนั้นมีแสงแดดสาดส่องมา จนทำให้นางสามารถแก้เชือกได้อย่างราบรื่น และรอจนถึงเซียวท่ามาช่วยได้
“เจ็บไหม?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง ด้วยความสุขุมนุ่มลึกที่มีสเน่ห์น่าหลงใหล นัยน์สีดำของเขาราวกับบ่อน้ำลึกสองบ่อ สะท้อนให้เห็นถึงรูปลักษณ์ของนาง
จื่ออานส่ายหัว “ไม่!” อันที่จริงมันก็ไม่เจ็บจริง ๆ คนที่เคยอยู่ในหน่วยสืบราชการลับจะถูกบาดแผลตื้น ๆ ทำให้ล้มลงได้อย่างไรกัน?
นิ้วของมู่หรงเจี๋ยแตะลงไปบนแผลที่ค่อนข้างใหญ่ที่คอของนาง ปลายนิ้วแทบไม่มีอุณหภูมิ เย็นและสั่นเล็กน้อยของเขา เขาใช้กำลังทั้งหมดของร่างกายเพื่อยกมือขึ้นมา
จื่ออานจับมือเขาแล้ววางลงอย่างนุ่มนวล พลางพูดว่า “ท่านอ๋องฟื้นขึ้นมาได้นั้น ช่างดียิ่งกว่าสิ่งอื่นใด มีอีกหลายคนที่เป็นห่วงพระองค์นะเพคะ”
มุมปากของมู่หรงเจี๋ยโค้งขึ้นเล็กน้อย และมีรอยยิ้มที่อ่อนโยน ทว่าความเหน็บหนาวในดวงตาของเขาก็ค่อย ๆ แน่นขึ้น “มีหลายคนที่เป็นห่วงข้า?”
เหมือนว่าเขากำลังถาม แต่ก็ดูเหมือนเขากำลังประชดประชันอยู่เช่นกัน
จื่ออานชำเลืองมองเขาอย่างสงสัยและเห็นว่าเขาค่อย ๆ หลับตาลง ดังนั้นนางจึงไม่ถามอีก และเอื้อมมือไปตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของเขา และเขาก็ยังมีไข้อยู่
“ข้าจะช่วยท่านจัดการกับบาดแผลอีกครั้ง ท่านอดทนต่อความเจ็บปวดสักหน่อยนะเพคะ” จื่ออานปลดกระดุมเสื้อผ้าของเขาแล้วกล่าวเบา ๆ
มู่หรงเจี๋ยก็ลืมตาขึ้นมาทันที “สองวันมานี้ มีคนที่สร้างความลำบากให้เจ้าหรือไม่?”
มือของจื่ออานไม่ได้หยุดลง และดวงตาของนางก็ไม่ได้เหลือบมองขึ้นไป “ไม่”
มู่หรงเจี๋ยกล่าวเสียงเข้ม “แล้วอาการบาดเจ็บทั้งเนื้อทั้งตัวของเจ้าได้มายังไง?”
“ข้าถูกสุนัขไล่แล้วก็ล้มลง!”
“…”
เซียวท่าเข้ามาพร้อมกับอาหาร และเมื่อเห็นมู่หรงเจี๋ยฟื้นขึ้นมา เขาก็รีบวางอาหารลงบนโต๊ะแล้วเดินเข้ามา “ท่านฟื้นแล้ว?”
เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ตอนที่พาท่านอ๋องออกมา ร่างกายของเขาเย็นราวกับคนที่ตายไปแล้ว
วันนี้ที่เจอตัวเซี่ยจื่ออาน นางขอร้องเขาว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องพาท่านอ๋องออกมาให้ได้ ไม่อาจปล่อยให้อยู่ในจวนนั้น
เขาหาสถานที่ดี ๆ ก่อนอันดับแรก จากนั้นก็เข้าไปในเมืองหาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไว้ใจได้ จากนั้นจึงติดต่อกับองครักษ์ของมู่หรงเจี๋ยให้จัดการเรื่องนี้ให้ ด้วยวิธีนี้ในระหว่างที่จวนอ๋องกำลังโกลาหลวุ่นวาย มู่หรงเจี๋ยก็ถูกเขาพาตัวออกมาได้
“ข้าไม่ตาย เจ้ารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยใช่ไหม?” มู่หรงเจี๋ยหรี่ตามองเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เซียวท่าพยักหน้า “ใช่ ข้าผิดหวังเล็กน้อย แต่เพียงแค่ผิดหวังที่คนอย่างท่านถูกเหลียงไท่ฟู่ทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสได้เช่นนี้!”
มือของจื่ออานหยุดชั่วคราว เหลียงไท่ฟู่? ไม่ใช่อ๋องเหลียง? เช่นนั้นแล้วก่อนหน้านี้นางเข้าใจอ๋องเหลียงผิดน่ะสิ…
ดีมาก คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด นางยกโทษให้ตัวเอง
มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างเฉยเมย “เดินย่ำในยามค่ำคืน ย่อมจะต้องเจอภูติผีปีศาจ ต้องโทษที่ข้าคนนี้ประเมินเขาต่ำเกินไป”
เมื่อเขาพูดประโยคนี้ ฟังดูเมินเฉยเมยแปลก ๆ เซียวท่าสัมผัสไม่ได้ ทว่าจื่ออานกลับสัมผัสได้
แผลยังคงอักเสบอยู่ และผงยาก่อนหน้านี้ได้ถูกชะล้างออกไปแล้ว โชคดีที่จื่ออานใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดออกให้ก่อนเล็กน้อยแล้ว
หลังจากฆ่าเชื้อและทายาลงไปใหม่อีกครั้งแล้ว จื่ออานก็เริ่มศึกษาผงยาบนผ้าเช็ดหน้า
ผงยานี้มีความละเอียดมากและมีกลิ่นคล้ายโสมซานน่าจะมีส่วนผสมของโสมซานซี ซึ่งโสมนี้เป็นยามีประสิทธิภาพในการรักษาบาดแผล แต่ไม่ได้ใช้โรยบนบาดแผล แต่ใช้กินโดยตรง
“เจ้าทำอะไรอยู่? กินข้าวก่อนแล้วค่อยทำสิ” เซียวท่าเห็นนางจดจ่ออยู่กับผ้าเช็ดหน้าที่ใต้ตะเกียง ก็เลยเข้ามาบอกกล่าว
จื่ออานกล่าว ” นี่คือผงแป้งที่ก่อนหน้านี้ข้าได้เช็ดออกมาจากบาดแผลของท่านอ๋อง ข้าสงสัยว่าผงแป้งชนิดนี้นี่แหละที่ทำให้บาดแผลของท่านอ๋องอักเสบและบาดเจ็บหนักขึ้น”