ตอนที่ 605 การมีอยู่ของกู้เหยียนอวี๋ / ตอนที่ 606 มาเริ่มต้นกันใหม่

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 605 การมีอยู่ของกู้เหยียนอวี๋ 

 

 

แต่เธอทนไม่ได้จริงๆ กู้เชินแบ่งหุ้นของบริษัทออกเป็นสองส่วนและเหลือครึ่งหนึ่งให้กับกู้เหยียนอวี๋ หาก กู้เหยียนอวี๋ไม่กลับมาเงินจะสูญไปเพื่อการกุศลในอนาคต 

 

 

แม้ภายนอกของกู้ซูหลิงจะยินดีแต่อันที่จริงโกรธมาก 

 

 

อสังหาริมทรัพย์จะไปสู้หุ้นส่วนในกู้กรุ๊ปได้อย่างไร 

 

 

แน่นอนว่าจูอวี้ลู่กับกู้ซูหลิงไม่ยินยอม ในใจของพวกเธอกู้เหยียนอวี๋ได้ตายไปแล้วและจะไม่ปล่อยให้กู้เชินเอาทรัพย์สินอีกครึ่งหนึ่งไปบริจาค 

 

 

ดังนั้นพวกเธอจึงหาผู้หญิงคนหนึ่งมาปลอมตัวเป็นกู้เหยียนอวี๋เพื่อหวังว่ากู้เชินจะเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในพินัยกรรมได้ 

 

 

จูอวี้ลู่เอ่ยถาม “ลูกก็เลยยืมกู้เหยียนอวี๋มาแยกฟังจือหันกับอวี๋กานกานใช่ไหม” 

 

 

กู้ซูหลิงตอบ “หนูไม่เชื่อว่าฟังจือหันจะไม่เหลือความรู้สึกให้กู้เหยียนอวี๋จริงๆ ตอนนี้เขาแสร้งทำเป็นไม่สนใจและหลีกเลี่ยงเพราะยังรู้สึกผิดในใจ คิดว่าเขาไม่ได้รอกู้เหยียนอวี๋ ทั้งยังคบกับผู้หญิงคนอื่นอีก เขาเป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบคนหนึ่ง คงไม่สามารถเลิกกับอวี๋กานกานได้ทันทีเมื่อกู้เหยียนอวี๋กลับมา เขาก็เลยทำเป็นไม่รู้เรื่อง ประจวบเหมาะกับที่หนูให้ ‘กู้เหยียนอวี๋’ แกล้งความจำเสื่อม นี่จึงเป็นโอกาสให้ฟังจือหันหลบเลี่ยงได้” 

 

 

“ถ้าหาก ‘กู้เหยียนอวี๋’ ไปหาเขา ถึงจะพูดเรื่องความรู้สึกในตอนนั้น หนูมั่นใจว่าเขาจะไม่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกแน่นอนค่ะ” 

 

 

“ใช่!” กู้ซูหลิงหัวเราะอย่างเยือกเย็นแล้วพูดต่อ “ต่อให้ฟังจือหันจะไม่กลับไปคบกับกู้เหยียนอวี๋อีก แต่ความรู้สึกระหว่างเขาในตอนนั้นดีขนาดนั้น ฟังจือหันไม่มีทางไม่สนใจ ‘กู้เหยียนอวี๋’ ถึงจะเป็นแค่เพื่อนกัน แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาในเมื่อก่อน อวี๋กานกานจะยอมรับได้ด้วยเหรอคะ ตราบใดที่เธอรักผู้ชายคนนี้อย่างลึกซึ้งก็เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้ผู้ชายที่เธอชอบไปมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับรักวัยเด็กของเขาหรอกค่ะ” 

 

 

จูอวี้ลู่นิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “หลิงหลิง ลูกขาดฟังจือหันไม่ได้จริงๆ เหรอ” 

 

 

กู้ซูหลิงพยักหน้าหนักแน่น “แม่คะ หนูชอบฟังจือหันจริงๆ เห็นเขาครั้งแรกก็ตกหลุมรักแล้ว ตั้งแต่นั้นมาหนูก็ชอบและคิดถึงหลายปีขนาดนี้ หนูไม่ได้เรียกร้องอะไร หนูแค่อยากอยู่ด้วยกันกับเขา อยากแต่งงานแค่กับเขาจะให้หนูทำอะไรก็ยอมทั้งนั้น” 

 

 

จูอวี้ลู่ลังเล “แต่ว่า…” 

 

 

กู้ซูหลิงเอ่ยขัดคำพูดของเธอ “แม่ คนอื่นไม่เข้าใจหนู แต่หนูเชื่อว่าแม่ต้องเข้าใจ ถึงยังไงแม่ก็เคยบอกหนูเองว่าชอบคุณพ่อมาโดยตลอด ไม่เคยยอมแพ้สักครั้ง ตอนนี้ถึงได้แต่งงานกับเขาและมีความสุขสวยงามแบบนี้” 

 

 

จูอวี้ลู่เผยรอยยิ้มเจือจาง “ก็ได้ แม่สนับสนุนลูกนะ” 

 

 

กู้ซูหลิงรีบกอดอ้อนจูอวี้ลู่ “แม่คะ หนูรักแม่ที่สุดเลย” 

 

 

… 

 

 

อวี๋กานกานไม่ได้ไปที่สมาคมยาไป่ฟางมานานแล้วตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุที่ห้องปฏิบัติการชั้นบนสุดของสมาคมยาไป่ฟางในวันนั้น ส่วนวันนี้มีการสกัดที่สำคัญในห้องปฏิบัติการที่อวี๋กานกานต้องเข้าร่วม 

 

 

เธอยังคงมีความกลัวในใจไม่มากก็น้อย เพราะเหตุการณ์วันนั้นน่าหวาดผวาจริงๆ 

 

 

ตอนนี้มาคิดๆ ดูยังกลัวอยู่บ้าง หลังจากเสร็จสิ้นอวี๋กานกานไม่ต้องการอยู่ในห้องทดลองและเดินตรงไปชั้นล่างเพื่อหาฟังจือหัน 

 

 

เดิมทีอวี๋กานกานอยากสร้างความประหลาดใจให้ฟังจือหัน 

 

 

แต่ว่าฟังจือหันดันไม่ได้อยู่ในห้องทำงาน ชายหน้าตาหล่อเหลาเดินเร่งรีบมาจากห้องประชุม เขาน่าจะรู้จักอวี๋กานกาน เขาถึงกับผงะเมื่อเห็นอวี๋กานกานก็ทักทายเขาทันที “คุณอวี๋ ท่านประธานหันกำลังประชุมอยู่ คุณสามารถรอเขาสักครู่ในห้องทำงานได้นะครับ”  

 

 

  

 

 

  

 

 

ตอนที่ 606 มาเริ่มต้นกันใหม่ 

 

 

ห้องทำงานของฟังจือหันกว้างมากครึ่งหนึ่งของชั้นทั้งหมดเป็นพื้นที่ห้องทำงานของเขา 

 

 

ผู้ช่วยพาอวี๋กานกานเข้ามาในห้องทำงาน ทั้งยังเทน้ำผลไม้วางบนโต๊ะให้หนึ่งแก้ว “คุณอวี๋โปรดรอสักครู่นะครับ การประชุมน่าจะใช้เวลาครึ่งชั่วโมงถึงจะเสร็จ” 

 

 

“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” 

 

 

หลังจากผู้ช่วยออกไป อวี๋กานกานก็นั่งอยู่ที่เก้าอี้หนังด้านหลังในห้องทำงานของฟังจือหันและเดินวนไปมาอย่างสบายอารมณ์ 

 

 

โต๊ะทำงานของฟังจือหันนอกจากเครื่องใช้สำนักงานแล้วยังมีกรอบรูปอีกด้วย 

 

 

มันเป็นรูปถ่ายของอวี๋กานกานและฟังจือหันในงานหมั้นวันนั้นตอนที่กำลังเต้นรำด้วยกัน พวกเขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนถ่ายรูปให้ 

 

 

ตอนที่ทั้งสองกำลังหมุนตัว ฟังจือหันโอบเอวอวี๋กานกานเอาไว้แล้วค่อยๆ ขยับไปข้างหน้าในอ้อมแขนของเขาจากนั้นมองหน้ากันอย่างรักใคร่ลึกซึ้ง 

 

 

ในขณะที่อวี๋กานกานกำลังดูรูปถ่ายอยู่นั้นประตูห้องก็ถูกดันเข้ามา 

 

 

ชายหนุ่มร่างสูงตระหง่านเดินเข้ามาอย่างสง่างาม 

 

 

อวี๋กานกานวางกรอบรูปลงแล้วตบโต๊ะขมวดคิ้วมุ่น “นี่…คุณเป็นใคร เข้ามาทำไมไม่เคาะประตู หรือว่าไม่รู้ว่านี่เป็นห้องทำงานประธานหันของเราคะ” 

 

 

ฟังจือหันยิ้มขำด้วยความเอ็นดู เมื่อเดินไปที่ด้านข้างของเธอและเอนตัวลงบนโต๊ะ ฝ่ามือใหญ่ก็กดแนบศีรษะของอวี๋กานกาน 

 

 

อวี๋กานกานเอนพิงเก้าอี้ช้อนสายตามองเขา “ไหนบอกครึ่งชั่วโมงก็ประชุมเสร็จไงคะ ทำไมถึงไวจัง” 

 

 

“ไม่ใช่ว่าคุณมานี่เหรอ” 

 

 

“สงสัยฉันคงมารบกวนคุณแล้ว” 

 

 

“แอบอู้งานได้พอดีเลย” 

 

 

“ว้าว นี่ฉันหูฝาดรึเปล่าได้ยินประธานหันบอกว่าแอบอู้งาน” 

 

 

“คุณยังติดล้อเล่นอยู่เรื่อย” 

 

 

ทั้งสองหยอกล้อเล่นกัน ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะของฟังจือหันก็ดังขึ้น นิ้วเรียวของชายหนุ่มกดปุ่มแฮนด์ฟรีบนโทรศัพท์ เสียงของหลินเซินก็ดังขึ้นจากปลายสาย “คุณชายหันครับ คุณหนูกู้มาขอพบคุณครับ” 

 

 

เมื่อได้ยินว่าคุณหนูกู้ ฟังจือหันและอวี๋กานกานต่างก็นึกว่าเป็นกู้ซูหลิง 

 

 

แน่นอนว่าฟังจือหันไม่ขอพบ 

 

 

หลินเซินหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น “นอกจากคุณหนูกู้ซูหลิงแล้วยังมีคุณหนู ‘กู้เหยียนอวี๋’ คุณ ‘กู้ 

 

 

เหยียนอวี๋’ เธอบอกว่าจำเรื่องราวทุกอย่างได้แล้ว บอกว่าเธอกับคุณ…ถึงอย่างไรตอนนี้ก็มาพบคุณแล้ว” 

 

 

น้ำเสียงของหลินเซินฟังดูแปลกๆ 

 

 

ดวงตาของฟังจือหันดำดิ่งลงเล็กน้อยและคำตอบก็เหมือนเดิม “ไม่พบ” 

 

 

พูดจบก็ตัดสายทันที 

 

 

อวี๋กานกานมองเขาด้วยแววตาลุ่มลึก “เพราะว่าฉันอยู่ที่นี่หรือเปล่าคะ คุณก็เลยไม่สะดวก” 

 

 

“เพราะไม่อยากเจอต่างหาก” 

 

 

“ทำไมถึงไม่อยากเจอล่ะคะ นี่เป็นรักแรกในตอนเด็กของคุณไม่ใช่เหรอ แล้วได้ยินมาว่าคุณตามหาเขามาโดยตลอด เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านตระกูลกู้ พวกคุณไม่ได้ทำความรู้จักกันใหม่เพราะเธอความจำเสื่อม หากจำได้แล้วก็จะตั้งใจมาหาคุณ ทำไมคุณถึงปฏิเสธให้เธออยู่ข้างนอกล่ะ หากเพราะฉันอยู่เลยไม่สะดวก ฉันไปห้องรับรองก่อนก็ได้หรือจะให้กลับไปก่อนดีคะ” ในขณะที่อวี๋กานกานพูดด้วยรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มกลับไม่ไปถึงดวงตา 

 

 

ฟังจือหันมองเธออย่างลึกซึ้ง 

 

 

ทันใดนั้นก็กดโทรศัพท์ รอหลินเซินรับสายจึงเอ่ยขึ้น “ให้เธอเข้ามา” 

 

 

เมื่อเสียงของฟังจือหันดังขึ้น อาจจะเป็นเพราะแฮนด์ฟรีเสียงผู้หญิงที่มีความสุขดังขึ้นจากปลายสายทันที “พี่หัน ฉันรู้ว่าพี่ไม่มีทางไม่ยอมฉัน” 

 

 

กู้ซูหลิงหันไปมองหลินเซิน “ถามหน่อยตอนนี้พวกเราเข้าไปได้หรือยัง” 

 

 

หลินเซินไม่ขัดขวางพวกเธออีกจึงหลีกทางให้เงียบๆ 

 

 

ในขณะที่กู้ซูหลิงและ ‘กู้เหยียนอวี๋’ กำลังจะเดินเข้าไปในห้องทำงาน กู้ซูหลิงจึงพูดเสียงเบาว่า “ทำไมเธอก็เรียกพี่หันด้วย ฉันบอกให้เธอเรียกพี่เจียงไม่ใช่เหรอ”