เซิ่งอี่เจ๋อมองดูเธออย่างสนใจ “เอ๋? เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
เขารู้ดีว่าอะไรๆ ไม่ได้ดูง่ายดายอย่างที่พวกเธอพูดมาเมื่อกี้นี้หรอก!
เจี่ยนซินเอ๋อร์รู้สึกเหิมเกริม จึงกลั่นกรองคำพูดอย่างระมัดระวังก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดออกมาในคราวเดียว “กัปตันอี่เจ๋อคะ พวกเราทุกคนน่ะรู้ว่ายัยร่านอันซย่าซย่าน่ะ พยายามยั่วยวนคุณ! พวกเราวางแผนจะสั่งสอนบทเรียนให้เธอ แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะทำร้ายเราจริงจังอย่างนี้ หล่อนร้ายกาจจริงๆ!”
เซิ่งอี่เจ๋อนิ่วหน้าไม่พูดอะไร
“เธอยั่วยวนฉัน?” เขาทวนแต่ละคำอย่างช้าๆ
“ใช่! ทั้งโรงเรียนน่ะพากันซุบซิบว่าเธอเป็นแฟนคุณ! พวกนั้นพากันพูดแบบนั้นได้ยังไงกัน! น่าขำสิ้นดี!” เจี่ยนซินเอ๋อร์แหวออกมาพร้อมร้อยยิ้มเยาะ
ทว่าประโยคต่อมาของเซิ่งอี่เจ๋อกลับทำให้เธอตะลึงอยู่กับที่ราวกับถูกไฟช็อต
น้ำเสียงเขาน่าฟังและเปี่ยมไปด้วยมนตร์เสน่ห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาพูดด้วยโทนเสียงต่ำ น้ำเสียงเขายิ่งฟังดูเย้ายวนขึ้นไปอีก
เซิ่งอี่เจ๋อตอบอย่างช้าๆ “ถ้าพวกเธอรู้ว่าเขาเป็นของฉัน แล้วไปยุ่งกับเขาทำไม”
อะไรนะ?!
เซิ่งอี่เจ๋อยอมรับอย่างชัดเจนว่าอันซย่าซย่าเป็นผู้หญิงของเขางั้นเหรอ
ร้อยล้านความรู้สึกแวบผ่านใบหน้าเจี่ยนซินเอ๋อร์ เธอดูเหมือนภาพวาดที่เปี่ยมไปด้วยสีสัน
ติงอีอีกลัวลนลาน เธอเพิ่งตระหนักว่าตัวเองอาจไปยั่วโมโหคนที่ไม่ควรยุ่งเสียแล้ว!
หลีชั่นซิงขมวดคิ้ว แอบชำเลืองมองดูเซิ่งอี่เจ๋อ
“ฉันไม่อยากเห็นเหตุการณ์อย่างวันนี้เกิดขึ้นอีก ถ้าฉันเห็นว่าใครกลั่นแกล้งอันซย่าซย่าอีกละก็…” เซิ่งอี่เจ๋อหยุด ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกสู่อากาศรอบๆ ตัวเขา “จะต้องได้รับผลที่ตามมาแน่!”
อากาศบริเวณนั้นดูเหมือนจะเยือกแข็งเป็นหิมะ
เจี่ยนซินเอ๋อร์แข้งขาอ่อน ทั้งร่างเริ่มสั่นสะท้านอย่างไม่สามารถควบคุมได้ “กัปตันอี่เจ๋อ ฉันขอโทษค่ะ ฉันทำทุกอย่างก็เพื่อคุณนะคะ คุณต้องเชื่อฉันนะ ฉันรักคุณจริงๆ …”
เซิ่งอี่เจ๋อไม่ตอบและเดินไปเข้าห้องน้ำ
เจี่ยนซินเอ๋อร์ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น กำหมัดแน่นขณะที่ฝูงชนแถวๆ นั้นพากันหัวเราะเยาะและเย้ยหยันเธอ
เธอรู้ดีว่าในสายตาของทุกคน เธอกลายเป็นตัวตลก
เป็นไปได้ไหมว่าเซิ่งอี่เจ๋อได้พัฒนาความรู้สึกที่มีต่ออันซย่าซย่าไปเสียแล้ว
…
คาบเรียนช่วงบ่ายผ่านไปไวราวชั่วพริบตา อันซย่าซย่าหยิบกระเป๋านักเรียนใบเล็กและกลับบ้านโดยแอบเดินเลียบไปตามแนวกำแพง
คังเจี้ยนย่องตามหลังมาโดยเลียนแบบท่าย่องของเธอ น้ำเสียงเขาลับๆ ล่อๆ เอ่ยถาม “ซย่าซย่า เธอกำลังทำอะไรเหรอ”
“จุ๊ๆ! อย่าพูดสิ ไม่งั้นเดี๋ยวเซิ่ง… จอมปีศาจก็เจอเราหรอก!”
ถึงแม้ว่าคังเจี้ยนจะไม่เข้าใจที่เธอพูดเลยก็ตาม แต่เขาก็ย่องตามหลังเธออย่างเป็นสุข
“เงินที่เธอติดเซิ่งอี่เจ๋ออยู่ จะทำยังไงล่ะ”
อันซย่าซย่าเช็ดน้ำตาในจินตนาการอย่างเศร้าสร้อยด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนน้อย “ฉันตัดสินใจแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะป่วย”
คังเจี้ยนสะดุดขาตัวเองเกือบหน้าทิ่มพื้น ตาเบิกโต “โอ้โฮ ซย่าซย่า เธอมีพลังอำนาจทำนายอนาคตได้เมื่อไหร่เนี่ย”
“เจ้าโง่ ไม่ต้องมาพูดกันฉัน!”
วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีและพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันศุกร์ ดังนั้นถ้าเธอแกล้งทำเป็นป่วยหนึ่งวัน บวกกับเสาร์อาทิตย์ เธอก็จะหลบหน้าเซิ่งอี่เจ๋อได้ตั้งสามวันเต็ม!
ฮ่าๆ ฉันนี่ฉลาดจริงๆ อันซย่าซย่ารำพึงกับตัวเองในใจ
วันต่อมา…
เธอขอลาป่วยหนึ่งวันกับครูประจำชั้นและนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง งัวเงียไม่ยอมลุกก่อนจะถูกปลุกด้วยเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์
หญิงสาวรับสายด้วยความสะลึมสะลือแล้วเสียงหัวเราะต่ำๆ ก็ดังมาจากปลายสาย “อันซย่าซย่า เธอหนีไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอก”
“อืม…” อันซย่าซย่าพึมพำตอบก่อนจะฟุบตัวกลับไปนอนหลับเป็นตาย
พอได้ยินเสียงหายใจของแม่สาวน้อยคนนี้ เซิ่งอี่เจ๋อก็รู้สึกว่าหัวใจอ่อนยวบลงไปตามเสียงนั้น
อย่างไรก็ตาม…เมื่อเขามองดูสัญญาการเช่าอะพาร์ตเมนต์ในมือ มุมปากทั้งสองข้างของเขาก็โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มกว้าง