ตอนที่ 19 ใต้หลังคาเดียวกันกับไอดอลระดับประเทศ! (1)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

กลับมาที่ห้องเรียน เหอจย่าอวี๋และฉือหยวนเฟิงเดินมาหาเขา เหอจย่าอวี๋ถามขึ้นก่อน “เจ้เคอเช่าบ้านให้เราหรือยังน่ะ” 

 

 

“เช่าแล้ว” เซิ่งอี่เจ๋อตอบ 

 

 

“พี่อี่เจ๋อ ทำไมทำท่าอย่างนั้นล่ะ” ฉือหยวนเฟิงดูมีท่าทางประหลาดใจ เขาแทบไม่เคยเห็นเซิ่งอี่เจ๋อดูอ่อนโยนแบบนี้เลย 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อตอบด้วยรอยยิ้มหวานๆ ซึ่งทำให้ฉือหยวนเฟิงถึงกับขนลุก ระหว่างสมาชิกสองคนที่เหลือของสตาร์รี่ไนต์ เขาคิดว่าเซิ่งอี่เจ๋อเป็นคนที่น่ากลัวที่สุด คนนอกอาจคิดว่าเขาหล่อและเยือกเย็น ทว่ามีเพียงฉือหยวนเฟิงเท่านั้นที่รู้ว่า ‘ปีศาจจอมเจ้าเล่ห์’ ประเภทไหนที่ซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้านั้น 

 

 

เออแน่ะ ถ้ารักชีวิตละก็ หนีให้ไกลจากจอมปีศาจเชียวนะ! 

 

 

ฉือหยวนเฟิงกลับไปยังโต๊ะนักเรียนของเขาแล้วเหอจยาอวี๋ก็ตามมาพลางหัวเราะคิกคัก “เสี่ยวเฟิง นายได้กลิ่นฤดูใบไม้ผลิในห้องไหม” 

 

 

“พี่จย่าอวี๋สติดีอยู่หรือเปล่า นี่มันฤดูใบไม้ร่วงแล้วนะ!” ฉือหยวนเฟิงตามไม่ทัน 

 

 

เหอจย่าอวี๋ได้แต่อมยิ้มและไม่ตอบอะไร 

 

 

– 

 

 

คืนวันศุกร์นั้นเอง ป่าป๊าอันก็กลับมาถึงบ้าน อันซย่าซย่ากอดพ่ออย่างตื่นเต้น “ป๊า กลับมาสักที! หนูคิดถึงใจจะขาด!” 

 

 

ป่าป๊าอันเป็นชายวัยกลางคนที่ดูน่ารักใจดี กาลเวลาสร้างริ้วรอยไว้บนใบหน้าแต่ก็ไม่สามารถบดบังความมีชีวิตชีวาในท่าทีของเขาได้เลย ใครๆ ก็คงนึกภาพตามได้ว่าสมัยหนุ่มๆ นั้นเขาจะขโมยหัวใจสาวๆ ไปได้มากมายสักแค่ไหน 

 

 

เขาลูบหัวลูกสาวอย่างรักใคร่เอ็นดู “เด็กดีของป๊า ป๊าจะทำอาหารค่ำเดี๋ยวนี้แหละ พี่ชายลูกกลับหรือยัง” 

 

 

“ยังเลยค่ะ คราวนี้พี่ดูเหมือนจะมีเคสยาก โทรมาบอกหนูว่าอย่างน้อยก็คงสักครึ่งเดือนกว่าจะได้กลับ” อันซย่าซย่าตอบก่อนจะเข้าไปออดอ้อนพ่อ “ป๊า หนูอยากกินหมูตุ๋น ซี่โครงผัดเปรี้ยวหวาน แล้วก็ปลานึ่งด้วย! อยากกินทุกอย่างเลย!” 

 

 

“ไม่มีปัญหาจ้ะ” ป่าป๊าอันมองอย่างอบอุ่นไปที่ลูกสาวผู้ตื่นเต้นซึ่งดูเหมือนจะยังไม่ยอมสงบลงง่ายๆ 

 

 

อันซย่าซย่าเป็นสายกินเนื้อซึ่งพร้อมจะลืมเลือนทุกอย่างเมื่อเธอได้เห็นเนื้อสัตว์ หลังจากกินจนอิ่มแปล้แล้ว เธอก็ช่วยพ่อล้างจานก่อนจะกลับเข้าห้องไปนอน ลืมสนิทเรื่องหนี้สิน 

 

 

– 

 

 

เช้าวันต่อมา… 

 

 

ดวงอาทิตย์ส่องแสงจ้า และสายลมอ่อนๆ โชยผ่านอากาศ 

 

 

อันซย่าซย่าขยี้ตา พลางกลิ้งตัวไปมาอย่างเกียจคร้านเมื่อตื่นขึ้น โทรศัพท์ของเธอดังและเมื่อคลิกเปิดดูการแจ้งเตือนก็พบกับข้อความหนึ่ง 

 

 

[อันซย่าซย่า บอกแล้วไงว่าเธอหนีฉันไม่พ้นหรอก] 

 

 

หญิงสาวดูชื่อผู้ส่ง มาจากเซิ่งอี่เจ๋อ! 

 

 

มือกระตุกจนเกือบทำโทรศัพท์ตก ด้วยอาการสั่นเทา เธอเช็กข้อความอีกหลายครั้ง ข้อความส่งมาจากเซิ่งอี่เจ๋อจริงๆ … 

 

 

อืม… ดูเหมือนว่าฉันจะต้องเล่าเรื่องนี้ให้ป๊าฟังจริงๆ แล้วสิ… 

 

 

หญิงสาวไม่เสียเวลาเปลี่ยนชุด เธอรีบวิ่งลงมาชั้นล่างทั้งชุดนอนเดี๋ยวนั้นเลย 

 

 

ชั้นล่างของบ้านเป็นร้านกาแฟซึ่งเป็นกิจการครอบครัว แต่ไม่ได้เปิดขายช่วงที่ป่าป๊าอันไปเที่ยวพักผ่อน และเปิดให้บริการอีกครั้งวันนี้ ป่าป๊าอันกำลังทำงานง่วนอยู่ที่เครื่องชงกาแฟ 

 

 

อันซย่าซย่าพยายามหาจังหวะเหมาะๆ เพื่อแจ้งข่าวกับพ่อ ทว่าอยู่ๆ ร่างอันกระตือรือร้นก็แล่นผ่านประตูร้านเข้ามา คังเจี้ยนเปล่งประกายด้วยความภาคภูมิใจขณะที่เดินเข้ามาหาและเอนตัวพิงไหลอันซย่าซย่าไว้พร้อมอวดให้ดู “ซย่าซย่าดูสิ แม่ซื้อรองเท้าให้ฉันเมื่อวาน!” 

 

 

อันซย่าซย่าเหลือบมองดูรองเท้า เป็นรองเท้าสำหรับเล่นสเก็ตบอร์ดแบบใหม่ล่าสุดยี่ห้อ VANS และคังเจี้ยนก็ใส่แล้วดูดี 

 

 

“ไม่เลวๆ” เธอตอบไปแกนๆ ตามมารยาทระหว่างที่พยายามเค้นสมองหาวิธีที่จะเกริ่นปัญหาของเธอให้พ่อฟัง 

 

 

คังเจี้ยนทำตัวเหมือนจิ๊กโก๋เมายาเพราะเขาเริ่มร้องเพลงอย่างตื่นเต้น “รองเท้าผ้าใบของฉัน แฟชั่น แฟชั่น แฟชั่นสุดเจ๋ง ระหว่างทางกลับบ้าน ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้เลย ขัดถูๆ …” 

 

 

เพลงแปลกๆ ทำให้เด็กสาวอดเต้นตามไปไม่ได้ แล้วเธอก็เต้นตามไปจริงๆ บิดเอวและข้อเท้าไปมาพลางร้องเพลงตาม “ขัดๆ ถูๆ บนพื้นเรียบ ขัด!” 

 

 

ป่าป๊าอันหัวเราะขณะมองดูเด็กทั้งสองทำท่าติ๊งต๊อง 

 

 

แล้วในตอนนั้นเอง น้ำเสียงหยอกเย้าเสียงหนึ่งก็ดังมาจากทางประตู “ขอโทษฮะ ที่นี่บ้านครอบครัวอันหรือเปล่า”