บทที่ 357

บทที่ 357

ถังหยินสามารถจัดการเสี่ยวฮุ่ยได้ง่ายดายเช่นนี้ ทำให้พวกเปิงและหลีฉี่เริ่มหวาดกลัวจนตื่นตระหนก

ชิวเจิ้นจึงฉวยโอกาสนี้ตะโกนไป “นายท่านก็แค่แกล้งตายเพื่อหลอกพวกเจ้าให้ออกมาจากเมืองก็เท่านั้น เอาละ จัดการพวกมัน !”

พวกทหารไม่รู้ว่าสิ่งที่พูดมาเป็นจริงหรือไม่ แต่พวกเขาก็รู้สึกเชื่อมากถึง 8 ใน 10 ส่วนเมื่อเป็นชิวเจิ้นที่พูดออกมา

…ทันใดนั้นข่าวว่าถังหยินยังมีชีวิตอยู่ก็พลันกระจายไปทั่วกองทัพทำให้พวกเทียนหยวนมีกำลังใจสู้ขึ้นมาทันที

ก่อนที่พวกแม่ทัพนายกองทั้งหมดจะพากันออกคำสั่งให้พวกทหารของเขาตีกลองศึกแล้วให้ทหารตะโกนพร้อมกัน

กองทัพนับแสนของพวกเทียนหยวนเดินกันอย่างเป็นระเบียบจนน่าหวั่นเกรง ทำให้พื้นดินเบื้องล่างสั่นไหวไม่หยุด แน่นอนว่าถังหยินไม่ปล่อยให้พวกเปิงได้จังหวะตั้งตัว เขาตะโกนสั่งให้แตรศึกลั่นเป็นสัญญาณเข้าโจมตีบดขยี้กองทัพเปิงที่อยู่ตรงกลางวงล้อมในทันที !

ในเวลานี้หวางซ่งและคนอื่นต่างก็หน้าซีดและเต็มได้ด้วยเหงื่อปกคลุมทั่วกาย พวกเขาพากันมองถังหยินที่กำลังเคลื่อนทัพเข้ามาแล้วถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “แม่ทัพหลี่ ? เราจะทำยังไงกันดี ?”

หลีฉี่เองก็อยากจะหาคนถามเหมือนกันว่าเขาต้องทำอย่างไรดีในสถานการณ์แบบนี้ เขาทั้งโกรธและเสียใจที่แม่ทัพทั้งหลายยั่วยุให้เขาออกมาข้างนอกเมืองหยานจนติดกับดักของถังหยิน แต่มันก็สายเกินกว่าจะพูดแล้ว หลีฉี่จึงได้แต่กำหมัดแล้วชี้ดาบไปยังถังหยิน “ตีฝ่าออกไป !”

เขาหวังว่ากองทัพเทียนหยวนจะมีจุดอ่อนที่สามารถตีให้แตกพ่ายเป็นจุด ๆ ไปได้ และถ้าเป็นแบบนั้น พวกเขาก็จะกลับไปยังเมืองหยานได้ !

หวางซ่งและแม่ทัพคนอื่นได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า “ใช่แล้ว ทำตามที่ท่านแม่ทัพหลี่บอก ตีฝ่าวงล้อมออกไป !”

“ตีฝ่าวงล้อมออกไป !”

บรรดาแม่ทัพนายกองตะโกนสั่งให้พวกทหารเข้าโจมตีใส่ถังหยินในทันที

แต่ก่อนที่จะทันได้ทำอะไร ถังหยินก็พลันโบกมืออย่างช้า ๆ “ยิงธนูได้ !”

เขาอยากจะตะโกนดังกว่านี้ แต่นี่ก็สุดความสามารถของเขาแล้ว

พวกพี่น้องฉางกวงจึงช่วยกันตะโกน “ยิงธนูได้ !”

เสียงนั้นก้องสะท้อนไปทั้งกองทัพ ทำให้พวกพลธนูที่อยู่ด้านหลังปล่อยศรออกมาพร้อมกัน

พวกทหารเปิงได้แต่เหม่อมองท้องฟ้า ด้วยพวกเขาไม่รู้จะหลบไปทางไหนดีเมื่อมีฝนศรตกลงมามากมายเช่นนี้

พวกเปิงนั้นสวมเกราะเบาเพื่อให้เหมาะแก่การไล่ล่า และเมื่อเจอกับฝูงธนูแบบนี้ พวกเขาก็ไม่สามารถปัดป้องหรือป้องกันตัวเองได้เลย ได้แต่ล้มตายกันนับไม่ถ้วน เช่นเดียวกับเสียงกรีดร้องโหยหวนที่ดังก้องทั้งสมรภูมิ และแม้ว่าบางคนจะรอดตายจากลูกธนู แต่พวกเขาก็จะถูกเหยียบซ้ำจนตายจากพวกเดียวกันเองอยู่ดี

ทว่า พวกเขาก็รู้ดีว่ายังไม่ใช่เวลาที่จะมายอมแพ้ หวางซ่งเร่งปัดป้องลูกธนูออกไปแล้วพูดขึ้น “พุ่งต่อไป ! ใครก็ตามที่หยุดข้าจะฆ่าทิ้งทันที !”

พวกทหารเปิงสิ้นหวังแล้ว ไม่ว่าไปทางไหน ดังนั้นแล้วต่อให้ข้างหน้าจะเป็นหุบเหวแห่งความตาย พวกเขาก็จะต้องเดินหน้าต่อไป !!!

พวกเปิงวิ่งเข้ามาอย่างน่าสมเพช ส่วนฝูงธนูก็ยังคงถูกปล่อยออกไป ทำให้พวกเปิงมากมายล้มตายลงราวใบไม้ร่วง

ศพของพวกเปิงเริ่มกองสูงใหญ่ และร่างของพวกเขาส่วนใหญ่ก็เต็มไปด้วยลูกธนูหนาเป็นชั้น

ช่างเป็นภาพที่น่าเวทนายิ่ง พวกเขาวิ่งเข้ามาอย่างไม่กลัวตายถึงขนาดที่ทำให้พวกเทียนหยวนที่กำลังบ้าเลือดตัวสั่นเทาและหนาวเหน็บขึ้นมาจับใจทันที

ถังหยินยิ้มมุมปากออกมา ใบหน้าเงียบขรึมเช่นเดิม เขากำลังดูความพินาศของพวกเปิงที่กำลังเกิดขึ้น

กองทัพเปิง 5 หมื่นนายถูกฝนธนูล้มตายไปมากกว่า 2 หมื่นนาย และเหลือแค่เพียง 3 หมื่นนายเท่านั้น

เมื่อเห็นว่าศัตรูกำลังใกล้ เข้ามากองทัพเทียนหยวนก็เก็บธนูลงไปแล้วชักดาบออกมา

โดยไม่รอช้า หยวนอู่และหยวนเปียวก็พลันตะโกนลั่นพร้อมคว้าหอกพุ่งเข้าประจัญบานกับพวกเปิง

เฉิงจินยังไม่ขยับ เขาเข้ามากระซิบกับเจ้านายของเขา “นายท่าน พวกมันเข้ามาแล้ว ถอยกันสักหน่อยดีไหม ?” สภาพของถังหยินตอนนี้ยังไม่สามารถต่อสู้ได้เต็มที่ ถ้าหากพวกมันเข้ามาใกล้เมื่อไหร่ชายหนุ่มก็มีสิทธิ์ที่จะบาดเจ็บเพิ่ม

ใจจริงของถังหยินไม่อยากจะทำแบบนั้น แต่ร่างกายของเขาไม่ไหวแล้วในนาทีนี้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะฟังคำแนะนำแล้วถอยกลับออกมาจากที่เดิม

ส่วนพี่น้องฉางกวง มาตอนนี้พวกเขาก็กำลังพุ่งเข้าใส่พวกเปิงและปลดปล่อยพลังออกมาห้ำหั่นพวกเขาไปหลายสิบนาย !

…พวกแม่ทัพเปิงหวาดกลัวแค่ถังหยินเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เกรงกลัวพี่น้องคู่นี้เลย หวางซ่งและแม่ทัพจ้าวไห้ไม่รอช้า รีบออกมาต้านรับคนทั้งสองเอาไว้ในพลัน

เมื่อเข้ามาใกล้ หวางซ่งก็พลันชักดาบปราณออกมาแล้วฟันเข้าใส่หยวนเปียว

หยวนเปียวปัดป้องเอาไว้ได้ด้วยพละกำลังมหาศาล ทำให้หวางซ่งที่เห็นแบบนั้นถึงกับตะลึงจนต้องพูดออกมา “ข้าคือแม่ทัพของแคว้นเปิง หวางซ่ง เจ้ามีชื่อว่าอะไร ?”

หยวนเปียวหัวเราะออกมา “ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าเป็นใคร แต่ระวังหอกของข้าเอาไว้ให้ดี !” ว่าแล้วเขาก็พลันแทงหอกออกไป 3 ครั้งอย่างรวดเร็วเข้าไปยังจุดอ่อนของหวางซ่ง

หวางซ่งตื่นตระหนกกับหอกที่พุ่งเข้ามา เขาปัดป้องมันเอาไว้ได้ แต่อีกฝ่ายก็ใช่วิชายุทธ์เพื่อไล่ต้อน และด้วยระยะที่กระชั้นชิดแบบนี้ มันก็ทำให้หวางซ่งไม่สามารถหลบได้ เขาต้องกลั้นใจใช้วิชายุทธ์เพื่อปัดป้องมัน จนดาบของเขาเริ่มเปล่งแสงหลากสีออกมา

พลังขั้นสุดยอดของทั้งสองเข้าปะทะกัน เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง และใครก็ตามที่มีพลังมากกว่าจะได้คว้าชัยชนะไป !

เมื่อพลังเข้าปะทะกันก็กระเด็นออกมาก่อนกระจายไปทั่วบริเวณ ทำให้พวกทหารเปิงโดยรอบได้รับบาดเจ็บไปมากมายโดยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น …อันที่จริง พวกเขาส่วนใหญ่ต่างก็ตายแทบจะในทันทีเพราะถูกตัดหัวจากการปะทะในครั้งนี้ !

“หา ?”

พวกเขาทั้งคู่มีสีหน้าที่หวาดกลัวกันและกัน จากนั้นก็ถอยกลับมาตั้งหลักที่ฝั่งของตน

แม่ทัพของมันไม่ธรรมดาเลย ! หยวนเปียวนึกในใจ เขากู่ร้องออกมา “ลองดูอีกครั้ง !” หอกในมือของเขาเปล่งแสงสว่างวาบออกมา

ฟุ่บ !

เพียงพริบตาเดียว แสงสีแดงก็พลันพุ่งออกมาจากหอกเข้าใส่หวางซ่ง

วิชาไม้ตายของหยวนเปียวมีสีแดงผิดจากปกติที่มักจะไม่ค่อยมีใครมองเห็น แต่หวางซ่งที่เรียนรู้มาแล้ว เขาก็เลยรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังใช้วิชาปราณแหลมคม

หวางซ่งตอนนี้รู้แล้วว่าอีกฝ่ายใช้ไม้ตายอีกครั้ง ทว่าเขาก็ได้แต่จนใจ เพราะตนเองในตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรแบบนั้นได้ ด้วยพลังปราณของเขาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว !

ทว่าเมื่อเห็นว่าพลังของอีกฝ่ายกำลังพุ่งมาด้วยความเร็ว หวางซ่งก็ได้แต่กัดฟันรีดพลังปราณทั้งหมดออกมาแล้วปลดปล่อยไม้ตายของเขาอีกครั้ง !

พลังทั้งสองปะทะกันอีกครั้ง ก่อนเป็นพลังของหวางซ่งที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป ทำให้ปราณแหลมคมของหยวนเปียวที่ยังไม่ลดความแรงพุ่งเข้าปะทะกับร่างของหวางซ่ง

อ๊าก !

หวางซ่งกรีดร้องออกมา เกราะของเขาถูกแทงจนเป็นรูมากมายทะลุร่างของเขาจนโชกไปด้วยเลือดและตกจากหลังม้า