ตอนที่ 106 เป็นไปตามที่คาดไว้

Perfect Superstar

ตอนที่ 106 เป็นไปตามที่คาดไว้

เว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ห้องออกอากาศของลู่เฟย

ในห้องออกอากาศสด ตอนที่เฉินเฟยเอ๋อร์ให้คะแนนลู่เฉินสูงสุด10 คะแนน ทั้งห้องออกอากาศสดแทบจะระเบิด!

“ลูกพี่ลู่เฟยจงเจริญ!”

“ชื่นชมสุดๆ ผู้ออกอากาศร้องได้ดีมาก เฉินเฟยเอ๋อร์ก็แต่งตัวสวย!”

“ฉันรักลูกพี่ลู่เฟย และรักเฉินเฟยเอ๋อร์!”

“พวกเธอว่าลูกพี่ลู่เฟยของเรา จะมีโอกาสได้คบกับเฉินเฟยเอ๋อร์ไหม ดูท่าทางเธอประทับใจขนาดนั้น”

“คนเมื่อกี้ตื่นๆ เลิกเพ้อฝันได้แล้ว ตื่นๆ เลิกละเมอสักที”

“ฮ่าๆ เป็นความคิดที่ดี แต่อยู่กับโลกความจริงหน่อยได้ไหม เฉินเฟยเอ๋อร์อายุปาเข้าไป 30 กว่าแล้ว!”

“ฉันขอประกาศว่า ตั้งแต่นี้ไป ฉันเป็นแฟนคลับของเฉินเฟยเอ๋อร์!”

“รอบ 16 คนสุดท้ายไม่ต้องห่วงแล้ว!”

“ให้รางวัล ให้รางวัล!”

พิธีกรในห้องออกอากาศสดหลี่เฟยอวี่ ตะโกนเสียงดังจนเสียงแตกไปหมด ยิ้มจนปากแทบฉีกแล้ว

แม้ว่าเขาจะเพิ่งออกจากงานที่ร้านศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร 4S แม้เขาจะเพิ่งเข้ามาในออฟฟิศของลู่เฉิน แม้จะต้องวิ่งวุ่นทั้งวันไม่ได้หยุด แม้คืนนี้จะต้องทำงานล่วงเวลา…

แต่เขาก็รักในงานที่มีแรงขับเคลื่อนและมีชีวิตชีวาเช่นนี้!

ขอให้ลูกบอลปลาไหลออกมาเยอะหน่อยสิ!

ขอให้บรรดาเศรษฐีมอบรางวัลเรือรบเยอะๆ จนทับฉันให้ตายไปเลย!

ศูนย์ความคิดสร้างสรรค์หลันเทียน ตึก A8 บางชั้น มีเสียงโหยหวนเหมือนผีสางร้องครวญครางดังขึ้น

บรรดาพนักงานที่ทำงานล่วงเวลาอยู่ในตึกใหญ่ตึกเดียวกันนั้นต่างก็ได้ยิน ทำให้ขนหัวลุกไปตามๆ กัน

เพดานห้องแต่ละชั้นต่ำเกินไป!

บาร์เดย์ลิลลี่

หน้าจอใหญ่บนเวที กรรมการหลินจื้อเจี๋ยเพิ่งให้คะแนนลู่เฉิน

10 คะแนน!

เหมือนกับเฉินเฟยเอ๋อร์ 10 คะแนน เป็นคะแนนที่สูงที่สุด!

ในบาร์เกิดเสียงเฮดีใจดังขึ้น ลูกค้าหลายคนปรบมือให้ ยังมีคนเป่าปากให้ด้วย

ยังมีบางคนตบโต๊ะ ร้องตะโกนเสียงดัง “เอาเหล้ามา เอาเหล้ามา!”

พวกเขาต่างก็รู้จักลู่เฉิน รู้จักนิสัยอันซื่อตรง หน้าตาดีที่คมคายหล่อเหลา ทุกคนเสียดายที่ลู่เฉินไม่ได้อยู่ร้องเพลงต่อในบาร์เดย์ลิลลี่ แต่ก็ดีใจกับเขาที่เดินออกไปสู่โลกกว้างใหญ่ข้างนอก

ตอนนี้ลู่เฉินยืนอยู่ใต้แสงไฟ ปรากฏตัวบนจอทีวีต่อหน้าคนเป็นร้อยล้านคน

ดาวดวงใหม่ของวงการเพลงกำลังลอยขึ้นสูง

แล้วพวกเขาจะได้บอกคนอื่นด้วยความภาคภูมิใจว่า…นายดูสิ พ่อรูปหล่อที่ร้องเพลงเก่งๆ คนนั้น ฉันเคยรู้จักเขาด้วย เคยดื่มเหล้าด้วยกัน เคยพูดคุยกับเขาเรื่องดนตรี

เป็นเกียรติแก่พวกเขาแล้ว!

เฉินเจี้ยนหาวยืนอยู่หลังบาร์ ประกาศเสียงดังว่า “เหล้าแก้วต่อไป ผมเลี้ยงเอง!”

เสียงร้องเชียร์ดังขึ้นมากกว่าเดิม

คืนนี้บาร์เดย์ลิลลี่ ไม่ต้องหลับต้องนอน!

บาร์เทนเดอร์เดวิดส่ายหัว ถามว่า “เถ้าแก่ เถ้าแก่น้อยเสี่ยวลู่ตอนนี้แค่เข้าประกวดรอบคัดเลือก ต่อไปยังมีอีกหลายสนามแข่ง ถ้าเขาชนะได้ แล้วเถ้าแก่ตั้งใจจะเลี้ยงฟรีทั้งบาร์เลยไหม”

เฉินเจี้ยนหาวอึ้งไป แล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง ยื่นมือออกไปตบบ่าบาร์เทนเดอร์เบาๆ

“นายไม่เข้าใจหรอก”

หอพักหญิงมหาวิทยาลัยครูแห่งปักกิ่ง

เยี่ยจื่อถงจ้องมองภาพบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างตึงเครียด ฟันขาวเป็นระเบียบของเธอขบริมฝีปากแดงเรื่อ มือซ้ายอยู่บนเม้าส์ มือขวากำผ้าห่มไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัว ท่าทางราวกับจะกรีดร้องออกมาเสียงดัง

เฉินเฟยเอ๋อร์ให้ลู่เฉิน10 คะแนนเต็ม หลินจื้อเจี๋ยให้ลู่เฉินอีก 10 คะแนนเต็ม แล้วคนต่อไปล่ะ?

คนต่อไปคือเจินเจิน

บรรณาธิการนิตยสาร ‘ป็อปมิวสิค’ ให้ลู่เฉิน…9 คะแนน!

ให้แค่ 9 คะแนนเองเหรอ

มองดูแล้วเป็นคะแนนที่สูงมาก แต่เยี่ยจื่อถงกลับผิดหวังมาก จึงพลอยไม่ชอบเจินเจินเข้าไปด้วย

ทำไมเธอถึงให้แค่ 9 คะแนนเองล่ะ

เจินเจินวิจารณ์ว่า “เพลงนี้คุณเขียนได้ดีมาก ร้องก็เพราะมาก แต่ยังขาดความลึกซึ้งของอารมณ์ยังขาดไปเล็กน้อย ดังนั้นฉันจึงให้ 9 คะแนน หวังว่าคุณจะพยายามต่อไป ให้ดีขึ้นกว่านี้!”

ลู่เฉินยิ้มน้อยๆ ก้มตัวคำนับ “ขอบคุณอาจารย์เจินเจินครับ!”

เมื่อเห็นว่าเป็นแบบนี้ เยี่ยจื่อถงรู้สึกอัดอั้นตันใจ ปิดหน้าจอโน้ตบุ๊กลงเสียงดัง

แต่ผ่านไป 3 วินาที เธอก็เปิดมันออกมาใหม่อีกครั้ง

ยังไม่ได้ดูถานหงว่าจะให้กี่คะแนนเลย!

ถานหงจะต้องให้ลู่เฉิน 10 คะแนนแน่นอน เยี่ยจื่อถงเชื่อมั่น!

“สิบคะแนน!”

หมู่บ้านตงผิง เมืองปินไห่ ลู่เสวี่ยกระโดดตัวลอยบนโซฟา ร้องออกมาอย่างดีใจ

“แม่ ถานหง ถานหงให้พี่ชาย 10 คะแนนเต็ม!”

ฟางอวิ๋นอมยิ้ม สายตาจ้องอยู่ที่หน้าจอ จ้องไปที่บุตรชายของเธอผู้กำลังโค้งตัวคำนับขอบคุณกรรมการ

บุตรชายที่เธอรักและเป็นห่วงโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจริงๆ ไม่เพียงแต่จะหาเงินได้มาก ยังได้ออกโทรทัศน์ ได้รับเกียรติยศและความชื่นชมจากความสำเร็จด้วย

ฟางอวิ๋นไม่รู้ว่าลู่เฉินมีความสามารถด้านนี้มาก่อน ความสำเร็จในอนาคตของเขาจะต้องมากกว่าผู้เป็นบิดาแน่!

พอนึกถึงลู่ชิ่งเซิง ดวงตาของฟางอวิ๋นก็เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา

เหล่าลู่ คุณอยู่บนสวรรค์ รู้ไหมว่าลูกชายของตัวเองได้มีหน้ามีตาแล้ว

เขากำลังจะกลายเป็นดาราแล้ว!

ฟางอวิ๋นยิ้มแย้ม เป็นรอยยิ้มที่เจือปนด้วยน้ำตา

เฉินเฟยเอ๋อร์ให้ 10 คะแนน หลินจื้อเจี๋ยให้ 10 คะแนน เจินเจินให้ 9 คะแนน ถานหงให้ 10 คะแนน!

กรรมการทั้งสี่คนลงคะแนนหมดแล้ว พวกเขาให้คะแนนเพลง ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ กับลู่เฉินทั้งหมด 39 คะแนน

เป็นคะแนนที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ!

หมายความว่าลู่เฉินได้รับคะแนนจากกรรมการคิดเป็น 39% จากทั้งหมด 40% พูดได้ว่าอยู่ในสถานะที่ไม่มีทางแพ้

นอกเสียจากว่าผู้ชมในห้องส่งกับผู้ชมจากทางบ้านจะโหวตคะแนนให้เขาน้อย

แต่นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร?

แทบไม่ต้องพูดถึงเหล่าผู้ชมทางบ้านในตอนนี้ เมื่อครู่จากเสียงปรบมืออันกึกก้อง ผู้ให้การสนับสนุนเขาต้องมีไม่น้อย

ส่วนการโหวตจากผู้ชมทางบ้าน แฟนคลับในเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ เป็นแสนคนกำลังมีท่าทางเหมือนคนหิวโหยทนไม่ไหว!

ดังนั้นรอบผู้เข้าแข่งขัน 16 คนสุดท้าย ลู่เฉินต้องได้แน่นอน!

เขาเดินลงจากเวทีด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม

การแข่งขันคัดเลือก 32 คน เหลือ 16 คน ต้องรอถึงท้ายสุดจึงจะประกาศชื่อผู้ชนะ ดังนั้นแม้ลู่เฉินจะได้ขึ้นเวทีเป็นคนแรก เขายังไปไหนไม่ได้ ต้องอยู่รอจนรายการจบ

ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นในห้องพักผ่อนด้านหลังเวทีต่างมองลู่เฉินผู้ซึ่งเดินกลับเข้ามาอย่างผู้ชนะด้วยความอิจฉาตาร้อน

การแสดงทั้งหมดของลู่เฉิน พวกเขามองเห็นอย่างชัดเจน

39 คะแนน สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วได้แต่ชะเง้อคอมอง ไม่มีทางเหนือกว่าได้

ต่อให้ได้เท่ากันยังยากเลย!

ด้วยคุณสมบัติเช่นนี้ ลู่เฉินค่อนข้างแน่ใจว่าจะได้เข้ารอบ 10 คนของเขตเมืองหลวง

ไม่ผิดหรอก รอบ 10 คนสุดท้าย ไม่ใช่รอบ 16 คน!

“รุ่นพี่ลู่…”

สาวน้อยแสนสวยเดินเข้ามาต้อนรับเขา กล่าวอวยพรอย่างจริงใจว่า “ยินดีด้วยนะคะ เพลงนี้เพราะมากจริงๆ”

ลู่เฉินหัวเราะ “ขอบใจนะ เธอก็สู้ๆ เหมือนกัน”

ฝ่ายนั้นคือมู่เสี่ยวชูที่ลู่เฉินได้รู้จักในคราวที่ประกวดครั้งแรก นักศึกษาสาวที่มาจากมหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศ

เธอผ่านเข้ามาทั้งรอบออดิชั่นและรอบคัดเลือก ได้เป็นหนึ่งใน 32 คนของผู้เข้าประกวดในรอบนี้ เพื่อเข้าสู่รอบ16 คนในคืนนี้

ตอนนั้นเองที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา

เขาถามเสียงเบาว่า “คุณลู่ครับ ขอถามหน่อยว่าตอนนี้สะดวกไหมครับ ผู้อำนวยการรายการของเราอยากพบคุณครับ”

ผู้อำนวยการรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ อยากพบเขา?

ลู่เฉินงุนงงเล็กน้อย

เขาหันไปพยักหน้าให้กับมู่เสี่ยวชูเงียบๆ แล้วหันไปตอบเจ้าหน้าที่ว่า “ไม่มีปัญหาครับ”

“เยี่ยมเลยครับ เชิญตามผมมา”

ภายใต้การนำของเจ้าหน้าที่คนนั้น ลู่เฉินออกมาจากด้านหลังแกรนด์สตูดิโอ

ผ่านทางเดินอันคดเคี้ยว ทั้งสองมาถึงที่ห้องทำงานห้องหนึ่ง

ในห้องนั้นมีคนหลายคนนั่งอยู่ เมื่อเห็นลู่เฉินเดินเข้ามา พวกเขาต่างลุกขึ้นยืน

เจ้าหน้าที่แนะนำให้ลู่เฉินรู้จัก “ท่านนี้คือผู้อำนวยการของเรา ผู้อำนวยการกู่รุ่ย!”

กู่รุ่ย เป็นชายวัยสี่สิบกว่าท่าทางภูมิฐาน รูปร่างผอมสูงสวมแว่นตา มีลักษณะของนักดนตรีรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้คนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องต่างก็เป็นสมาชิกของผู้จัดรายการ

ลู่เฉินนั่งลงแล้ว กู่รุ่ยรินน้ำให้เขาด้วยตัวเอง

ผู้อำนวยการคนนี้มีนิสัยไม่เหลาะแหละ เขาพูดเข้าเรื่องตามตรง

“ลู่เฉิน ผมเป็นตัวแทนของรายการ อยากจะถามคุณว่า คุณจะยินดีมอบลิขสิทธิ์เพลงที่คุณร้องในรายการให้กับทางสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งได้ไหม

พวกเราจะนำเพลง ‘เดินไปร้องไป’ ของคุณไปทำเป็นเพลงหลักของรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ และทำเป็นเพลงการแข่งขันประจำเขต!”

เป็นแบบนี้นี่เอง!

สิ่งที่กู่รุ่ยต้องการและนำเสนอออกมา ไม่ได้เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของลู่เฉินแต่อย่างใด

จากรอบออดิชั่นคราวที่แล้ว เขาเตรียมเพลง ‘เดินไปร้องไป’ ให้ตัวเอง จุดมุ่งหมายก็คือต้องการให้เป็นเพลงหลักของรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ นี้เอง จนถึงรอบคัดเลือกความสามารถก็ได้นำออกมาเปิดอีกครั้ง

ความจริงแล้ว สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งเว้นช่วงเวลาถึงสองสัปดาห์ถึงจะติดต่อเขา นั่นต่างหากทำให้ลู่เฉินประหลาดใจ

เขาคิดว่าฝ่ายนั้นจะรีบติดต่อหาเขาอย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่าลู่เฉินไม่ได้แสดงออก เพียงยิ้มเล็กน้อย “ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ ผมดีใจมากที่ทางรายการเลือกเพลงของผม!”

กู่รุ่ยดูโล่งใจ เอ่ยต่อว่า “ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาคุยกันเรื่องเงื่อนไขสัญญาลิขสิทธิ์กันเถอะ”

แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือ ลู่เฉินลังเลเล็กน้อยแล้วตอบว่า “ผู้อำนวยการกู่ครับ เอาแบบนี้นะครับ ผมยินดีมากที่จะโอนกรรมสิทธิ์เพลงของผมให้ แต่เรื่องเงื่อนไขนั้น ต้องให้ผู้จัดการส่วนตัวของผมเป็นคนคุยครับ”

“ผู้จัดการส่วนตัวของคุณ?”

กู่รุ่ยตกตะลึง ถามว่า “คุณมีผู้จัดการส่วนตัวด้วยเหรอ”

ในมือของเขามีข้อมูลของลู่เฉินอยู่ แต่ไม่เห็นกล่าวว่าลู่เฉินมีผู้จัดการส่วนตัวเลย

ถ้าอย่างนั้นคงลำบากแล้วสิ!

เดิมทีกู่รุ่ยคิดว่าจะยืมชื่อเสียงของรายการมาใช้เพื่อให้ได้เพลง ‘เดินไปร้องไป’ มาครอบครองอย่างง่ายดาย

สุดท้ายกลายเป็นว่าลู่เฉินงัดเอาอาวุธวิเศษออกมาต่อกรกับเขา!

เขารู้สึกว่า ตัวเองเกรงว่าจะประเมินชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าต่ำไป

ลู่เฉินเห็นความเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าทั้งหมดของกู่รุ่ย ยิ้มตอบว่า “ผู้อำนวยการกู่ครับ คุณวางใจเถอะครับ ผมคิดว่าผู้จัดการของผมจะไม่เสนอเงื่อนไขออกนอกลู่นอกทางแน่นอน เพราะรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ มีอิทธิพลมากขนาดนี้”

ลู่เฉินอยากขอยืมรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ มาโปรโมทตัวเอง แน่นอนว่าจะไม่เรียกร้องเงื่อนไขที่สูงเกินไป

ความจริงแล้วจะยกกรรมสิทธิ์เพลงให้ฟรีเลยก็ย่อมได้ แต่ในเมื่อมีหลักการแล้วก็ต้องยืนหยัดตามหลักการนั้น

ไม่เช่นนั้นจะถูกมองว่าเป็นลูกพลับนิ่มๆ ลูกหนึ่งในกำมือ!

ตอนนี้เอง ประโยชน์ของการมีผู้จัดการส่วนตัวก็มากขึ้นในทันใด

กู่รุ่ยถามอย่างอดไม่ได้ว่า “ถ้าอย่างนั้นเมื่อไหร่ผู้จัดการส่วนตัวของคุณจะมาพูดคุยกับพวกเรา”

ลู่เฉินยิ้มยิงฟัน “สัปดาห์หน้าได้ไหมครับ”

…………………………………………………….