ตอนที่ 559 ให้อาจารย์เป็นคนคัดเลือกด้วยตัวเอง
เยวา : [ไร้สาระ ไม่มีฉันคอยคุม พวกนายมีความสุขมากจะตาย]
จงใช้ชื่อของฉัน-หมั่ง : [อาจารย์ อย่าหาเรื่องเลยครับ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนกันแน่ คุณบอกผมมา ผมจะไปหาคุณ!]
เยวา : [ฉันมีธุระต้องทำอยู่เมืองนอก ช่วงนี้ยังกลับไปไม่ได้]
จงใช้ชื่อของฉัน-หมั่ง : [อ้อๆๆ งั้นอาจารย์จะกลับมาเมื่อไหร่กันแน่ครับ]
เยวา : [เรื่องนี้วันหลังค่อยว่ากัน ฉันมีเรื่องจะถามนาย ช่วงนี้มีหนังเรื่องเลเจนด์ที่กำลังจะถ่ายทำ นายรับผิดชอบการเลือกตัวนักแสดงที่จะมาแสดงเป็นเยวาใช่ไหม]
จงใช้ชื่อของฉัน-หมั่ง : [อืม เหมือนจะใช่นะครับ ก็แค่หนังเรื่องเดียวเอง ผมมีเวลาไปทำเรื่องบ้าบอพวกนี้ที่ไหนกันเล่า ผมให้ลูกศิษย์คนหนึ่งของผมไปจัดการน่ะครับ]
เยวา : [ดี นายบอกกองถ่ายเลเจนด์ว่าฉันจะเป็นคนเลือกนักแสดงที่จะมารับบทของเยวาด้วยตัวเอง ถ้าฉันไม่อนุญาต ไม่ว่าใครก็แสดงเป็นเยวาไม่ได้]
จงใช้ชื่อของฉัน-หมั่ง : [อ้อๆๆ อาจารย์ ไม่มีปัญหาครับ ผมบอกโจวเฉียวสักหน่อยก็ได้แล้ว อันที่จริงก่อนหน้าที่ทางผู้ผลิตก็คิดแบบนี้เหมือนกัน อยากให้อาจารย์เป็นคนเลือกนักแสดงที่จะมารับบทเยวาด้วยตัวเอง แต่เพราะติดต่อคุณไม่ได้นี่นา อย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่พวกเราเองก็ยังติดต่ออาจารย์ไม่ได้เหมือนกัน]
เยวา : [ให้คนที่รับผิดชอบเรื่องเลเจนด์ติดต่อแอคเคาท์นี้ของฉันก็พอ ให้ส่งข้อมูลและคลิปการออดิชันมาที่แอคเคาท์นี้ทั้งหมด]
จงใช้ชื่อของฉัน-หมั่ง : [อาจารย์ ผมทราบแล้ว เพียงแต่อาจารย์วิดิโอคอลได้หรือเปล่าครับ เผื่อคุณถูกแฮกน่ะ!]
เพิ่งพูดจบ ลั่งหมั่งก็ส่งวิดิโอคอลมาโดยไม่รอการตอบจากหลินเยียน
หลินเยียนกดรับทันที
“อาจารย์ เป็นคุณจริงด้วย?!” ลั่งหมั่งจ้องมองหลินเยียน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“เป็นฉันๆ …” หลินเยียนตอบกลับอย่างจนใจ
หลินเยียนมองดูวิดิโอคอล ลั่งหมั่งกำลังสวมหมวกกันน็อคและชุดแข่ง นั่งอยู่บนรถด้วยท่าทางสบายอารมณ์ เธอเอ่ยถามขึ้นมาว่า “นายกำลังแข่งอยู่นี่?”
เมื่อได้ยินลั่งหมั่งซึ่งกำลังสวมชุดเต็มยศก็ผงกศีรษะ “การแข่งกระชับมิตรน่ะครับ ทางนั้นวิ่งช้าเหลือเกิน ผมจะไปรอพวกเขาที่หน้าเส้นชัย เฮ้อ ไม่คุยแล้ว พวกเขาไล่ตามมาแล้วครับ! อาจารย์ รอผมแข่งสนามเสร็จนี้แล้วค่อยคุยกันนะ ผมมีหลายเรื่องที่อยากจะถามอาจารย์! อาจารย์ห้ามก่อเรื่องหายตัวไปอีกนะครับ!”
พอพูดจบลั่งหมั่งก็รีบตัดวิดิโอคอลทิ้ง ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวหลินเยียนจะด่าเขา ตอนนี้เขาคงไม่แม้แต่อยากจะแข่งต่อไปแล้วด้วยซ้ำ
หลินเยียนพูดไม่ออกอยู่บ้างเช่นกัน กลับส่งข้อความกลับหาเธอตอนกำลังแข่งเสียได้ แถมยังคุยวิดิโอคอลกับเธออีกต่างหาก
เยวา : [ฉันยังมีธุระ อย่างลืมเรื่องที่ฉันบอกนายไปล่ะ รีบติดต่อทางผู้ผลิตหนังให้เร็วมากที่สุด คนที่จะมาแสดงเป็นยวาต้องให้ฉันเลือกด้วยตัวเอง]
หลินเยียนส่งข้อความหาลั่งหมั่ง จากนั้นก็อ่านข้อความจำนวนหลายพันข้อความของตนเองอีกครั้งหนึ่ง เดิมทีเธอคิดจะตอบทีละข้อความ เพียงแต่รู้สึกว่างานค่อนข้างมหาศาล หลินเยียนจึงล็อกเอาท์ออกจากแอคเคาท์ของตัวเองทันที
ทางนี้เพิ่งจะล็อกเอาท์ จ้าวหงหลิงก็โทรเข้ามา
“หลินเยียน ออดิชันเสร็จแล้วเหรอ?”
“ออดิชันเสร็จตั้งนานแล้ว” หลินเยียนกล่าวระคนหัวเราะ
“ผลเป็นยังไงบ้าง?”
จ้าวหงหลิงไม่ได้ตั้งความหวังกับการออดิชันครั้งนี้ของหลินเยียนแม้แต่น้อย
“ก็พอได้ล่ะมั้ง…”
หลินเยียนไม่ได้ปิดบังเช่นกัน เธอเล่าเรื่องออดิชันให้จ้าวหงหลิงรู้ทั้งหมด
“อะไรนะ?” เมื่อฟังหลินเยียนเล่าจบ จ้าวหงหลิงมีน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อยอย่างชัดเจน “เธอปฏิเสธคำเชิญของกองถ่ายเลเจนด์ ไม่ยอมแสดงเป็นนักแข่งคนอื่นงั้นเหรอ?”
ก่อนหน้านี้จ้าวหงหลิงไม่เคยคิดเลยว่าหลินเยียนเข้าร่วมงานกับกองถ่ายเลเจนด์ได้ และยิ่งคิดไม่ถึงว่า หลินเยียนไม่เพียงจะได้บทมา แถมเธอยังปฏิเสธไปอีกด้วย!
ภาพยนตร์เรื่องเลเจนด์นี้มีอิทธิพลมาก ไม่ใช่สิ่งที่คู่ปรับมหากาฬจะเทียบได้เลย โปรดักชันระดับโลก ต่อให้แค่ได้รับบทเล็กๆ สำหรับหลินเยียนแล้ว ผลดีที่จะตามมานั้นไม่อาจประมาณได้เลย
ตอนที่ 560 สนามฝึกซ้อมของทีมรถแข่ง
จ้าวหงหลิงที่อยู่ปลายสายเงียบงันอยู่นาน จากนั้นถึงเปล่งเสียงเอ่ยถามขึ้นมาว่า “หลินเยียน ถ้าหากได้ร่วมงานกับทีมกองถ่ายเลเจนด์ ถึงแม้จะได้แสดงบทตัวประกอบก็ตาม แต่ก็จะส่งผลดีต่ออนาคตหน้าที่การงานของเธออย่างมหาศาล ฉันอยากรู้ว่าในเมื่อเธอได้บทในเรื่องเลเจนด์แล้ว ทำไมยังต้องปฏิเสธอีกเล่า”
ด้วยความเข้าใจที่จ้าวหงหลิงมีต่อหลินเยียน จ้าวหงหลิงไม่คิดว่าอยู่ดีไม่ว่าดีหลินเยียนจะทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ ดังนั้นเธอจึงต้องรู้ความคิดของหลินเยียน
“เพราะฉันสนใจบทของเยวาเทานั้น บทอื่นฉันอาจแสดงได้ไม่ดีก็ได้” หลินเยียนหัวเราะ
“แค่นี้?”
เมื่อได้ฟังคำอธิบายของหลินเยียน จ้าวหงหลิงก็มีสีหน้าประหลาดใจ กระทั่งว่ายังรู้สึกเหลือเชื่อเสียด้วยซ้ำ
เหตุผลที่หลินเยียนปฏิเสธกองถ่ายเลเจนด์ แค่เพราะเธออยากได้บทของเยวา เลยไม่ยอมพิจารณาบทอื่นนอกจากเยวาเลย…
เหตุผลนี้ของหลินเยียนทำให้จ้าวหงหลิงพูดไม่ออกอยู่บ้าง
“หลินเยียน เธอน่าจะรู้นะว่าบทของเยวาอยู่ในมือของหลินซูหย่าตั้งนานแล้ว ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในตอนนี้แน่ สมมติว่าต่อให้ตอนนี้บทของเยวายังไม่มีคนที่เหมาะสมก็ตาม แต่ถ้าเธออยากได้ ก็ยากราวกับขึ้นสวรรค์นะ” จ้าวหงหลิงพูดกับหลินเยียนด้วยความห่วงใยจากใจจริง
บทของเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวา ถึงแม้จะออกมาในภาพยนตร์ไม่มาก ถึงกระนั้นกลับเป็นตัวละครที่เป็นจิตวิญญาณของภาพยนตร์เรื่องเลเจนด์นี้ ด้วยความนิยมหรือฝีมือทางการแสดงของของหลินเยียนในตอนนี้ ไม่น่าจะมีโอกาสได้รับบทด้วยความสามารถแน่นอน
ดังนั้นความหมายของจ้าวหงหลิงชัดเจนมาก เธออยากให้หลินเยียนรับบทใดบทหนึ่งในเรื่องเลเจนด์ ถึงแม้จะเป็นแค่ตัวละครตัวเล็กๆ แต่ก็เพียงพอแล้ว
“พี่หง พี่วางใจเถอะ ฉันรู้แล้ว ฉันจะร่วมงานกับกองถ่ายเลเจนด์” หลินเยียนหัวเราะเบาๆ
“อืม ไม่ต้องรีบร้อน วันหลังยังมีโอกาสอีกมาก” จ้าวหงหลิงพูดปลอบใจหลินเยียน
อันที่จริงหลินเยียนย่อมเข้าใจความคิดและข้อเสนอแนะของจ้าวหงหลิงดี ถ้าหากลองคิดมุมกลับ ถ้าตนเองเป็นจ้าวหงหลิงก็คงทำแบบนี้เหมือนกัน
พอวางสาย หลินเยียนก็เปลี่ยนชุด จากนั้นก็เรียกรถไปที่บ้านเดิมของตระกูลเฮ่อ
เนื่องจากไม่ได้บอกล่วงหน้า เมื่อหลินเยียนมาถึงบ้านตระกูลเฮ่อกลับมาเสียเที่ยวเปล่า ที่บ้านไม่มีใครเลย
หลินเยียนโทรหาคุณตาทันที เธอถึงรู้ว่าพวกของคุณตากับมั่วซูอวิ๋นกำลังอยู่ที่สนามซ้อมแถวชานเมืองของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ
หลินเยียนจึงได้แต่ออกจากบ้านตระกูลเฮ่อ มุ่งหน้าไปที่สนามเขตชานเมือง
เพิ่งเข้าสู่สนามซ้อม หลินเยียนก็ได้ยินเสียงดังกระหึ่มของรถแข่ง
ณ สนามฝึกซ้อมของตระกูลเฮ่อ หลินเยียนเห็นใบหน้าของชายหนุ่มจำนวนไม่น้อย ชายหนุ่มเหล่านี้ต่างสวมชุดเครื่องแบบของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อกันทั้งสิ้น
ก่อนหน้านี้มั่วซูอวิ๋นเคยบอกไว้ว่าตัวเองหาสายเลือดใหม่เข้าทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อมาได้จำนวนหนึ่ง หากหลินเยียนมีเวลาก็ขอให้ลองมาดูสักหน่อย เพียงแต่ช่วงนี้หลินเยียนค่อนข้างงานยุ่ง ดังนั้นจึงลากมาจนถึงวันนี้
หลินเยียนเพิ่งเดินเข้าสนามฝึกซ้อมก็ดึงดูดสายตาของเด็กหนุ่มจำนวนไม่น้อย
“เฮ้…หลินเยียนนี่นา เฮ้!”
เด็กหนุ่มสกินเฮดคนหนึ่งชี้หลินเยียนพร้อมเอ่ยปากพูดด้วยความตื่นเต้นตกใจ
“พวกนายเคยดูคู่ปรับมหากาฬหรือเปล่า ก็หลินเยียนที่แสดงเป็นหลินเผี่ยนรั่วยังไงล่ะ!”
“ทำไมหลินเยียนมาที่นี่ได้ล่ะ”
“มีอะไรน่าแปลกกันเล่า หลินเยียนเป็นหลานสาวของนายผู้เฒ่านี่นา ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อคือกิจการ
ของบ้านหลินเยียน”
“คุณหลินเยียน สวัสดีครับ!”
สมาชิกหนุ่มหลายคนปลุกปลอบความกล้าแล้วเดินไปหาหลินเยียน
“สวัสดี” หลินเยียนมองสมาชิกหนุ่มเหล่านี้แวบหนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยปากพร้อมยิ้มแย้ม