เซียวเซ่อหยางมุมปากกระตุกไปเล็กน้อย ถึงเขาชอบความตรงไปตรงมาของซินเยว่เยี่ยน แต่คำพูดนี้ของนางก็เกินความคาดหมายไปหน่อย ท้องผูก ?!
สตรีผู้หนึ่ง เอ่ยคำว่าท้องผูกนี้ เหมาะสมไหม
ช่างเถอะ
ยามนี้เซียวเซ่อหยางไม่คิดถึงเรื่องเหมาะสมไม่เหมาะสมอันใดอีก ในเมื่อนางพูดเช่นนี้ เขาเอ่ยไปตามตรงก็จะดีที่สุด “คือว่าแม่นางซิน ข้าอยากคุยเรื่องถอนหมั้นกับเจ้า!”
เขาเอ่ยออกมา ซินเยว่เยี่ยนมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา “ท่านว่าอะไรนะ
ไม่ใช่กระมัง ?!
ความสุขปรี่มาอย่างกะทันหัน ไม่ต้องให้นางเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาเอง เขาก็ยอมรับการถอนหมั้นแล้วหรือ ซินเยว่เยี่ยนรู้สึกราวกับฝันไป นางอยากถอนหมั้นจนเกิดภาพหลอนแล้วหรือเปล่า
เห็นซินเยว่เยี่ยนมองด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ เซียวเซ่อหยางหลงคิดว่านางถูกคำพูดเขาจู่โจมเข้าให้แล้ว
ชั่วขณะนั้นความรู้สึกผิดรุนแรงขึ้น อดไม่ไหวรีบเอ่ยว่า “แม่นางซิน ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่ดี ข้าผู้แซ่เซียวมีความจำเป็น ข้ารู้ว่าตัวเองทำผิดอย่างมหันต์ แม่นางซินอยากจะด่าจะตี ผู้แซ่เซียวยินดีรับ!”
เซียวเซ่อหยางเอ่ยด้วยกิริยาท่าทางของบุรุษมีความรับผิดชอบ ไม่หลบสายตามองซินเยว่เยี่ยนด้วยความจริงจัง มีท่าทางของบุรุษอกสามศอกยินยอมพร้อมรับทุกท่า ไม่คิดหนี
ซินเยว่เยี่ยนยื่นมือออกไป…
ยามเซียวเซ่อหยางหลงคิดว่าจะถูกฝ่ามือตบเข้าที่หน้า ในฉับพลันมือของนางวางบนบ่าเขา สีหน้าตะลึงในตอนแรกเปลี่ยนไปเป็นสีหน้ายินดีในเสี้ยววินาที!
จากนั้นนางก็ตบบ่าเซียวเซ่อหยางแรงๆ “ดีเหลือเกิน! ที่แท้ท่านก็คิดเช่นนี้ วิเศษไปเลย นี่มันเหมือนขนมเปี๊ยะหล่นจากฟ้า เป็นเรื่องดีเสียจนตกใจ! ข้าอยากไปตีกลองร้องเลี้ยงฉลองสักหน่อย”
“แม่นางซิน ท่านสงบใจหน่อย ข้ารู้ว่าท่านไม่อาจรับไหว แต่ก็ไม่ต้องทำเช่นนี้!” เซียวเซ่อหยางพยายามเกลี้ยกล่อมนางด้วยความเป็นห่วง
ซินเยว่เยี่ยนนิ่งไปเล็กน้อย มองเขาอย่างไม่เข้าใจ “ข้ารู้สึกดีจะแย่ ทำไมต้องรับไม่ได้ด้วยเล่า”
เซียวเซ่อหยางมองสีหน้าซินเยว่เยี่ยน จ้องอยู่หลายวินาที
เห็นสีหน้านางเต็มไปด้วยความเบิกบานเป็นลิงโลดที่หาชมได้ยากอย่างแจ่มชัด สีหน้าเขาเปลี่ยนไปง้ำงอ การแสดงออกของนางไม่เหมือนคนกลัดกลุ้มกังวลใจ นี่เป็นความยินดีที่ไม่อาจปกปิดได้จริงๆ
ดังนั้นก็หมายความว่า
ที่แท้นางเฝ้ารอที่จะถอนหมั้นกับเขา ตอนนี้นางดีใจจากใจจริงอีกด้วย?
ในเวลานี้เซียวเซ่อหยางเริ่มไม่พอใจขึ้นมาแล้ว
เขาอยากถอนหมั้นก็เพราะความจำเป็น ในใจเขาพึงพอใจกับคู่หมั้นอย่างซินเยว่เยี่ยนมาก แต่ว่าท่าทีของนางเช่นนี้คืออะไรกัน นางไม่พอใจในตัวเขาอย่างนั้นหรือ
สำหรับนางแล้วการมีคู่หมั้นอย่างเขาเป็นเรื่องยากรับได้หรืออย่างไรกัน
เซียวเซ่อหยางแสดงออกว่าวินาทีนี้เขาค่อยรู้สึกเกินรับไหว
หลังจากเงียบไปชั่วขณะ เขาก็ตีหน้าง้ำมองซินเยว่เยี่ยน “เจ้าหวังว่าข้าจะถอนหมั้นหรือ”
“ถูกแล้ว!” ซินเยว่เยี่ยนไม่ปิดบังเขาเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังเอ่ยปากตามตรงว่า “ข้าไม่รู้ว่าทำไมท่านพ่อบุญธรรมถึงหมั้นหมายพวกเราในปีนั้น พวกเราสองคนยังไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ ท่านดูสิ เพราะคนทั่วหล้าต่างรู้ว่าซินเยว่เยี่ยนเป็นคู่หมั้นของเทพกระบี่เซียวเซ่อหยาง ทำให้ชายหนุ่มที่เพียบพร้อมมากมายไม่กล้าตามจีบข้า ล้วนเป็นความรับผิดชอบของท่านแท้ๆ ท่านเข้าใจหรือเปล่า”
เมื่อเอ่ยถึงยามนี้ ซินเยว่เยี่ยนก็ยังเอ่ยต่อ “อีกอย่างท่านว่า หากท่านกับข้าแต่งงานกันก่อนที่ท่านจะหายตัวไป อย่างนั้นก็ไม่มีอะไรต้องเอ่ยอีก ผลเล่าท่านทิ้งงานหมั้นเอาไว้ ส่วนคนหายไปตั้งนาน ท่านรู้ไหมว่าตอนนั้นมีข่าวลือว่าข้ามีดวงพิฆาตสามีมากมายเท่าไร บอกว่าหากท่านแต่งกับข้า ข้าต้องทำให้ท่านตายแน่!”
เมื่อนางเอ่ยออกมา สีหน้าเซียวเซ่อหยางเผยความรู้สึกผิด หลงคิดว่าที่ซินเยว่เยี่ยนเป็นเช่นนี้เพราะถูกผู้อื่นวิจารณ์ ดังนั้นนางจึงขุ่นเคืองในใจ
เมื่อเอ่ยถึงยามนี้ เขาก็เปิดปากว่า “ขอโทษด้วย ปีนั้นข้าไม่ทันระวังตกหลุมพรางผู้อื่น ทำให้เจ้าถูกวิจารณ์ ล้วนเป็นความรับผิดชอบของข้า!”
“ดี! หากท่านรู้สึกผิดต่อข้าจริงๆ ก็อย่าสำนึกเสียใจเด็ดขาด พวกเราสองคนยกเลิกงานแต่งนี้ไปเสีย ทางหนึ่งข้าไม่รู้สึกอะไรกับท่าน ข้ารู้สึกว่าด้วยรูปโฉมของข้า ทันทีที่ยกเลิกการแต่งงานกับท่าน ต้องมีบุรุษรูปงามในยุทธภพมากมายเรียงแถวมาตามจีบข้า!”
เอ่ยถึงตรงนี้ ซินเยว่เยี่ยนก็กล่าวอย่างจริงจังต่อว่า “อีกด้านหนึ่ง เทียบกับคำลือข้างนอกว่าข้าพิฆาตสามีแล้ว ข้าคิดว่าท่านต่างหากที่ดวงพิฆาตภรรยา! หลังจากหมั้นหมายกับท่าน ก็ไม่มีใครมาตามจีบข้าเลย เรื่องนี้ก็ช่างเถอะ ข้ายังถูกคนด่าว่าว่าทำร้ายสามีอยู่หลายปี ข้าคิดว่าขอเพียงตัดขาดความสัมพันธ์กับท่านซะ วันเวลาภายหน้าของข้าจะต้องดีขึ้นบ้าง!”
ในคำพูดของซินเยว่เยี่ยนคล้ายกับเซียวเซ่อหยางเป็นเทพหายนะที่หาได้ยากในรอบร้อยปี
นางแทบทุ่มเทพลังกายทั้งหมดเพื่อยกเลิกงานแต่งงานกับเขา
สีหน้าเซียวเซ่อหยางเปลี่ยนไปมาอยู่นาน เขามีชีวิตมาจนบัดนี้ เป็นครั้งแรกที่ถูกคนทอดทิ้งเช่นนี้ ต่างจากภาพที่เขาคิดไว้โดยสิ้นเชิง !
เขาหลงคิดว่าหลังจากขอถอนหมั้นไปแล้ว เหตุการณ์ที่ได้พบคือซินเยว่เยี่ยนเสียใจอย่างแสนสาหัส ด่าว่าเขาเป็นคนไร้หัวใจ ทำให้นางเสียเวลาที่มีค่า ทั้งเขายังทรยศต่อคุณธรรม ยกเลิกการหมั้นหมาย
ใครจะรู้ว่า…
นางจะพูดเช่นนี้เล่า
ท่าทางดีใจของนางแสดงออกว่าดีเหลือเกิน นางก็อยากถอนหมั้นเช่นกัน จากนั้นก็บอกเขาว่า เพราะการมีอยู่ของเขา ทำให้หลายปีที่ผ่านมาไม่มีใครจีบนาง?!
ยังมีอะไรอีกนะ ความจริงมิใช่นางพิฆาตสามี แต่เป็นเขาที่พิฆาตภรรยา?! ทั้งยังมีท่าทางเหมือนเผชิญกับเทพหายนะ ทำให้เซียวเซ่อหยางรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง
ทำไมเรื่องราวถึงต่างจากที่เขาคิดนัก ไม่เพียงต่างออกไป ซ้ำยังดำเนินไปในทางตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
ที่น่าโมโหที่สุดคือใบหน้าของซินเยว่เยี่ยนแสดงออกถึงความยินดีปรีดาชัดเจน ทำให้เขาที่อยากปลอบตัวเองว่า นางก็แค่ฝืนยิ้มเท่านั้น ยังไม่อาจปลอบใจตัวเองได้เลย
เขาไม่หวังให้นางเสียใจ
แต่นางดีใจถึงเพียงนี้ ก็ยากไม่ให้คนรู้สึกประดักประเดิดได้หรือเปล่า
เซียวเซ่อหยางหน้าเหม็นราวกับอาจมสุนัข เขารู้สึกว่าสายตามีปัญหาของโอวหยางเทาเมื่อครู่ไม่ได้มอบให้กับซินเยว่เยี่ยน แต่สมควรเป็นตัวเขาเองมากกว่า
เขาเอ่ยเสียงนิ่ง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เรื่องนี้ก็ตกลงตามนี้แล้วกัน”
“อืมๆ!” ซินเยว่เยี่ยนพยักหน้ารัวๆ
เซียวเซ่อหยางสะกดความโกรธไว้ในใจ เอ่ยแกมประชดว่า “เช่นนั้นผู้แซ่เซียวจะไม่ทำให้แม่นางซินเสียเวลาอีกต่อไป ทั้งยังไม่อยู่พิฆาตแม่นางซินอีกต่อไปแล้ว”
เดิมคิดว่าจะได้ยินนางเอ่ยคำพูดเกรงใจตามมารยาท
คิดไม่ถึงว่าซินเยว่เยี่ยนจะพยักหน้า “ดีมาก! วิเศษไปเลย!”
เซียวเซ่อหยาง “…อย่างนั้นซินเยว่เยี่ยนมาหาผู้แซ่เซียว ด้วยเรื่องอันใดกัน แม่นางซินเอ่ยมาได้แล้ว!”
“เดิมทีข้าก็มาหาท่านก็ด้วยเรื่องถอนหมั้น!”