ซินเยว่เยี่ยนเอ่ยไปพลางไม่รู้ว่านางคิดไปเองหรือเปล่า ไฉนสีหน้าของเซียวเซ่อหยางถึงได้ไม่น่าดูเอาเสียเลย
เป็นเช่นนั้นจริงๆ
หลังจากนางเอ่ยจบ เพียงแค่เวลาไม่กี่วินาที สีหน้าเซียวเซ่อหยางคล้ายกับได้กลิ่นอาจม
หน้าคล้ำง้ำงอขึ้นกว่าตอนแรกอยู่มาก
เขาตีหน้านิ่งเอ่ย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่รบกวนเวลาของแม่นางซินแล้ว ผู้แซ่เซียวขอตัวก่อน!”
“อืม!” ซินเยว่เยี่ยนพยักหน้า
หลังจากเอ่ยจบ เซียวเซ่อหยางก็เดินจากไป
ยังไม่ทันพ้นสองก้าว ซินเยว่เยี่ยนโพล่งขึ้นว่า “เจ้า…รอเดี๋ยวก่อน!”
เซียวเซ่อหยางชะงักฝีเท้า ในใจคิดว่าอย่างน้อยนางก็น่าจะมีใจให้เขาบ้างกระมัง บางทีเมื่อครู่อาจทำไปเพราะรักษาหน้า ฝืนเอ่ยคำว่านางไม่ใส่ใจ?
เมื่อคิดได้เซียวเซ่อหยางก็ใคร่ครวญในใจว่าเมื่อหันกลับไปจะปลอบนางอย่างไรดี
ผลคือ
เขายังไม่คิดได้ว่าควรพูดอะไร น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยการรอคอยของซินเยว่เยี่ยนก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังเขา “ท่านอย่าได้ลืมเด็ดขาดเชียว เมื่อออกไปแล้วก็บอกกับคนอื่นว่าการหมั้นหมายของพวกเรายกเลิกไปแล้ว! ท่านต้องทุ่มเทป่าวประกาศเรื่องนี้ออกไปเข้าใจหรือไม่ ทำเช่นนี้เหล่าบุรุษหนุ่มทั้งหลายถึงจะรู้ว่าข้ากลับมาโสดอีกครั้ง!”
เซียวเซ่อหยางรู้สึกลำคอขมปร่า
ใต้หล้านี้คงไม่มีใครเหมือนซินเยว่เยี่ยน ถูกถอนหมั้นแต่ยินดีถึงเพียงนี้ ทั้งไม่กลัวคนทั่วหล้าจะรู้เรื่อง ซ้ำยังโพนทะนาออกไปอีก
เขาเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ในสายตาของนางเขาเป็นคนที่ขัดขวางหนทางของผู้อื่นอย่างแน่แท้ ขัดขวางวาสนาการแต่งของผู้อื่น มิเช่นนั้นนางคงไม่เห็นเขาเดินจากมาแล้วยังไม่ลืมย้ำเตือนเขาเพื่อบอกให้ทุกคนรู้ว่านางกลับสู่ความเป็นโสดอีกครั้งแล้ว?
ไม่อาจไม่บอกว่า
เซียวเซ่อหยางรู้สึกว่าศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของตนถูกทำลายจนป่นปี้ย่อยยับ
เขาตอบด้วยแววตาสุขุม “ข้ารู้แล้ว แม่นางซินวางใจได้!”
จากนั้นเขาก็สะกดกลั้นรสฝาดที่คอ สาวเท้าเดินจากไป
จากนั้นสิ่งที่ทำให้เขาจวนจะกระอักเลือดออกมามากที่สุดคือเพราะวรยุทธ์ล้ำเลิศของตน ทำให้เขาได้ยินเสียงฝีเท้าด้านหลัง รับรู้ว่าซินเยว่เยี่ยนกระโดดโลดเต้นออกไปอย่างมีความสุข คล้ายกับยินดีที่เก็บเงินได้ ฮัมเพลงออกไปด้วยความเบิกบาน
ยามเซียวเซ่อหยางตีหน้าเหม็นบูดกลับถึงห้อง
โอวหยางเทาก็ชะงัก มองเซียวเซ่อหยางด้วยความตะลึง “เจ้าเป็นอะไรไปแล้ว นี่มันสีหน้าอันใดกัน สีหน้าเจ้าในยามนี้ไม่ถูกต้องนิ…”
ในสถานการณ์ที่ถูกต้อง บนหน้าเซียวเซ่อหยางสมควรมีรอยฝ่ามือ กลับมาด้วยตามความสำนึกผิด จากนั้นก็ดื่มสุราแก้กลุ้ม บอกว่าทำผิดต่อซินเยว่เยี่ยน ถามตนว่าอีกฝ่ายควรชดใช้ให้นางอย่างไรไม่ใช่หรือ
ทำไมถึงทำหน้าเหม็นกลับมา คล้ายกับมีคนติดเงินเขาหลายหมื่นตำลึงเล่า
โอวหยางเทาสงสัยว่าตนเองมองผิดไปหรือเปล่า
ในขณะกลัดกลุ้มอยู่
เซียวเซ่อหยางก็ลุกขึ้น “รีบพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องเร่งเดินทาง!”
อย่างไรเสียนี่ก็หาใช่เรื่องมีเกียรติ อีกทั้งเสื่อมเสียศักด์ศรีของลูกผู้ชาย เซียวเซ่อหยางแสดงออกว่าเขาไม่อยากถกเรื่องนี้
“พักผ่อนอันใดของเจ้า ตอนนี้กลางวันแสกๆ เจ้าก็จะนอนแล้วหรือไง” โอวหยางเทาถลึงตาใส่สหาย ไม่ยอมปล่อยเขาไป “เป็นพี่น้องกันจริงหรือเปล่า หากเป็นพี่น้องกันเจ้าก็เล่ามาเสียดีๆ ไม่เช่นนั้นอีกหน่อยมีเรื่องอันใดข้าจะไม่เล่าให้เจ้าฟังบ้าง”
เจ้านี่ไม่ปกติเลย สีหน้าคล้ายอกหัก ถูกทำร้ายอย่างแสนสาหัส
เดิมทีโอวหยางเทายังกังวลว่า ว่าซินเยว่เยี่ยนจะฆ่าตัวตายหรือไม่ แต่เมื่อเห็นสีหน้าพี่น้องของตัวเอง คิดถึงคำพูดให้รีบพักผ่อนเพื่อเร่งเดินทางในวันพรุ่งนี้ของอีกฝ่าย ยามนี้เขากังวลว่าเซียวเซ่อหยางเป็นฝ่ายคิดไม่ตกมากกว่า
เมื่อคิดถึงเหตุนี้ เขาต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ระหว่างที่เขากำลังกลัดกลุ้มไม่เลิก เซียวเซ่อหยางมองเขาอย่างหนักแน่น ถอนใจออกมาคำหนึ่ง เริ่มเอ่ยปากเล่าเหตุการณ์สนทนาระหว่างตนเองกับซินเยว่เยี่ยนทั้งหมดให้โอวหยางเทาฟัง จากนั้นสีหน้าก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นไม่น่ามองเข้าไปใหญ่
โอวหยางเทาฟังไปได้พักหนึ่งก็อ้าปากค้าง เขาเกือบสงสัยแล้วว่าตนฟังผิดไปหรือไม่
ซินเยว่เยี่ยนผู้นั้น…นาง นางช่างอยู่เหนือความคาดหมายของคนเสียจริง! ภาพลักษณ์ของซินเยว่เยี่ยนในสายตาโอวหยางเทาคือเพียบพร้อมไปเสียทุกด้าน นิสัยสดใสร่าเริงเปิดเผย แต่เพราะนางเป็นสตรีของสหาย เขาจึงไม่กล้าคิดอันใดกับนาง
แต่ว่าเวลานี้…
หลังจากฟังจบ เขาได้แต่มองเซียวเซ่อหยาง “พี่น้องเอ๋ย เอาอย่างนี้เถอะ อย่างไรการแต่งงานของพวกเจ้าก็ถูกยกเลิกแล้ว อย่างนั้นก็ให้ข้าไปตามตื๊อนางก็แล้วกัน! ชั่วชีวิตข้าไม่เคยเห็นสตรีที่น่าสนใจเพียงนี้มาก่อน หากพลาดจากนางไปข้าต้องเสียใจไปชั่วชีวิตแน่!”
มารดามันเถอะ!
ถูกถอนหมั้นยังไม่เสียใจสักนิดก็ช่างเถอะ ซ้ำยังเบิกบานใจ มีท่าทางเหมือนหนีจากเทพหายนะได้ ยังพูดอะไรอีกนะ อ้อ เซียวเซ่อหยางมีดวงพิฆาตภรรยา!
โอวหยางเทาคิดว่าแค่เรื่องเหล่านี้ เขาก็ตัดสินได้แล้วว่า ซินเยว่เยี่ยนเป็นสตรีที่น่าสนใจนางหนึ่งไม่ผิดแน่!
เซียวเซ่อหยาง “นี่เจ้าพูดอะไรกัน ?!”
เขาสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไปหรือเปล่า นี่ยังเรียกว่าพี่น้องอีกหรือ เกิดเรื่องแบบนี้อีกฝ่ายไม่รีบปลอบเขา มีหน้าบอกว่าจะไปตามจีบซินเยว่เยี่ยน
คิดถึงคำพูดของนางว่า ไม่มีใครตามจีบนางก็เพราะสัญญาหมั้นหมายของพวกเขา เดิมเขาไม่ใส่ใจ แต่ยามนี้มองท่าทางพี่น้องของตน…
เซียวเซ่อหยางแสดงออกว่าตัวเองอยากสบถออกมาสักประโยค แต่ไม่รู้ว่าสมควรเอ่ยประโยคไหนดี!
เขาสงสัยเหลือเกินว่า โอวหยางเทานี่เป็นพี่น้องกันจริง หรือว่าเป็นศัตรูที่ใครส่งมาอยู่ข้างกายเขา?!
“ข้ายังพูดไม่ชัดอีกหรือ” โอวหยางเทามองเซียวเซ่อหยางอย่างจริงจัง “เมื่อก่อนนางเป็นสตรีของเจ้า ข้าจึงไม่เคยคิดอะไร ยามนี้นางไม่ใช่สตรีของเจ้าอีกแล้ว ข้าก็สามารถใช้สายตาอย่างผู้ชายมองนาง ได้อยู่กับแม่นางเช่นนี้ ชั่วชีวิตข้าต้องมีความสุขอย่างแน่นอน!”
ถึงการเอ่ยเช่นนี้กับพี่น้องออกจะโหดร้ายไปบ้าง แต่ว่า…เทียบกับความเจ็บปวดที่ตนพบสตรีที่น่าสน ยังต้องอดทนไม่ไล่จีบนาง น่าจะโหดเ**้ยมกับพี่น้องกว่ากระมัง
เซียวเซ่อหยางสีหน้าง้ำงออยู่นาน จ้องโอวหยางเทา “ไม่ต้องพูดเรื่องความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้อง เอาแค่เรื่องที่พวกเราจะทำหลังจากนั้น เจ้าคิดจะทำร้ายนางหรือไง”
“ข้าไม่เหมือนกับเจ้า ข้าไม่มีคุณธรรมสูงส่งเท่าเจ้า ข้ารู้สึกว่าการอยู่ร่วมกับสตรีที่รัก ตายด้วยกันถึงเป็นเรื่องที่หวานล้ำที่สุด” โอวหยางเทากะพริบตา แสดงความคิดอย่างจริงจัง
มองสีหน้าที่ยิ่งมายิ่งไม่น่ามองของเซียวเซ่อหยาง
หลังจากโอวหยางเทาสีหน้าเปลี่ยนไป พลันฉุกคิดได้ว่า “หรือเจ้าชอบนางจริงๆ แล้ว”
เดิมเขาคิดว่าเพราะการหมั้นหมาย ทั้งเซียวเซ่อหยางไม่อยากไม่อยู่กับซินเยว่เยี่ยน ตอนนี้เมื่อดูแล้ว…
“ข้าก็เพิ่งมั่นใจได้เมื่อครู่!”
เดิมทีเขามีความรู้สึกดีๆ ให้ซินเยว่เยี่ยน รู้สึกว่าการมีคู่หมั้นเช่นนี้ทำให้พึงพอใจมาก จนกระทั่งเห็นซินเยว่เยี่ยนมีท่าทางดีอกดีใจ ส่วนเขากลับโมโหเช่นนี้