ตอนที่ 210 – พบกันที่โรงเตี๊ยม
กองคาราวานเดินทางเข้าเมืองโดยไม่มีปัญหาใด ๆ เจี้ยนเฉินและกลุ่มทหารรับจ้างอัศวินอำลาซึ่งกันและกันและกำหนดเส้นทางของตนเอง
เมื่อเห็นเจี้ยนเฉินเดินไกลออกไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ นั้น ฮูดอฟดูเหมือนลังเล ขณะที่เขานั่งบนหลังม้า เขาก้มหัวคิดเล็กน้อยก่อนที่จะกัดริมฝีปากราวกับว่าเขาได้ข้อสรุปก่อนที่จะหันไปมองกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มนี้ ” พี่น้องทั้งหลาย หลังจากส่งมอบสินค้าทั้งหมดเรียบร้อยแล้วอย่าเพิ่งออกไปไหน มีอีกเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากคุยกับทุกคน”
“ได้ หัวหน้า ! “
กลุ่มทหารรับจ้างอัศวินทั้งหมดร้องตอบตกลง แม้ว่าพวกเขาแต่ละคนล้วนมีคำถามอยู่ในใจ แต่ไม่มีใครสักคนที่กล้าถามออกมาดัง ๆ
……
เจี้ยนเฉินเดินไปตามถนนขนาดใหญ่ แต่ไม่เหมือนครั้งที่แล้ว เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าบรรยากาศในเมืองนั้นหนักกว่าราวกับว่างานใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมที่มีผู้คนพลุกพล่านเกี่ยวกับเรื่องการค้าของพวกเขาและกลิ่นอันหอมหวานของอาหารที่ลอยเข้ามาในจมูกของเขา
กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อสัตว์และผัก เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะหยุดและสูดกลิ่นในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะเดินต่อไป ในขณะที่เขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านหวาง เจี้ยนเฉินใช้เวลาหลายวันกับอาหารและชาที่เรียบง่ายและไม่สามารถทานอาหารที่แสนอร่อยที่มีเพียงแต่ในโรงเตี๊ยมในเมืองเท่านั้น
ขณะที่กวักมือเรียกเสี่ยวเอ้อ เจี้ยนเฉินนั่งลงที่โต๊ะเพื่อสั่งอาหารมากิน มีหน้าต่างอยู่ข้างโต๊ะ
ตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้ว โรงเตี๊ยมก็เต็มไปด้วยผู้คน กลุ่มคนที่ดูแข็งแกร่งนั่งอยู่ใกล้เขาและพูดเสียงดังที่โต๊ะอาหาร
” เจ้ารู้หรือไม่ว่าคลื่นสัตว์อสูรรอบต่อไปนี้จะเกิดขึ้นเมื่อใดหรือนานเท่าไร ? “
“ท่านเจ้าเมืองประกาศว่าคลื่นจะเกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่กี่วัน แต่อย่างไรก็ตามคลื่นครั้งสุดท้าย คลื่นนี้อาจจะคงอยู่นานกว่าสิบวัน”
เสียงสนทนาดังมาถึงหูของเจี้ยนเฉิน เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจที่เขาได้ยินทำให้หูของเขากระดิกด้วยความสนใจ ในความคิดของเจี้ยนเฉินพึมพำกับตัวเอง “คลื่นของสัตว์อสูร มันเป็นไปได้หรือไม่ว่าสัตว์อสูรจากเทือกเขาสัตว์อสูรกำลังจะมาล้อมเมือง ? ถ้าอย่างนั้นก็ไม่น่าแปลกใจว่าบรรยากาศในเมืองนั้นช่างเคร่งเครียดเหลือเกิน”
เจี้ยนเฉินยังคงกินอาหารของเขาต่อไปในขณะที่ฟังผู้คนพูดคุยกัน เมื่อเขากินอาหารเสร็จ เขาก็จะทำการย่อยข้อมูลที่ได้ยิน
” เฮ้ ดูสิ ! นั่นคือกลุ่มทหารรับจ้างโจวใช่ไหม?”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงหนึ่งที่โดดเด่นสำหรับเจี้ยนเฉินและเมื่อคำพูดนั้นอยู่ในหัวของเขาเจี้ยนเฉินก็ชะงักค้างขึ้นมาทันทีเมื่อเขาเอื้อมตะเกียบออกไปเพื่อคีบชิ้นเนื้อ เขาเงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ เขามองออกไปที่ประตูของโรงเตี๊ยมเพียงเพื่อดูกลุ่มทหารรับจ้าง 4 คนที่สวมชุดเกราะที่น่าประทับใจเดินเข้ามาในอาคาร
ทหารรับจ้างสี่คนนี้มีเกราะที่เหมือนกันพร้อมกับมีตราสัญลักษณ์เหมือนกันติดอยู่บนชุดเกราะ นอกเหนือจากหมวก ทหารรับจ้างเหล่านี้ดูเหมือนกันกับที่เจี้ยนเฉินได้พบที่เทือกเขาสัตว์อสูร
ทหารรับจ้างโจวทั้งสี่เดินไปที่โต๊ะใกล้กับเจี้ยนเฉินและนั่งลง หลังจากสั่งอาหารทั้งสี่ก็เริ่มพูดกันอย่างเงียบ ๆ
ตามที่ทหารรับจ้างโจวทั้งสี่เข้ามา หัวข้อในโรงเตี๊ยมเริ่มเบี่ยงเบนไปเกี่ยวกับกลุ่มทหารรับจ้างโจว
“ข้าเคยได้ยินว่าหัวหน้าโจวหยุนของทหารรับจ้างโจวได้ทะลวงผ่านระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษเมื่อสามเดือนที่แล้ว ด้วยระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทำให้กลุ่มทหารรับจ้างโจวแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก ขณะนี้ในเมืองเวค กลุ่มทหารรับจ้างโจวเกือบจะไม่มีใครเทียบได้
” ฟังดูเหมือนถูกต้องแล้ว นับตั้งแต่โจวหยุนได้ทะลวงผ่านระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ความแข็งแกร่งของกลุ่มทั้งหมดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้สมาชิกของพวกเขามีจำนวนมากกว่าหนึ่งร้อยคนและด้วยการสนับสนุนของตระกูลโจว จากนั้นทำให้กลุ่มทหารรับจ้างโจรเป็นหนึ่งในสามกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดภายในเมืองเวคได้อย่างง่ายดาย”
คนที่มาทานอาหารหลายคนพูดอย่างเงียบ ๆ พวกเขาแต่ละคนค่อนข้างแข็งแกร่ง ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถพูดคุยกันได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวทหารรับจ้างทั้งสี่คน
เมื่อได้ยินการสนทนาของผู้คนรอบ ๆ พวกทหารรับจ้างสี่คนที่อยู่ใกล้กับเจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าหยิ่งผยอง ภายในเมืองเวค เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด สถานะของพวกเขาพุ่งสูงขึ้นราวกับจรวด นับตั้งแต่หัวหน้าของพวกเขาสร้างความก้าวหน้าให้เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษและมีสมาชิกมากมาย
“กลุ่มทหารรับจ้างโจว ข้าไม่คิดว่าจะได้พบพวกเจ้าในเมืองเวค” เจี้ยนเฉินจ้องไปที่กลุ่มทหารรับจ้างโจวอย่างเย็นชาด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะฆ่า
วางตะเกียบไว้ในมือลงอย่างช้า ๆ เจี้ยนเฉินเดินไปที่กลุ่มทหารรับจ้างโจวทั้งสี่คนแล้วมองตรงไปที่พวกเขาก่อนที่จะพูดช้า ๆ ว่า ” เจ้าทั้งสี่คนมาจากกลุ่มทหารรับจ้างโจวหรือ ? “
ทหารรับจ้างโจวทั้งสี่ต่างก็มองที่เจี้ยนเฉิน จากน้ำเสียงและท่าทางของเขา ทหารรับจ้างโจวทุกคนสามารถบอกได้ว่าเจี้ยนเฉินไม่ได้ชื่นชอบพวกเขา ทันใดนั้นดวงตาของพวกเขาก็จ้องมองเจี้ยนเฉินอย่างเย็นชา
” ถูกต้อง เราเป็นสมาชิกของทหารรับจ้างโจว เจ้าหนุ่ม เจ้าเป็นใคร ? บอกชื่อของเจ้ามา” ทหารรับจ้างที่ดูแข็งแกร่งและพูดจายโสโอหังใส่เจี้ยนเฉิน
ทุกคนในโรงเตี๊ยมเริ่มมองเห็นความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างทหารรับจ้างโจวทั้ง 4 และ เจี้ยนเฉิน ทุกคนวางถ้วยและตะเกียบลง และพยายามที่จะเงี่ยหูฟังสิ่งที่พวกเขาพูดและเริ่มเตรียมพร้อมในกรณีที่มีการต่อสู้เกิดขึ้น
“หืมม” เจี้ยนเฉินแค่นเสียง สีหน้าของเขาแสดงอาการดูถูกในขณะที่เขายังคงนิ่งเงียบ กระบี่วายุโปรยปรากฏขึ้นในมือของเขาทันทีก่อนที่จะแทงไปที่คอของทหารรับจ้างโจวคนหนึ่ง
เมื่อเห็นกระบี่ทะลุคอสหายของพวกเขา ทหารรับจ้างอีกสามคนก็ตกตะลึงในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะได้สติและร้องออกมาอย่างดุร้าย
“เจ้ากล้าที่จะต่อต้านพวกเราทหารรับจ้างโจว เจ้าต้องการรนหาที่ตายเช่นนั้นหรือ ! ” หนึ่งในนั้นคำรามเมื่อสมาชิกอีกสองคนพุ่งเข้าใส่เจี้ยนเฉิน พร้อมกับอาวุธเซียนของพวกเขาพร้อมที่จะฟันไปยังเจี้ยนเฉิน
เขาดึงกระบี่วายุโปรยออกจากคอทหารรับจ้างที่ตายแล้วอย่างสบาย ๆ ก่อนที่มันจะเปล่งประกายสีเงินอีกครั้ง ในขณะที่อาวุธเซียนทั้งสามพุ่งโจมตีไปที่เจี้ยนเฉิน กระบี่ของเขาก็บินออกไปและตัดผ่านลำคอของทหารรับจ้างสองคนและหยุดตรงหน้าคอของทหารรับจ้างคนที่เหลืออยู่
เมื่ออาวุธเซียนหยุดชั่วครู่อยู่ตรงคอของเขา ทหารรับจ้างคนสุดท้ายก็เรียกอาวุธเซียนของเขากลับมาพร้อมกับใบหน้าที่ซีดเผือดอย่างรวดเร็ว เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กอายุยี่สิบปีอย่างเจี้ยนเฉินจะสามารถเอาชนะเขาได้ ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นต้น แต่เขาไม่สามารถเทียบได้กับเด็กน้อยอย่างเจี้ยนเฉิน
แววตาของเขาสั่นไหวเล็กน้อยขณะที่หันหน้าไปมองทหารรับจ้างทั้งสองที่อยู่ข้าง ๆ เขา ดวงตาของเขามองเห็นเพียงสายเลือดเล็ก ๆ ที่ไหลออกมาจากคอก่อนที่ร่างของพวกเขาจะล้มลงสู่พื้น
ณ จุดนี้ ความกล้าหาญของทหารรับจ้างคนสุดท้ายสลายไปเมื่อเขารู้สึกหวาดกลัวในใจ เขารีบร้องออกมาเพื่อขอการให้อภัยว่า “อย่าฆ่าข้า อย่า ! ท่านจอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่ หากมีสิ่งที่ท่านต้องการพูดก็พูดได้ ! แค่อย่าฆ่าข้า ข้าจะทำทุกอย่างที่ท่านต้องการให้ข้าทำ ! “
เมื่อเห็นหน้าตาที่ตื่นตระหนกของทหารรับจ้าง เจี้ยนเฉินแค่นเสียง ” พาข้าไปที่สำนักใหญ่ทหารรับจ้างโจวมิฉะนั้นข้าจะฆ่าเจ้าที่นี่เดี๋ยวนี้”