ตอนที่ 211: วันชี้ชะตากับกลุ่มทหารรับจ้างโจว (1)
เมื่อมีกระบี่จ่อไปที่คอหอย ทหารรับจ้างก็ไม่กล้าที่จะทำท่ากล้าหาญและทำอะไร เขาไม่กล้าลังเลที่จะตอบรับคำขอของเจี้ยนเฉินและพาเขาไปที่สำนักงานใหญ่ของทหารรับจ้างโจวด้วยสายตาแตกตื่น
เจี้ยนเฉินและทหารรับจ้างเดินออกไปจากโรงเตี๊ยม ข้างในโรงเตี๊ยมที่เงียบสงัดก่อนหน้านี้ เสียงระเบิดพูดคุยก็ดังขึ้นมาในขณะที่ทุกคนมองอย่างเหลือเชื่อไปที่ศพสามศพของทหารรับจ้างโจว แต่ละโต๊ะเริ่มที่จะพูดคุยกันด้วยความประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าพวกเขา
“เจ้าหนุ่มคนนั้นเป็นใครกัน ? ความแข็งแกร่งของเขานั้นมากอย่างคาดไม่ถึงที่ฆ่าทหารรับจ้างโจวทั้งสามคนได้ ข้ามองไม่เห็นแม้แต่การเคลื่อนไหวของเขาเลยเพราะมันเร็วมาก”
“เป็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจจริง ๆ ! ข้าอายุก็ปาไป 40 ปีแล้ว แต่ความแข็งแกร่งของข้ายังไม่เคยเกินไปกว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นแรกเลย แต่เจ้าหนุ่มนั่นเพิ่งอายุยี่สิบเศษเศษ และเขาสามารถฆ่าชาย 3 คนที่อยู่ในระดับเดียวกันกับเขาได้ในพริบตา ! น่าเหลือเชื่อจริง ๆ “
“เจ้าหนุ่มคนนั้นแข็งแกร่งเกินไป ข้าคิดว่าเขาน่าจะอยู่ในระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เป็นไปได้ไหมว่าทหารรับจ้างโจวนั้นทำให้เขาโกรธและเขามาในวันนี้เพื่อที่จะมาล้างแค้น”
“หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างโจว โจวยุนก็มีความแข็งแกร่งในระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้วย แล้วพวกเขายังมีจอมยุทธในระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคน เจ้าหนุ่มนี่ก่อสงครามกับกลุ่มทหารรับจ้างหลักของทหารรับจ้างโจวอย่างเร็ว ข้าไม่มั่นใจว่าเขาจะใช่คู่ต่อสู้ของพวกนั้นหรือเปล่า”
“จอมยุทธหนุ่มลึกลับนี้ต้องมีความแค้นกับทหารรับจ้างโจวแน่ หลังจากที่เห็นความสามารถในการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวนั้นแล้ว ข้าอยากไปดูการต่อสู้ของพวกเขาจริง ๆ “
“เอาล่ะ มันต้องมีการต่อสู้เกิดขึ้นแน่ พวกเรารีบตามไปดูกันเถอะ ! “
“พวกเราไป ! ทุกคนต้องต้องไปดูเหตุการณ์แบบนี้ด้วยตาตนเองสักครั้งในชีวิต ! “
หลังจากนั้น ทุกคนในโรงเตี๊ยมก็ร้องออกมาอย่างเห็นพ้องต้องกันและก้าวเท้าออกไปจากโรงเตี๊ยม จนทำให้โรงเตี๊ยมว่างเปล่า
เจี้ยนเฉินไม่ได้เอากระบี่วายุโปรยจ่อทหารรับจ้างของโจว แทนที่กัน เขาเดินช้า ๆ ตามหลังทหารรับจ้างและมองอย่างสงบไปที่คนที่เดินกวักไกว่ไปมาบนถนน แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยได้สนใจทหารรับจ้างตรงหน้าเขามากนัก แต่ถ้าทหารรับจ้างเกิดหนีขึ้นมา กระบี่วายุโปรยของเจี้ยนเฉินก็จะแทงไปที่คอของเขาทันที
ด้านหลังเจี้ยนเฉิน กลุ่มคนจากโรงเตี๊ยมก็ตามหลังเขามาห่าง ๆ 50 เมตร
สำนักงานใหญ่ของกลุ่มทหารรับจ้างโจวตั้งอยู่ในเมืองเวคโดยเป็นบ้านหลังเดี่ยว ที่หน้าประตูบ้านมีป้ายที่เขียนไว้ว่า “กลุ่มทหารรับจ้างโจว” ด้วยตัวหนังสือที่สวยงาม เขียนอยู่บนนั้น พร้อมกับกลุ่มทหารรับจ้าง 4 คนในชุดเกราะหนักที่ยืนอยู่ด้านล่างป้าย
เมื่อได้เห็นป้ายใหญ่ตรงประตู เจี้ยนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะทำใบหน้ามืดมนและยิ้มอย่างชั่วร้าย ในขณะที่จิตสังหารเป็นประกายอยู่ในตาของเขา ก่อนที่เขาจะตามทหารรับจ้างไปที่สำนักงานใหญ่
“นี่คืออาณาเขตของทหารรับจ้างโจว แจ้งชื่อของเจ้ามา ! “
ในตอนที่เจี้ยนเฉินเข้าใกล้ประตู ยามรักษาการณ์ที่ประตูก็ขวางทางเขาเอาไว้ด้วยสายตาที่เย็นชาและตะโกนออกมา
“หืม ! ” เจี้ยนเฉินพ่นลมทางจมูกอีกครั้งในขณะที่กระบี่วายุโปรยปรากฏขึ้นที่มือขวาของเขา ในพริบตาเดียว ทหารรับจ้างในชุดเกราะหนักก็ถูกแทงไปที่คอ ในขณะที่เลือดไหลออกมานองพื้น
ทหารรับจ้างโจวกุมไปที่คอของเขาในขณะที่ใบหน้าของเขานั้นซีดก่อนที่ร่างของเขาจะล้มลงไปบนพื้น
เมื่อเห็นเพื่อนทหารรับจ้างตายอยู่บนพื้น ทหารรับจ้างที่เหลือทั้งหมดก็ตกตะลึง พวกเขาตั้งตัวได้อย่างรวดเร็วแล้วร้องออกมาด้วยความโกรธ
“ช่างสามหาวนัก ! ที่ฆ่าหนึ่งในทหารรับจ้างโจวของพวกเรา เจ้ามันรนหาที่ตาย ! ” มันใดนั้นเอง อาวุธเซียนสองชิ้นก็ลอยพุ่งไปที่เจี้ยนเฉิน ในขณะที่หนึ่งในทหารรับจ้างนั้นได้ถอยกลับไปที่ประตูเพื่อที่จะรายงานปัญหา
ทันใดนั้นเอง ในตอนที่ทหารรับจ้างสองคนเคลื่อนไหว กระบี่วายุโปรยของเจี้ยนเฉินก็เป็นประกายสีเงินและแทงเข้าไปที่คอของคนทั้งสองก่อนที่พวกเขาจะทันได้ทำอะไร
ในการเคลื่อนไหวเดียว เจี้ยนเฉินได้ฆ่ายามรักษาการสามในสี่คนที่ประตูไป และคนสุดท้ายได้หนีเข้าไปข้างในเพื่อเตือนคนอื่น ๆ
เจี้ยนเฉินจ้องอย่างเย็นชาไปที่ศพของยามรักษาการณ์บนพื้น เขามองไปที่ป้ายเหนือหัว “ทหารรับจ้างโจว วันนี้จะเป็นวันที่พวกเจ้าจะสาบสูญไปจากเมืองเวค” หลังจากนั้น เขาก็กระโจนขึ้นไปในอากาศพร้อมกับแสงจาง ๆ ของกระบี่วายุโปรยของเขา และเขาก็ฟันมันลงไปที่ป้ายที่เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มทหารรับจ้างโจว
หลังจากที่ทำลายป้ายของกลุ่มทหารรับจ้างโจวไปแล้ว เจี้ยนเฉินก็ถีบประตูให้เปิดออกจนประตูไม้แตกกระจายออกเป็นชิ้น ๆ ทันทีก่อนที่จะกระเด็นไปตรงพื้นที่ห่างจากเขา
“ปัง ! “
ในตอนที่ประตูบานใหญ่ตกกระทบพื้น เสียงดังก็กังวานไปทั่วอากาศในขณะที่เศษประตูที่ถูกทำลายก็ลอยกระเด็นไปทุกที่เหมือนพายุหนาม
“หืม ใครกันช่างกล้าที่มาโจมตีทหารรับจ้างโจวของพวกเรา ? ” ในเวลาเดียวกัน เสียงโกรธเกรี้ยวก็ร้องออกมาจากด้านใน
เจี้ยนเฉินเดินเข้าไปอย่างปกติทีละก้าวทีละก้าว เขาเดินไปอย่างนุ่มนวลเหมือนว่าเขากำลังเดินเล่น แม้แต่ใบหน้าของเขาก็ยังสงบเหมือนว่าเขาไม่ได้คิดว่าทหารรับจ้างโจวเป็นเรื่องเคร่งเครียดอะไร
ในขณะที่เจี้ยนเฉินเดินไปที่ลานบ้าน ร่างข้างในบ้านก็ปรากฏขึ้นมาข้างหน้าสายตาของเจี้ยนเฉินทันที พื้นที่ที่เคยว่างเปล่าตรงหน้าของเขาก่อนหน้านี้ มีชายวัยกลางคนที่อยู่ในชุดสีฟ้ากำลังยืนอยู่ตรงนั้น ชายคนนั้นดูอายุประมาณ 50 ปีและมีรอยแผลเป็นบนใบหน้าสองสามที่ นี่ทำให้เขายิ่งดูน่ากลัว
หลังจากการเข้ามาของชายคนนี้ กลุ่มคนยี่สิบคนอีกกลุ่มก็บินเข้ามาที่ลานบ้านอย่างรวดเร็ว หลายคนวิ่งมาในขณะที่บางคนลอยลงมาจากหลังคา
ในเวลาเพียงนิดเดียว ก็มีชายมากกว่าร้อยคนอยู่เต็มลานบ้าน โดยมีเจี้ยนเฉินเฉินถูกล้อมอยู่ตรงกลาง
ชายคนที่หน้ามีแผลเป็นจ้องมองเจี้ยนเฉินอย่างเย็นชาในขณะที่เขาประเมินเจี้ยนเฉินอยู่ “เจ้าหนุ่ม เจ้าเป็นใครและทำไมเจ้าถึงมาที่นี่เพื่อสู้กับทหารรับจ้างโจวของพวกเรา ? “
เจี้ยนเฉินจ้องกลับไปในขณะที่เขามองไปรอบรอบตัวเขา แทนที่จะตอบกลับชายคนนั้น เขาถามคำถามของเขาไปแทน “ทุกคนที่นี่เป็นคนของทหารรับจ้างโจวใช่หรือไม่ ? “
เมื่อได้ยินแบบนั้น ชายวัยกลางคนก็ขมวดคิ้ว “คำถามนี้มันหมายความว่าอะไร?”
เจี้ยนเฉินยิ้มเล็กน้อยในขณะที่มือขวาของเขากำกระบี่วายุโปรยอยู่ ปราณกระบี่ที่แหลมคมกระจายเต็มอยู่ทั่วอากาศรอบ ๆ เขาในขณะที่เขากระซิบออกมา “จากวันนี้เป็นต้นไปที่นี่ เมืองเวคจะไม่มีกลุ่มทหารรับจ้าง
โจวอีกต่อไป”