ตอนที่ 29 ผม เย่เซิ่งเทียน

Mars เจ้าสงครามครองโลก

……

“คือท่านหาน หานเทียนเฉิง เขาขอให้พวกเราทำ เขาเป็นคนมาหาพวกเรา”

พี่เหวินที่โหดเหี้ยม แต่ตอนนี้เขาตกใจจนพูดไม่ได้ศัพท์

“ให้พวกเขามีชีวิตอยู่สามวัน”

ดวงตาของเย่เซิ่งเทียนเย็นชา

“น้อมรับคำสั่ง”

เวินเฉินให้คนพาพวกเขาออกไป

สามวันนี้ พวกเขาจะไม่ตายง่าย ๆ

พวกเขาจะได้รู้ซึ้งถึงความสิ้นหวังของเหยื่อเหล่านั้น

เย่เซิ่งเทียนมองยายหลี่

ซือซือเกือบถูกอีแก่คนนี้พรากไปแล้ว

ตนเองเกือบจะไม่ได้เห็นหน้าซือซือไปตลอดชีวิตแล้ว

“เจ้าเทพไว้ชีวิตด้วย เจ้าเทพไว้ชีวิตด้วย ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว ฉันเต็มใจที่จะยอมจำนน ฉันเต็มใจชดใช้ความผิด ฉันยินดีที่จะอธิบาย เจ้าเทพอย่าฆ่าฉันเลย”

ยายหลี่หมอบอยู่บนพื้น ร้องไห้ขอความเมตตา

“ไม่ว่าจะจัดการเธออย่างไร มันก็ไม่ถือว่ามากเกินไป”

หลังจากเย่เซิ่งเทียนกล่าวจบ เขาอุ้มซือซือเดินจากไป

เวินเฉินกัดฟันและมองยายหลี่

ชั่วชีวิตของเธอนั้นเกลียดการลักพาตัวเด็กแบบนี้มากที่สุด

เพราะตัวเธอเองถูกลักพาตัวไปขายตอนอายุสามขวบ

ต่อมาตอนที่เธอหาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเจอ เหลือเพียงแค่หลุมศพสองหลุมเท่านั้น

ตอนนั้นเธอถึงได้รู้ว่าหลังจากตนเองถูกลักพาตัวไปขายแล้ว พ่อแม่ตามหาเธอยี่สิบปีเต็ม!

คุณย่าฆ่าตัวตายเพราะโทษตนเอง และพ่อแม่ของเธอขายบ้านเพื่อหาตนเอง

สุดท้ายไม่มีเงินรักษาพยาบาลและเสียชีวิต

“นำตัวออกไป ฉันจะล้างแค้นให้กับเด็กที่ถูกลักพาตัวทุกคน และครอบครัวที่แตกสลายทั้งหมด!”

เวินเฉินกัดฟันกล่าวประโยคนี้ออกมา

……

“คุณพ่อค่ะ ต่อไปพ่อจะจากไปอีกไหม?”

ซือซือกอดคอเย่เซิ่งเทียนไว้แน่น หัวเล็ก ๆ ของเธอแนบอยู่ใบหน้าของเย่เซิ่งเทียน และร้องไห้สะอึกสะอื้น

“ไม่ไปแล้ว ต่อไปพ่อจะไม่ไปไหนอีกแล้ว”

เย่เซิ่งเทียนใช้ปราณทิพย์เพื่อบรรเทาอาการบวมของซือซืออย่างลับ ๆ

เขากลัวว่ามันจะกลายเป็นเงามืดในใจของหวางซี

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณพ่อจะไม่จากไปอีกแล้ว คุณพ่อจะไม่จากไปอีกแล้ว”

ซือซือรู้สึกมีความสุขมาก เธอหัวเราะทั้งน้ำตา และยังมีน้ำมูกไหลออกมาอีกด้วย

“คุณพ่อค่ะ พรุ่งนี้ครูบอกว่าจะมีประชุมผู้ปกครอง คุณพ่อไปกับหนูดีไหม?”

“โอเค”

“คุณพ่อค่ะ หนูอยากกินไอศกรีม”

“ไม่ดี มันจะทำให้ปวดท้อง”

“ฮือ ฮือ ฮือ……”

“โอเค พ่อจะซื้อให้ แต่อย่าบอกแม่เด็ดขาด และกินได้เพียงแท่งเดียว”

“ค่ะ”

กลับถึงบ้าน

เมื่อหวางซีเห็นซือซือ รีบดึงเธอเข้าไปกอดทันที

หลังจากนั้น ตบก้นของซือซืออย่างแรง ร้องไห้และกล่าวว่า “เจ้าเด็กดื้อ ใครมารับหนู หนูก็จะไปกับเขาใช่ไหม? หนูอยากให้แม่ตกใจตายใช่ไหม??”

หลังจากตบ หวางซีรู้สึกสงสารซือซือมาก กอดซือซือแล้วร้องไห้

ซือซือร้องไห้เช่นกัน และใช้มือเล็กเช็ดน้ำตาให้หวางซีด้วยความเงอะงะ “คุณแม่อย่าร้องไห้ ป้าใหญ่หลอกหนู บอกว่าคุณแม่ถูกคนเลวลักพาตัวไป จะพาหนูไปหาคุณพ่อ หนูถึงไปด้วย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่เซิ่งเทียนรู้สึกตกตะลึง

หวางเอี๋ยน?

หวางเอี๋ยนอีกแล้ว!

ผู้หญิงอสรพิษ มีอะไรก็พุ่งเป้ามาที่ผม ทำไมถึงทำกับลูกสาวผมเช่นนี้?

เธออายุเพียงแค่สามขวบ

คราวนี้ผมจะไม่ปล่อยคุณไปแน่นอน!

“ทำไมหวางเอี๋ยนต้องทำร้ายซือซือด้วย ทำไมเธอถึงโหดเหี้ยมขนาดนี้ ซือซือเป็นหลานสาวของเธอน่ะ”

หวางซีโกรธจนหน้าเปลี่ยนสี

เธอไม่เคยล่วงเกินหวางเอี๋ยน แต่หวางเอี๋ยนกลับอำมหิตขึ้นทุกที!

เย่เซิ่งเทียนกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ซีเอ๋อร์ ไม่ต้องกังวล คราวนี้ผมไม่ปล่อยเธอไปแน่นอน”

และขณะนี้ หลี่หลานโทรศัพท์เข้ามา “ซีเอ๋อร์ เซิ่งเทียน แย่แล้ว หวางเปียวพาท่านหานมาทวงหนี้ที่บริษัท ควรทำอย่างไรดี?”

ท่านหาน?

สายตาของเย่เซิ่งเทียนเย็นชา

ผมยังไม่ได้ไปหาคุณ คุณกลับมาถึงที่เอง

“คุณแม่ ผมจะไปตอนนี้เลย อย่าขัดแย้งกับพวกเขา รอผมไปจัดการ”

เย่เซิ่งเทียนรีบสั่งทันที เพราะกลัวว่าแม่ยายจะเสียเปรียบ

บริษัทหัวหยวน

เลือดหยดลงมาจากมุมปากของหลี่หลาน เธอคุกเข่าอยู่บนพื้น ผมยุ่งเหยิง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเลือด

หวางเปียวเป็นคนทำร้ายเธอ

หวางเปียวแสยะยิ้ม “คนชั้นต่ำ แม่งฉิบหายยังเป็นผู้อาวุโสของผมอีก คุณคู่ควรหรือ? วันนี้คือวันตายของครอบครัวคุณ!”

“คุณมันเป็นสัตว์เดรัจฉาน คุณต้องไม่ตายดีแน่นอน!”

หลี่หลานด่าหวางเปียว และกล่าวว่า “ท่านหาน หนี้นั้นมันเป็นหนี้ของตระกูลหวาง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเรา คุณไปหาคนตระกูลหวางเถอะ ครอบครัวของพวกเราไม่มีเงิน”

ท่านหานเล่นวอลนัทที่อยู่ในมือ และกล่าวอย่างไม่แยแสว่า “ฟังภาษาคนไม่เข้าใจหรือไง? ผมเป็นคนที่ยุติธรรม บริษัทหัวหยวนติดหนี้ ผมก็ต้องมาทวงหนี้ที่บริษัทหัวหยวน”

“ไม่มีเงิน? มันง่ายมาก ลูกสาวของคุณยังสาวยังสวย สามารถนำไปขายได้ แม้ว่าคุณจะอายุเกือบห้าสิบปีแล้ว แต่ดูแล้วเหมือนอายุยังไม่สี่สิบด้วยซ้ำ มีคนมากมายที่ชอบเล่นทั้งแม่และลูกสาว อีกไม่กี่ปีพวกคุณก็สามารถใช้หนี้ผมหมดแล้ว”

หวางเปียวตบหน้าหลี่หลานอีกครั้ง และด่าว่า “ท่านหานมาทวงหนี้ด้วยตนเอง คุณยังกล้าพูดมากอีก?”

หลี่หลานตกใจจนตัวสั่น และรีบกล่าวว่า “ท่านหาน ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ เงินนั้นหวางหงเป็นคนไปยืมกับคุณ พวกเราไม่เคยยืมเงินจากคุณ”

“ตบไปเรื่อย ๆ”

ท่านหานหัวเราะเยาะ แววตาโหดเหี้ยมของเขาเป็นประกาย

หวางเปียวจับหลี่หลานและตบหน้าเธออีกหลายครั้ง

ท่านหานกล่าวเหยียบหยามว่า “ในเมื่อไร้ยางอายเช่นนี้ งั้นก็ถอดเสื้อผ้าของเธอออกแล้วโยนทิ้งข้างถนน จนกว่าเธอรับปากจะจ่ายหนี้”

“ท่านหาน อย่า”

สีหน้าของหลี่หลานเต็มไปด้วยหวาดกลัว และขอร้องไม่หยุด

“ท่านหาน เข้าใจแล้วครับ”

หวางเปียวไม่สนใจว่าหลี่หลานจะเป็นอาสะใภ้รองของตนเอง เดินตรงไปดึงเสื้อผ้าของหลี่หลาน

“คุณมันรนหาที่ตาย!”

ทันใดนั้น ประตูสำนักงานก็ถูกคนถีบออก

เย่เซิ่งเทียนมาถึงแล้ว และเมื่อเห็นเสื้อผ้าของแม่ยายถูกหวางเปียวดึง เขาไม่สามารถยับยั้งเจตนาฆ่าได้อีกต่อไป!

“หวางเปียว คุณมันเป็นสัตว์เดรัจฉาน คุณมันรนหาที่ตาย!”

เย่เซิ่งเทียนชกไปที่ศีรษะของหวางเปียว และหวางเปียวที่ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ทำให้ร่างกายกระเด็นไปติดกับผนังเหมือนดินโคลน

ฉากนี้ ทำให้หานเทียนเฉิงสะดุ้ง ดวงตาตกของเขาบิดเบี้ยว และกล่าวด้วยความอาฆาตว่า “ไอ้สุนัขตัวนี้มาจากไหน? กล้าที่จะมาก่อกวนอย่างไร้เหตุผลต่อหน้าผม? หักขามันซะ”

เย่เซิ่งเทียนยืนขวางอยู่หน้าหลี่หลาน จ้องมองหานเทียนเฉิง

เขาเป็นคนที่สั่งให้เศษเดนกลุ่มนั้นลักพาตัวซือซือ

อันธพาลทั้งสามรีบพุ่งเข้ามาพร้อมกับแสยะยิ้ม แต่ครู่ต่อมา ก่อนที่พวกเขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง พวกเขาทั้งสามก็กระเด็นออกไป ตกลงบนพื้นอย่ารุนแรง

“แม่งฉิบหาย……”

หานเทียนเฉิงยังไม่ทันได้พูดจบ คอของเขาก็ถูกเย่เซิ่งเทียนล็อกไว้ด้วยมือเดียว และลอยอยู่กลางอากาศ

“ใครสั่งให้คุณลักพาตัวลูกสาวผม”

น้ำเสียงของเย่เซิ่งเทียนเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งลึกลับที่ไม่ละลายมาเป็นเวลาหมื่นปี

รัศมีสังหารในดวงตาคู่นั้นของเขาทำให้หานเทียนเฉิงรู้สึกว่าเมื่อเทียบกับเขาแล้ว ตนเองนั้นเป็นคนดีแน่นอน

ดวงตาคู่นั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก ราวกับว่าสามารถฉีกวิญญาณของเขาได้

ดูเหมือนมีวิญญาณชั่วร้ายคำรามอยู่ในดวงตา

“แค๊กแค๊ก แม่งฉิบหายคุณเป็นใคร แค๊กแค๊ก คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร แค๊กแค๊ก”

ใบหน้าของหานเทียนเฉิงแดง และพูดด้วยความยากลำบาก

ปัง

เย่เซิ่งเทียนไม่พูดไร้สาระกับเขา โยนหานเทียนเฉิงลงบนพื้น

พู่

เลือดพุ่งออกมาจากปากหานเทียนเฉิง และดูเหมือนว่าอวัยวะภายในของเขาจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ

“คุณตายแน่ คุณกล้าทำร้ายผม คุณตายแน่ ผมเป็นคนของตระกูลเฉิน………”

เพี๊ยะ

เย่เซิ่งเทียนตบหน้าหานเทียนเฉิง

ฟันกระเด็นออกมาจากปากหานเทียนเฉิง

เลือดไหลออกมาจากมุมปากหานเทียนเฉิง และความดุร้ายของเขาปรากฏชัด และกล่าวอย่างดุร้าย “ทำร้ายผมเลย ถ้าคุณแน่จริงก็ฆ่าผม ถ้าคุณไม่สามารถฆ่าผมได้ ผมก็จะฆ่าคนทั้งครอบครัวของคุณ”

ปัง

เย่เซิ่งเทียนชกไปที่ตาขวาของเขา

เบ้าตาของหานเทียนเฉิงเปิดออก และมีบางอย่างถลนออกมา

มันคือลูกตา!

“อย่า อย่าทำร้ายผมอีกเลย ผมบอกแล้ว ผมบอกแล้ว”

หานเทียนเฉิงรู้สึกหวาดกลัว เขาไม่คิดว่าบุคคลนี้จะโหดเหี้ยมกว่าเขา

“คุกเข่าพูด”

เย่เซิ่งเทียนเช็ดเลือดบนมือที่เสื้อของเขา และจ้องมองเขา

หานเทียนเฉิงเจ็บปวดจนเกือบจะชักกระตุก และตกใจกับสายตานั้นจนขนพองสยองเกล้า

เขารีบคุกเข่าลงบนพื้น “คือหวางเอี๋ยน เธอให้ผมหาคนไปลักพาตัวลูกสาวของคุณ และเธอให้ผมมาทวงหนี้ โปรดปล่อยผมไปเถอะ ผมไม่ทวงหนี้แล้ว ผมจะให้คนส่งลูกสาวคุณกลับมา”

หวางเอี๋ยน

เย่เซิ่งเทียนใช้ขาเตะจนเขาล้มลง และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เศษเดนอย่างคุณ ยังคู่ควรที่จะมีชีวิตอยู่อีกหรือ?”

หานเทียนเฉิงรู้สึกเครียดและรีบกล่าวว่า “คุณยังต้องการอะไรอีก? ผมยอมแพ้แล้ว ถ้าคุณยังไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ผมเป็นคนของเฉินเฟิง คุณชายใหญ่ตระกูลเฉินเชียวน่ะ ถ้าคุณกล้าฆ่าผม คุณชายเฉินจะสับคุณเป็นหมื่น ๆ ชิ้น และครอบครัวของคุณจะไม่มีวันเป็นสุข”

คุณชายใหญ่ตระกูลเฉิน

“งั้นหรือ?”

เย่เซิ่งเทียนกล่าวหยอกเย้า

เมื่อหานเทียนเฉิงเห็นว่าเขาไม่ได้ขัดขวาง กัดฟันและโทรศัพท์ “คุณชายเฉิน ผมถูกคนทำร้าย คุณรีบพาคนมา”

เย่เซิ่งเทียนคว้าโทรศัพท์มือถือของเขามา ได้ยินเสียงของเฉินเฟิงด่าอยู่ที่ปลายสาย “ฉิบหาย มันเป็นใคร? กล้าทำร้ายคนของกู แกให้มันรอก่อน กูจะพาคนไปฆ่ามัน”

เย่เซิ่งเทียนกล่าวราบเรียบว่า “ผม เย่เซิ่งเทียน”