ตอนที่ 577 หลักฐาน
สีหน้าของซูเหิงยิ่งดูย่ำแย่ลงไปทุกที
“อีกอย่าง เพื่อเป็นการอธิบายต่อสาธารณชนและเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับการเสนอข่าวของผม ผมหวังว่าคุณชายซูจะยกหลักฐานอะไรสักอย่างขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ว่าผู้ชายคนนั้นคือคุณจริงๆ! ไม่อย่างงั้น…มันก็ยากที่จะทำให้ทุกคนเชื่อเรื่องที่คุณพูด…”
สายตาเหี้ยมเกรียมของซูเหิงกราดมองไปยังนักข่าวคนนั้นในทันที “คุณอย่ามาได้คืบจะเอาศอก”
นักข่าวเลิกคิ้วขึ้นด้วยสีหน้าไม่แยแส “ในเมื่อคุณไม่มีหลักฐาน งั้นต้นฉบับข่าวที่ผมจะเขียนออกมา…”
แค่ซูปิ่งโย่วได้ฟังคำพูดพวกนั้นที่นักข่าวเอ่ยออกมาก็หันไปเอ่ยกับซูเหิงด้วยน้ำเสียงตำหนิ
“ซูเหิง! สรุปแล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่! ผู้ชายในรูปนั้นเป็นแกจริงๆ เหรอ”
ทุกวันนี้การที่สื่อข่าวจะสร้างกระแสฮือฮาขึ้นมาได้นั้นไม่ใช่เรื่องยาก มิหนำซ้ำ ยิ่งทำให้เรื่องบานปลายใหญ่โตขึ้นมาจนได้รับความสนใจ พวกเขาก็ยิ่งได้ใจ
ซูเหิงยืดอกยอมรับ ทว่ากลับไม่มีหลักฐานใดๆ พอถึงตอนนั้นพวกนักข่าวจะเขียนข่าวชวนปวดหัวออกมาในรูปแบบไหน
ยิ่งไปกว่านั้น เฉินเชียนโหรวยังเป็นดาราที่กำลังฮอตที่สุดในวงการบันเทิงตอนนี้ นับตั้งแต่ซูเหิงคบกับเธอมาก็เจอแต่มรสุมมาโดยตลอด หากวันนี้เรื่องอื้อฉาวอย่างการที่เขาถูกสวมเขาแบบนี้ถูกเผยแพร่ออกไปละก็…
คงต้องชดใช้ด้วยชื่อเสียงของสกุลซูและครอบครัวซูทั้งหมด!
เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูย่ำแย่ของซูปิ่งโย่ว สมองของเขาก็พลันปวดหนึบขึ้นมา
“พ่อครับ นั่นเป็นผมจริงๆ…เมื่อคืนผมอยู่กับเฉินเชียนโหรวที่คฤหาสน์ของผม”
สีหน้าของซูปิ่งโย่วดูดีขึ้นเล็กน้อย หัวใจที่เป็นกังวลอยู่ของเจียงหรงหรงก็พลอยผ่อนคลายลงเช่นกัน
ถึงกระนั้นนักข่าวก็ยังคงไม่เชื่อ “คุณชายซู เราต้องการหลักฐาน”
นาทีนั้นหยางลี่เวยก็พลันเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ
“เชียนโหรว รูปนั่นลูกเป็นคนถ่ายเองไม่ใช่เหรอ มีรูปต้นฉบับรึเปล่า”
เฉินเชียนโหรวกลืนน้ำลายลงคอแล้วพยักหน้า “มีค่ะ อยู่ในมือถือของหนูที่วางอยู่ในห้องพัก”
สีหน้าของหยางลี่เวยใจชื้นขึ้น “แม่จะไปหยิบมาเอง!”
จากนั้นเฉินเชียนโหรวก็หันไปมองใบหน้าที่ไร้รอยยิ้มไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้ของพ่อและแม่ของซูเหิงด้วยสีหน้าเสียใจ
“คุณลุง คุณป้าคะ หนูรักพี่เหิงมากจริงๆ นะคะ หนูจะไปทำเรื่องแบบนั้นกับผู้ชายคนอื่นได้ยังไง พวกคุณ…ต้องเชื่อหนูนะ”
สีหน้าของซูปิ่งโย่วไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นมาไช่จิ้งอี๋เองก็ทำเพียงเม้มปากด้วยสีหน้าอึดอัดอย่างปิดไม่มิด
เพียงไม่นาน หยางลี่เวยก็ถือโทรศัพท์ของฉินเชียนโหรวออกมา
“มาแล้วค่ะ หลักฐานมาแล้ว ในโทรศัพท์ของเฉินเชียนโหรวมีรูปต้นฉบับอยู่”
เธอหยิบโทรศัพท์ของเฉินเชียนโหรวออกมาพร้อมทั้งเปิดไปยังภาพๆ นั้น แล้ววางลงตรงหน้าของนักข่าว
“ถึงจะบอกว่าเชียนโหรวเป็นบุคคลสาธารณะ แต่ถึงยังไงเธอก็มีชีวิตส่วนตัวของเธอเองเหมือนกัน เรื่องแบบนี้พวกคุณควรจำไว้ให้ดี นักข่าวอย่างพวกคุณ มีขอบเขตของความเป็นคนอยู่บ้างไหม”
นักข่าวหยิบโทรศัพท์ของเฉินเชียนโหรวขึ้นมา แล้วส่งรูปนั้นเข้ามือถือของตนในทันที
หลังจากที่ไกล่เกลี่ยกันไปครู่หนึ่ง รูปภาพต้นฉบับก็ได้ถูกฉายขึ้นบนหน้าจอในขณะนี้
เมื่อไม่มีโมเสกรูปเต่าคอยปกปิดอีกต่อไป เจ้าของใบหน้านั้นก็เป็นซูเหิงจริงๆ ดังที่ว่าไว้
เห็นได้ชัดว่าซูเหิงหลับไปแล้ว แผ่นอกที่แข็งแกร่ง ซีกหน้าที่ชวนหลงใหล มองอย่างไรก็โดดเด่นไม่เหมือนใคร
“เธอว่านางคิดอะไรถึงมาแย่งคุณชายซูไปจากพี่สาวตัวเอง”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเบื้องล่างของเวทียังคงดังขึ้นไม่ขาดสาย แม้ว่าจะมีหักฐานแล้ว แต่ทว่าความอับอายในใจของซูเหิงกลับยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
นึกไม่ถึงเลยว่า หลักฐานสุดท้าย กลับกลายเป็นการที่พวกเขาต้องเปิดรูปภาพที่ไม่น่าอภิรมย์พรรค์นี้ของตัวเองขึ้นมา!
ตอนที่ 578 ยังมีอีกคำถาม
นึกไม่ถึงเลยว่า หลักฐานสุดท้าย กลับกลายเป็นการที่พวกเขาต้องเปิดรูปภาพที่ไม่น่าอภิรมย์พรรค์นี้ของตัวเองขึ้นมา!
“ถึงจะได้หลักฐานแล้ว แต่พวกเรายังมีอีกคำถาม…คุณหนูเฉิน ขอถามหน่อยว่า รูปๆ นี้ คุณมีไว้ทำอะไร”
ฟี่ สีหน้าของเฉินเชียนโหรวซีดสลดลงอีกครั้ง
เธอลอบมองซูเหิงวูบหนึ่ง แต่กลับได้เห็นว่าเขากำลังจ้องเธอไม่วางตา
“ฉัน…ฉันแค่อย่างเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำ เพราะถึงยังไง มันก็เป็นคืนสุดท้ายก่อนที่เราจะแต่งงานกัน…”
“เหอะ” นักข่าวหัวเราะเยาะออกมาเสียงหนึ่ง “เพราะงั้นคุณจะบอกว่า รูปนี้คุณเป็นคนปล่อยมันลงบนอิเตอร์เน็ตด้วยตัวเอง หลังจากที่คุณตัดต่อมันเสร็จงั้นเหรอ”
เฉินเชียนโหรวรีบส่ายหน้า “ฉันจะไปทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง”
“งั้นก็น่าแปลก! ในเมื่อคุณไม่ใช่คนทำ แล้วใครเป็นคนปล่อยรูปนี้ลงบนอินเตอร์เน็ตกันล่ะ”
สายตาของเฉินเชียนโหรววูบไหว “ฉันไม่รู้ค่ะ ฉันไม่รู้ว่าใครที่ต้องจะการทำร้ายฉันแบบนี้!”
ทั้งๆ ที่เธอรู้อยู่เต็มอกว่าเป็นนังสารเลวเฉินฝานซิงนั่น!
แต่เธอกลับน้ำท่วมปาก เพราะขืนพูดออกไปว่าเธอตั้งใจจะถ่ายรูปนี้ส่งให้เฉินฝานซิง แล้วเธอจะอธิบายกับพี่เหิงว่าอย่างไร
เธอเป็นฝ่ายยั่วโมโหเฉินฝานซิงก่อน
ทว่าเมื่อฝูงชนได้ฟังเฉินเชียนโหรวพูดเช่นนั้น พวกเขาก็พากันรู้สึกโมโหในสิ่งที่ไม่ถูกต้องนี้
“ก็จริง ถึงยังไงวันนี้ก็เป็นงานหมั้นของเธอนะ จู่ๆ ก็ปล่อยรูปพรรค์นี้ออกมาในเวลาแบบนี้ มันจงใจจะขัดขวางความสุขกันชัดๆ!”
“มันออกจะเกินไปหน่อยนะ ทำไมไม่รอให้งานหมั้นจบลงก่อนแล้วค่อยว่ากันล่ะ…”
“เห็นแล้วขัดตาจริงๆ พวกชอบสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเนี่ย…”
และในตอนนั้นเอง บนโซเชียลก็ปรากฏเทรนด์เวยป๋ออันใหม่ขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังคงมาจากบล็อกเกอร์ข่าวซุบซิบคนนั้น
“แม่เจ้า ฉันก็พอจะเดาออกอยู่นะว่าเฉินฝานซิงต้องมีเอี่ยว ที่แท้ก็…”
“อะไรๆ”
“รีบดูเทรนด์เวยป๋อสิ!”
นักข่าวบนเวทีเองก็ก้มหน้าลงดูเช่นกัน และแน่นอนว่าเขาได้พบกับเวยป๋อใหม่ล่าสุดของบล็อกเกอร์ข่าวซุบซิบคนนั้น
มันคือภาพหน้าจอประวัติการสนทนาจากวีแชทของเฉินฝานซิงและเฉินเชียนโหรวเมื่อคืนนี้
บทสนทนาของบุคคลทั้งสอง มีเฉินเชียนโหรวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ไม่มีแม้แต่ตัวอักษร มีเพียงรูปถ่ายรูปเดียว ซึ่งนั่นก็คือรูปที่ได้จากมือถือของเฉินเชียนโหรวไปเมื่อครู่
จากนั้นผ่านไปพักใหญ่ๆ เฉินฝานซิงจึงเป็นฝ่ายตอบกลับมาบ้าง เพียงคำง่ายๆ ไม่กี่ตัวอักษรนั่นก็คือ ‘ไร้ยางอาย’
รูปหน้าจอก็สิ้นสุดลงเพียงเท่านี้
“แม่ง เฉินเชียนโหรวนี่มารยาสาไถยจริงๆ ส่งภาพบนเตียงของตัวเองกับคุณชายซูให้อดีตคู่หมั้นของเขา นี่มันทั้งยั่วโมโห ทั้งหยามหน้ากันชัดๆ!”
“สมแล้วที่เป็นลูกเมียน้อย ลูกไม้ขยะ คุณสมบัติประการแรกที่ลูกเมียน้อยพึงมี”
“ชิ ส่งรูปแนบชิดแบบนั้นไปให้อดีตคนรักเขาดู โคตรน่ารังเกียจเลยว่ะ น่ารังเกียจสุดๆ น่ารังเกียจโคตรๆ!”
“สิบเอ็ดรอดอขนาดนี้ ไม่รักษาเธอแล้วจะรักษาใคร”
“ที่แท้ภาพลักษณ์ใสซื่อน่ารักแบบนั้นมันก็ปลอมเสียยิ่งกว่าปลอม!”
เกลียดอะไรได้อย่างนั้น เรื่องที่เฉินเชียนโหรวกลัวที่สุดได้เกิดขึ้นแล้ว
“ไม่ พี่เหิง...ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ!”
เฉินเชียนโหรวหันไปมองซูเหิงเพื่อหวังจะอธิบายตามสัญชาตญาณ
แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับเป็นสายตาที่อัดแน่นไปด้วยความผิดหวังของเขา
“มันไม่ใช่แบบนั้น แล้วมันแบบไหนล่ะ รูปนี้เธอไม่ได้เป็นคนถ่าย หรือเธอไม่ได้ส่งมันให้เฉินฝานซิง เชียนโหรว ฉันแต่งงานกับเธอจริงๆ ไปแล้ว เธอส่งรูปพรรค์นั้นไปให้ฝานซิงเพราะคิดอะไรอยู่กันแน่”
เฉินเชียนโหรวคิดคำแก้ตัวไม่ออก ทำได้เพียงส่ายหน้าไปมาอย่างลนลานแล้วเอ่ยขึ้นว่า
“ฉัน…พี่เหิง พี่สาวน่ะทำเกินไปแล้วนะคะ เธอปล่อยรูปแบบนี้ออกมาในงานหมั้นของเราได้ยังไงกัน เธอจงใจจะให้เราขายหน้านะ…”