ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 145 นางได้ข่วยเขาเมื่อไหร่
ใช่ไง เจ้าของร่างเดิมโง่จริงๆ ถึงกับช่วยผู้ชายที่ทำร้ายเมียและนอกใจเมียแบบนี้!
เป็นผู้มีบุญคุณเช่นกัน หนานหว่านเยียนถูกกู้โม่หานมองเป็นคนต่ำต้อยไม่สนใจใยดีใดๆ หยุนอี่ว์โหรวเป็นคนที่โหดร้ายขนาดนี้กลับถูกเขาปกป้องและใส่ใจทุกอย่าง
หนานหว่านเยียนรู้สึกไม่คุ้มค่าต่อเจ้าของร่างเดิม
เหตุใดถึงชอบผู้ชายเหี้ยๆแบบนี้?นางจะไม่เดินตามรอยของเจ้าของร่างเดิมแน่นอน!อย่างน้อยพ่อที่นางจะหาให้เด็กๆ ต้องเป็นคนที่ดีต่อเด็กๆ เชื่อฟังคำสั่งของนาง เป็นคนที่เชื่อฟังและเอาใจใส่ นางถึงจะพอใจ!
“สุนัขยังรู้สึกกระดิกหางเลย เจ้ากลับไร้น้ำใจขนาดนี้ ข้าตาบอดจริงๆ!”
นางทิ้งคำพูดนี้ไว้ แล้วก็สะบัดหน้าจากไปอย่างโกรธ
กู้โม่หานขึ้นไปจับมือของนางด้วยจิตสำนึก ขมวดคิ้วพูดว่า”เจ้าหยุดสิ!”
“ออกไปให้พ้น!”หนานหว่านเยียนสะบัดออกไปอย่างแรง แล้วเดินไปทางเรือนเซียงหลินด้วยท่าทีที่แน่วแน่
นางให้เขาออกไปให้พ้น?!
นางกล้าให้เขาออกไปให้พ้นหรือ!
กู้โม่หานถูกนางทิ้งอยู่ที่เดิม โมโหมาก
เขาใช้มือตบลำต้นของต้นไม้ และใบไม้ก็ร่วงหล่นไปตามสายลม แสดงให้เห็นถึงความโดดเดี่ยว
“อะไรคือตาบอดถึงได้ช่วยข้า?นางหนานหว่านเยียนเคยได้ช่วยข้าเมื่อไหร่?!”
หนานหว่านเยียนชอบโกหก กล้าโกหกเขาด้วยหรือ?!
นางรู้สึกน้อยใจ
แต่เขาก็เป็นเหยื่อในเหตุการณ์นี้ด้วย
หนานหว่านเยียนคบชู้ต่อหน้าเขา แถมยังบอกเขาว่าเด็กๆไม่ใช่เป็นของเขา ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะไทเฮา หนานหว่านเยียนตายไปเป็นพันครั้งแล้ว!
กู้โม่หานค่อยๆสงบสติ ระงับความโกรธไว้ เรือนที่กว้างใหญ่บัดนี้เหลือเพียงเขาคนเดียว
สงบมาก
ความสงบทำให้เขาสามารถใจเย็นลงและเริ่มครุ่นคิด
“โหรวเอ๋อร์……หากโหรวเอ๋อร์เป็นคนกระทำจริงๆ ข้าจะ……”
หากหยุนอี่ว์โหรวเป็นแบบนี้จริงๆ เขาจะทำอย่างไรล่ะ?
“ไม่!ทั้งหมดล้วนเป็นคำโกหกของหนานหว่านเยียน!จะปัดความผิดไปที่โหรวเอ๋อร์!”
ความคิดของเขาที่เพิ่งเกิดขึ้นก็ถูกตัวเองระงับลงอีก
เพราะหลายปีนี้ หยุนอี่ว์โหรวมีลักษณะที่อ่อนโยนในใจเขาโดยตลอด นางมีจิตใจที่เมตตาที่สุด เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคนชั่วร้าย
เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
……
หยุนอี่ว์โหรวเพิ่งเดินเข้าเรือนจู๋หลาน ก็หันไปตบหน้าเชี่ยนปี้ด้วยความโกรธขรึม
“ไร้ประโยชน์เหลือเกิน!เรื่องเล็กๆยังทำไม่สำเร็จเลย!”
เชี่ยนปี้คุกเข่าต่อหน้านางอย่างระมัดระวัง ใช้มือปิดหน้าและกัดฟัน”เป็นความผิดของบ่าว บ่าวสมควรตายเพคะ!”
สีหน้าของหยุนอี่ว์โหรวโหดร้ายมาก ข้อนิ้วถูกบีบจนออกซีเข้ม นางนั่งอยู่หน้าโต๊ะอย่างโมโห มองชุดน้ำชามากมายเหล่านั้น ปาทิ้งลงพื้นหมด”ตกลงเกิดอะไรขึ้น!”
เชี่ยนปี้กลืนน้ำลาย สายตาที่มองหยุนอี่ว์โหรวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว”กราบทูลเจ้านาย เรื่องเป็นแบบนี้เพคะ……”
ที่จริงแล้ว เช้าวันนี้ เชี่ยนปี้และชิงหว่านเจอกันนอกจวนอ๋อง ทั้งสองคนระมัดระวังตลอดทาง แต่กลับไม่พบเห็นอวี๋เฟิงที่เก่งวิชาตัวเบา เขาแอบจ้องพากนางทานานแล้ว
ทั้งสองคนเดินไปเดินมา สุดท้ายมาถึงศาลเก่าแก่ในชานเมือง
เชี่ยนปี้เคาะใส่หน้าต่างของศาลเก่าแก่สามครั้ง สักครู่หนึ่งผ่านไปฉางชิงหยางก็เดินเข้าไปจากประตูหลังอย่างระมัดระวัง
น้ำเสียงของเขารีบร้อนมาก”ของล่ะ?และค่าตอบแทนที่จะให้ข้าเอามายัง?”
เชี่ยนปี้ไม่พูดอะไรตลอดทาง เชี่ยนปี้หยิบเงินตำลึงถุงหนึ่งออกมาจากอ้อมอก พร้อมกับจดหมายที่นางเขียนเสร็จตั้งนานแล้ว
ตอนที่ยื่นให้ฉางชิงหยาง นางหยุดพูดสักพักหนึ่ง แล้วพูดอย่างจริงจัง”ให้เจ้าครึ่งหนึ่งก่อน หลังจากทำสำเนาที่เหลือก็จะให้เจ้าหมด เรื่องที่จะให้ทำล้วนอยู่ในจดหมายนี้ เจ้าดูให้ดีสิ ถ้าทำไม่สำเร็จ เจ้าอย่าคิดจะมีชีวิตออกจากแคว้นซีเหย่ได้!”
ฉางชิงหยางพอเห็นเงินตาก็ลุกวาว ถูมือและรับมาอย่างตื่นเต้น รีบแกะจดหมายออกมาดู จากนั้นก็พูดอย่างแปลกใจ”อุ้ย!พระชายาอี้หรือ?เจ้านายพวกเจ้าคือใครหรือ ให้ค่าตอบแทนมากมายขนาดนี้ แถมยังจะให้ข้าไปกระทำบุคคลใหญ่โตอีก?”
สายตาของชิงหว่านแหลมคมมาก น้ำเสียงโหดร้ายมาก”สิ่งที่ไม่ควรถาม เจ้าก็หุบปากซะ รับเงินแล้วก็ทำเรื่องให้สำเร็จด้วย!”
พูดจบ นางก็ใช้มือทำท่าตรงคอทีหนึ่ง
ฉางชิงหยางเลิกคิ้ว เก็บจดหมายเอาไว้”ได้ ไม่ให้ถามก็ไม่เป็นไร”
เชี่ยนปี้เตือนอีกครั้งหนึ่งเสร็จ ทั้งสามก็เตรียมจะจากไป อยู่ๆก็มีฝุ่นทรายตกลงมาจากฟ้า ปิดบังตาของพวกเขาเอาไว้
เชี่ยนปี้ตกใจมาก ลืมตาไม่ได้”ใคร!ใครกล้าจับต้องข้า เจ้าจะต้องไร้ที่กลบฝังแน่ๆ!”
อวี๋เฟิงไม่ได้สนใจ ทั้งสองคนได้ยินว่าข้างหลังมีเสียงต่อสู้กันดังขึ้น จากนั้นพวกนางก็ถูกจับตัวไว้
ฉางชิงหยางถูกมัดด้วยเชือกแล้วทิ้งไปข้างๆ พวกนางก็ค่อยๆดิ้นรนแล้วลืมตาขึ้นมา
เชี่ยนปี้เห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี คิดจะวิ่งหนี แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่ามีสุนัขตัวใหญ่สองตัววิ่งเข้ามาในตอนนี้
ทำให้นางกลัวจนหกล้ม
ชิงหว่านตกใจคิดจะหนี เพราะเกิดความกลัวต่อสุนัขตัวใหญ่ด้วยจิตสำนึก
อวี๋เฟิงเห็นว่าล่าปู๋ล่ามาช่วย ก็มัดสองคนขึ้นมาอย่างง่ายดาย
เขาตรวจค้นร่างกายของฉางชิงหยาง หาเจอจดหมายแล้วแกพาออกมาดู สีหน้าแย่ขึ้นมาทันที
เขาเหมือนให้สุนัขไปส่งข่าว เหมือนเขาก็สอบสวนอยู่ที่เดิม
ชิงหว่านไม่พูดถึงเรื่องหยุนอี่ว์โหรวเลย เชี่ยนปี้ยิ่งทำเป็นหูหนวกและเป็นใบ้
มีเพียงฉางชิงหยางกลัวตาย ขอร้องอยู่นั่นแหละ”วีรบุรุษ โปรดไว้ชีวิตด้วยขอรับ!เจ้าอยากรู้อะไรข้าจะบอกหมด!โปรดอย่าฆ่าข้า!”
ชิงหว่านจ้องมาที่เขาอย่างแรง”เจ้ากล้าหรือ!”
ฉางชิงหยางลำบากใจมาก อวี๋เฟิงแค่หัวเราะเย็นชา ไม่มีท่าทางอย่างอื่น
ปู๋ล่ากลับมาอย่างรวดเร็ว ยังเอาจดหมายตอบกลับของหนานหว่านเยียนมาให้
อวี๋เฟิงเห็นจดหมายแล้วก็เข้าใจทันที จับฉางชิงหยางไปอีกห้องหนึ่ง
เชี่ยนปี้ไม่รู้ว่าอวี๋เฟิงพูดอะไรกับเขา แค่รู้ว่าตอนที่อวี๋เฟิงพาฉางชิงหยางออกมา ฉางชิงหยางมีความสุขมาก และยังถูกแกะเชือกออกด้วย
เรื่องที่เหลือ ก็คือหนานหว่านเยียนซื้อใจฉางชิงหยาง ร่วมมือกันวางแผนครั้งนี้
หยุนอี่ว์โหรวได้ยินเช่นนี้ก็เวียนหัวมาก
มือข้างหนึ่งของนางจับโต๊ะไว้ อีกข้างหนึ่งตบหน้าอกของตัวเอง”หนานหว่านเยียนเลี้ยงหมาดีๆหลายตัวจริงๆ!”
“นางแสดงเหมือนขนาดนี้ กลับมาวางแผนข้ากลับอีก!ข้าถูกนางหลอกจนไม่รู้เกิดอะไรขึ้น!อีหญิงเลวนี่ แตกต่างกับเมื่อก่อนจริงๆ!”
แผนที่นางนึกว่าสมบูรณ์แบบมาก กลับถูกหนานหว่านเยียนแก้อย่างง่ายดาย ผู้หญิงคนนี้ละเอียดมากจริงๆ!
เชี่ยนปี้ก็โมโหมากเช่นกัน นางคุกเข่ามาถึงข้างๆหยุนอี่ว์โหรว สีหน้าเต็มไปด้วยความเร่งรีบ
“งั้นเจ้านายเพคะ ต่อมาเราต้องทำอย่างไรเพคะ?จะอยู่นิ่งๆดูหนานหว่านเยียนครอบคลุมอำนาจทีละนิดละหน่อยหรือเพคะ?เรื่องวันนี้ เกรงว่าท่านอ๋อง……”
สายตาของหยุนอี่ว์โหรวโหดร้ายมาก จ้องไปที่เชี่ยนปี้แล้วตบหน้านางอีกรอบหนึ่ง
“ไอ้โง่!ยังต้องรอเจ้ามาพูดอีกหรือ?ถ้าไม่ใช่ว่าเจ้าไม่ระวัง ข้าจะตกอยู่สถานการณ์แบบนี้หรือ?!”
เรื่องนี้ต้องทำให้กู้โม่หานมีความระวังขึ้นแน่นอน อาจจะมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อนางหน่อยนึง แต่ยังสามารถแก้ไขได้
หยุนอี่ว์โหรวเกิดความดุร้ายในสายตา แล้วมุมปากยิ้มขึ้นอย่างแปลกประหลาด
“ในเมื่อข้าดูถูกหนานหว่านเยียนเกินไป ไม่สามารถจัดการนางได้ งั้นก็ให้คนอื่นจัดการนางสิ นกปากส้อมกับหอยต่อสู้กัน ชาวประมงได้รับผลประโยชน์ไม่ดีกว่าหรือ?”
ปกติสมองของเชี่ยนปี้หมุนได้เร็วมาก แต่วันนี้ได้รับผลกระทบแบบนี้ก็เหมือนไม่ค่อยฉลาดแล้ว
“เจ้านายหมายความว่ายังไงหรือ?ตอนนี้จวนอ๋องอี้ ไม่มีคนอื่นที่เป็นศัตรูกับหนานหว่านเยียนแล้วนะเพคะ?”
หยุนอี่ว์โหรวมองนางทีหนึ่งอย่างรังเกียจ แล้วใช้ขาเตะนางอย่างไม่เกรงใจเลย”ตอนนี้ข้าไม่ต้องทำอย่างอื่นแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือทำให้ท่านอ๋องกลับใจเหมือนเมื่อก่อน”
“ขอให้สามารถมีเพศสัมพันธ์กับท่านอ๋องแล้วตั้งครรภ์อย่างราบรื่น ถึงข้าจะไม่ไปทำอะไรอีหนานหว่านเยียน ก็มีคนไปจัดการให้ข้าอยู่แล้ว!ตอนนี้เป็นยามจำเป็น ข้าห้ามทำให้ท่านอ๋องสงสัยข้าอีก”
ไม่งั้นถึงแม้นางใช้ข้ออ้างว่าเป็นผู้มีบุญคุณต่อเขา ก็ไร้ประโยชน์
ยิ่งกว่านั้นคือ จริงๆแล้วบุญคุณช่วยชีวิตที่ว่านี่……