ตอนที่ 1426 ผ่านด่านเลื่อนระดับ! (3) / ตอนที่ 1427 ผ่านด่านเลื่อนระดับ! (4)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1426 ผ่านด่านเลื่อนระดับ! (3)

 

 

“เขาไม่ได้เป็นบรรพบุรุษของเผ่าผู้ใช้เวท” จีจิ่วเทียนหันหลังมามองอวิ๋นลั่วเฟิงเหมือนเขาอ่านใจนางออก “บรรพบุรุษของเผ่าผู้ใช้เวทเป็นสัตว์อสูรวิญญาณที่บังเอิญอยู่ในหุบเขาของเขา!”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าครั้งนี้นางกำลังมีปัญหาแล้ว

 

 

“เจ้ามั่นใจหรือไม่ว่าเอาชนะเขาได้” อวิ๋นลั่วเฟิงลองคิดแล้วถาม

 

 

“ถ้าเป็นเมื่อก่อน โม่เชียนเฉิงสิบคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า แต่ตอนนี้…”

 

 

“จีจิ่วเทียน เมื่อครู่เขาบอกว่าพลังเจ้าถดถอยลง หมายความว่าอย่างไร ที่สำคัญกว่านั้น ข้าสงสัยว่าทำไมเขาถึงดูอ่อนเยาว์ทั้งๆ ที่อยู่มาเป็นพันปีแล้ว”

 

 

จีจิ่วเทียนเงียบ ความเงียบของเขาทำให้บรรยากาศตึงเครียด

 

 

ตอนที่อวิ๋นลั่วเฟิงคิดว่าเขาคงไม่ตอบนางแล้ว เสียงของเขาก็ดังขึ้น “เจ้าคงเคยพบเศษเสี้ยววิญญาณของเจวี๋ยเชียน เขาจงใจทิ้งวิญญาณส่วนหนึ่งเอาไว้เผื่อถ่ายทอดพลังของเขา แล้ววิญญาณส่วนอื่นๆ ของเขาก็กลับไปเกิดใหม่

 

 

“ความจริงแล้ววิญญาณของเขาอ่อนแอมากจนสามารถหายไปได้ทุกเมื่อ แต่เขายังฝืนแบ่งส่วนวิญญาณทิ้งไว้ ทำให้วิญญาณเขาเกือบหายไปตลอดกาล ดังนั้นข้าจึงใช้วิชาลับเพื่อช่วยให้เขาได้กลับมาเกิดใหม่

 

 

“ผลของการใช้วิชาลับทำให้ข้าไม่สามารถแข็งแกร่งไปมากกว่านี้ได้”

 

 

“ส่วนเรื่องที่พลังถดถอย…” จีจิ่วเทียนยิ้ม “นั่นเพราะเมื่อประมาณสิบปีก่อน ข้าต่อสู้กับชายคนหนึ่งแล้วพลาดตกลงไปในกับดัก”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงตั้งใจฟังจีจิ่วเทียนเงียบๆ ก่อนถามว่า “แล้วทำไมเจ้าถึงยังดูอ่อนเยาว์ถึงแม้จะมีชีวิตอยู่มาเป็นพันปีแล้ว”

 

 

“ข้าบอกเรื่องนี้กับเจ้าไม่ได้ ด้วยพลังของเจ้าตอนนี้ ยิ่งรู้น้อยเท่าไหร่ เจ้าก็ยิ่งปลอดภัย ไม่อย่างนั้นมันจะส่งผลกระทบต่อการฝึกพลังฌานของเจ้า” จีจิ่วเทียนมองอวิ๋นลั่วเฟิง “เฟิงเอ๋อร์ เจ้ายังมีเวลาอีกมาก ตราบใดที่เจ้าฝึกต่อไปเรื่อยๆ คำตอบทั้งหมดที่เจ้าตามหาก็จะปรากฏแก่เจ้าเอง”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงเงียบไปนานก่อนจะพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว แต่ก่อนอื่นข้าเพิ่งตรวจสอบดินแดนแห่งจินตนาการแล้วพบว่าพวกเราเข้ามาที่นี่ได้แต่ออกไม่ได้!”

 

 

หลังจากรู้ความแข็งแกร่งของชายหนุ่ม นางก็ยอมแพ้เรื่องกระดูกผู้ใช้เวท

 

 

แต่โชคร้าย…

 

 

ไม่มีใครสามารถออกจากดินแดนแห่งจินตนาการได้

 

 

“หืม?” จีจิ่วเทียนเลิกคิ้ว “นั่นเป็นปัญหาใหญ่แล้ว เฟิงเอ๋อร์ เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไปหาทางออก”

 

 

“จีจิ่วเทียน”

 

 

เมื่อเห็นว่าจีจิ่วเทียนกำลังจะออกไป อวิ๋นลั่วเฟิงก็เรียกเขาจากด้านหลัง

 

 

“ระวังตัวด้วย”

 

 

จีจิ่วเทียนหยุดเดินแต่ไม่ได้หันกลับมา ไม่นานร่างสีแดงเพลิงของเขาก็หายไปจากสายตา หลังจากจีจิ่วเทียนออกไป อวิ๋นลั่วเฟิงก็หาถ้ำแล้วนั่งลงเพื่อเริ่มฝักพลังฌาน หั่วหั่วและคนอื่นคอยอารักขาทางเข้าถ้ำของนาง

 

 

 

 

เมื่อนางมีสมาธิกับการฝึกพลังฌานเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้อยู่ภายในดินแดนแห่งจินตนาการก็ยังมีกลางวันกลางคืน อวิ๋นลั่วเฟิงรู้ว่าจีจิ่วเทียนหายไปประมาณสามเดือนแล้วจากการเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้า

 

 

ตอนนั้นเอง ภายในถ้ำ พายุบนศีรษะของเด็กสาวก็ค่อยๆ รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วสุดท้ายก็ระเบิดออก เนื่องจากอยู่ในดินแดนแห่งจินตนาการ อวิ๋นลั่วเฟิงจึงไม่ได้ปกปิดร่องรอยของตัวเองหรือแม้แต่เข้าไปในมิติคัมภีร์เซียนเพื่อผ่านด่านเลื่อนระดับ แต่นางไม่รู้ว่ายังมีคนอื่นอยู่ในดินแดนแห่งจินตนาการนอกจากนาง…

 

 

“นายท่านเซี่ยงเฟย ดูนั่น เหมือนมีคนอยู่ตรงนั้นขอรับ”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1427 ผ่านด่านเลื่อนระดับ! (4)

 

 

การผ่านด่านของราชันปราชญ์ทรงพลังมากจนเห็นแก่นพลังฌานปรากฏระหว่างถ้ำกับท้องฟ้า คนจากหุบเขาพิษที่เดินเอ้อระเหยอยู่ในดินแดนแห่งจินตนาการถึงสามเดือนก็พบที่อยู่ของอวิ๋นลั่วเฟิงทันทีที่นางเพิ่งจะผ่านด่าน!

 

 

“ไป!” ชายชราชุดเทาที่ชื่อเซี่ยงเฟยหรี่ตาอสรพิษของเขา “พวกเราไปตรวจสอบ!”

 

 

นี่ก็ผ่านไปสามเดือนแล้ว!

 

 

พวกเขาเสียเวลาถึงสามเดือนอยู่ที่นี่แต่ไม่พบอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นอวิ๋นลั่วเฟิงที่เข้ามาในดินแดนแห่งจินตนาการก่อนพวกเขาหรือกระดูกผู้ใช้เวทก็ไม่เจอ!

 

 

ตอนนี้พวกเขาพบอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วจึงรีบพุ่งไปหานางทันที…

 

 

 

 

ภายในถ้ำ

 

 

เด็กสาวค่อยๆ ลืมตาแล้วพ่นลมหายใจออกอย่างช้าๆ “ในที่สุดข้าเป็นผู้ฝึกฌานขั้นราชันปราชญ์ระดับกลางแล้ว”

 

 

แต่เส้นทางการเป็นยอดฝีมือที่แท้จริงก็ยังอีกยาวไกล…

 

 

“จีจิ่วเทียนยังไม่กลับมาอีกหรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงค่อยๆ ยืนขึ้น ความวิตกกังวลปรากฏขึ้นในดวงตานาง “เขาหายไปสามเดือนแล้วทำไมยังไม่กลับมาอีก ข้ารออยู่ที่นี่เฉยๆ ไม่ได้ ข้าต้องออกไปหาเขา!”

 

 

เมื่อคิดได้ดังนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงก็ค่อยๆ เดินออกจากถ้ำ ทันทีที่นางก้าวขาออกจากถ้ำ ร่างสีแดงก็ร่อนลงมาจากฟ้ าแล้วก่อนที่อวิ๋นลั่วเฟิงจะตอบสนองได้ทัน นางก็ชนเข้ากับร่างนั้น

 

 

“ปล่อยข้านะ!”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงตะโกนอย่างเดือดดาลแล้วพยายามผลักคนที่อยู่บนตัวออกไป แต่นางก็หยุดเมื่อเห็นหน้าว่าเขาเป็นใคร

 

 

“จีจิ่วเทียน?”

 

 

ตอนนี้ชายหนุ่มไม่ได้ดูดื้อรั้นและทรงอำนาจเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว! ใบหน้างดงามของเขาซีดเผือดแล้วยังมีรอยเลือดอยู่ที่มุมปาก ดวงเขาปิดสนิทและไม่ขยับหรือส่งเสียงใดๆ เลย

 

 

“โชคดีที่เขายังมีชีวิตอยู่”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจแผ่วเบาของเขา นางลุกขึ้นจากที่ที่โดนจีจิ่วเทียนล้มทับแล้วหยิบสมุนไพรพลังฌานจากธำมรงค์มิติออกมาป้อนให้เขา

 

 

นางเตรียมสมุนไพรพลังฌานไว้ก่อนที่จะมาที่เผ่าผู้ใช้เวท ตามระดับมิติคัมภีร์ในปัจจุบัน แค่สองสามวัน สมุนไพรก็โตเต็มที่ แล้วทันทีที่สมุนไพรพร้อมเก็บเกี่ยวนางรีบเอามาซ่อนในธำมรงค์มิติเพื่อไม่ให้โดนเสี่ยวซู่เอาไปกินเสียก่อน

 

 

“แค่ก” จีจิ่วเทียนกระอักเลือดออกมาแล้วค่อยๆ ลืมดวงตาเรียวอันงดงามของเขาขึ้น

 

 

“เกิดอะไรขึ้น” อวิ๋นลั่วเฟิงถามพร้อมขมวดคิ้ว

 

 

“ตอนที่ข้ากำลังตามหาทางออก ข้าบังเอิญเข้าไปในอาณาเขตของโม่เชียนเฉิง” จีจิ่วเทียนพยายามลุกขึ้นนั่ง “ข้าสู้เขาไม่ได้เลยพยายามหลบหนีออกมาแทน แต่ข้าก็รู้วิธีออกจากดินแดนแห่งจินตนาการแล้ว”

 

 

“ทางออกอยู่ในถ้ำที่โม่เชียนเฉิงอาศัยอยู่!”

 

 

หัวใจของอวิ๋นลั่วเฟิงร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อได้ยินคำพูดของจีจิ่วเทียน “พวกเราต้องสู้กับโม่เชียนเฉิงอีกครั้งใช่หรือไม่”

 

 

ดูเหมือนว่านางจะชะล่าใจเรื่องการเดินทางครั้งนี้มากเกินไป ไม่มีใครคิดว่าจะมีสัตว์ประหลาดทรงพลังอยู่ในดินแดนแห่งจินตนาการ แล้วสัตว์ประหลาดที่ว่าก็เกลียดเจวี๋ยเชียนมากจนต้องการสังหารทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเขา

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงหยุดคิดสักพักแล้วเอ่ยถาม “จีจิ่วเทียน เจ้าช่วยบอกเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเจวี๋ยเชียนและโม่เชียนเฉิงให้ข้ารู้ได้หรือไม่”

 

 

จีจิ่วเทียนยิ้มแล้วพูดด้วยเสียงอ่อนแรง “ชีวิตของเจวี๋ยเชียนก็คล้ายๆ เจ้า แต่ไม่โชคดีเท่าเจ้าแล้วก็ไม่ได้มีผู้ติดตามจำนวนมากคอยช่วยเขา เขาเคยเป็นแค่ขยะคนหนึ่งเหมือนกันก่อนก้าวผ่านอันตรายนับไม่ถ้วน ออกเดินทางสำรวจดินแดนลึกลับมากมายจนในที่สุดก็แข็งแกร่ง! โม่เชียนเฉิงกับข้าพบเขาตอนนั้นเอง”