ตอนที่ 113 จุดประเด็น
เว็บบล็อกหลางเฉาเป็นเว็บบล็อกที่ใหญ่ที่สุดในออนไลน์ สามารถเรียกได้ว่าเป็นแหล่งสำคัญในการออกสื่อวิพากษ์วิจารณ์
ที่นี่เมื่อมีเรื่องราวใดเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้เกิดกระแสใหญ่โตขึ้นได้ เหมือนลักษณะของไฟลามทุ่ง
ในบล็อกหลางเฉามีทั้งผู้ใช้เชิงพานิชย์และผู้ใช้สร้างกระแสอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อมีเรื่องใดเรื่องหนึ่งถูกกระตุ้นขึ้นมา ทั้งเกี่ยวกับผลประโยชน์ของตัวเองหรือไม่นั้น พวกเขามักจะกระโดดเข้าไปในวังวนนั้นช่วยโหมกระแสและร่วมจับปลาในโคลนอันเละเทะนั้นด้วย
ลู่เฉินถูกรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองคัดออก ชนวนต้นของเชื้อไฟมาจากบทวิจารณ์ของแมวจรจัด แต่สิ่งที่จุดประกายไฟจริงๆ คือ แถลงการณ์จากผู้จัดรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองของสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน
แถลงการณ์ฉบับแรกประกาศเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม เวลา 23.02 น. เนื้อหาธรรมดา คือการนำเนื้อหาบทวิจารณ์ของบล็อกแมวจรจัดประกาศสู่สาธารณะ แสดงให้รู้ว่าฝ่ายนั้นนำข้อมูลภายในมาเผยแพร่และเป็นเรื่องที่ไม่มีหลักฐาน ทั้งหมดเป็นเรื่องเหลวไหลและไม่คุ้มค่าต่อการเสียเวลาด้วย ขอเตือนบุคคลบางคนว่าอย่าสร้างเรื่องด้วยเจตนาร้าย
เพียงแค่ 20 นาที เวลา 23.22น. ผู้ดูแลเว็บไซต์ของรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองได้ออกแถลงการณ์เพิ่มอีกฉบับ เนื้อหาเหมือนเดิมคือเป็นเนื้อหาหักล้างบทความของแมวจรจัดอย่างละเอียดทุกแง่มุม
เหมือนเป็นการตบหน้าตัวเองเล็กน้อย
บทความของกลุ่มรายการบันเทิงที่บ่งบอกถึง รายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองในการแข่งขันรอบออดิชั่นเป็นไปอย่างยุติธรรม ไม่มีการปฏิบัติที่ไม่โปร่งใสแต่อย่างใด และยิ่งไม่ทำสิ่งที่กดข่มนักร้องหน้าใหม่
ความจริงแล้วการปรากฏตัวของผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงในรายการแข่งขันร้องเพลง เป็นการส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างเพลงใหม่แก่วงการเพลงในประเทศจีน มันยิ่งทำให้คนเก่งตัวจริงปรากฏออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนลู่เฉินที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันรอบออดิชั่นรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรอง กลุ่มผู้จัดแสดงออกอย่างชัดเจนว่าพวกเขาเสียใจและเสียดายแค่ไหนที่พลาด ปล่อยนักร้องนักแต่งเพลงที่ดีงามคนนี้หลุดมือไป เพลงในฤดูใบไม้ผลิเป็นผลงานเพลงที่ประจักษ์
แต่ในการแข่งขันรอบออดิชั่นในรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรอง ลู่เฉินไม่ได้เลือกร้องเพลงนี้โชว์ แต่เลือกเพลงอื่นแทน การแสดงของเขาเลยไม่ได้รับการยอมรับจากกรรมการ ดังนั้นจึงถูกคัดเลือกออก
นี่เป็นการแสดงถึงความยุติธรรมและความเข้มงวดในรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรอง และเป็นเหตุผลที่ทำให้รายการมีอัตรายอดผู้ชมสูงขึ้น ชื่อเสียงของกลุ่มผู้จัดรายการไม่ควรแปดเปื้อนและเสียหาย
ความจริงเป็นเรื่องธรรมดาแค่นี้
รายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองได้เตือนบล็อกระดับ V เล็กอย่างแมวจรจัด ต้องให้บล็อกของฝ่ายหลังลบล้างผลกระทบที่ไม่ดีออกไป และให้ขอโทษฝ่ายตน ทั้งยังต้องดำเนินการทางกฎหมายด้วย!
สถานีโทรทัศน์เซียงหนานเป็นสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมชั้นนำที่มีทีมประชาสัมพันธ์และทีมการตลาดที่แข็งแกร่งมาก การตอบโต้ต่อกระแสข่าวเสียหายนั้นเร็วมาก มีแค่เชื้อไฟก็ต้องกำจัดให้สิ้นซากแบบถอนรากถอนโคน
ช่องเซียงหนานในบล็อกหลางเฉามีแฟนคลับติดตามสิบล้านคน เป็นระดับ Vใหญ่ แค่แถลงการณ์สองฉบับของผู้จัดรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองได้ประกาศออกไป ก็ได้รับการกดไลค์มหาศาล ทั้งคอมเมนต์และการส่งต่อ
ในนั้นรวมถึงนักแสดงซูเปอร์สตาร์ในวงการหลายคน คนที่มีชื่อเสียงและเป็นบล็อกระดับ Vใหญ่!
สื่อของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานมีอิทธิพลสูง บล็อกเล็กๆ ระดับ V เล็กอย่างแมวจรจัดไม่อาจต้านทานได้ แถลงการณ์ทั้งสองฉบับนั้นได้ทำงานการหักล้างข้อมูลไปแล้ว บล็อกของฝ่ายหลังเหมือนถูกระเบิดจนราบเป็นหน้ากลอง ในคอมเมนต์มีแต่ถ้อยคำเย็นชาประชดประชัน พลอยทำให้ทั้งลู่เฉินและสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ถูกลูกหลงไปด้วย
23.55 น. ทีมผู้จัดรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่สาม
แถลงการณ์ฉบับนี้ยกย่องหลิงเสี่ยวซู ไม่ว่าจะทั้งเรื่องความสามารถหรือนิสัยใจคอล้วนเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ศิลปินนักร้องรุ่นใหม่ ทั้งเขายังสร้างสรรค์ผลงานเพลงได้เหมาะกับช่วงวัย ดังนั้นถึงได้รับความนิยมอย่างสูงและมีแฟนคลับผู้ซื่อสัตย์ หวังว่าเขาจะได้รับรางวัลใหญ่ในการแข่งขันระดับประเทศที่กำลังจะมาถึงนี้
บล็อกแถลงการณ์ที่มีนัยสำคัญขณะเดียวกันยังแอดถึงเจ้าตัวหลิงเสี่ยวซูกับทีมงานเบื้องหลังของหลิงเสี่ยวซูอีกด้วย!
ทีมงานเบื้องหลังของหลิงเสี่ยวซู คือกลุ่มแฟนคลับของหลิงเสี่ยวซู ตอนนี้มีสมาชิกมากถึงหนึ่งแสนคน และเคลื่อนไหวตลอดอยู่ในบล็อก
ตัวหลิงเสี่ยวซูเอง สองนาทีต่อมา เขาเข้ามาตอบกลับพร้อมกับสติกเกอร์หน้ายิ้มว่า “ขอบคุณครับ”
เหล่าแฟนคลับของเขาไม่ได้ตอบโต้อย่างเรียบง่ายบางเบาเช่นนั้น พวกเขาเป็นการรวมกลุ่มของคนชั้นสูง ตั้งใจโจมตีบล็อกของแมวจรจัดและลู่เฉินโดยตรง สงครามนั้นเริ่มตั้งแต่หลังเที่ยงคืนจนถึงตอนเช้าถึงจบลง
โจมตีลู่เฉินจนสะบักสะบอมไปหมด!
เนื่องจากประกาศแถลงการณ์ทั้งสามฉบับในบล็อกของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ได้ประกาศหลังจากที่ลู่เฉินได้ออกอากาศสดจบลงแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากกลับมาจากการออกกำลังกายในตอนเช้า เขาก็ได้รับการเตือนจากหลี่เฟยอวี่ ถึงได้รู้ว่าถูกเล่นงานเสียแล้ว
หลี่เฟยอวี่มีไฟโทสะสุมทรวง ตบโต๊ะเสียงดังพูดว่า “พวกไร้สมองพวกนี้ไม่รู้อะไรเลย สิ่งที่แมวจรจัดพูดนั้นไม่มีผิด เรื่องความเก่งกาจความสามารถและรูปลักษณ์หน้าตา นายดีกว่าหลิงเสี่ยวซูเป็นไหนๆ!”
ลู่เฉินหุบยิ้ม
หลิงเสี่ยวซูเป็นคนเมืองหู้ไห่ อายุ 21 ปี จบจากมหาวิทยาลัยสารสนเทศหู้ไห่สาขาการดนตรี รูปลักษณ์ของเขาหล่อเหลา ผิวขาวนวล ทั้งยังแต่งตัวทันสมัย เป็นลักษณะของไอดอลวัยรุ่นที่กำลังเป็นที่นิยมในสมัยนี้ ดึงดูดแฟนคลับมากมาย
ดังนั้นเรื่องรูปลักษณ์หน้าตา เขาไม่เหมือนกับลู่เฉิน ลู่เฉินรูปร่างสูงใหญ่กำยำแข็งแรงกว่า
ทั้งสองคนนำมาเปรียบเทียบกันได้ยาก เพราะรสนิยมความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
แค่ส่วนสูงอย่างเดียว ลู่เฉินก็แซงหน้าหลิงเสี่ยวซูไปไกล ฝ่ายหลังสูงเพียง 167 เซนติเมตร ใส่รองเท้าเสริมส้นแล้วก็ได้ความสูงแค่ 172 เซนติเมตร ลู่เฉินเมื่อไม่ใส่รองเท้ายังสูงถึง182 เซนติเมตร
ด้านความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานเพลง หลี่เฟยอวี่ยิ่งมีข้อโต้แย้ง
“นายดูโพสต์นี้สิ มันเขียนว่าเพลงสามเพลงของหลิงเสี่ยวซูล้วนคัดลอกมาจากวงนักร้องชายเกาหลี KDK เมื่อก่อน เป็นเพลงที่ออกมาจากอัลบั้มปี 03 กับปี 05 มีหลายท่อนที่ลอกเลียนเพลงวง KDK มา เขายังกล้าบอกว่าตัวเองเป็นตัวอย่างของนักร้องรุ่นใหม่อีกเหรอ?”
ใน ‘คลังดนตรีจีน’ หลักๆ เน้นที่ผลงานเพลงในประเทศ แต่ผลงานจากต่างประเทศได้ผ่านวิธีการนำตัวแทนมาจดทะเบียน ลิขสิทธิ์เพลงก็ได้รับการคุ้มครองได้เหมือนกัน
แต่สถานการณ์ปัจจุบันในแวดวงดนตรีมีการโจมตีเรื่องการขโมยลิขสิทธิ์เพลง จึงทำให้ความต้องการนำเพลงยุโรป เกาหลีและญี่ปุ่นไปจดทะเบียนลิขสิทธิ์ใน ‘คลังดนตรีจีน’ มีไม่มาก เพราะมีข้อจำกัดทางผลประโยชน์มากและค่าธรรมเนียมในการจดลิขสิทธิ์และเก็บรักษาเพลงแพง ทำให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องขาดความกระตือรือร้นในการคุ้มครองสิทธิ์
ดังนั้นเมื่อมีรูรั่วใหญ่เช่นนี้ ทำให้นักร้องในวงการมากมายในประเทศ ที่ชอบติดตามแนวเพลงต่างชาติ ถ้ามีคุณธรรมหน่อยก็ซื้อลิขสิทธิ์ของเพลง หากไร้จริยธรรมก็จะลอกเลียนแบบ ดัดแปลงเพลง กลายเป็นเพลงของตัวเองและนำไปเผยแพร่ นี่เป็นวิธีการที่กำลังนิยมทำแล้วนำไปใช้เพื่อการค้า
วิธีการแบบนี้ต้องอาศัยการดำเนินการที่สั้นกระชับฉับไว ต้นทุนน้อยแต่เห็นผลเร็ว เป็นหนทางที่บริษัทสื่อมีเดียทั้งหลายมองว่าเป็นช่องทางทำมาหากินแบบใหม่
เพลงเร็ว เพลงทำนองติดหู เพลงโคฟเวอร์ เพลงแร็ป….ต่างประเทศนิยมเพลงแนวไหน กระแสส่งผลมาถึงในประเทศจีนเป็นอันดับแรกๆ
ผลจาการจากหลั่งล้นเข้ามาของเพลงภายนอกคือทำให้เกิดการสร้างผลงานเพลงแนวใหม่ในประเทศ นอกจากเจ้าของผลงานส่วนน้อยที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ผลงานระดับกลางและล่างส่วนใหญ่จึงยากที่จะดำรงอยู่ได้ สุดท้ายก็ต้องแยกย้ายไปเอง
สภาพการณ์เช่นนี้ คนมีความรู้ส่วนมากในประเทศจีนกระตุ้นเรียกร้องให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่อย่างจริงจัง บางคนถึงกับกล่าวว่าการปล่อยลิขสิทธิ์ของยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่นเป็นการกระทำที่เจตนา ซึ่งทำเป็นยาแรงกำจัดผลงานจากภายในประเทศ
วิธีการแบบนี้อาจจะรู้สึกได้ว่าเป็นกลลวงแผนร้าย แต่การลอกเลียนแบบแนวเพลงยุโรป อเมริกา เกาหลีไม่ค่อยมีอยู่บนพื้นฐานความจริง บรรดาแฟนคลับของไอดอลไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ จุดสำคัญที่พวกเขาไขว่คว้าคือมูลค่าทางหน้าตา ข่าวซุบซิบ เรื่องฉาวโฉ่ พอมีความสามารถ ร้องเพลงได้ใจ เต้นเก่งแค่นี้ก็พอแล้ว!
แน่นอนว่ามีหลายสื่อและนักดนตรีมากมายที่ต่อต้านสภาพนี้ คนที่ได้ผ่านยุคปี 80-90 ที่มีเพลงคลาสสิกยอดนิยมมากมาย ช่วงแรกอาจรู้สึกว่าเป็นแนวเพลงแปลกใหม่ แต่กลับรู้สึกขัดแย้งกับวงการแนวเพลงต่างประเทศ
เพลงในฤดูใบไม้ผลิ ได้ขึ้นติดอันดับสูงสุดเป็นการบ่งบอกถึงปัญหา
นี่คือยุคของการเปลี่ยนแปลง เป็นยุคที่ดนตรีสมัยใหม่ตกต่ำสุดและดีเยี่ยมที่สุดด้วยเหมือนกัน!
ลู่เฉินเองก็ได้อยู่ในยุคนี้!
หลี่เฟยอวี่เอ่ยขึ้น
“หลายโพสต์และหลายบล็อกที่บอกว่าหลิงเสี่ยวซูเลียนแบบงานของคนอื่นถูกลบทิ้งจนหมด อิทธิพลของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานกว้างใหญ่มาก ต้าเฉิน พวกเราเขียนบล็อกโจมตีกลับดีไหม?”
เขามาถึงออฟฟิศแต่เช้า เปิดคอมพิวเตอร์เห็นข่าวในเฟยซวิ่น ถึงรู้ว่าบล็อกของลู่เฉินถูกโจมตี กว่าจะหาต้นสายปลายเหตุพบ ในใจก็คุกรุ่นไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
วงจรการแข่งขันรอบออดิชั่นของรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองที่คัดลู่เฉินออก แล้วยังโจมตีซ้ำอีกครั้ง บล็อกอีกสามบทความที่ออกมานั้นมีเพียงคนฉลาดเท่านั้นที่มองออก ยิ่งรู้สึกทนไม่ได้!
หลี่เฟยอวี่ได้บล็อกเขตคอมเมนต์และร้องเรียนไอดีของผู้ใช้ไปหลายคน แต่ไม่อาจต้านทานการโจมตีของฝ่ายนั้น
ความเกรี้ยวกราดโกรธแค้นกักเก็บอยู่เต็มอก
โจมตีกลับดีมั้ย?
ลู่เฉินคิดไปคิดมา พูดอย่างใจเย็นว่า “อย่าเพิ่งใจร้อน รอให้ฉันชัดเจนในเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน”
หลี่เฟยอวี่ที่โมโหอยู่แล้ว เขายิ่งโมโหเข้าไปใหญ่!
คนอื่นบุกมาตบหน้าถึงประตูบ้าน ถ้าไม่มีอารมณ์อยากตอบโต้คงไม่ใช่ลูกผู้ชาย?
ลู่เฉินไม่ได้ฝึกความอดทนขั้นสูงสุด
แต่เมื่อเข้าสู่วงการนี้แล้ว จำเป็นต้องเผชิญกับลมมรสุมที่ถาโถมเข้ามา เพียงแค่อารมณ์โกรธไม่มีประโยชน์อะไร กลับยิ่งทำให้ตกเป็นตัวตลกแก่คนอื่นเสียเปล่า ทำให้ตัวเองตกสู่ความเสียเปรียบเข้าไปอีก
ดังนั้นการตอบโต้กลับก็ต้องทำ แต่จะตอบโต้ยังไงให้สวยงามถึงจะเป็นสิ่งสำคัญ
ต้องรู้ว่าสิ่งที่เขาเผชิญอยู่ คืออำนาจล้นฟ้าของสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน หากไม่มีไม้เด็ด อาศัยคำพูดปากเปล่าเพียงอย่างเดียวไม่อาจได้เปรียบในสงครามการวิจารณ์ครั้งนี้
ท่าทีของทางสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ก็สำคัญมากเช่นกัน ในเมื่อสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ยังไม่มีปฏิกิริยา แล้วเขาจะรีบร้อนบุกตะลุยอย่างเดียว จะไม่เป็นการดึงดูดแรงไฟให้โหมกระหน่ำขึ้นหรือ?
หลี่เฟยอวี่ลังเลเล็กน้อย ถามว่า “หรือว่าเราปิดคอมเมนต์ไปก่อนดีมั้ย?”
ปิดคอมเมนต์ อย่างนั้นคนอื่นอยากด่าก็ไม่มีที่ให้ลงด่า อีกอย่างคือให้มันพ้นหูพ้นตาจะได้สบายใจ
“ไม่จำเป็น!”
ลู่เฉินปฏิเสธเด็ดขาด “ให้พวกเขาด่าไป พวกเขายิ่งด่าแรงเท่าไหร่ อนาคตเราจะได้ตอกกลับอย่างสะใจ!”
เขาควักโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดเบอร์โทรศัพท์ที่คุ้นเคย
ลู่เฉินคาดเดาว่า เรื่องนี้มีโอกาสถึง 90% ที่จะเป็นฝีมือของคนๆ หนึ่ง เขารู้สึกมีลางสังหรณ์
ตอนนี้ถึงเวลาไปหาคำตอบแล้ว
“ฉันคิดว่านายจะโทรมาหาฉันตั้งแต่เมื่อคืนแล้วซะอีก…”
เสียงที่ดังออกมาจากสายโทรศัพท์ของเฉินเจี้ยนหาว หัวเราะเสียงแห้งตอบว่า “ไม่คิดว่าจะช้าขนาดนี้ ทำให้ฉันผิดหวังนิดหน่อย!”
…………………………………………………………………………………..