ตอนที่1256 วิถีดาบสารทิศ!

 

หลังซัดพาฝ่ามือออกไป เก้าผีร้ายเร่งผนึกกำลังโคจรพลังร่ายคาถาโดยเร็ว ในไม่ช้าตราสาปภูตวิญญาณที่ฝังลึกในตัวเขาก็สลายหายไป

 

“เป็นไปไม่ได้! เจ้า…เจ้าสำเร็จศาสตร์แห่งสวรรค์ขั้นสองได้อย่างไร?”

 

“เจ้าหนู เจ้าจักต้องชดใช้กับสิ่งที่ทำลงไป!”

ไม่ว่าจะเป็นทั้งจู่เก๋อฉิงซวนหรือหลีกุย ทั้งคู่ต่างปะทุโทสะเดือดดาลขึ้นทันทีในเวลานี้

สมญานาม จอมราชันย์อันดับหนึ่งแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่มันภาคภูมิใจยิ่งกลับถูกกระชากแสกหน้าไม่เหลือ ส่วนอีกคน ธงอัตลักษณ์วิญญาณ ของวิเศษคู่กายตั้งแต่สมัยบรรพกาลก็ยังถูกฉกไปต่อหน้าตา แถมยังต้องแพ้ให้กับของๆตัวเองอีก

ความระทมขื่นขมชนิดนี้ ไม่ว่าใครต่างต้องเป็นบ้าไปตามๆกัน

 

เย่หยวนกล่าวเอ่ยตอบอย่างเฉยเมยว่า

“พวกเจ้าทั้งคู่เล่นถามมาพร้อมกันเช่นนี้ แล้วข้าควรจะตอบใครก่อนดี?”

 

“เหอะ เจ้าหลบไปเถอะ เจ้ามิใช่คู่มือของเจ้าเด็กนี่! ให้ข้าออกโรงเอง!”

จู่ๆหลีกุยก็เอ่ยขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ

 

“ไม่มีทาง! เป็นไปได้รึที่ข้า,จอมราชันย์สวรรค์นิรันดร์มิใช่คู่มือของไอ้เด็กเหลือขอนี่?”

จู่เก๋อฉิงซวนปฏิเสธเสียงแข็ง

มันยังจำได้ดี ตอนนั้น ณ นอกเมืองนภาศักดิ์สิทธิ์ ยามสัประยุทธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง เย่หยวนกลับมิใช่คู่มือของมันได้แม้สักนิด

แล้วนี่วันเวลาผ่านไปนานเพียงใดกัน?

ยามนี้กลับเป็นที่มิเข้าคู่กับไอ้เด็กเหลือนี่?

 

สีหน้าการแสดงออกของจู่เก๋อฉิงซวนดูปรวนแปรสลับสับสนอย่างไม่หยุดหย่อน เห็นได้ชัดว่า จิตวิญญาณทั้งสองภายในร่างกำลังขัดแย้งกันหนัก และเข้าตีกันหวังเพื่อยึดสิทธิการควบคุมร่างกาย

 

“เจ้าโง่! คิดหรือว่า แค่มีพรสวรรค์มากมายจนได้ยกยอว่าเป็นอันดับหนึ่ง จะทำให้เจ้าไร้เทียมทานใต้แผ่นฟ้า? ในปีนั้น กระทั้งข้า,โคตรบิดาผู้นี้ยังไม่กล้ากล่าวเลยว่า เหนือฟ้าใต้สวรรค์ข้าคืออันดับหนึ่ง! แล้วเจ้าเป็นใครกัน?”

หลีกุยกล่าว

 

“หึ! นั้นเป็นเพราะข้ามิได้โชคดีเกิดในยุคสมัยที่ศาสตร์แห่งสวรรค์ยังคงรุ่งโรจน์! มิฉะนั้นความสำเร็จของข้าผู้นี้คงมิได้อยู่ใต้จั้วซ่งเช่นกัน!”

ทว่าจู่เก๋อฉิงซวนกล่าวโต้เปี่ยมด้วยความมั่นใจ

 

ในที่สุดจู่เก๋อฉิงซวนยังคงประคองสติควบคุมร่างกายได้ต่อ ยามนี้ทั้งความคิดและจิตใจของมันเข้าปกครองโดยสมบูรณ์ สีหน้าการแสดงออกของมันเฉียบเย็นลงในทันที พร้อมนัยน์ตาไสวฉายแววอำมหิตหลายส่วน

พลังปราณทั้งหมดทั่วกายาไหลบ่าพรั้งพรูออกมาอย่างบ้าคลั่ง กลิ่นอายคุกคามหอบยักษ์ลันทะลักออกจากร่างของมัน

 

เมื่อเห็นภาพฉากนี้ เย่หยวนถึงกับหรี่ตาแคบเล็กน้อย พลางกดสายตาจับจ้องอย่างตั้งใจ ยามนี้เขาเคร่งขรึมขึ้นในทันใด

 

“เจ้าบ้าไปแล้วรึไง? ความเข้าใจต่อศาสตร์แห่งสวรรค์ของเจ้ายังไม่เพียงพอที่จะสำแดงใช้วรยุทธระดับนี้ออกมา! หากปลดปล่อยมันออกไป นั่นจะเป็นการสูบพลังชีวิตออกไปด้วย!”

หลีกุยผู้นี้เป็นใคร? มันเคยเป็นถึงเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าขั้นสุด ศาสตร์แห่งสวรรค์ที่มันบรรลุช่างลึกซึ้งถ่องแท้ ในตอนนี้เห็นจู่เก๋อฉิงซวนฝืนใช้พลังเกินตัว มีหรือจะไม่ทราบผลข้างเคียง?

 

ตามที่มันกล่าวไปไม่มีผิด เนื้อหนังร่างกายของจู่เก๋อฉิงซวนดูเหี่ยวย่นลงอย่างรวดเร็ว!

ทว่ามันกลับหาได้สนใจไม่ และยังคงระดมพลังปราณสุดขีดเพื่อปลดปล่อยกระบวนโจมตีเต็มสูบ!

แรงขับเคลื่อนที่มันสู้ตายขนาดนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะความเกลียดชังริษยาจากก้นบึ้งในใจของมัน!

 

“เจ้าบ้าไปแล้ว! เจ้าบ้าไปแล้วจริงๆ!! หากปล่อยให้พระเจ้าผู้นี้ลงมือทุกอย่างคงจบไปแล้ว! นี่คิดจะพลีชีพไปพร้อมมัน? เจ้าโง่!”

หลีกุยกรีดร้องลั่นระงมพลางส่งเสียงเย็นสะท้านผิดประหลาด ทว่าจู่เก๋อฉิงซวนกลับมิได้สนใจมันแม้แต่น้อย

มันต้องการตายไปพร้อมกับเย่หยวน!

 

“ดัชนี…เทพ…เลิศล้ำ!”

 

จู่เก๋อฉิงซวนในตอนนี้กลายเป็นคนชราภาพเนื้อหนังเฉาติดกระดูก มันกู่ก้องคำรามเอ่ยนามกระบวนโจมตีสุดท้ายดังลั่นออกจากปาก

 

เมื่อเห็นภาพฉากนี้ เย่หยวนอดแสยะยิ้มเย็นมิได้และกล่าวว่า

“จุจุ เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว วรยุทธเห็บเหาเช่นนี้มีคุณสมบัติลากข้าลงนรกพร้อมกันจริงรึ?”

 

วูบบ…

เย่หยวนเรียกดาบพิชิตมารฟ้าออกมา จิตสังหารแห่งดาบที่แครงเคลือบช่างน่าสะพรึงขวัญดั่งปรารถนาโถมซัดสรวงสวรรค์!

รัศมีกลิ่นอายของจู่เก๋อฉิงซวนก็แกร่งกร้าวยิ่งเช่นกัน ทว่าเปรียบกับจิตสังหารแห่งดาบของเย่หยวนแล้ว ความยิ่งใหญ่ของมันกลับถูกบดบังจนมิด!

 

แรกเห็นจิตสังหารแห่งดาบอันน่าประทับใจของเย่หยวน หลีกุยถึงกับอุทานลั่นขึ้นว่า

“ดาบพิชิตมารฟ้า! สูตรจอมดาบพิชิตมารฟ้าขั้นสาม! วิถีดาบสารทิศ! ไอ้หัวหมูยังไม่หยุดอีก! ต่อให้เจ้าเด็กนี่มิได้ใช้ดาบพิชิตมารฟ้าช่ำชองเท่าเจ้าของเก่ามัน แต่ต่อหน้าวิถีดาบสารทิศ เจ้ากลับมิได้เข้าคู่เลย! หยุดโจมตีเดี๋ยวนี้!”

หลีกุยรู้จักสูตรจอมดาบพิชิตมารฟ้านี้เป็นอย่างดี ยังไม่ทันที่เย่หยวนจะได้เคลื่อนไหว มันก็มองผ่านอ่านกระบวนได้แจ่มแจ้ง

สูตรดาบพิชิตมารฟ้าเป็นเพียงขั้นพื้นฐานของเพลงดาบเลื่องสวรรค์ โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นวรยุทธที่ไม่มีระดับชั้น หากมิใช่เซียนเต๋าสวรรค์ที่สามารถต่อยอดจนสำแดงเพลงดาบเลื่องสวรรค์ออกมาได้ ต่อหน้าเซียนอาณาจักรพระเจ้าด้วยกัน นี่ไม่นับเป็นอันใด กระนั้นเอง อนุภาพของกระบวนดาบนี้ยังคงเหนือชั้นกว่าดัชนีเทพเลิศล้ำอยู่หลายขุม!

 

ทั้งสองฝ่ายมิได้อยู่ในระดับเดียวกันอย่างชัดเจน!

เย่หยวนเหนือกว่าโดยสิ้นเชิง!

 

หลีกุยทราบดี จู่เก๋อฉิงซวนคือยอดอัจฉริยะขนานแท้ที่จะมีสักคนในรอบหนึ่งแสนปี ดังนั้นมันจึงกล้าโยกย้ายจิตวิญญาณเข้าสิงสู่ในร่างของอีกฝ่าย

แต่เมื่อหลีกุยได้เห็นดาบพิชิตมารฟ้าของเย่หยวน มันก็ทราบได้ทันที เหนือฟ้ายังมีฟ้า!

 

จู่เก๋อฉิงซวนคืออัจฉริยะในรอบแสนปี

แต่…

เย่หยวนกลับเป็นยอดอัจฉริยะในรอบล้านปี!!

 

หลีกุยมั่นใจอย่างยิ่ง กระทั้งเซียนเต๋าสวรรค์ยังมีพรสวรรค์อ่อนด้อยกว่าเย่หยวน!

ถึงแม้จะเป็นเพียงสูตรจอมดาบพิชิตมารฟ้า ที่เป็นกระบวนพื้นฐานที่สุดของเพลงดาบเลื่องสวรรค์ แต่นั้นก็มิใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำความเข้าใจจนประสบความสำเร็จได้

ในทางตรงกันข้าม นี่เป็นเพลงดาบที่เข้าใจได้ยากยิ่ง

แต่ปรากฏว่า เย่หยวนสามารถสำเร็จได้ถึงขั้นสามแล้วจริงๆ

มาตรได้ว่า เย่หยวนเริ่มเข้าใกล้เพลงดาบเลื่องสวรรค์ไปทีละนิดแล้ว และนั้นเป็นวรยุทธเพลงดาบที่น่าสะเทือนขวัญอย่างแท้จริง!

อย่างไรก็ดี ดัชนีเทพเลิศล้ำคือไพ่ตายท้ายสุดของจู่เก๋อฉิงซวนแล้ว ไม่ว่าเป็นตายอย่างไรมันก็จะสำแดงใช้ออกมาให้ได้

 

บูมมมม!!

 

สองสุดขั้วพลังสุดแกร่งกล้าอันกอปรไปด้วยศาสตร์แห่งสวรรค์เข้าปะทะกันหนักหน่วงจนสะเทือนฟ้าดิน แรงระเบิดที่ถีบซัดออกมาแผดขยายกว้างล้างสรรพสิ่งโดยรอบจนเหลือแค่ความว่างเปล่า

การสัประยุทธ์คราวนี้ ค่าควรแก่การขนานนามยิ่งว่า ศึกสัประยุทธ์หยุดพิภพแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์!

จอมราชันย์อันดับหนึ่งที่ดำรงตำแหน่งนานถึงสองพันปีเต็ม บัดนี้ได้ฤกษ์ถอดถอนรายนามออกจากทำเนียบเสียที!

แม้ว่าจู่เก๋อฉิงซวนจะได้รับคำชี้แนะมากมายจากข่านนั่ว แค่แนวคิดของมันยังคงมีขีดจำกัด

ถึงอาณาจักรพลังของมันจะสูงกว่าเย่หยวน

ทว่าผลลัพธ์ที่ได้คือความพ่ายแพ้ในท้ายที่สุด!

 

ร่างอันบอบช้ำของจู่เก๋อฉิงซวนบินกระเด็นไกลโขดั่งว่าวไร้เชือก พร้อมตกกระแทกพื้นจนเป็นรูโหวขนาดยักษ์อย่างแรง และนอนแน่นิ่งไม่ขยับเขยื้อนใดๆอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม สภาพของเย่หยวนในขณะนี้ก็มิใช่ว่าดีนัก

 

อาการบวดเจ็บก่อนหน้ายังไม่สร่าง ครั้งนี้ยังสำแดงใช้วิถีดาบสารทิศเต็มสูบ ไม่เพียงภาระมหาศาลที่ร่างกายจำต้องแบกรับ แต่พลังปราณทั้งหมดในร่างยังถูกสูบไม่เหลือ

อย่ามองแคลนเพียงว่า ระหว่างจู่เก๋อฉิงซวนกับเย่หยวน อาณาจักรพลังมิได้ห่างชั้นกันนัก

เพราะการสัประยุทธ์ระดับชั้นยอดฝีมือ ความแตกต่างเพียงนิดเดียวอาจมีผลถึงความตาย

ท้ายที่สุดนี้ สำหรับชัยชนะของเย่หยวน ทั้งหมดเป็นเพราะศาสตร์แห่งสวรรค์ที่ลึกซึ้งกว่าอย่างชัดเจน!

 

สีหน้าของเย่หยวนซีดขาวราวกับกระดาษแผ่นบาง ทั่วร่างกายาสลดวูบทรุดลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

 

“พี่ใหญ่ ท่านเป็นอะไรหรือไม่?”

 

หลังจากเห็นว่าเย่หยวนยังพอโคจรพลังปราณฟื้นฟูร่างกายได้บ้าง อิ้งหมัวหู่พลันเสียงหัวร่อคำโตและโพล่งกล่วาขึ้นอย่างตื่นใจว่า

“ฮ่าฮ่า! ช่างน่าทึ่ง! พี่ใหญ่สุดยอดโดยแท้! ไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่า สูตรจอมดาบพิชิตมารฟ้าของท่านจะสำเร็จถึงขั้นสามแล้ว! ไม่เพียงฤทัยแห่งฟ่านจู้หลง ความสำเร็จในศาสตร์แห่งดาบของท่านกลับยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน! สังหารจอมราชันย์สวรรค์นิรันดร์ทิ้งเสร็จสรรพ ณ ปัจจุบัน ท่านคือจอมราชันย์อันดับหนึ่งแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง!”

 

เย่หยวนกลืนโอสถฟื้นฟูพลังปราณไปเม็ดหนึ่ง พลางส่ายหัวและกล่าวพลางคลี่ยิ้มว่า

“อันดับหนึ่งแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์? หุหุ,ช่างเป็นเรื่องน่าขันสิ้นดี! ท่านอาวุโสฟางเทียนยอมเสียสละเพื่อปลุกปั้นเหล่านักสู้ของมวลมนุษย์ให้ตระหนักถึงภัยร้ายในอนาคตเบื้องหน้า ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าเขาอีกแล้ว! ถึงอย่างนั้น เหนือฟ้ายังมีฟ้า ดินแดนแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาล ซ่องสุมพยัคฆ์มังกรไม่รู้มากมายเท่าไหร่ เพียงว่ามีพวกไร้ยางอายบางคนหวังแต่ผลประโยชน์ตรงหน้า จู่เก๋อฉิงซวนคือผลผลิตของชนรุ่นก่อนที่เห็นแก่ตัวอย่างแท้จริง วันๆเอาแต่ดื่มด่ำกับความสุข ทั้งๆที่ภายนอกกำลังเดือดร้อนแทบลุกเป็นไฟ!”

ในท้ายที่สุดนี้ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยังคงใหญ่เกินไปสำหรับคนโดยส่วนใหญ่ แม้ว่าฟางเทียนจะงัดเอาความสามารถพิเศษ,ไขความลับแห่งสรวงสวรรค์มาใช้เพียงใด แต่ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะคำนวณสรรพสิ่งได้เสร็จสับ

อย่างน้อยที่สุด ภายในหุบเขาเหวพระเจ้า ฟางเทียนก็มิอาจมองผ่านออกอนาคตออกได้โดยสมบูรณ์เช่นกัน ยังมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังกว่าสิบจอมราชันย์ไม่รู้จำนวนมากมายเท่าใด

และสิ่งมีชีวิตอันทรงพลังเหล่านั้นโดยส่วนใหญ่ ต่างอาศัยอยู่ภายในเขตพระเจ้าต้องห้าม

ดังนั้นแล้ว นามขาน,จอมราชันย์อันดับหนึ่งแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ต่อให้เป็นฟางเทียนหรือเซียนเต๋าสวรรค์ พวกเขาเองก็ไม่กล้ารับสมญานามนี้เช่นกัน

 

จู่เก๋อฉิงซวนเพิ่งลืมตาดูโลกในยุคสมัยหลังๆ ทว่ากลับมองตัวเองว่าเป็นจอมราชันย์อันดับหนึ่ง แถมยังคิดว่าตนคือผู้นำที่แกร่งกล้าที่สุดแห่งทำเนียบสิบจจอมราชันย์อีก เหนือพิภพใต้สวรรค์มันไร้เทียมทาน!

 

ทว่ากลับหารู้ไม่ว่า มันเป็นเพียงกบน้อยในก้นบ่อเท่านั้น!

 

จู่ๆสีหน้าการแสดงออกของเย่หยวนพลันเปลี่ยนไปในบัดดล

 

“ฮิฮิ… เจ้าหนู,ข้าต้องขอบใจเจ้าจริงๆ! ในที่สุดไอ้โง่นั้นก็ทำร้ายตัวเองจนตาย พระเจ้าผู้นี้จะได้ครอบครองร่างโดยสมบูรณ์เสียที!”

จู่เก๋อฉิงซวนกลับหาใช่จู่เก๋อฉิงซวนคนเดิมอีกต่อไป ทันทีทันใดกลิ่นอายพลังที่พรั้งพรูพลันลึกซึ้งและแกร่งกล้ายิ่งกว่าก่อนหน้าหลายขุม!