บทที่ 41 การประลองครั้งแรกของดาร์ก เดม่อน

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี [反派少爷只想过佛系生活]

บทที่ 41 การประลองครั้งแรกของดาร์ก เดม่อน

‘ใคร?’

เวอร์เธอร์ตกใจมากจนเดินเลี่ยงแท่นบูชาโดยไม่รู้ตัวแล้วไปซ่อนอยู่หลังรูปปั้นของเทพธิดา

ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้น

ดูเหมือนว่ามีคนมามากกว่าหนึ่งคน

จู่ ๆ เวอร์เธอร์ก็รู้สึกเสียใจอย่างอธิบายไม่ได้ ‘ปรากฏว่าไม่ใช่คนเดียวที่ถูกเลือก’

ความรู้สึกแบบนี้ มันเหมือนกับของเล่นที่ในที่สุดเขาก็ได้มาแต่กลับถูกคนอื่นเอาไปเล่น ไม่ใช่เล่นแค่คนเดียว แต่เล่นกันหลายคนด้วย!

อึก!

เขาไม่กล้าวู่วาม ทำได้เพียงฟังเสียงเพื่อคาดเดาการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย

มีคนอย่างน้อยห้าหรือหกคนเข้ามาในห้องโถงนี้ เสียงของพวกเขาเบามาก ไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงอะไร แต่ท้ายที่สุด ดูเหมือนว่าพวกเขาจะวางอะไรบางอย่างไว้ข้างหน้ารูปปั้นของเทพธิดาและร่ายเวทมนตร์สักคาถา

บรรยากาศตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ

ทั้งหมดต้องขอบคุณพลังใจอันแข็งแกร่งของเขาที่ยังสามารถสงบสติอารมณ์ได้ หากเป็นโรเบิร์ตมาอยู่ตรงนี้ เขาคงตะโกนออกมาด้วยความตกใจไปแล้ว

เมื่อร่ายคาถาถึงระดับหนึ่ง แสงสีขาวบนร่างของเทพธิดาก็เริ่มไหลราวกับน้ำและสว่างขึ้นเรื่อย ๆ

เวอร์เธอร์เงยหน้าขึ้นและพบว่าร่องรอยเสียหายเล็ก ๆ น้อย ๆ บนรูปปั้นได้รับการซ่อมแซมอย่างระมัดระวัง!

‘ไม่ใช่ว่าพวกเขาเป็นแค่กลุ่มช่างที่มาซ่อมรูปปั้นหรอกเหรอ?’

ความคิดนี้หายไปในพริบตา ตัวเขาเองก็ไม่เชื่อ

เมื่อร่ายคาถาจบลงแล้ว บรรยากาศก็เบาลงไปด้วยเล็กน้อย เสียงของกลุ่ม ‘ช่าง’ ก็ดังขึ้นเช่นกัน

แม้สุ้มเสียงจะแผ่วเบา แต่ตอนนี้เวอร์เธอร์ก็ได้ยินแล้วว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไร

“เผาพวกมันให้ตายสิ!”

“เพื่อเทพธิดา!”

“เราจะทำให้สำเร็จ!”

“นี่คือสงครามศักดิ์สิทธิ์!”

จันทราที่สว่างไสวหายไปและตอนเช้าก็ใกล้เข้ามา

แสงอรุณส่องลงมาจากฟากฟ้า เผยเส้นทางแห่งแสงสว่างแก่ผืนแผ่นดิน

ดาร์กเปิดประตูและเดินออกจากห้องนอน บางสิ่งที่ตกลงมาตามรอยขอบประตูทำให้เขานึกสนใจ

เมื่อมองลงมาแล้วเห็นสิ่งนั้นมุมปากของดาร์กก็กระตุก

เขาก้มลงไปหยิบการ์ดดอกไม้จากพื้น มองดูมันอย่างละเอียดถี่ถ้วน

“ความเสน่หาก็เหมือนไหมที่ยาวหลายหมื่นไมล์ มันดาลาสีขาวบริสุทธิ์เป็นดอกไม้แห่งความรักที่นุ่มนวล ใครก็ตามที่เห็นดอกไม้นี้ก็จะปราศจากความชั่วร้าย”

ดาร์กผสานพลังเวทมนตร์เข้าไปในการ์ดดอกไม้ แล้วอีบุยตัวน้อยก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนการ์ด

ก่อนที่วิชาศึกษาสัตว์เวทมนตร์จะเริ่มขึ้น วันศุกร์นี้จึงมีแค่วิชาประลองวิชาเดียว

อย่างที่กล่าวไปว่า จุดประสงค์ของการเรียนวิชาประลองในเช้าวันศุกร์คือ เพื่อให้วิชาประลองนั้นอยู่ไปได้นานตราบเท่าที่ต้องการ…

คาบเรียนวันนี้ยังคงมีทั้งสี่บ้านเข้าร่วมด้วยเช่นเคย

สถานที่เรียนอยู่ที่โถงประลองสอง

ก่อนแปดนาฬิกา นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งเกือบทั้งหมดมาที่โถงประลองแล้ว ส่วนใหญ่ต่างตั้งหน้าตั้งตารอการประลองคู่แรกในชีวิตอย่างใจจดใจจ่อ

แม้ว่าสิ่งที่เรียกว่าโหมดระดับสูงนี้จะเป็นเพียงรูปแบบเรียบง่ายของการประลองของจริง แต่ก็ไม่มีใครสนใจมันมากขนาดนั้น

ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถเล่นได้ และสามารถตะโกนว่า ‘ถึงตาฉันแล้ว’ ได้ ก็จะทำให้นักเรียนปีหนึ่งมีความสุขไปอีกนาน

แน่นอนว่ายังมีคนที่ไม่มีความสุขอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถสร้าง [สัตว์อสูรมายา] ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์

ในคาบวิชาเวทมนตร์ของเมื่อวาน มีหลายคนถูกหักคะแนนเพราะทำการบ้านสร้างสัตว์อสูรมายาไม่สำเร็จ

หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเวอร์เธอร์ โรเบิร์ตก็คงเป็นหนึ่งในนั้น

ตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลาเรียน ดาร์กก็หาม้านั่งสำหรับพักผ่อนรอแล้ว

ไม่นานนัก ไดแอนนากับโรสก็มานั่งข้างเขา

“ดาร์ก นายคิดว่าใครจะชนะในเกมวันนี้” ไดแอนนาถามอย่างตื่นเต้น

ดาร์กยิ้ม “มันเป็นแค่เกมในชั้นเรียนเท่านั้น”

“ฮ่า!” ไดแอนนาตบขาของเธอ “ยังไงก็เถอะ หมีขาวตัวใหญ่ของฉันก็กระหายการประลองอยู่แล้ว!”

โรสคว้าแขนเสื้อของไดแอนนาอย่างรวดเร็วและกระซิบว่า “ลดเสียงลงหน่อยสิ เมื่อคืนเธอบอกว่าอยากดูเป็นเด็กผู้หญิงมากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ?”

ไดแอนนา (,,• ₃ •,,)

กริ่งเริ่มต้นคาบเรียนดังขึ้น

นักเรียนหยุดพูดคุยกัน และพวกเขาก็เริ่มเข้าแถวกันที่กลางโถง

ศาสตราจารย์โจนส์มาถึงช้ากว่าปกติครึ่งนาที

“วันนี้อากาศดี เรามาวิ่งอุ่นเครื่องกันก่อน”

อาจารย์สาวก็โหดเหี้ยมเช่นเคย ให้พวกเขาวิ่งรอบโถงอย่างไร้ความปรานี

เหล่านักเรียนซึ่งเต็มไปด้วยความคาดหวังในตอนนี้ต่างก็ท้อแท้

“ฉันก็คิดว่าวันนี้เราไม่ต้องวิ่งเสียอีก…”

แม้ว่านักเรียนจะบ่นกระปอดกระแปด แต่พวกเขาก็ยังต้องวิ่งเพราะคำสั่งของศาสตราจารย์

โรเบิร์ตรู้ดีว่าแต้มโบนัสเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้ของเขาได้ จึงไม่ได้กระตือรือร้นอีกต่อไป

เขาควบคุมความเร็วและวิ่งเคียงบ่าเคียงไหล่กับเวอร์เธอร์ ในที่สุด เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เวอร์เธอร์ เมื่อคืนนายไปไหนมา ตอนสามทุ่มฉันไม่เห็นนายเลย”

เวอร์เธอร์เปิดปากของเขาและพูดขึ้นหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง “โรเบิร์ต ร่างกายของฉันไม่แข็งแกร่งเท่านาย ไว้เรามาคุยกันหลังวิ่งได้ไหม?”

โรเบิร์ตตอบ “ก็ได้”

หลังจากผ่านไปสองรอบ นอกจากนักเรียนไม่กี่คนที่ยังมีแรง นักเรียนปีหนึ่งของทั้งสี่บ้านต่างหมดพลังกันไปหมด

เดิมทีโรเบิร์ตต้องการจะสอบสวนต่อ แต่ศาสตราจารย์โจนส์ก็พูดเสียงดังว่า “พวกที่ยังมีเรี่ยวแรงมาช่วยหน่อย”

โรเบิร์ตต้องเดินไปพร้อมกับนักเรียนที่ร่างกายแข็งแรงสองสามคนเพื่อช่วยศาสตราจารย์โจนส์จัดการสถานที่ด้วยความสิ้นหวัง

ใช้เวลาประมาณสิบนาทีหลังจากจัดการสถานที่จนเสร็จสิ้น

นักเรียนก็ฟื้นคืนสติและรวมตัวกันรอบศูนย์กลางของสนาม

ผ่านไปครู่หนึ่ง ศาสตราจารย์โจนส์จึงหยิบลูกบอลโลหะที่มีรูสามรู ซึ่งดูคล้ายกับลูกโบว์ลิงออกมาแล้วถือไว้ด้วยมือข้างเดียว

เธอมองดูนักเรียนทั้งสี่บ้านและถามอย่างเป็นกันเองว่า “มีใครรู้บ้างว่าฉันกำลังถืออะไรอยู่?”

เหล่าจอมเวทฝึกหัดต่างชำเลืองมองกันและกัน จากนั้น แทบจะทันทีพวกเขามากกว่าครึ่งก็ยกมือขึ้น!

คราวนี้แม้แต่เวอร์เธอร์และโรเบิร์ตก็ยกมือ!

ศาสตราจารย์โจนส์สุ่มเลือกนักเรียนคนหนึ่ง

นักเรียนคนนั้นตอบอย่างตื่นเต้นว่า “มันคือลูกบอลเวทมนตร์ ศาสตราจารย์!”

ศาสตราจารย์โจนส์กล่าวด้วยความพอใจว่า “ใช่ มันคือลูกบอลเวทมนตร์ หัวใจหลักของการประลองด้วยเวทมนตร์”

จากนั้นเธอก็วางนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลางเข้าไปในรูทั้งสามของลูกบอลเวทมนตร์ แล้วกล่าวต่อ “ลูกบอลเวทมนตร์ หรือเรียกอีกอย่างว่า ลูกบอลประลองหรือลูกบอลชีวิต ตราบใดที่พลังเวทมนตร์ถูกป้อนไว้เช่นนี้ เธอจะสามารถสร้างบาเรียพลังชีวิตได้รอบสามร้อยหกสิบองศา สวาติ เธออธิบายเกี่ยวกับการจำแนกประเภทของบาเรียพลังชีวิตได้ไหม?”

“ได้ค่ะศาสตราจารย์”

ซาร่า สวาติก้าวออกจากกลุ่มทันที ผิวสีข้าวสาลีของเธอยังคงโดดเด่นมาจนถึงทุกวันนี้

“บาเรียพลังชีวิตของลูกบอลเวทมนตร์ โดยทั่วไปแบ่งออกเป็นห้าระดับ และความแข็งแกร่งของบาเรียที่สอดคล้องกันของแต่ละระดับนั้นก็แตกต่างกัน ค่าพลังเวทมนตร์ของบาเรียพลังชีวิตระดับแรกคือหนึ่งพันหน่วย ระดับที่สองคือสองพันหน่วย ระดับที่สาม สี่ และห้าคือสี่พันหน่วย แปดพันหน่วย และหนึ่งหมื่นหกพันหน่วยตามลำดับ! ในการประลองเวทมนตร์ หากบาเรียพลังชีวิตของลูกบอลเวทมนตร์ของฝ่ายตรงข้ามถูกทำลาย หรือฝ่ายตรงข้ามยอมแพ้ หรือฝ่ายตรงข้ามใช้การ์ดเวทมนตร์จนหมดก็ถือว่าได้รับชัยชนะ”

“ห้าคะแนนให้กับสวาติ”

ศาสตราจารย์โจนส์ใส่พลังเวทมนตร์เข้าไปในลูกบอลเวทมนตร์ จากนั้นบาเรียทรงกลมที่ประกอบด้วยรูปทรงหกเหลี่ยมหลายอันก็ปรากฏขึ้น

เธอค่อย ๆ ผลักมันไปข้างหน้า แล้วลูกบอลเวทมนตร์ที่เป็นโลหะทั้งหมดก็ลอยไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ

ลูกบอลเวทมนตร์บินผ่านหัวของนักเรียนไป แล้วจึงกลับมาที่มือของศาสตราจารย์โจนส์

เธอกล่าวว่า “ในการประลองอย่างเป็นทางการ วิธีจัดการลูกบอลเวทมนตร์เพื่อหลบหลีกการโจมตีของคู่ต่อสู้ก็เป็นเทคนิคที่ต้องเรียนรู้เช่นกัน แน่นอนว่าเราไม่มีข้อกำหนดมากมายสำหรับการประลองในวันนี้ และสิ่งที่เราจะใช้คือ ลูกบอลเวทมนตร์ฝึกหัดเท่านั้น ซึ่งค่าพลังเวทมนตร์ของพลังชีวิตตั้งไว้ที่ห้าร้อยหน่วย”