เล่ม 1 ตอนที่ 275 การขึ้นครองราชย์ที่ทำให้ผู้คนตะลึงงัน

ราชินีพลิกสวรรค์

เวลาสองวัน ผ่านไปเพียงพริบตา

วันนี้เป็นวันที่เจียงหลีจะขึ้นครองราชย์ หากตามพิธีการแล้ว จะต้องออกจากวังหลวงไปยังแท่นบูชาเพื่อทำพิธีเซ่นไหว้เพื่อบูชาสวรรค์และขอพรให้แก่ราษฎร

พระราชโองการที่ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงสละราชบัลลังก์และมีพระราชพิธีราชาภิเษกของเจียงหลี ต่างก็จัดพิธีที่แท่นบูชาทั้งสิ้น

หากเป็นเช่นนี้แล้ว เหล่าราษฎรแห่งเมืองหลวงก็สามารถมารับเสด็จฮ่องเต้องค์ใหม่ของพวกเขา จักรพรรดินีของพวกเขา จักรพรรดินีของราชวงศ์จยาเซียนได้!

งานเตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว ทุกอย่างเป็นดำเนินได้อย่างเป็นระเบียบและเรียบง่าย

แต่ทว่า ก่อนที่พิธีจะเริ่มขึ้น การวิพาก วิจารณ์ของชาวบ้านได้ไปถึงจุดสูงสุด ถึงขั้นมีคนยุยงกลุ่มคนให้เตรียมตัวคัดค้านระหว่างที่พิธี ณ แท่นบูชาจะเริ่มขึ้น เรียกร้องให้ยกเลิกการขึ้นครองราชย์ของเจียงหลี

ภายใต้การรับช่วงต่อพระราชอำนาจ คลื่นใต้น้ำก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ

ภายในพระราชวัง เจียงหลีสวมฉลองพระองค์ชุดใหม่ แต่กลับไม่ทันได้สังเกตเห็นถึงคลื่นใต้น้ำนั้นแต่อย่างใด

ณ พระราชวัง ชุดขาวไว้ทุกข์ถูกยกเลิกให้สวมใส่แล้ว และเปลี่ยนเป็นชุดหลากสีเพื่อการขึ้นครองราชย์ของฮ่องเต้ใหม่ มีการถวายธัญพืชห้าอย่างเพื่อขอพรให้บ้านเมืองสงบสุขและราษฎรอยู่เย็นเป็นสุข

ณ ตำหนักฮวงจี๋ เจียงหลียืนอยู่หน้ากระจก กางแขนสองข้าง เพื่อให้นางกำนัลจัดการฉลองพระองค์ลายมังกรบนตัวนาง

นางที่จะกำลังอายุเต็มสิบหก ไม่ได้เป็นคนที่ผอมแห้ง อ่อนแออย่างในอดีตอีกแล้ว ความสูงและความไม่ประสีประสาของนาง บัดนี้ไม่อะไรเหมือนเดิมแล้ว และยังมีท่าทีที่จะสูงขึ้นไปอีก

ร่างกายก็ค่อยๆ เจริญเติบโต ไม่ได้ผอมบางเหมือนเช่นอดีต

บนใบหน้า ความงดงามที่มิอาจมีใครเทียบเคืองได้ค่อยๆ ปรากฏขึ้น อีกไม่นาน กลัวว่าจะสง่างามจนไม่สามารถจะซ่อนมันไว้ได้

บนร่างกายนางสวมฉลองพระองค์ลายมังกรสีดำที่สั่งตัดตามขนาดตัว ชุดยาวเข็มขัดสีดำ บริเวณไหล่มีแถบผ้างอนขึ้น ชายกระโปรงด้านหลังยาวสามจั้ง พื้นเสื้อเป็นสีดำ ปักลายมังกรทองโบยบินบนก้อนเมฆ กรงเล็บทั้งห้าแหลมคม ดวงตามังกรแสดงถึงความโชติช่วง มีราศีของฮ่องเต้ที่มีอำนาจและน่าเกรงขาม

ฉลองพระองค์ลายมังกรชุดนี้ ทำให้เจียงหลีสลัดความอ่อนเยาว์ออกไปหมดทั้งสิ้น ความน่าเกรงขามของฮ่องเต้ค่อยๆ ปรากฏให้เห็น

ผมยาวของนางถูกรวบเกล้าขึ้นสูง เหลือเพียงปอยเล็กน้อยที่ปล่อยไว้ด้านหลัง บนผมมีเพียงปิ่นหยกหนึ่งชิ้นยึดไว้อยู่ หลังจากงานพระราชพิธีบูชาฟ้าดิน ถือว่านางขึ้นครองราชย์อย่างเป็นทางการ โดยมงกุฎพระฮ่องเต้ของนาง ลู่วั่งชวนจะเป็นคนสวมให้กับมือ

“ฝ่าบาท” มองไปยังจักรพรรดินีหญิงเยาว์วัยที่อยู่ในกระจก หญิงสาวที่สวมใส่ชุดนางกำนัลอย่างอวี้ซูมีความรู้สึกที่หลากหลายพรั่งพรูอยู่ในใจ

วันที่พระชายาลู่ส่งเขาให้กับเจียงหลี นางคิดว่าจะมีวันนี้ที่ไหนเล่า

ตอนที่น้องชายนางอวี้เฉินสละชีพเพื่อนาย ใครจะไปคิดว่าวันนั้นคนที่เขาช่วยไว้ จะมีวันที่ได้เป็นจักรพรรดินี

คุ้มค่าแล้ว! คุ้มค่าแล้ว! อวี้ซูสะอื้นเล็กน้อย อดกลั้นไม่ให้น้ำตารินไหล และหันไปยิ้มให้กับเจียงหลี

หลังจากจัดการฉลองพระองค์ลายมังกรเสร็จ นางกำนัลโค้งตัวออกไป

เจียงหลีวางมือสองข้างลง แขนเสื้อที่ใหญ่ได้ดิ่งทิ้งตัวลงอย่างเป็นธรรมชาติ “ถึงเวลาแล้วหรือไม่”

อวี้ซูจัดการอารมณ์ในใจและพยักหน้าเอ่ย “ได้ฤกษ์แล้ว เชิญฝ่าบาทเสด็จ ราชรถจอดรออยู่หน้าตำหนักแล้วเพคะ”

เจียงหลีพยักหน้า หันหน้าก้าวเท้ายาวไปทางหน้าตำหนัก

อวี้ซูยกมือ ให้นางกำนัลที่จัดเตรียมไว้ เดินไปด้านหน้า ประกบซ้ายขวา เพื่อช่วยเจียงหลียกชายกระโปรงฉลองพระองค์ลายมังกร

ซ้ายขวาด้านละแปดคน ทั้งหมดสิบหกคนที่ค่อยยกฉลองพระองค์ให้กับเจียงหลี

ตอนที่นางเดินออกมาจากตำหนักฮวงจี๋ เซียวเซียวนำคนสิบหกคน แบ่งกันออกไป เพื่อตามคุ้มครองนางซ้ายขวา เงาไม่ปรากฏตัวให้เห็น แต่เจียงหลีรู้ว่าเขาแอบตามมาอย่างแน่นอน

ราชรถแกะสลักทองเหลืองอร่าม ประดับด้วยเพชรนิลจินดา ด้านหน้าสลักพระราชลัญจกรของฮ่องเต้ มีนกนับร้อยเป็นตัวแทนของขุนนาง และยังใช้นกแทนสัญลักษณ์ของเหล่าราษฎร ตระการตาเป็นที่สุด และเต็มไปด้วยความสง่างาม

เจียงหลีเดินขึ้นราชรถอย่างมั่นคง แลสะบัดแขนเสื้อนั่งลง

“ออกเดินทางได้…!”

เสียงนี้ดังขึ้น ขบวนเสด็จค่อยๆ เดินทางออกจากวังหลวง

ด้านหน้ามีกองทหารม้าคอยเปิดทางให้ ด้านหลังมีหมู่ขุนนางเดินตามเสด็จ และมีเหล่าตระกูลใหญ่ตามเสด็จอยู่ด้านหลังอีกที

ขบวนเสด็จที่ยิ่งใหญ่ค่อยๆ เดินออกจากวังหลวงไปยังแท่นบูชา

นายใหญ่แห่งตระกูลหรงยืนอยู่ในขบวนตามเสด็จ และเดินตามราชรถอย่างช้าๆ

เขามองไปทางราชรถและเด็กสาวที่สวมฉลองพระองค์ลายมังกรอยู่บ่อยครั้ง ในใจก็นึกถึงบนสนทนาที่ได้คุยกับลูกชายเมื่อสองวันก่อน

หรงจิ้งพูดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ลู่เจี้ยเลือก

แต่เขาไม่อาจทนดูได้ ก็แค่คนที่ตายไปแล้ว ยังจะทำให้ลูกชายของเขากลัวจนหัวหดเช่นนี้

ดวงตาของนายใหญ่แห่งตระกูลหรงมืดมน ยากที่จะเข้าใจ วันนี้เขาจะรอดูว่าคนที่ลู่เจี้ยเลือกมาเป็นจักรพรรดินีหญิงนั้น สุดท้ายแล้วจะสามารถขึ้นของราชย์ได้อย่างมั่นคงหรือไม่!

หากเหล่าประชาชนไม่ยอม จะโทษเขาก็ไม่ได้ เขาเหลือบตาลงต่ำ สายตาของนายใหญ่ตระกูลหรงแสดงออกถึงความเคร่งเครียด

ทางเดินระหว่างวังหลวงไปยังแท่นบูชาอยู่ห่างไม่ถึงสิบกว่าลี้

แต่ระยะทางไม่ถึงสิบกว่าลี้ ก็ถูกทหารตรวจตราเมืองคอยรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยใช้แพรแดงกั้นหมู่ราษฎรไม่ให้เข้าใกล้ตั้งแต่เช้าแล้ว

โอรสแห่งสวรรค์เสด็จไปบูชาฟ้าดิน ราษฎรก็ต่างคุกเข่าลง

ภายใต้แพรแดง ราษฎรนับไม่ถ้วนคุกเข่าอยู่บริเวณที่ทหารตรวจตราเมืองกำหนดไว้ แต่วันนี้จักรรดินีที่ยังทรงเยาว์วัยกำแล้วลังจะได้ขึ้นครองราชย์ เรื่องราวทั้งหมดที่เกี่ยวกับจักรพรรดินีองค์นี้ ได้ถูกปล่อยออกมานาน

บ้างก็ว่านางเป็นบุตรสาวของฝ่ายตรวจการ

บ้างก็ว่านางเป็นทาสสาวของตระกูลลู่!

บ้างก็พูดอีกว่านางมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนายน้อยตระกูลลู่ แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าอย่างไรนางถึงได้เป็นบุตรบุญธรรมของตระกูลลู่

แน่นอนว่ายังมีคนพูดว่านางมีความสามารถจนไม่อาจมีใครเทียบเคืองได้ อายุน้อยก็ได้เป็นหลิงเจี้ยงแล้ว นางฝึกฝนจนถ่องแท้ ถึงขั้นที่เรื่องราวของนางถูกบันทึกไว้ในหอสมุดไป๋หยวน แล้วถึงถูกเผยแพร่ออกมา

สรุปแล้ว มีทั้งคนยกย่องและวิจารณ์นาง ทำให้ชาวบ้านทั้งหลายต่างสับสน โดยคนจำนวนไม่น้อย แอบเงยหน้าขึ้น เพื่อสังเกตราชรถที่ผ่านหน้าไปและมองไปยังคนที่สวมฉลองพระองค์สีดำลายมังกร

ถนนจากวังหลวงไปยังแท่นบูชา นับว่าปลอดภัยดี ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

รอจนถึงเวลาที่เจียงหลีลงมากจากราชรถและมองไปยังบันไดสูงที่เป็นทางขึ้นไปยังแท่นบูชา ซึ่งขณะนี้ลู่วั่งชวนยืนรอนางอยู่ด้านบนนั้นแล้ว

แท่นบูชาทั้งสี่ทิศ ทุกทิศเต็มไปด้วยผู้คนที่แออัด พวกเขาต่างเงยหน้าขึ้นมอง เพื่อให้ได้เห็นใบหน้าของจักรพรรดินีทรงเยาว์วัยได้อย่างชัดเจน

มีเพียงเจียงหลีเท่านั้นที่สามารถขึ้นไปยังขั้นบันได้ที่ขึ้นไปยังแท่นบูชาได้

นางยืดตัวตรงอย่างสง่าและดูทรงพลัง ทำให้เหล่าราษฎรทั้งหลายต่างรู้สึกถึงอำนาจอันน่าเกรงขามของฮ่องเต้

แต่ทว่า เมื่อนางขึ้นบันไดมาได้เพียงชั่วครู่ ก็มีเสียงตะโกนดังมาจากด้านบน

“แม่ไก่มาขันตอนเช้า[1] ลูกเจี๊ยบก็กล้ามาเป็นฮ่องเต้หรือ”

“หากใต้หล้ามีจักรพรรดินีมาปกครอง ก็จะทำให้ยิ่งวุ่นวาย”

“ผู้หญิงคนนี้เป็นปีศาจร้าย ล่อลวงองค์ฮ่องเต้ ฆ่ามัน!”

แรงสังหารปรากฏขึ้น คาดไม่ถึงว่าเหล่าหลิงเจี้ยงขั้นสูงหลายคนจะอยู่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มมวลชน เพียงพริบตาได้มาปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าเจียงหลี เนตรญาณถูกเปิดออก หวังว่าจะใช้วิธีที่ว่องไวที่สุดในการสังหารนาง

“ฆ่า…!”

เหล่าราษฎรต่างอกสั่นขวัญแขวน

นักฆ่าปรากฏอยู่ในหมู่พวกเขา หากทางราชสำนักสอบสวน พวกเขาจะไม่ติดร่างแหไปด้วยหรือ

แต่ว่าเพลานี้ สิ่งที่พวกเขาสนใจยิ่งกว่าคือพวกนักฆ่านั้นจะสามารถทำสำเร็จไหม! แค่เพียงชั่วพริบตา ใบหน้าของจักรพรรดินีเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก หรือโดนพวกนักฆ่าที่จู่ๆ ปรากฏตัวขึ้นมา ทำให้ตกใจจนหน้าขาวซีด

พวกเซียวเซียวไม่ได้เคลื่อนไหว เงาก็ไม่ได้ปรากฏตัว

ราวกับพวกนักฆ่านั้นไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา

นักฆ่าที่อยู่ตรงหน้าทำให้เจียงหลีหัวเราะ “แค่นี้ก็ทนไม่ได้รึ จะฆ่าข้าหรือ”

ตูม!

พลังวิญญาณแห่งความน่ากลัวของนางระเบิดขึ้นในชั่วพริบตา สั่นสะท้านไปถึงพวกนักฆ่าหลิงเจี้ยงที่บุกเข้ามาและถูกกระแทกจนกระเด็นออกไป

หลิงไซว่!

คาดไม่ถึงว่าเป็นหลิงไซว่!

พวกนักฆ่าตะลึง

แน่นอนว่าเจียงหลีไม่ให้โอกาสพวกเขาได้ตกใจ นางยกมือขึ้น ขณะนี้มือของนางได้กลายเป็นเลี่ยเทียนซื่อที่มีกรงเล็บแหลมคม มือด้านหนึ่งดึงดูดนักฆ่าคนหนึ่งเข้ามา…

………………………………..

[1] แม่ไก่มาขันตอนเช้า สำนวนจีน หมายถึงหญิงสาวไม่ทำหน้าที่ของตนเอง มาทำหน้าที่แทนผู้ชาย