เมื่อเห็นสีหน้าของเย่ไห่ราวกับจะกินคนหลันซินก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย
เพี๊ยะ!
ไม่ทันที่หลันซินจะตอบสนองเย่ไห่ก็ตบเธออย่างแรง
ในใดนั้น
ใบหน้าของหลันซินก็บวมแดง
รอยนิ้วมือห้านิ้วมีความชัดเจนมาก
หลังตบไปหนึ่งทีเย่ไห่ก็รู้สึกดีมาก
ความขุ่นเคืองที่สะสมอยู่ในใจเขามานานหลายปีได้ระบายออกผ่านการตบครั้งนี้
หยางเฟิงและเย่เมิ่งเหยียนตะลึง
พ่อตาของเขาทรงพลังและกล้าหาญแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
เมื่อเห็นสิ่งนี้หยางเฟิงก็แสดงสีหน้าแปลกใจ
“พ่อแม่ พวกท่านกำลังทำอะไร”
เย่เมิ่งเหยียนขมวดคิ้วแล้วถาม
“ฮ่าๆๆๆ!”
ทันใดนั้นหลันซินก็หัวเราะ
“แท้จริงแล้วฉันไม่ได้กำลังฝัน ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง ฉันเข้ามาวิลล่าหยุนติ่งแล้วจริงๆ!”
ในชั่วพริบตาหลั่นซินก็ตะโกนเสียงดังเหมือนคนบ้า
จากคนที่อาศัยชายคาคนอื่น วันนี้ได้ครอบครองคฤหาสน์อันดับหนึ่งในตงไห่
เปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหว ทำให้หลันซินรู้สึกอยากเหมือนออกจากนรกขึ้นสู่สวรรค์ในทันที
เมื่อเห็นสิ่งนี้หยางเฟิงและเย่เมิ่งเหยียนก็มองหน้ากัน
ในหัวของทั้งสองก็มีเครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นทันที
หลานซินบ้าหรือเปล่า?
“ไอ้สารเลว แกตบฉันแรงขนาดนั้นทำไม”
เมื่อได้สติหลันซินก็มองเย่ไห่
หลังตบหลันซินเย่ไห่ก็รู้สึกผิดในใจขึ้นมาทันที
ไย่ไห่ตอบคำถามของหลันซินเย่ไห่อย่างตะกุกตะกักว่า “คุณให้ผมตบไม่ใช่เหรอ?”
หลันซินด่าอย่างรุนแรง: “ฉันขอให้แกตบ แต่ไม่ได้ให้ตบแรงขนาดนี้! บอกมาดีๆ แกตั้งใจใช่ไหม?”
“ผมเปล่า!”
“ยังปฏิเสธอีก แกห้ามไป มาดูกันว่าฉันจะสั่งสอนแกอย่างไร”
จากนั้นหลันซินกับเย่ไห่ก็ไล่ตีกัน
เมื่อหยางเฟิงและเย่เมิ่งเหยียนเห็นภาพนี้ก็หัวเราะออกมาทันที
“พ่อคะ นี่คือบ้านใหม่ของเราเหรอคะ?”
หยางพั่นพั่นถามด้วยดวงตาอันสงสัยที่เบิกกว้าง
หยางเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เอ็นดู: “ใช่ ต่อไปที่นี่จะเป็นบ้านใหม่ของ”
“เยี่ยมเลยค่ะ ในที่สุดพั่นพั่นก็มีบ้านแล้ว และพั่นพั่นไม่ต้องอยู่ในบ้านหลังเล็กอีกต่อไปแล้ว!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางฟง หยางพั่นพั่นก็ปรบมืออย่างมีความสุขในทันที
เมื่อเห็นสถานการณ์นี้เย่เมิ่งเหยียนก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาทันใด
ตอลดห้าปีที่ลูกสาวอยู่กับเธอลำบากมามาก
หยางเฟิงกอดเย่เมิ่งเหยียนและพูดเบาๆ ว่า: “อย่าคิดมา เรื่องที่มันผ่านไปแล้ว ปล่อยให้มันผ่านไป ตอนนี้ผมกลับมาแล้วผมจะให้คุณและลูกมีชีวิตที่ดี”
เย่เมิ่งเหยียนอยู่ในอ้อมกอดแขนของหยางเฟิง พยักหน้าและพูดว่า “ค่ะ ขอบคุณนะคะหยางเฟิง!”
หยางเฟิงแตะจมูกของเย่เมิ่งเหยียนและกล่าวว่า “เด็กโง่!”
ทันใดนั้นหน้าของเย่เมิ่งเหยียนก็แดงขึ้นมาในทันที
แม้ว่าเย่เมิ่งเหยียนและหยางจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งในคืนวันแต่งงาน แต่ผ่านมาแล้วตั้งหลายปี
ตอนนี้หยางเฟิงกระทำอย่างหวานซึ้ง เธอจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขินอาย
หยางพั่นพั่นถามอย่างคาดหวัง “พ่อคะ ห้องหนูอยู่ที่ไหนคะ?”
หยางเฟิงอุ้มหยางพั่นพั่นแล้วพูดว่า “ไป พ่อจะพาหนูไปดูห้องของหนู”
หลังพูดจบหยางเฟิงก็พา หยางพั่นพั่นไปห้องที่เขาจัดไว้ให้ลูกสาวอย่างปราณีต
“พั่นพั่น นี่ห้องของหนู!”
หยางเฟิงขึ้นมาชั้นสองและเปิดประตูห้องห้องหนึ่ง
“ว้าว ห้องสวยจังเลย!”
ทันทีที่เขาเปิดประตู ดวงตาของ หยางพั่นพั่นก็เบิกกว้าง
เห็นผนังห้องทั้งหมดเป็นสีชมพู
และทั้งสี่มุมของห้องก็เต็มไปด้วยตุ๊กตาบาร์บี้และตุ๊กตาน่ารักอื่นๆ
เตียงหยางเฟิงให้คนออกแบบโดยเฉพาะ
เตียงนอนเปปป้าพิกหนึ่งเตียงดูน่ารักมาก
“ไปเถอะ ต่อไปนี้นี่คือห้องของหนู”
หยางเฟิงวาง หยางพั่นพั่นและพูดด้วยรอยยิ้ม
หยางพั่นพั่นรีบวิ่งเข้าไปในห้องและกระโดดขึ้นไปบนเตียงทันที
“ดีจังเลย ต่อไปนี่จะเป็นห้องของหนู หนูมีความสุขมาก!”
หยางเฟิงมองหยางพั่นพั่นด้วยรอยยิ้มและถามว่า “พั่นพั่นหนูชอบไหม”