ตอนที่ 214: ความกล้าหาญของตระกูลโจว

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 214: ความกล้าหาญของตระกูลโจว

เสียงดังที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ทุกคนนิ่งอึ้งไป อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็วและท่าทางของพวกเขาก็มืดมน ไม่มีใครในที่นี้ที่เป็นคนธรรมดาและมีประสาทหูที่ดี เมื่อได้ยินเสียงประตูพังเป็นชิ้น ๆ พวกเขารู้ว่าบุรุษผู้หนึ่งเป็นคนทำมัน

“โอหังยิ่งนัก ! ” หัวหน้าตระกูลทุบมือไปบนที่วางแขนบนบัลลังของเขาทำให้เกิดเสียงดังไปทั่งทั้งห้อง

“ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นแบบนี้ ? ที่มาสร้างปัญหาให้ตระกูลโจวของพวกเรา ? ทุกคน มากับข้า ! ไปดูกันว่าใครที่กล้ามารุกล้ำสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้กัน” หัวหน้าตระกูลโจวยืนขึ้นด้วยท่าทีมืดมน ในขณะที่เขากระทืบเท้าออกไปจากห้องเพื่อที่จะไปที่ลานด้วยท่าทีโกรธจัด ทุก ๆ คนก็ตามเขาไป

หัวหน้าตระกูลโจวนำกลุ่มไปที่ทางเข้าของลานที่มียามรักษาการณ์ของตระกูลโจวประจำการณ์อยู่แล้ว ยามรักษาการณ์เริ่มหลั่งไหลเข้ามาจากทุกมุมและเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“หลีกทางไป หัวหน้าตระกูลอยู่ที่นี่แล้ว ! “

ยามรักษาการณ์ที่สายตาแหลมคมก็ร้องตะโกนออกมาทันทีที่เขาเห็นหัวหน้าตระกูลที่กำลังมาทางพวกเขา กลุ่มยามรักษาการแหวกทางออกเป็นช่องเพื่อให้หัวหน้าตระกูลเดินผ่านไป แต่แม้จะเป็นอย่างนั้น ทั่วทั้งบริเวณก็เต็มไปด้วยยามรักษาการของตระกูลโจว

คนที่ถูกล้อมโดยตระกูลเป็นชายหนุ่มที่อายุประมาณ 20 ปี หนุ่มคนนี้ใส่เสื้อสีขาวที่ดูเหมือนทำมากจากเนื้อผ้าแย่ ๆ แต่นั่นไม่ได้ซ่อนลักษณะของชายหนุ่มคนนี้เอาไว้ หนุ่มคนนี้รูปงามมากและมีผิวขาวที่ทำให้รูปหน้าของเขาเด่นขึ้น แม้ว่าท่าทางของเขาจะเป็นธรรมชาติ แต่เสน่ห์ในดวงตาของเขาก็ทำให้หญิงใดก็ตามที่เห็นมันต้องบ้าคลั่งไป

ในตอนที่พวกเขาเห็นหนุ่มอายุยี่สิบปีนี้ หัวหน้าตระกูลโจวก็มองไปด้วยตาเป็นประกายเย็นชาพร้อมกับพูดออกมาว่า “เจ้าเป็นใครกันถึงกล้ามาหาเรื่องตระกูลโจว? เจ้าคิดว่าตระกูลโจวนั้นจะโดนรังแกได้ง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ ? “

เจี้ยนเฉินจ้องกลับไปที่หัวหน้าตระกูลด้วยสายตาที่สงบในขณะที่เขาพูดกับผู้เฒ่า “แล้วเจ้าเป็นใครกัน?”

“หืม” เมื่ได้เห็นสายตาที่เหยียดหยามของเจี้ยนเฉิน สายตาที่เย็นชาของหัวหน้าตระกูลโจวก็ยิ่งมีมากขึ้น “ชายชราคนนี้คือหัวหน้าตระกูลโจว โจวบูตง”

“โอ้ ถ้างั้นเจ้าก็คือหัวหน้าตระกูลโจวอย่างนั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินยิ้มอ่อนบนใบหน้า ในขณะที่เขาประสานมือพร้อมกับส่งรอยยิ้มจอมปลอมออกมา “ข้าชื่อว่าเจี้ยนเฉิน ข้ามาเพื่อตามหาคน ถ้าตระกูลโจวส่งคนนั้นมาให้กับข้า ข้าก็จะไปจากที่นี่”

โจวบูตงหัวเราะออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว “ตามหาบางคนงั้นหรือ? เจ้าหนุ่ม เจ้าต้องได้รับบทเรียนว่าใครอยู่เหนือกว่าเจ้า! เจ้ากล้ามาออกคำสั่งกับหัวหน้าตระกูลโจว เจ้าหนุ่ม ภายในเมืองเวค คนที่กล้าสั่งตระกูลโจวนั้นแทวจะไม่มีเลย เจ้าเป็นคนแรก ! “

เจี้ยนเฉินหัวเราะออกมาเช่นกัน “เหมือนว่าข้าจะต้องดีใจกับเรื่องนี้นะ หัวหน้าตระกูลโจว ข้าจะไม่พล่ามมากกับเจ้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าหัวหน้าของทหารรับจ้างโจว โจวหยุนอยู่ที่นี่ไหม?”

“ข้าคือโจวหยุน” ในตอนที่เจี้ยนเฉินพูด โจวหยุนก็เดินออกมาข้างหน้าหลุ่มด้วยสายตาที่เปล่งจิตสังหารออกมา เหมือนว่าเขาเป็นหมาป่าหิวโซที่กำลังรอที่จะขยำเจี้ยนเฉิน “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าสังหารกลุ่มทหารรับจ้างโจวของข้าไป จริงไหม?”

“ใช่”

เมื่อได้ยินคำนั้น โจวหยุนก็แทบจะสะกดอารมณ์ไว้ไม่อยู่ ตาของเขาเป็นประกายอย่างอันตราย ในขณะที่จิตสังหารก็พุ่งตรงไปที่เจี้ยนเฉิน ทันใดนั้นเอง หอกยาวก็ปรากฏขึ้นในมือของโจวหยุน เขาตะโกนออกมา “เจ้ากล้าที่มาทำลายกลุ่มทหารรับจ้างที่ข้าใช้เวลาสร้างมาถึง 20 ปีงั้นหรือ ? เจ้าหนุ่ม มันไม่สำคัญหรอกว่าเจ้าจะเป็นใคร ข้า โจวหยุน จะทำให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย ! หลังจากนี้ ข้าจะล้างเค้นให้พี่น้องของข้าที่ตายไป ! ” จากนั้นพลังเซียนปริมาณมหาศาลพุ่งออกมาจากอาวุธเซียนของเขาในขณที่เขาแทงไปที่เจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างเยือกเย็นออกมา ในขณะที่กระบี่วายุโปรยของเขาก็ปรากฎขึ้นที่มือข้างขวาของเขาและบินออกไปในเวลาพร้อมกันกับหอก

“ชิ้ง ! “

กระบี่วายุโปรยซึ่งมีปริมาณปราณกระบี่อยู่มหาศาลได้ปะทะกับหอกของโจวหยุนอย่างจัง เสียงดังขึ้นมาในอากาศในขณะที่อาวุธเซียนทั้งสองปะทะกัน คลื่นกระแทกขนาดใหญ่กระจายออกไปทุกทิศทางจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ตามคลื่นพลังเซียนที่กระจายออกไป ฝุ่นกลุ่มใหญ่ก็กระจายออกไปรอบ ๆ ในเวลาเดียวกัน ยามรักษาการที่อ่อนแอของตระกูลโจวก็ถูกกระแทกถอยหลังไปหลายก้าวเพราะคลื่นกระแทก

กระบี่ปะทะกับหอกในขณะที่เจี้ยนเฉินและโจวหยุนยังติดพันกันอยู่ ทันใดนั้นเอง ในระหว่างอาวุธทั้งสอง แสงสีขาวก็สว่างขึ้นมาในขณะที่กระบี่วายุโปรยก็พุ่งออกไปที่คอของโจวหยุนทันที

กระบี่เร็วอย่างเหลือเชื่อมาก ดังนั้นก่อนที่โจวหยุนจะได้ทันตั้งตัว มันก็ห่างจากคอของเขาไม่ถึงฟุตแล้ว

ใบหน้าของโจวหยุนนิ่งอึ้งไป แต่เพราะว่าประสบการหลายปีในการต่อสู้ของเขา เขาจึงยังสงบอยู่ภายใต้ความกดดันและเขาก็ดีดตัวออกไปด้านหลัง ในเวลาเดียวกัน หอกยาวในมือของเขาก็ดีดกลับไปที่เขาเพื่อที่จะป้องกันกระบี่ที่โจมตีเข้ามา

“ชิ้ง ! “

ในตอนที่โจวหยุนเอาหอกออกมาบังด้านหน้าเขา กระบี่วายุโปรยก็ฟันผ่านหอกไปและส่งผ่านพลังมหาศาลไปที่มัน พลังส่งต่อไปที่หอกอย่างต่อเนื่องไปถึงโจวหยุน และทำให้เขาถอยโซเซไปหลายก้าว

แม้ว่ามันจะไม่ใช่การโจมตีถึงตาย แต่ใบหน้าของโจวหยุนก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ในขณะที่หน้าเขาก็ซีดไปด้วยความตกใจ “ช่างเป็นกระบี่ที่ว่องไวอะไรเช่นนี้ ! ข้าเกือบจะกันมันไม่ได้เลย ! “

แม้ว่าโจวหยุนจะเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ แต่เขาก็เพิ่งตัดผ่านมาได้ไม่นาน เขาเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษในระดับต้นเท่านั้น และเทียบกับเจี้ยนเฉินแล้ว ความแข็งแกร่งของโจวหยุนก็เทียบได้กับเซียนผู้เชี่ยวชาญในระดับสูงสุดเท่านั้น

จากนั้น ในขณะที่โจวหยุนกำลังครุ่นคิดกับตัวเองและพยายามที่จะทรงตัวจากการถอยไปด้านหลัง แสงสีขาวก็พุ่งมาที่เขาด้วยความเร็วที่เร็วยิ่งกว่าครั้งแรกทันที

ในเวลาเสี้ยววินาที กระบี่วายุโปรยก็ไปถึงที่คอของโจวหยุน ในตอนนี้เอง โจวหยุนทำได้แค่มองกระบี่ด้วยความตกใจเนื่องจากความเร็วของกระบี่ มันใดนั้นเองเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่มีเวลาพอที่จะตอบโต้

ในขณะที่โจวหยุนยอมรับความตายแล้ว ดาบใหญ่ก็บินมาขวางร่างของโจวหยุนเอาไว้ทันที ในเวลาเดียวกัน โจวหยุนก็รู้สึกได้ถึงแขนที่ชราแต่ทรงพลังที่คว้าเขาเอาไว้รอบไหล่และดึงเขาออกมาจากความตาย

“ชิ้ง ! “

เสียงโลหะปะทะกันดังขึ้นมาในขณะที่กระบี่ที่น่าจะแทงทะลุไปที่คอของโจวหยุนกลับแทงไปที่ดาบที่ลอยขวางเข้ามา

คนที่เป็นเจ้าของดาบที่ไม่คาดคิดนี้เป็นหัวหน้าตระกูลโจว โจวบูตง อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกที่โจวบูตงให้ออกมานั้นเหมือนว่าเขาเป็นเหมือนดาบที่ยังไม่ชักออกมาจากฝัก ในตอนที่คนอื่นรู้สึกถึงดาบก็ตอนที่มันพร้อมที่จะโจมตีออกมาแล้ว

เจี้ยนเฉินกำลังมองไปที่โจวบูตงที่กำลังเข้ามาใหม่ เจี้ยนเฉินยิ้มเล็กน้อย “หัวหน้าตระกูลโจว เมื่อเห็นเจ้าสอดมือเข้ามาเช่นนี้แล้ว มันเหมือนว่าเจ้าอยากจะให้ตระกูลโจวมาเกี่ยวข้องเรื่องนี้ด้วยใช่หรือไม่ ? “