ตอนที่ 1434 จุดอ่อนของจีจิ่วเทียน (5) / ตอนที่ 1435 จุดอ่อนของจีจิ่วเทียน (6)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1434 จุดอ่อนของจีจิ่วเทียน (5)

 

 

ดวงตาของสัตว์อสูรศวาเป็นประกายแล้วส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสาร

 

 

“แต่…ข้าต้องการให้ความภักดีจากเจ้าก่อน เจ้าจะแค่ทำตามคำสั่งแต่ไม่ใส่ใจข้าเหมือนที่ทำกับคนจากหุบเขาพิษไม่ได้!”

 

 

สัตว์อสูรศวานิ่งเงียบ มันไม่อยากได้อวิ๋นลั่วเฟิงเป็นเจ้านาย มันแค่อยากมีชีวิตรอด ยิ่งไปกว่านั้นสัตว์อสูรวิญญาณเองก็ไม่ค่อยเต็มใจจะให้ความภักดีกับใคร แต่ถ้าให้แล้วมันก็จะภักดีต่อเจ้านายของพวกมันทั้งชีวิต!

 

 

ผ่านไปพักใหญ่ สัตว์อสูรศวาก็เงยหน้ามองอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วส่งเสียงคราง

 

 

“นายหญิง เขาบอกว่าหากท่านขับพิษออกจากร่างเขาได้ เขาก็จะยอมภักดีต่อท่าน”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงกลับมาเชื่อมต่อกับมิติคัมภีร์เซียนหลังจากพ้นวิกฤตแล้ว ทำให้เสี่ยวโม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นข้างนอก

 

 

“ตกลง”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงพยักหน้าเบาๆ “เจ้าพาจีจิ่วเทียนไปที่ถ้ำแล้วให้เขานอนพัก พวกเราออกจากดินแดนแห่งจินตนาการได้เมื่อไหร่ ข้าจะถอนพิษให้เจ้า”

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น สัตว์อสูรศวาก็วิ่งไปที่ถ้ำอย่างตื่นเต้นจนเกือบจะทำจีจิ่วเทียนหล่นจากหลัง โชคดีที่จีจิ่วเทียนบาดเจ็บสาหัสจนไม่ได้สติ ไม่อย่างนั้นเขาคงตบสุนัขตัวนี้ตายหากรู้เรื่อง!

 

 

 

 

ใช้เวลาถึงสองวันกว่าจีจิ่วเทียนจะหายดี

 

 

สองวันที่ผ่านมา สัตว์อสูรศวาทำหน้าที่คุ้มกันทั้งคู่ ถ้ามีสัตว์อสูรวิญญาณในดินแดนแห่งจินตนาการเข้ามาใกล้ สัตว์อสูรศวาก็จะจัดการพวกมันเงียบๆ

 

 

เมื่อเห็นว่าจีจิ่วเทียนเกือบจะหายสนิทแล้ว อวิ๋นลั่วเฟิงก็พูดช้าๆ “ในเมื่อมีทางเดียวที่จะออกจากที่นี่ได้ไม่ว่าจะอันตรายสักแค่ไหนพวกเราก็ต้องไปที่นั่น”

 

 

“เจ้าตัดสินใจดีแล้วใช่หรือไม่” จีจิ่วเทียนมองอวิ๋นลั่วเฟิง “ถ้าเจ้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะติดตามเจ้าไปให้ถึงที่สุด!”

 

 

“ไปกันเถอะ” อวิ๋นลั่วเฟิงพูดแล้วหันไปมองสัตว์อสูรศวา “เจ้าอยากจะอยู่ที่นี่หรือไปกับพวกเรา”

 

 

“โฮ่ง”

 

 

สัตว์อสูรศวาเดินมาหาอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วใช้หัวถูขานางก่อนจะส่ายหางเหมือนว่ากำลังขอร้องนาง มันต้องการจะสื่อว่า มันจะติดตามนางไปทุกที่

 

 

“ดี ถ้าอย่างนั้นก็มาด้วยกัน จะว่าไปเจ้ายังไม่มีชื่อเลยนี่ ข้าตั้งชื่อให้เจ้าดีหรือไม่” อวิ๋นลั่วเฟิงถามขณะมองสัตว์อสูรศวา

 

 

สัตว์อสูรศวาส่ายหางมองอวิ๋นลั่วเฟิง

 

 

“ชื่อฉาฉา…เจ้าชอบหรือไม่”

 

 

ฉาฉา?

 

 

อย่าว่าแต่สัตว์อสูรศวา จีจิ่วเทียนเองก็ส่งสายตางุนงงให้นาง

 

 

“ทำไมถึงตั้งชื่อนี้”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงหยุดคิดสักครู่ “ข้าคิดถึงท่านปู่”

 

 

“แล้ว?”

 

 

“ท่านชอบดื่มชา”

 

 

“…”

 

 

แค่เพราะว่าปู่ของนางชอบดื่มชาและนางคิดถึงเขา นางก็เลยตั้งชื่อสัตว์อสูรศวาว่า ฉาฉา [1] งั้นหรือ แต่ดูเหมือนว่าสัตว์อสูรศวาจะชอบชื่อนี้ มันส่ายหางอย่างดีใจแม้ดวงตาจะยังแสดงความน่าสงสารอยู่เหมือนเดิม

 

 

“เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงหันหลังด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเพราะพวกนางกำลังจะไปเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง…

 

 

 

 

บนยอดเขาที่มีเมฆหมุนวนอยู่รอบๆ

 

 

ที่นี่ไม่เหมือนถ้ำที่อวิ๋นลั่วเฟิงอยู่ ถ้ำนี้อยู่บนยอดเขา ภายในมีทิวทัศน์งดงามเหมือนเทพนิยาย มันแปลกประหลาดมากเพราะเหมือนมีโลกใบเล็กๆ อยู่ด้านใน ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ภูเขา ท้องฟ้าสีคราม ก้อนเมฆสีขาว และอื่นๆ อีกมากมาย

 

 

ขณะนั้นชายหนุ่มสวมชุดคลุมสีขาวที่ยืนอยู่บนยอดไม้ก็ก้มลงมองโครงกระดูกด้านล่างซึ่งเป็นโครงกระดูกของมังกรยักษ์ที่ค่อนข้างน่ากลัวเพราะมีเงารางๆ ปรากฏขึ้น

 

 

ถ้ามองดูใกล้ๆ จะเห็นว่าเงานั้นเป็นรูปร่างมังกรยักษ์ที่ดูมีชีวิตเหมือนกำลังจะกางปีกโบยบินขึ้นท้องฟ้า

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1435 จุดอ่อนของจีจิ่วเทียน (6)

 

 

“เสี่ยวเฮย ข้าเจอจีจิ่วเทียนกับผู้สืบทอดของเจวี๋ยเชียนด้วย…”

 

 

ชายหนุ่มกัดริมฝีปากสีชมพูของตัวเอง “หลังจากผ่านมาหลายปีข้าควรจะลืมเจวี๋ยเชียนได้แล้วแต่เขายังอยู่ในความคิดข้า ข้าก็แค่ลืมเขาไม่ได้”

 

 

วิญญาณมังกรพยายามลุกแล้วคำราม ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและไม่มีชีวิตชีวา

 

 

“เจ้ารู้อะไรไหม ข้าไม่ได้เกลียดเจวี๋ยเชียนที่ปฏิเสธข้าหรือทำให้ข้าอับอาย ตอนที่ข้าตัดสินใจบอกเขาเรื่องแผนการลับของคนพวกนั้น เขาก็คงรู้แล้วว่าข้าไม่ได้เกลียดเขาอีกต่อไป

 

 

“แต่เจ้าบ้านั่นขังข้าไว้ในนี้เป็นพันปี! ภายในนี้ข้าไม่แก่ไม่ตาย! ข้าต้องใช้ชีวิตเป็นพันปีอยู่ที่นี่อย่างโดดเดี่ยว! อ้อ ใช่ เจ้าเองอยู่กับข้า เขาทิ้งเจ้าไว้ที่นี่เพื่ออยู่เป็นเพื่อนข้าแล้วผูกวิญญาณเจ้าไว้กับกระดูกของเจ้าดังนั้นกระดูกก็เลยไม่หายไปและเจ้าก็ต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป…

 

 

“แต่ข้าเป็นมนุษย์! ถึงแม้ว่าเจ้าจะอยู่กับข้าแล้วอย่างไร ข้าถูกขังอยู่ที่นี่ โดนแยกออกมาจากโลกภายนอก! แล้วข้าจะไม่เกลียดเขาได้อย่างไร ข้ารับได้ที่เขาปฏิเสธความรักข้า แต่ข้ารับไม่ได้ที่เขาทรมานข้าด้วยวิธีนี้! ทำไมเขาถึงโหดร้ายกับข้าแบบนี้”

 

 

ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาไม่เคยเข้าใจว่าทำไมเจวี๋ยเชียนถึงขังเขาไว้ที่นี่แล้วทำให้เขาทรมานเป็นพันปี!

 

 

“เจ้าไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่าทำไมเจวี๋ยเชียนถึงทิ้งเจ้าไว้ที่นี่”

 

 

ทันใดนั้นเสียงชั่วร้ายก็ดังขึ้นจากด้านหน้า ร่างของโม่เชียนเฉิงชะงักแล้วความโกรธก็เข้าครอบงำเขา

 

 

“จีจิ่วเทียน ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้ามาปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีก ในเมื่อวันก่อนเจ้าหนีไป ทำไมวันนี้ถึงกลับมาอีก”

 

 

จีจิ่วเทียนไม่ได้ตอบคำถามเขา ดวงตาเรียวของเขาพลันฉายแววเยาะเย้ย “พันปีที่แล้ว เจ้ากับศัตรูของเขาใส่ร้ายเจวี๋ยเชียน เจ้าคิดว่าคนพวกนั้นจะไว้ชีวิตเจ้าหลังจากสังหารเจวี๋ยเชียนแล้วหรือ เจ้าพวกหน้าไหว้หลังหลอกนั่นไม่มีทางยอมรับว่าตัวเองสังหารเจวี๋ยเชียนได้เพราะมีชายหนุ่มอย่างเจ้าช่วย!”

 

 

“ดังนั้น…” สายตาของจีจิ่วเทียนเปลี่ยนเป็นเย็นชา “พวกเขาไม่มีทางปล่อยเจ้าไป!”

 

 

“ฮึ่ม!” โม่เชียนเฉิงส่งเสียงขึ้นจมูกแล้วเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง “ข้ารู้ แล้วอย่างไรเล่า ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้เกิดพร้อมเจวี๋ยเชียน ข้าก็ตายพร้อมเขาได้ ข้าไม่เสียใจ!”

 

 

จีจิ่วเทียนมองหน้าเขาแล้วยิ้มร้าย “ถึงแม้ว่าเจ้าจะทำตัวโหดร้ายกับเจวี๋นเชียนแต่เขาก็ไม่ได้ทำกับเจ้าแบบเดียวกัน เขาขังเจ้าไว้ที่นี่ก็เพื่อปกป้องเจ้า!”

 

 

“ไร้สาระ!”

 

 

คำพูดของจีจิ่วเทียนเหมือนเข็มทิ่มเข้ามาในใจ เขาเจ็บปวดจนตัวสั่นแล้วดวงตาก็ลุกเป็นไฟด้วยความโกรธ

 

 

“เจวี๋ยเชียนไม่เคยสนใจข้า! เขาไม่คุยกับข้าตั้งแต่เขาปฏิเสธข้าแล้ว! เขาเกลียดข้า! เขาขังและทรมานข้าก็เพราะเขาเกลียดข้า!”

 

 

“ข้าแค่พูดความจริง เจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ”

 

 

คำพูดของเขาสร้างความขุ่นเคืองให้ชายหนุ่มที่ทะยานลงมาแล้วปลดปล่อยกลิ่นอายทรงพลังก่อนเริ่มโจมตีอวิ๋นลั่วเฟิง

 

 

“หุบปาก อย่าพูดจาไร้สาระ!”

 

 

เจวี๋ยเชียนเกลียดเขา! ไม่อย่างนั้นเขาจะทำตัวโหดร้ายขนาดนี้ได้อย่างไร จีจิ่วเทียนพูดจาไร้สาระแบบนี้เพื่อหลอกล่อเขาให้ไว้ชีวิต! ใช่แล้ว เขาต้องพูดโกหกแน่!

 

 

การโจมตีของเขารุนแรงมากส่งผลให้จีจิ่วเทียนทำได้แค่ถอยหลังไปเรื่อยๆ ดวงตาของโม่เชียนเฉิงแดงก่ำเหมือนคนบ้าที่ต้องการเพียงทำลายศัตรูตรงหน้าเขาเท่านั้น!

 

 

 

 

——

 

 

[1] 茶 (chá) ฉา หมายถึง ชาหรือน้ำชา