ตอนที่ 581

Elixir Supplier

581 ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

 

เขาเป็นโสดและขี้เกียจหางานทำ เขามักจะลักเล็กขโมยน้อยอยู่เสมอ และเขาก็เชื่อว่า จะต้องมีคนสนใจซื้อเนื้อแกะสดๆแบบนี้แน่นอน เขาจะเอามันไปขายให้กับร้านอาหารในหมู่บ้าน เพื่อแลกกับเงินสด เขาคงจะโง่มาก ถ้าไม่เอามันไปขายเพื่อแลกกับเงิน เขาคิดว่า มันเป็นการได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

 

ใช่วินวินกันทั้งสองฝ่าย!

 

นี่เป็นความคิดของชายโสดรายนี้

 

หวังอีเชิงเป็นกังวลอยู่ภายในที่ทำการหมู่บ้าน “ลุงเจียนหลี่ ทำไมถึงไม่มีใครว่าอะไรเลยล่ะ? หวังว่าจะไม่มีใครกินมันเข้าไปนะ”

 

“ทำไมถึงได้เอาแกะไปทิ้งไว้ข้างนอกแบบนั้น แล้วยังเป็นแกะที่กินหนูพิษเข้าไปอีก?” หวังเจียนหลี่รู้สึกโมโหเล็กน้อย แกะที่ติดพิษสามารถทำให้คนตายได้

 

หวังอีเชิงก้มหน้าสูบบุหรี่ เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไป เพราะถึงยังไง มันก็เป็นความผิดของเขาเต็มๆ

 

“นี่ เรามีกล้องวงจรปิดอยู่ไม่ใช่เหรอ เราลองไปเช็คดูกันหน่อยดีไหม?” หนึ่งในกรรมการหมู่บ้านเสนอขึ้นมา

 

“ความคิดเข้าท่านี่” หวังอีเชิงพูด

 

พวกเขาเปิดย้อนดูวิดีโอที่ติดอยู่รอบๆบ้านของหวังอีเชิง หลังเปิดดูได้ไม่นาน พวกเขาก็เห็นคนคนหนึ่งเอาร่างแกะตัวนั้นไป

 

“เขานี่เอง” หวังอีเชิงพูด

 

เขาก็คือ เฉินเจียกุ้ย เขามีอายุประมาณ 40กว่า และเป็นที่รู้กันดีว่า เขาเป็นพวกชอบลักเล็กขโมยน้อยและชอบแอบย่องเข้าบ้านแม่ม่ายอยู่บ่อยครั้ง เขาเป็นเศษสวะอย่างแท้จริง

 

“ผมจะไปคุยกับเขาเอง” หวังอีเชิงพูด

 

พวกเขาต่างก็เป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่หวังอีเชิงจะรู้จักกับเฉินเจียกุ้ย แล้วชายโสดรายนี้ก็ยังมีชื่อเสียงในทางที่ไม่ดีด้วย

 

ทันทีที่เดินไปถึงหน้าบ้านของเฉินเจียกุ้ย หวังอีเชิงก็ได้กลิ่นซุปเนื้อแกะลอยออกมาจากในบ้าน

 

เขาเอาแกะไปทำอาหารแล้วเหรอเนี่ย

 

หวังอีเชิงเดินเข้าไปเคาะประตู แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับ

 

เขาไปไหน?

 

หวังอีเชิงปีนขึ้นไปบนกำแพง และได้เห็นกระดูกชุ่มเลือดกับหนังแกะกองอยู่ที่พื้น แต่กลับไม่เห็นใครอยู่ในบ้านเลย

 

“เฉินเจียกุ้ย” เขาส่งเสียงตะโกนเรียกออกไป

 

ไม่มีใครตอบกลับมา

 

“เราเพื่อนยากมีวันที่สวยงามร่วมกัน!” เฉินเจียกุ้ยกำลังปั่นจักรยานและฮัมเพลงอย่างมีความสุข ในระหว่างทางที่เขากลับจากหมู่บ้านข้างๆ เขาได้เงินจากการขายขาแกะสองชิ้นไปถึง 300 หยวน เขานำเงินไปซื้อเหล้ามาหนึ่งลังและผักดองจากร้านขายของชำมาอีกหนึ่งถุง

 

เขาสามารถไม่กินอาหารเป็นเวลาสองวันได้ แต่เขาไม่สามารถหยุดดื่มเหล้าได้แม้แต่สินาทีเดียว

 

ฉันหวังว่า หลังจากที่เขากินเนื้อแกะเข้าไปแล้ว เขาจะไม่ป่วยเป็นอะไรไปนะ หวังอีเชิงบังเอิญเจอเข้ากับเฉินเจียกุ้ยในระหว่างทางที่กำลังจะกลับบ้าน

 

เฉินเจียกุ้ยสวมเสื้อผ้ามอซอและขี่จักรยานคันเก่า เขาดุสกปรกมอมแมม หวังอีเชิงสามารถได้กลิ่นแอลกอฮอจากตัวเขาได้ตั้งแต่อยู่ห่างกันไปหลายเมตร

 

“เฉินเจียกุ้ย แกไปไหนมาน่ะ?” หวังอีเชิงถาม

 

“มันไม่ใช่เรื่องของแกสักหน่อย” เฉินเจียกุ้ยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูหยาบคาย

 

“ฉันขอถามหน่อยสิ แกเอาเนื้อแกะตัวนั้นไปทำอะไร?” หวังอีเชิงถาม

 

“เนื้อแกะอะไรที่ไหน?” เฉินเจียกุ้ยเป็นเศษสวะมา 20 กว่าปีและโกหกปลิ้นปล้อนตลอดเวลา

 

“ฉันเห็นในกล้องวงจรปิด ว่าแกคือคนที่เอาเนื้อแกะไป” หวังอีเชิงพูด “แล้วแกเอาเงินจากที่ไหนไปซื้อเหล้า? หรือแกเอาเนื้อแกะไปขาย?”

 

หวังอีเชิงรู้สึกโมโหขึ้นมา เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้ที่เฉินเจียกุ้ยจะทำ เขาก้าวเข้าไปคว้าคอเสื้อของหวังเจียกุ้ยเอาไว้

 

“เอาตาข้างไหนมาเป็นพยานได้บ้างว่า ฉันเอาเนื้อแกะไปขายน่ะ?” เฉินเจียกุ้ยถาม

 

เศษสวะเอ้ย! เขายังคงปฏิเสธสิ่งที่ตัวเองทำลงไปต่อหน้าหลักฐานที่เห็นๆกันอยู่!

 

“แกได้ยินที่เขาประกาศไปไหม?” หวังอีเชิงถาม

 

“ประกาศอะไร?” เฉินเจียกุ้ยถาม

 

“แกะตัวนั้นมันป่วย คนที่กินเนื้อมันเข้าไปอาจจะตายได้” หวังอีเชิงพูด

 

เมื่อคิดถึงแกะที่เป็นบ้าไปเมื่อคืน เขาก็ยังรู้สึกกลัวไม่หาย คนที่กินเนื้อแกะตัวนั้นเข้าไป อาจจะกลายเป็นบ้าหรือตายได้

 

“กำลังพูดเรื่องอะไรอยู่น่ะ?” เฉินเจียกุ้ยถาม “คิดว่าฉันโง่หรือยังไง? ถ้าแกะตัวนั้นกินหนูพิษเข้าไปจริงๆ เลือดของมันก็ต้องเป็นสีดำสิ” อย่างน้อยเขาก็มั่นใจในเรื่องนี้ หนูที่ติดพิษทุกตัวล้วนอาเจียนออกมาเป็นเลือดสีดำ หนูตายมีอยู่ทุกที่ในหมู่บ้าน

 

“แล้วถึงจะมีคนตายขึ้นมา มันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉันสักหน่อย” เฉินเจียกุ้ยพูด

 

“ไอ้…” หวังอีเชิงรู้สึกอยากจะชกหน้าเฉินเจียกุ้ยขึ้นมาตะหงิดๆ แต่เขาก็ไม่สามารถทำมันได้ เขาไม่สามารถรับผลที่ตามมาจากการชกเศษสวะของหมู่บ้านคนนี้ได้ ถ้าเขาแตะต้องเจ้าเศษสวะอย่างเฉินเจียกุ้นแม้แต่ปลายนิ้ว เฉินเจียกุ้ยก็จะต้องทำเป็นเรื่องใหญ่โต เพราะถึงยังไง ชายคนนี้ก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว

 

ทุกคนต่างก็รู้ถึงชื่อเสียงที่เลวร้ายของเขา และพยายามหลีกเลี่ยงเขาอย่างสุดความสามารถ แต่เขากลับเป็นเหมือนกับสก๊อตเทปที่เหนียวหนึบยากจะแกะออก ดังนั้น จึงไม่มีใครอยากจะไปมีเรื่องกับเขา

 

“แกเอาเนื้อแกะไปขายให้ใคร?” หวังอีเชิงถาม

 

“ก็ลองเดาดูสิ” เฉินเจียกุ้ยพูด

 

หวังอีเชิงโมโหอย่างมาก และจัดการโยนเฉินเจียกุ้ยลงไปที่พื้น “แกจะต้องเสียใจกับสิ่งที่แกทำลงไปในวันนี้!”

 

“คิดว่าฉันจะสนเหรอ” เฉินเจียกุ้ยพูดด้วยท่าทีอวดดี เขาเคยได้ยินคำขู่แบบนี้มาหลายครั้งแล้ว

 

หลังจากที่หวังอีเชิงกลับมาถึงที่บ้าน เขาก็ขึ้นขี่มอเตอร์ไซด์และขี่ออกไปข้างนอก

 

“จะไปไหนเหรอ?” ภรรยาของเขาตะโกนถาม

 

“ไปตามหาเนื้อ!” หวังอีเชิงตะโกนกลับไป

 

“เนื้ออะไรกัน?” ภรรยาของเขาถามด้วยความงุนงง

 

หวังอีเชิงขี่มอเตอร์ไซด์จากไปโดยไม่หันกลับมาตอบ

 

เขาเคยดูละครสืบสวนมาแล้วหลายเรื่อง ดังนั้น เขาจึงเริ่มคาดคะเนเส้นทางที่จะไป มีไม่กี่ที่ที่สามารถเอาเนื้อแกะไปขายได้ ทุกคนในหมู่บ้านต่างก็ได้ยินเสียงประกาศ เฉินเจียกุ้ยจึงไม่มีทางเอาเนื้อแกะขายให้กับคนในหมู่บ้านได้ ดังนั้น เขาก็อาจจะเอามันไปขายให้กับหมู่บ้านข้างๆหรือไม่ก็ร้านอาหาร หากดูจากนิสัยเกียจคร้านของเฉินเจียกุ้ยกับจักรยานคันเก่าๆของเขาแล้ว เขาคงจะไปได้ไม่ไกลนัก

 

ไม่นาน หวังอีเชิงก็มีเป้าหมายในใจแล้ว : ร้านอาหารที่อยู่หมู่บ้านข้างๆ

 

“เฉินเจียกุ้ยเหรอ?” เจ้าของร้านถาม “ใช่ เขาเอาเนื้อแกะมาขายให้ที่ร้าย มีปัญหาอะไรเหรอ?”

 

“แกะตัวนั้นกินหนูพิษเข้าไปน่ะสิ” หวังอีเชิงพูด

 

“อะไรนะ?” เจ้าของร้านตกใจ “บ้าเอ้ย! ก็รู้อยู่แล้วว่าเศษสวะอย่างมันไม่มีทางเอาของดีดีมาขายให้ได้ ฉันต้องโง่มากแน่ๆที่เชื่อมัน ดีที่ยังไม่ได้เอาเนื้อชิ้นนั้นไปทำอาหารให้ลูกค้ากิน” เขาหยิบเอาขาแกะและเนื้อแกะออกมา

 

เมื่อเห็นว่า เนื้อดูสดใหม่และเป็นส่วนที่ดีที่สุดในตัวแกะ เขาจึงรับซื้อมันจากเฉินเจียกุ้ย เขาคาดไม่ถึงเลยว่า จะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น โชคดีที่หวังอีเชิงมาเตือนเขาทันเวลา ถ้าไม่อย่างนั้น เรื่องเลวร้ายอาจจะเกิดขึ้นได้ หากลูกค้าคนใดคนหนึ่งของเขาเกิดกินเนื้อส่วนนี้เข้าไป

 

“มันเป็นแกะของนายเหรอ?” เจ้าของร้านถาม

 

“ใช่ มันตาย ฉันก็เลยเอามันไปทิ้ง แล้วเฉินเจียกุ้ยก็เก็บมันไป เนื้อนี้มีพิษอยู่” หวังอีเชิงพูด

 

“ไอ้ชั่วนั่น” เจ้าของร้านพูด “เอาไปสิ”

 

หวังอีเชิงนำเนื้อแกะกลับไปที่บ้านของเขา เขาจัดการเอามันไปเผาที่หลังบ้าน

 

“เฉินเจียกุ้ยได้กินเนื้อแกะไปรึเปล่า?” ภรรยาของเขาถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

 

“กิน ฉันเห็นในบ้านของเขาแล้ว มันมีซุปเนื้อแกะที่ยังอุ่นๆอยู่เลย” หวังอีเชิงรู้สึกหงุดหงิดเมื่อพูดถึงชื่อของเฉินเจียกุ้ย

 

“คิดว่าเขาจะเป็นอะไรไปไหม?” ภรรยาของเขาถาม

 

“ฉันไม่สนหรอก” หวังอีเชิงพูด

 

“ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ? ถ้าเกิดเขาตายขึ้นมา เราก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้นะ” ภรรยาของเขาพูด

 

“ใครมันจะไปรู้ ว่าเขาตายเพราะเนื้อแกะ?” หวังอีเชิงถาม “แล้วเขาก็ต้มเนื้อจนสุขแล้วด้วย ฉันว่าคงไม่มีปัญหาอะไรหรอก”

 

บริเวณลานบ้านของบ้านที่ทรุดโทรมหลังหนึ่ง ซึ่งไม่ได้รับการซ่อมบำรุงมานานหลายปี ชายวัยประมาณ 40 กว่าปีคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของลานบ้าน เขาดูสกปรกมอมแมม เขานั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะที่ดูผุพังและมุมหายไปสองมุม มีถุงผักรสเผ็ดและโถใส่ผักดองวางอยู่ด้วย

 

“วันนี้ฉันได้กินเหล้า! ฉันจะเมา…อาห์…คนสวย ได้โปรดอย่าไปนะ!” เฉินเจียกุ้ยฮัมเพลงด้วยอาการเมาเล็กน้อย “โอ้-โฮ้!”

 

เขาทั้งขี้เกียจและไร้ประโยชน์อย่างแท้จริง แม่ของเขาต้องตายก็เพราะเสียใจกับพฤติกรรมต่างๆของเขา ไม่มีญาติคนไหนอยากจะเสวนาด้วย เขามักจะอยู่เพียงลำพังเสมอ

 

“เฮ้อ!” เขาถอนหายใจออกมา เขาคลายเสื้อที่ไม่ได้สักมาหลายปีออก หน้าอกของเขาเปิดรับลมเย็นของฤดูใบไม้ผลิอย่างเต็มที่

 

อยู่ๆเขาก็รู้สึกมึนศีรษะขึ้นมา

 

มีเงาร่างของใครบางคนปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา เธอมีหลังที่โก่งโค้ง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยฝ้ากระ และมีผมขาวทั้งศีรษะ

 

“ลูก ลองพยายามเปลี่ยนตัวเองสักหน่อยดีไหม?” เงานั้นถามขึ้นมา “แม่ก็ไม่อยู่แล้ว หาใครสักคนมาอยู่ดูแลลูกเถอะนะ”

 

“จริงเหรอเนี่ย? แม่ตายไปตั้งหลายปีแล้วนะ ยังจะมาสั่งสอนอะไรฉันอีก?” เฉินเจียกุ้ยที่ไม่คิดจะใส่ใจกับเรื่องนี้ ได้ส่ายหน้าไปมา

 

เขายกเหล้าขึ้นมาดื่มต่อ

 

 

ซี่ๆๆๆๆ! อยู่ๆวิทยุก็ส่งเสียงดังขึ้นมา

 

นั่นเสียงอะไรน่ะ?

 

เฉินโจวมองวิทยุที่อยู่ในมือของเขา

 

“ฮาฮา!” เฉินหยิงส่ายหน้าและยิ้มออกมา

 

วิทยุเก่าเครื่องนี้เป็นของเจ้าของบ้านที่พวกเขาเช่าอยู่ มันดูเก่ามาก เฉินโจวเจอมันเข้าเมื่อวันก่อน และอยู่ๆก็นึกอยากจะซ่อมมันขึ้นมา ใช้เวลาซ่อมวิทยุเครื่องนี้ตลอดทั้งวัน แล้วมันก็เริ่มส่งเสียงที่ฟังดูโบราณออกมา

 

แคร๊ก! แคร๊ก!

 

แม้แต่เสียงคลื่นก็หายไปด้วย

 

ไม่มีอะไรแล้วเหรอ? เฉินโจวสงสัย

 

“เอาล่ะ มันเก่ามากแล้ว ชิ้นส่วนของมันก็เก่าเกินกว่าจะซ่อมได้แล้วล่ะ” เฉินหยิงพูด

 

“ผมชอบฟังวิทยุ มันมีรายการน่าสนใจที่ฟังได้จากวิทยุอยู่ด้วย แล้วยังดีกว่ารายการในทีวีด้วยซ้ำ” เฉินโจวพูด

 

“ไว้บ่ายนี้ พี่จะซื้อวิทยุเครื่องใหม่ให้แล้วกันนะ” เฉินหยิงพูด