ตอนที่ 582

Elixir Supplier

582 ความวุ่นวาย

 

“ก็ได้ งั้นเราออกไปเดินเล่นกันดีกว่า” เฉินโจวพูด

 

พวกเขาอาศัยอยู่ใยหมู่บ้านมาได้สักพักแล้ว ถึงแม้ที่นี่จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสบายก็ตามที แต่ในบางครั้ง พวกเขาก็รู้สึกเบื่อ

 

บนเนินเขาหนานชาน ชายหนึ่งและสุนัขอีกหนึ่งกำลังเดินไปด้วยกัน สุนัขเดินนำอยู่ข้างหน้า ส่วนชายหนุ่มเดินตามอยู่ด้านหลัง

 

ซานเซียนดมกลิ่นไปรอบๆ หวังเย้าเดินตามมันไปอย่างช้า เขากำลังมองหางูอยู่

 

โฮ่ง!

 

“โอ้! อยู่ตรงนี้อีกตัว!” หวังเย้าอุทาน

 

เขาไม่พบงูอยู่รอบๆบริเวณเนินเขาหนานชานเลยแม้แต่ตัวเดียว นอกจากงู แม้แต่ยุงสักตัวก็ยังไม่เห็น ซึ่งก็เป็นเพราะกลิ่นเฉพาะของสมุนไพรรากที่เขาปลูกเอาไว้ในแปลงสมุนไพรได้ปล่อยออกมา

 

แต่ในบริเวณที่ห่างออกมาจากแปลงสมุนไพรพอสมควร หวังเย้าก็พบเจองูบางส่วน ซึ่งเขาเดาว่า พกวเขาอาจถูกค่ายกลรวมวิญญาณดึงดูดเข้ามา นอกจากงูแล้ว ก็ยังมีแมลงอยู่บนเขาด้วย เมื่อเข้าสู่ปลายเดือนมีนาคม พวกมันก็เริ่มตื่นจากการจำศีล

 

เห็นได้ชัดว่า ไม่เพียงแต่สมุนไพรและต้นไม้เท่านั้นที่ได้รับผลจากค่ายกลรวมวิญญาณ แต่สัตว์ในบริเวณโดยรอบก็เช่นกัน

 

งูและแมลงไม่ได้เป็นสิ่งไม่ดีเสมอไป หวังเย้าคิด

 

เขายังพบว่า สัตว์เหล่านั้นดูเหมือนจะหวาดกลัวซานเซียน แมลงบินได้ล้วนพยายามหลีกเลี่ยงตัวมัน ราวกับว่า บนตัวซานเซียนมีบางอย่างที่น่าหวาดกลัวสำหรับพวกมันอยู่ แล้วพวกมันก็ยังหวาดกลัวหวังเย้าด้วยเช่นกัน

 

มันอาจจะเป็นเพราะกลิ่นสมุนไพรที่ติดตัวฉันกับซานเซียนก็ได้!

 

เขาและซานเซียนอาศัยอยู่ในบริเวณแปลงสมุนไพรมาเป็นเวลานาน มันจึงเป็นเรื่องธรรมดา ที่จะมีกลิ่นสมุนไพรติดตามตัวของพวกเขา แล้วสมุนไพรบางชนิดก็ยังมีฤทธิ์ที่สามารถฆ่าแมลงได้ด้วย เช่น หญ้าพิษ

 

ตอนนี้ ฉันมีเกราะป้องกันเพิ่มขึ้นอีกชั้นแล้ว

 

“ไปกันเถอะซานเซียน ไปหาต่อกัน” หวังเย้าพูด

 

เขาเดินไปรอบๆเนินเขาหนานชาน และพบกับสัตว์อีกสองสามชนิด

 

“ตอนนี้ เนินเขาของเรามีเกราะป้องกันเพิ่มขึ้นมาอีกชั้นแล้ว” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม

 

ผลของค่ายกลรวมวิญญาณยังคงแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ มันยังส่งผลกับสัตว์ที่อยู่รอบๆแปลงสมุนไพรอีกด้วย สัตว์เหล่านี้มีการเจริญเติบโตที่รวดเร็วและมีสติปัญญาที่สูงขึ้น

 

 

ในเมืองจี้ มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังดื่มตัวยาส่วนสุดท้ายลงไป

 

ฉันไม่แน่ใจว่ามันจะได้ผลรึเปล่า ชายหนุ่มร่างสูงและแข็งแรงที่นอนอยู่บนเตียงคิดในใจ หรือฉันจะลองไปตรวจที่โรงพยาบาลดี?

 

เขาปฏิบัติตามคำแนะนำของหวังเย้าทุกอย่าง แต่เขากินยาน้อยกว่าปริมาณที่ควรจะกินครึ่งหนึ่ง เพราะเขายังรู้สึกสงสัยอยู่ เขาคิดแค่ว่า ตัวยาอาจจะได้ผล แต่ก็ไม่ได้เชื่อไปทั้งหมด

 

เขาไม่มีอะไรให้ทำที่บ้าน ดังนั้น เขาจึงทำได้แค่คิดเท่านั้น แล้วเขาก็ตัดสินใจไปพบหมอที่โรงพยาบาล ซึ่งเป็นหมอที่เขาเคยตรวจด้วยมาแล้วหลายครั้ง

 

“หมอจะทำการตรวจให้คุณ ใช้เวลาไม่นานก็ได้ผลตรวจแล้วล่ะ” หมอพูด

 

อุปกรณ์การแพทย์ในปัจจุบันพัฒนาไปได้ไกลกว่าเดิมมาก

 

“ก่อนหน้านี้ คุณได้เข้ารับการผ่าตัดมารึเปล่า?” หลังจากที่อ่านดูผลตรวจแล้ว หมอก็ถาม

 

“ไม่ครับ” ชายหนุ่มพูด

 

“แล้วคุณได้กินยาอะไรไหม?” หมอถาม

 

“กินแค่ยาสมุนไพรไปนิดหน่อย มีอะไรเหรอครับ หมอ?” ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ

 

“ยาสมุนไพรเหรอ? จากที่อ่านในผลตรวจ ดูเหมือนว่าเนื้องอกในร่างกายของคุณจะหดเล็กลงไปถึงสองในสามเลยนะครับ” หมอตอบ

 

“จริงเหรอครับ?” ชายหนุ่มตกใจ

 

“จริงสิ คุณกินยาสมุนไพรอะไรไปเหรอ? มันได้ผลดีมากเลยนะ!” หมอรู้สึกประหลาดใจมาก เขาไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย

 

“เป็นยาของหมอคนหนึ่งที่เปิดคลินิกอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆกลางเขาน่ะครับ” ชายหนุ่มพูด

 

“เป็นยาพื้นบ้านเหรอ?” หมอถาม

 

“คิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้นนะครับ” ชายหนุ่มพูด

 

“ไม่เป็นไร ขอแค่มันได้ผลก็พอแล้ว คุณสามารถกินยาตัวนั้นต่อได้เลย แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจว่า เนื้องอกมันจะกลับมาโตอีกไหม” หมอพูด

 

“โอเคครับ ขอบคุณมาก” ชายหนุ่มพูด

 

หลังจากที่ได้พบหมอแล้ว เขาก็รู้สึกมีความสุขมาก

 

พรุ่งนี้ ฉันจะไปที่หมู่บ้านนั้นอีก ไม่ ไปวันนี้เลยดีกว่า!

 

 

มันเป็นวันที่สดใสและอบอุ่นในต้าหลี่

 

“นายรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?” หานชิ่งถามน้องชายคนเล็กที่นอนอยู่บนเตียง เขาเพิ่งจะเปลี่ยนผ้าพันแผลใหม่ให้กับผู้เป็นน้อง เขายังพบอีกด้วยว่า นิ้วมือของน้องชายคนเล็กสามารถขยับได้เล็กน้อย ซึ่งมันทำให้เขามีความสุขมาก

 

“ไม่เลว รู้สึกเจ็บก็ยังดีกว่าไม่รู้สึกอะไรเลย” น้องชายคนเล็กพูด

 

อยู่ๆเขาก็รู้สึกเจ็บไปทั่วทั้งร่างกาย มันคล้ายกับว่า เขากำลังถูกเฉือนเนื้อและถูกโยนลงไปในน้พเกลือ เขารู้สึกอยากตายให้พ้นๆไป

 

“พรุ่งนี้ เราจะพานายไปหาราชายานะ” หานชิ่งพูด

 

“ได้ ฉันไม่เป็นไรหรอกพี่” น้องชายคนเล็กพูด

 

เขารู้ว่า พี่ชายทั้งสามพยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยเขา เขาจะอดทนกับความเจ็บปวดเพื่อที่ความพยายามของพวกเขาจะได้ไม่สูญเปล่า

 

 

น้ำพุร้อนหลี่เจียโกวอยู่ห่างจากหมู่บ้านหวังไปไม่ถึง 10 กิโลเมตร หมู่บ้านทั้งสองถูกล้อมไปด้วยภูเขา หมู่บ้านหลี่ดูวุ่นวายกว่า เพราะมีน้ำพุร้อนอยู่ในหมู่บ้าน และยังเป็นน้ำพุร้อนคุณภาพสูงอีกด้วย ก่อนหน้านี้มีคนจากทางใต้ได้เดินทางมาลงทุนที่นี่และทำการเซนต์สัญญาเอาไว้ แล้วรีสอร์ทก็ถูกสร้างขึ้นมาในเวลาไม่นาน ในช่วงวันหยุด มีผู้มาเยี่ยมเยือนรีสอร์ทแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านในหมู่บ้านหลี่จึงคว้าโอกาสนี้ในการทำที่พักและเปิดร้านอาหาร พวกเขาสามารถหาเงินได้มากกว่าการทำไร่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทิ้งงานไร่ไป

 

เนินเขาที่อยู่โดยหมู่บ้านหลี่ต่างจากเนินเขาที่หมู่บ้านหวัง เนินเขาที่นี่ส่วนใหญ่เป็นดินและโคลนแทบจะไม่มีหินอยู่บนเนินเขาเลย ดังนั้น ชาวบ้านจึงสามารถปลูกพืชผักและข้าวที่เนินเขาเหล่านี้ได้

 

บนเนินเขา ชายวัยประมาณ 50 ปีคนหนึ่งกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ที่พื้น มีวัวสองตัวกำลังกินหญ้าแห้งอยู่ไม่ไกลจากเขามาก เพราะตอนนี้ยังไม่มีหญ้าสดให้กิน

 

“โอ๊ย!”

 

ชายชรารู้สึกเจ็บจี๊ดที่ก้นของเขา เขาจึงผุดลุกขึ้นยืนและปัดไปที่ก้น จากนั้น เขาก็มองไปที่กองหญ้าแห้ง

 

ฉันโดนแมงป่องกัดเข้ารึเปล่าเนี้ย?

 

แต่เขาก็ไม่พบอะไรเลย ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากนัก เขาเพียงแค่หาที่นั่งใหม่และสูบบุหรี่ต่อ

 

บริเวณก้นของเขายังคงรู้สึกเจ็บและแสบร้อน

 

เกิดอะไรขึ้นกับฉันกัน?

 

เขารู้สึกไม่ค่อยสบาย เขาจึงลุกขึ้นยืนและพาวัวลงไปจากเนินเขา ใบหน้าคล้ำแดดของเขากลายเป็นสีแดง เขามีอาการวิงเวียนและอ่อนแรง

 

เมื่อเดินไปถึงตีนเขา เขาก็เริ่มรู้สึกหายใจลำบากและหน้ามืด เขาไม่สามารถเดินต่อไปได้อีกแล้ว

 

“ฮึ่ย!” เขาพยายามสูดลมหายใจและก้าวเดินต่อไป

 

หมู่บ้านตั้งอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เขามองเห็นบ้านหลายหลังและผู้คนมากมาย

 

ตุบ! เขาทรุดลงไปกองกับพื้น

 

ม่ออออ! วัวส่งเสียงร้องออกมา

 

 

เวลาประมาณบ่ายโมง หลี่ชื่อหยูขับรถบรรทุกที่เต็มไปด้วยต้นไม้เข้ามาที่หมู่บ้านของหวังเย้า แล้วเขาก็นำต้นไม้ไปไว้ที่ตีนเขาเหมือนทุกที

 

“มันยังไม่พอ” หวังเย้าพูด

 

“ถ้าอยากได้อะไรก็บอกผมมาได้เลยนะ ผมจะหามาให้คุณเอง” หลี่ชื่อหยูพูด

 

“นี่เป็นรายการที่ผมต้องการครับ” หวังเย้าส่งรายการต้นไม้ที่เขาต้องการให้กับหลี่ชื่อหยู เขาได้ปรับจำนวนต้นไม้ โดยดูจากต้นที่เขาได้ปลูกลงไปแล้ว

 

“โอเคครับ” หลี่ชื่อหยูรับรายการต้นไม้มา

 

หวังเย้าเดินขนต้นไม้ขึ้นลงเนินเขาหนานชานด้วยตัวคนเดียว

 

ภายในหมู่บ้าน ลูกๆของหลี่จูหลายที่เพิ่งจะเสียชีวิตไปได้ไม่นาน ได้มารวมตัวกัน ผลชันสูตรศพได้ออกมาแล้ว พ่อของพวกเขาเสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย

 

“ฉันว่า พ่อของเราต้องตกใจกลัวจนตายแน่ๆ” ลูกสาวคนเล็กของหลี่จูหลายพูด

 

“ฉันเห็นด้วย ฉันได้ยินว่ามีงูอยู่บนเขาหลายตัวเลยล่ะ แล้วพวกมันก็เป็นสัตว์เลี้ยงของหวังเย้าด้วย” หนึ่งในลูกชายของหลี่จูหลายพูด

 

“มันไม่มีทางเป็นเรื่องจริงหรอก” ลูกชายอีกคนพูด

 

“ทำไมจะไม่จริง?” พี่ชายของเขาพูด

 

“ฉันจะไปคุยกับเขาเอง” ลูกสาวของหลี่จูหลายพูด

 

“แล้วเรามีหลักฐานอย่างนั้นเหรอ?” ลูกชายคนโตถาม “ตอนที่พ่อหมดสติไปที่ตีนเขา มีใครเห็นว่ามีงูอยู่ตรงนั้นบ้าง? พวกแกก็พูดแต่เรื่องที่เขาลือกันมา หวังเย้าไม่มีทางเชื่อพวกเราหรอก”

 

“พี่หมายความว่ายังไง? พี่จะปล่อยให้พ่อตายไปฟรีๆแบบนี้เหรอ?” ลูกสาวคนเล็กที่แต่งงานออกไปแล้วพูด เธอไม่ใช่ผู้หญิงเข้าใจอะไรได้ง่าย

 

“พ่อไม่ได้ตายเปล่า หมอบอกว่า พ่อตายเพราะหัวใจขาดเลือด” ลูกชายคนกลางพูด เขาไม่พอใจกับการชันสูตรศพ เขาไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่จำเป็นเลยสักนิด เขาไม่ต้องการให้ใครมาแตะต้องตัวพ่อของเขาด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่เอาอะไรมาผ่าตัวพ่อเขาเลย

 

“พี่!” ลูกสาวคนเล็กไม่พอใจ

 

เธอเดินออกไปจากบ้าน ในตอนที่เดินอออกไป เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเธอก็เดินตรงไปยังเนินเขาหนานชาน ในเมื่อเธอเกิดและเติบโตขึ้นที่หมู่บ้านแห่งนี้ เธอจึงรู้จักพื้นที่บริเวณนี้เป็นอย่างดี

 

มันมีลมเย็นพัดโชยมา ไม่มีใครเดินอยู่ตามท้องถนนเลย

 

หญิงคนหนึ่งที่อยู่ภายใต้เสื้อคลุมสีน้ำเงินกำลังเดินไปตามเส้นทางขึ้นเขาเพียงลำพัง

 

“อะไรกัน?” เธอรู้สึกประหลาดใจ เมื่อได้เห็นเนินเขาหนานชานจากที่ไกลๆ

 

ถึงมันจะเป็นแค่ช่วงตันฤดูใบไม้ผลิ แต่เนินเขากลับถูกปกคลุมไปด้วยพืชพันธุ์สีเขียว มันดูโดดเด่นท่ามกลางเนินเขาลูกอื่นๆ เธอยังรู้สึกอีกด้วยว่า เนินเขาหนานชานดูสูงกว่าเนินเขาลูกอื่นเล็กน้อย

 

เธอเริ่มเดินขึ้นไปบนเขา ตามเส้นทางที่ขรุขระไม่ราบเรียบ ระหว่างทางที่เธอเดินขึ้นไปนั้น ก็มีก้อนหินขนาดใหญ่ที่สูงพอๆกับคนคนหนึ่งอยู่ตามรายทาง

 

“ก้อนหินพวกนี้มาจากไหนกัน?” เธอสงสัย