ตอนที่ 591 ไม่อยากปล่อยคุณไป
เสียงทุ้มต่ำและราบเรียบของป๋อจิ่งชวนค่อยๆ แทรกผ่านเข้าไปในอากาศ และซึมซาบเข้าไปสู่หัวใจของเธอ
“เมื่อกี้ที่พูดไปตั้งเยอะแยะขนาดนั้น สิ่งที่คุณต้องการจะสื่อกับผมมากที่สุดคืออะไรกันแน่”
หัวใจเธอกระตุกวูบ แถมมันยังเต้นหนักหน่วงยิ่งกว่าเก่า ถึงขนาดที่เธอรู้สึกราวกับว่าภายในแก้วหูของตัวเองนั้นมีเพียงเสียงหัวใจของเธอเท่านั้น
เธอเผลอก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิมด้วยเกรงว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำของเธอ
ทว่าป๋อจิ่งชวนกลับลดหน้าผากลงต่ำ พร้อมทั้งออกแรงต้านเอาไว้ ศีรษะที่ก้มลงไปของเฉินฝานซิงถูกช้อนขึ้นมาอีกครั้ง
“เวลาแบบนี้ยังคิดจะหนีอยู่อีกเหรอ พูดสิว่ารักผม”
ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดลงตรงเหนือดวงตาของเธอ เธอสั่นสะท้านเล็กน้อยและเหนียมอายจนทำอะไรไม่ถูก
มือของป๋อจิ่งชวนค่อยๆ ยกขึ้นวางบนเอวบางของเธอแล้วโอบรัดมันแผ่วเบาก่อนจะกุมมันเอาไว้ ความร้อนตรงฝ่ามือแผดเผาผิวกายของเธอผ่านเนื้อผ้าที่กำลังสวมใส่
นิ้วหัวแต่มือลูบไล้เบาๆ ตรงเอวของเธอ เรียกให้ร่างกายของเธอสั่นระริก
“พูดสิว่าคุณรักผม หืม?”
เธอเงียบไปนานจนป๋อจิ่งชวนต้องเร่งเร้าเธออีกครั้ง
น้ำเสียงเปี่ยมเสน่ห์ยังคงทำให้คนฟังใจสั่นได้ง่ายดายเช่นเคย
“ฉัน…” เฉินฝานซิงกัดริมฝีปาก เธอถูกเข้าเร่งรัดจนร้อนรน
“ผมรักคุณ” เสียงทุ้มดังขึ้นในวินาทีถัดมา ในขณะที่เฉินฝานซิงไม่ทันได้ตั้งตัว
ร่างของเธอพลันถูกแช่แข็งไปในทันใด เธอแทบจะแหงนหน้ามองเขาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
ภาพที่เห็นกลับเป็นนัยน์ตาสีนิลสุดลึกล้ำของเขา ที่เธอเองก็มองออกถึงความอ่อนโยนและห่วงหาที่อบอวลอยู่ในแววตานั้น
จูบเบาๆ ของป๋อจิ่งชวน ประทับลงตรงปลายจมูกของเธอ
“ในเมื่อคุณพูดไม่ออก งั้นผมขอพูดเอง จำไว้ให้ดีๆ ว่าผมรักคุณ ทางที่ดีคือคุณควรจะจดจำไปตลอดชีวิต”
นัยน์ตาเธอสั่นระริกด้วยความหวั่นไหว เธอจดจ้องใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายที่ห่างกันเพียงคืบอย่างไม่ละสายตา รอบกรอบดวงตาของเธอซับสีชมพูระเรื่อ
“ฉันจะจดจำไปตลอดชีวิต คุณเป็นคนแรกในโลกที่เอ่ยสามคำนี้กับฉัน ฉันจะไม่มีวันลืม จะไปลืมลงได้ยังไง”
เธอแหงนหน้ามองเขา สองมือกอบกุมเสื้อเชิ้ตตัวแพงตรงหน้าอกของเขาเอาไว้แน่น น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความประทับใจ
“ฉันก็รักคุณเหมือนกันคะ ป๋อจิ่งชวน ฉันก็รักคุณ…”
ก้อนเนื้อตรงกลางอกของคนฟังสั่นไหวรุนแรง นัยน์ตาเขาจับจ้องเธออย่างลึกซึ้ง ฝ่ามือของเขากุมไปที่แก้มของเธอก่อนจะจุดยิ้มขึ้นทันใด
“ดีเลย”
เมื่อสัมผัสได้ถึงความอุ่นจากฝ่ามือหนา หัวใจของเธอก็แทบจะละลายกลายเป็นน้ำไปในทันที เธอข่มความเปรี้ยวที่ผุดขึ้นในใจเนื่องจากความปิติลงไป เบื้องล่างของคางเกลี้ยงเกลา กระดูกไหปลาร้าสวยคู่นั้นหดและคลายตัวเล็กน้อย การเคลื่อนไหวด้วยความยืดหยุ่นภายใต้ผิวขาวละเอียด ทำให้นัยน์ตาของป๋อจิ่งชวนขุ่นเข้มขึ้นในทันตา
มือที่โอบรัดรอบเอวของเธอออกแรงเบาๆ เพื่อดึงร่างของเธอให้แนบชิดเข้ามาในอ้อมกอดของเขาอีกหน่อย
เฉินฝานซิงยังคงช้อนดวงตาขึ้นมองเขา สองมือที่จับเสื้อเชิ้ตของเขาอยู่เผลอกำเข้าหากันแน่นอย่างไม่รู้ตัว
นัยน์ตาของเขาค่อยๆ เผยให้เห็นความลึกล้ำที่ทั้งดูคุ้นเคยและแปลกตา
แม้ว่าในใจของเฉินฝานซิงจะทั้งตื่นเต้นและเป็นกังวล ทว่ามือที่ขยำเสื้อเชิ้ตของเขาอยู่กลับออกแรงเบาๆ พร้อมทั้งเขย่งปลายเท้าขึ้น เป็นเวลาเดียวกันกับที่ป๋อจิ่งชวนเองก็โน้มตัวลงมาเช่นกัน
สุดท้ายแล้วใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อนนั้น ยากที่จะหาคำตอบ
รู้เพียงแค่ว่านี่เป็นจูบที่ทั้งเร่าร้อนและดูดดื่ม
กลีบปากร้อนรุ่มดั่งเปลวเพลิง การสัมผัสกันระหว่างริมฝีปากของทั้งสองก็ทวีความรุนแรงขึ้นทุกชั่วขณะ…
แรงที่กอดรัดเฉินฝานซิงอยู่ยิ่งรัดแน่นขึ้นจนแทบจะบดขยี้ร่างบอบบางนั้นเข้ากับร่างของเขา
เฉินฝานซิงเกาะไหล่ของเขาไว้แนบแน่น พยามยามที่จะตอบสนองคำร้องขอของเขา
หัวใจของเธอยังคงตื่นตัว เธอรับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่พลุ่งพล่านและความปรารถนาของอีกฝ่าย
เฉินฝานซิงปิดเปลือกตาลงแน่น เธอแทบจะยกทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของสัญชาตญาณ…
เนิ่นนานกว่าที่คนทั้งคู่จะค่อยๆ ผละออกจากกัน ลมหายใจของทั้งคู่สอดผสานกันเป็นอันเดียว เสียงแหบทุ้มซึ่งมีลมหายใจของทั้งคู่เป็นส่วนผสมได้เอ่ยดังขึ้น…
“คืนนี้ ผมไม่อยากปล่อยคุณไปอีกแล้ว”
ตอนที่ 592 โอกาสมาแล้วควรคว้าไว้
“คืนนี้ผมไม่อยากจะปล่อยคุณไปอีกแล้ว”
ดวงตาพร่างพราวคู่นั้นได้พร่าเลือนไปแล้ว ร่างกายของเธอถูกจูบอันร้อนแรงเมื่อครู่ทำเอาอ่อนระทวย
มือคู่นั้นของเธอเกาะเกี่ยวอยู่บนไหล่ของชายหนุ่มที่สูงกว่าเธออยู่มากโข เอวของเธอถูกอีกฝ่ายโอบรัดเอาไว้ ทุกส่วนของร่างเธอแทบจะแนบชิดไปกับร่างของเขา
“นี่คุณคิดจะล่อลวงกันแบบนี้เพราะถือว่าเป็นวันเกิดตัวเองงั้นเหรอ”
เฉินฝานซิงจ้องมองเข้าพลางเผยยิ้มขึ้นน้อยๆ พวงแก้มแดงระเรื่อและรอยยิ้มจางๆ ขับให้ใบหน้าของเธอยิ่งดูอ่อนโยน
ริมฝีปากบางอันอุ่นร้อนของป๋อจิ่งชวนสัมผัสคลอเคลียตรงพวงแก้มของเธอ ก่อนที่เสียงทุ้มจะแทรกผ่านลำคอของเขาออกมา
“อืม เดิมผมก็อยากให้คุณเอาตัวเองเป็นของขวัญให้ผมอยู่แล้ว ปรากฏว่าวันนี้คุณกลับให้ของขวัญและทำให้ผมเซอร์ไพรส์มากเกินไป”
“งั้นคุณยังจะล่อลวงฉันอีกเหรอ”
ป๋อจิ่งชวนขำเสียงทุ้มในลำคอ ริมฝีปากเขาลูบไล้ลงบนแก้มของเธอ ก่อนจูบลงไปที่ริมฝีปากของเธออีกครั้ง แล้วขบเม้มเบาๆ
ทั้งๆ ที่ไม่ใช่จูบที่เร่าร้อนอะไร ทว่าทุกครั้งที่เขาดูดเม้มลงมาคล้ายเหมือนว่าจะมีกระแสไฟอ่อนๆ ไหลผ่าน ความอ่อนโยนอย่างที่สุดพาลทำให้ร่างกายของเฉินฝานซิงอ่อนยวบลงไปอีกหลายส่วนอย่างช่วยไม่ได้
“โอกาสมาแล้วควรคว้าไว้”
ระหว่างที่พูด ปากบางก็ขยับสัมผัสกับกลีบปากของเธอไปด้วย ราวกับว่าการพูดหนึ่งคำคือการจูบเธอไปหนึ่งครั้ง “พลาดครั้งเดียว ก็รู้สึกราวกับว่าครั้งต่อไปนั้นแสนยาวนาน”
“แต่ฉันยังมีของขวัญอีกตั้งเยอะที่ยังไม่ได้ให้คุณนะ”
“ไม่เอาแล้ว” เขาปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “ขอแค่คุณก็พอแล้ว”
มือของเขาลาดตระเวนไปทั่วเอวอ่อนนุ่มของเธอ ทันใดนั้นเอวของเธอก็ถูกรวบยกขึ้นไปวางไว้บนหลังเปียโน
เธอตื่นตระหนกในทันที สองมือของเธอโอบรอบคอของชายหนุ่มเอาไว้แน่น
เขามองใบหน้าเล็กๆ หวานละมุนซับสีเลือดฝาดของเฉินฝานซิง ก่อนที่ป๋อจิ่งชวนจะเคลื่อนกายเข้าไปแนบชิดกับเธอทันที
ความเอาแต่ใจเอ่อล้นขึ้นในดวงตาสีนิลคู่นั้น ตามมาด้วยความเผด็จการและความแข็งกระด้างตั้งแต่เกิดของเขา คล้ายดั่งคำเตือนจากกระแสน้ำวนไหลลึกที่กำลังจะดูดกลืนเธอลงไป
หาใช่ความอาลัยรักและอ่อนโยนอย่างเช่นเมื่อครู่ ป๋อจิ่งชวนกดจูบลงไปอีกครั้งอย่างเอาแต่ใจและแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของ
เขาแนบลงไปบนร่างเธออย่างแผ่วเบา เธอเอนหลังลงไป สองแขนของเธอทำได้เพียงแค่…
โอบรอบคอเขาเอาไว้อย่างแนบแน่นและแหงนหน้ารับจูบอันเร่าร้อนที่เขามอบให้
กลิ่นหอมจากดอกกุหลาบคละคลุ้งไปทั่วทั้งตัวห้อง ทั้งยังตลบอบอวลอยู่ระหว่างร่างกายของบุคคลทั้งสอง การบรรเลงบทเพลงโหมโรงที่แสนอบอุ่นได้เริ่มต้นขึ้น…
“ฉันยังมีของขวัญอีกเยอะแยะที่ยังไม่ได้ให้คุณจริงๆ นะ…”
ระหว่างเขาทั้งสองหลงเหลือไว้เพียงความแนบชิดอันเร่าร้อนที่ไร้ซึ่งเสียง เสียงป้อนน้ำลายให้แก่กันทำเอาเฉินฝานซิงถึงกับหน้าขึ้นสี
เธอคิดว่าจะเป็นเสียงอะไรก็ดีทั้งนั้น ขอแค่ทำลายความเงียบงันเช่นนี้ได้ก็พอ
“เก็บไว้ให้ผมพรุ่งนี้”
ดูเหมือนเสียงของป๋อจิ่งชวนแหบพร่าไปเล็กน้อย เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ เขากอดเอวของเธอไว้แน่นแล้วโน้มกายลงกดร่างเธอลงไป
ชายหนุ่มลากจูบผ่านมุมปากเธอ ก่อนจะไปประทับมันลงบนหน้าผากขาวเกลี้ยงเกลา เฉินฝานซิงเงยหน้าขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ การกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจนี้กลับทำให้อีกฝ่ายจูบเธอได้สะดวกยิ่งขึ้น
กระดูกไหปลาร้าละเอียดอ่อนงดงามหดตัวตามลมหายใจจนกลายเป็นภาพสวยงาม นัยน์ตาของป๋อจิ่งชวนมืดดำยิ่งกว่าเก่า เขาเลื่อนจูบไปหยุดอยู่ตรงไหล่มันวาวของเธอก่อนจะหันมาขบกัดตรงไหปลาร้าละเอียดงดงามที่กำลังขยับตัวขึ้นลง
ร่างสูงที่แนบชิดกับเธออยู่นั้นถูกขวางกั้นด้วยความอุ่นร้อนของเสื้อผ้า จังหวะในการจูบเต็มไปด้วยความยั่วเย้า
“อืม…”
ริมฝีปากสีสดหลุดเสียงครางออกมาเบาๆ ป๋อจิ่งชวนรีบเงยหน้ามองเธอในทันใด ภาพที่เห็นคือนัยน์ตาสวยของเธอนั้นพร่าเลือนและแฝงไปด้วยความเขินอาย คิ้วสีเข้มนุ่มนวลดุจสวยน้ำ ใบหน้าแดงระเรื่อเต็มไปด้วยความอ่อนโยน อีกทั้งยังแฝงไปด้วยสีหน้าที่เขาไม่เคยได้เห็นมาก่อน