ตอนที่ 649 หวาน! หวาน! หวาน! / ตอนที่ 650 ผมกำลังปลอบคุณอยู่

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 649 หวาน! หวาน! หวาน!

 

 

“ฉันเป็นตัวกาลกิณีจริงๆ เหรอ พวกเขาต่างบอกว่า ฉันทำให้พ่อแม่บุญธรรมของฉันต้องตาย……”

 

 

น้ำตาที่เหนียนเสี่ยวมู่กลั้นเอาไว้ไหลลงมาจากขอบตา

 

 

เธอไม่อยากแสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าคนอื่น แต่ต่อหน้าอวี๋เยว่หานก็ปล่อยออกมาอย่างหมดสิ้น

 

 

เงยหน้ามองชายหนุ่มอย่างสับสนราวกับเด็กตัวน้อยๆ

 

 

อยากได้การปลอบใจจากเขา

 

 

“คุณไม่ใช่ตัวกาลกิณี!” อวี๋เยว่หานมองสบกับดวงตาที่มีน้ำตาคลอยู่ รู้สึกสงสารอย่างมาก

 

 

รวบตัวหญิงสาวเข้ามาในอ้อมกอด กระชับร่างกายที่สั่นเทิ้มน้อยๆ ของเธอเอาไว้แน่น น้ำเสียงหนักแน่น

 

 

“เหนียนเสี่ยวมู่ ต่อให้คุณคือสิงซิง แต่การตายของสามีภรรยาคู่นั้นก็อาจจะไม่ได้เกิดมาจากคุณ เรื่องนี้มีจุดน่าสงสัยมากมาย แต่ต้องสงบสติอารมณ์ก่อนถึงวจะสืบได้ชัดเจน”

 

 

“แต่ว่าฉันจำภาพไฟไหม้นั้นได้…….”

 

 

“คุณอาจจำผิด!” อวี๋เยว่หานพูดขัดคำพูดของเธอ สองมือประคองใบหน้าของเธอขึ้น

 

 

นิ้วเรียวยาวค่อยๆ บรรจงเช็ดน้ำตาที่ใบหน้าของเธอออก

 

 

ริมฝีปากเอ่ยพูดขึ้น ”เหนียนเสี่ยวมู่ อย่าร้อง น้ำตาของคุณทำให้ผมสูญเสียการตัดสินใจพื้นฐานไป”

 

 

“……”

 

 

“ตอนนี้ผมอยากจะฆ่าคนตระกูลสิงทั้งตระกูล ให้เรื่องนี้มันจบสิ้นไปซะที”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “……”!!

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ลืมร้องไห้ไปชั่วขณะ

 

 

เบิกตากว้างจ้องไปที่ชายหนุ่ม

 

 

เธอแค่ต้องการการปลอบใจ ทำไมรู้สึกว่าตัวเองถูกทำให้ตกใจนะ

 

 

แถมยังแฝงไปด้วยการข่มขู่ด้วย……

 

 

อวี๋เยว่หานเห็นว่าหญิงสาวไม่ร้องไห้แล้ว จึงอุ้มเธอขึ้นเดินหมุนตัวเดินเข้าไปด้านใน

 

 

พอเดินถึงหน้าประตู อวี๋เยว่หานก็เห็นฤดูหนาวปลอมอยู่ในบ้าน เสี่ยวลิ่วลิ่วกำลังเล่นปั้นตุ๊กตาหิมะอยู่กับพ่อบ้าน

 

 

ตั้งแต่ครั้งนั้นที่เสี่ยวลิ่วลิ่วเรียนปั้นตุ๊กตาหิมะกับเหนียนเสี่ยวมู่ เจ้าตัวน้อยก็หลงรักการปั้นหิมะขึ้นมาทันที

 

 

ทุกครั้งถ้ายังปั้นตุ๊กตาหิมะได้ไม่สวยงาม เธอก็จะไม่ยอมกลับห้อง

 

 

เมื่อเห็นพวกเขากลับมา ใบหน้าเล็กที่แดงเพราะความหนาว ก็วิ่งประคองก้อนหิมะเล็กๆ ตรงมายังพวกเขา

 

 

“ปาปา!”

 

 

ร่างเล็กนุ่มนิ่มพุ่งมาตรงหน้าของอวี๋เยว่หาน

 

 

เบรกไม่อยู่ ชนเข้ากับขาของอวี๋เยว่หาน

 

 

ร่างสั่นอย่างมึนงง หมุนอยู่ที่พื้นสองรอบ

 

 

อวี๋เยว่หานอุ้มเหนียนเสี่ยวมู่ไว้ทั้งสองมือ จึงไม่มีมือพยุงเธอ ได้แต่กระพริบตาปริบๆ มองดูลูกสาวตัวน้อยหมุนอยู่แบบนั้น เมื่อหมุนจนงง ก็นั่งก้นจุ้มปุ๊กอยู่ที่พื้น

 

 

มือนิ่มๆ นั่นยังคงประคองก้อนหิมะที่เพิ่งปั้นเสร็จอยู่ ใบหน้างุนงง

 

 

“ปาปา เสี่ยวลิ่วลิ่วมองเห็นดาวตอนกลางวันด้วย……”

 

 

อวี๋เยว่หาน “……”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “……”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พอเห็นว่าเธอล้มลง ก็รีบร้อนลงจากอ้อมกอดของอวี๋เยวห่าน

 

 

ก้มลง อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วขึ้นมาจากพื้น ปัดก้นให้เธอ เป็นห่วงกำลังจะถามว่าเธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่า

 

 

ก็เห็นว่าเจ้าตัวน้อยประคองก้อนหิมะในมือยื่นมาตรงหน้าเธอราวกับของมีค่า

 

 

“มามา เสี่ยวลิ่วลิ่วปั้นน้องชายได้หล่อมั้ย”

 

 

พอเสี่ยวลิ่วลิ่วปั้นครอบครัวสามคนเสร็จเรียบร้อย ก็รู้สึกไม่พอใจกับความสำเร็จตรงหน้า ก็เลยเริ่มลงมือปั้นน้องสาวน้องชายที่ยังไม่มีแม้แต่เงา……

 

 

“……”

 

 

เหยียนเสี่ยวมู้มองดูก้อนหิมะที่บิดเบี้ยวในมือของเจ้าตัวน้อย

 

 

ถ้าเกิดลูกชายของเธอเป็นเหมือนก้อนหิมะในมือของเสี่ยวลิ่วลิ่วจริงๆ ชีวิตนี้เธอคงไม่อยากมีลูกชายแน่ๆ

 

 

แต่ว่าเสี่ยวลิ่วลิ่วยังเด็ก ทำร้ายจิตใจเธอไม่ได้

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กำลังคิดว่าจะตอบอย่างไรจึงจะเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย

 

 

อวี๋เยว่หานก็เดินเข้ามา กวาดตามองไปที่ก้อนหิมะบิดเบี้ยวในมือของเสี่ยวลิ่วลิ่ว จากนั้นก็เอ่ยออกไปประโยคหนึ่ง

 

 

“พวกคุณแม่ลูกมีงานอดิเรกที่เหมือนกันอยู่ ก็คือชอบสะสมพี่ชายน้องชายหน้าตาดีตั้งแต่เด็กๆ”

 

 

“……”

 

 

“แต่เสี่ยวลิ่วลิ่ว เรื่องนี้ลูกสู้แม่ของลูกไม่ได้ แม่ของลูกตอนเด็กๆ ชอบแต่พี่ชายหน้าตาดี”

 

 

 

 

 

 ตอนที่ 650 ผมกำลังปลอบคุณอยู่

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “……”!!

 

 

ทำไมจู่ๆ ก็รู้สึกเสียววูบที่แผ่นหลังกันนะ

 

 

ไหนคุยกันว่าจะไม่พูดเรื่องพี่ชายหน้าตาดีแล้วไง……

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ชะงักไปแปบหนึ่ง จากนั้นก็โดนใครบางคนลากเข้าไปในห้องนอน

 

 

ถูกกดลงบนเตียง

 

 

หญิงสาวกำลังจะเอ่ยพูด ริมฝีปากก็ถูกประกบปิดลงมาเสียก่อน

 

 

จูบด้วยความอ้อยอิ่งและกินเวลานาน

 

 

ไม่ง่ายเลยที่จะดึงสติให้กลับคืนมา เหนียนเสี่ยวมู่รีบยื่นมือไปดันแผงอกของชายหนุ่มเอาไว้ “อวี๋เยว่หาน ตอนนี้ฉันกำลังเสียใจมาก คุณควรจะปลอบฉันก่อนไม่ใช่เหรอ”

 

 

มีใครฉวยโอกาสตอนที่คนอื่นกำลังเสียใจ รังแกกันแบบนี้บ้างนะ

 

 

ไม่อ่อนโยนเลยแม้แต่นิดเดียว!

 

 

“ผมกำลังปลอบคุณอยู่”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “???”

 

 

“คุณชอบพี่ชายหน้าตาดี ผมก็หน้าตาดีมาก”

 

 

“……”

 

 

“ผมเสียสละใช้ร่างกายตัวเองปลอบใจคุณ”

 

 

สิ้นคำพูดของอวี๋เยว่หาน ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจสีหน้าที่ตะลึงไปของเธอ ก้มลงประกบจูบไปอีกรอบ

 

 

พอชายหนุ่มทำเสร็จ เหนียนเสี่ยวมู่ก็เหนื่อยจนไม่มีแรงคิดอะไรทั้งนั้นแล้ว ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มหลับสนิทไป

 

 

อวี๋เยว่หานอุ้มหญิงสาวขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ

 

 

พอจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็อุ้มเธอเดินออกไปวางลงบนเตียงอีกครั้ง

 

 

ให้เธอหลับต่อไป

 

 

ตัวเองอยู่ในชุดนอนตัวเดียว ถือโทรศัพท์และบุหรี่เดินออกไปที่ระเบียง

 

 

จุดบุหรี่ขึ้นมวนหนึ่ง

 

 

ยื่นส่งไปที่ริมฝีปากดูที่ดีนั่น สูดหายใจเข้าปอดลึกๆ หนึ่งที

 

 

ควันบุหรี่สีเขียวจางๆ รินรดอยู่ที่ใบหน้าอันมีเสน่ห์ของเขา ทำให้ใบหน้างานนั้นมองดูเลือนราง แต่ก็ยิ่งทำให้ดูเซ็กซี่แบบลึกลับมากยิ่งขึ้น

 

 

ร่างกายสูงตรงเอนพิงอยู่ที่ราวระเบียง

 

 

หมุนตัวกลับ มองดูเหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงของเขาผ่านผ้าม่านที่ยาวระพื้น

 

 

เธอเข้มแข็งมาโดยตลอด

 

 

พึ่งพาตัวเองได้มากกว่าผู้หญิงปกติทั่วๆ ไป มีรัศมีสูงส่งราวกับราชินีอยู่รอบตัว

 

 

ในสายตาของเขา เธอก็เป็นแค่จิ้งจอกน้อยตัวหนึ่งเท่านั้น

 

 

ฉลาด เจ้าเล่ห์ ไม่เคยเสียใจ อ่อนแอแบบตอนนี้มาก่อนเลย เหมือนกันเม่นที่ถูกถอนหนามออกไปเหลือไว้แต่ลำตัวแท้จริงที่ดูอ่อนแอ……

 

 

เขารับมือกับเธอที่เป็นแบบนี้ไม่ถูก

 

 

แววตาสีดำขลับที่ดูนิ่งลึก ปกปิดอารมณ์ส่วนลึกไว้ไม่มิด

 

 

ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา นิ้วเรียวยาวเลื่อนไปกดโทรออก “ให้คนติดต่อถานเปิงเปิงหรือยัง”

 

 

“ตอนนี้ติดต่อไม่ได้ครับ ทางโรงพยาบาลบอกว่า ถานเปิงเปิงไปร่วมงานแลกเปลี่ยนความรู้ทางการแพทย์ที่ต่างประเทศ อาจจะไม่ได้เห็นข่าวในประเทศเราในช่วงสองสามวันนี้” ผู้ช่วยตอบอย่างนอบน้อมดังออกมาจากปลายสาย

 

 

ถานเปิงเปิงเป็นคนแรกที่ได้พูดคุยใกล้ชิดกับเหนียนเสี่ยวมู่หลังจากที่เธอตื่นขึ้นมา

 

 

มีเรื่องมากมายที่ต้องถามเธอ

 

 

คิดไม่ถึงเลยว่า เธอจะไปต่างประเทศในเวลานี้

 

 

ในสมองของอวี๋เยว่หานเหมือนจะมีอะไรแวบขึ้นมา จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าเหนียนเสี่ยวมู่เคยบอกกับเขาว่าถานเปิงเปิงจะไม่อยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

 

 

แต่รับปากกับเธอแล้ว ว่าจะกลับมาให้ทันงานแต่งของเธอ

 

 

เรื่องของสิงลี่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกิดไป

 

 

น่าจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น

 

 

“ในเมื่อถานเปิงเปิงไม่อยู่ ก็ให้หมอคนอื่นมาตรวจร่างกายให้เหนียนเสี่ยวมู่ ฉันอยากรู้ว่ารอยไฟไหม้ที่ท้องของเธอ มันเกิดขึ้นตอนปีไหน!” อวี๋เยว่หานเอ่ยบอก สิ้นคำพูดก็กดวางสายไป

 

 

ยกมือขยี้บุหรี่ลงบนที่เขี่ยบุหรี่ แล้วก้าวกลับเข้าไปในห้อง

 

 

ภายในห้อง เหนียนเสี่ยวมู่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่

 

 

ใบหน้าไร้พิษสงราวกับเด็กทารกแรกเกิด

 

 

ท่าทางการนอนของเธอเหมือนกับเสี่ยวลิ่วลิ่ว

 

 

นอนเปะปะจนเขาจนปัญญา

 

 

เมื่อครู่ยังนอนอยู่ที่กลางเตียงอยู่เลย พริบตาเดียวก็กลิ้งไปอยู่ที่ริมเตียงแล้ว ค้างอยู่ที่ขอบเตียงราวกับใกล้จะหล่นลงจากเตียง

 

 

ชายหนุ่มเดินเข้าไปกำลังจะประคองเธอ แต่เหมือนว่าเธอจะรับรู้ว่ามีอันตรายจึงพลิกตัวกลับไปอยู่ที่กลางเตียงด้วยตัวเอง

 

 

ปากก็บ่นพึมพำ “อวี๋เยว่หานไม่เอาแล้ว……คุณหล่อ พี่ชายทั้งโลกรวมกันยังหล่อไม่เท่าคุณเลย……”