ตอนที่ 651 เหตุการณ์ไฟไหม้สองครั้ง! / ตอนที่ 652 ผมต้องการแค่เธอ!

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 651 เหตุการณ์ไฟไหม้สองครั้ง!

 

 

อวี๋เยว่หาน……ดังนั้น คุณยังฝันเห็นพี่ชายคนอื่นในความฝันอีกเหรอ

 

 

ใบหน้าของใครบางคน คล้ำลงอีกครั้ง

 

 

พอหมอประจำตระกูลมาถึง เหนียนเสี่ยวมู่ก็ยังคงนอนหลับอยู่

 

 

อวี๋เยว่หานไม่ให้ใครปลุกหญิงสาว แต่กลับเดินนำหมอไปที่เตียง เอื้อมมือเลิกเสื้อของเหนียนเสี่ยวมู่ขึ้น

 

 

รู้ว่าต้องหาหมอมาตรวจร่างกายให้เหนียนเสี่ยวมู่ ผู้ช่วยจึงเลือกหมอผู้หญิงด้วยความฉลาด

 

 

ส่วนตอนนี้ตัวเองยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูอย่างรู้งาน

 

 

ภายในห้อง หมอเริ่มลงมือตรวจร่างกายของเหนียนเสี่ยวมู่แล้ว

 

 

กำลังจะยื่นมือไปสัมผัสกับรอยแผลเป็นไฟไหม้ของหญิงสาว เหนียนเสี่ยวมู่ก็ตื่นขึ้นพอดี

 

 

กำลังจะขยับ อวี๋เยว่หานก็เอื้อมมือไปจับเธอไว้อย่างรวดเร็ว

 

 

“ไม่ต้องกลัว นี่คือหมอ”

 

 

“……” เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งจะตื่นขึ้นมา ยังคงมึนงงอยู่

 

 

มองดูหมอผู้หญิงที่ใส่แว่นที่กำลังจ้องแผลเป็นที่ท้องของเธอ มองอยู่สักพัก หมอก็หยัดตัวลุกขึ้น

 

 

ถอดแว่นตาออก

 

 

เอ่ยพูดขึ้นอย่างมืออาชีพ “รอยแผลไฟไหม้ที่ท้องของคุณเหนียน มองดูแล้วน่าจะไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง อีกอย่างมันเกิดอยู่บนรอยแผลผ่าคลอด ดังนั้นการสมานแผลมันเลยพอๆ กับแผลผ่าตัด ถ้าเกิดฉันคาดคะเนไม่ผิด รอยแผลไฟไหม้น่าจะเกิดขึ้นเวลาเดียวกับแผลผ่าคลอด”

 

 

หมอพูดจบ ก็ชะงักไปเล็กน้อยแล้วเอ่ยต่อ

 

 

“ถ้าเกิดคุณทั้งสองมีข้อสงสัยอะไรกับการสรุปนี้ หรือว่าอยากได้คำตอบที่แน่นอน ก็แนะนำให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกรอบ หากใช้เครื่องตรวจสอบ ผลมันจะแม่นยำกว่านี้”

 

 

ได้ยินคำพูดของหมอ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ก้มลงมองรอยแผลไฟไหม้ที่หน้าท้องของตัวเอง

 

 

พอเธอเงยหน้าขึ้นมาอีกรอบ ผู้ช่วยก็พาหมอเดินออกไปแล้ว

 

 

ภายในห้อง มีแค่อยู่อวี๋เยว่หานที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ

 

 

ดวงตาสองคู่สบตากัน เธอเข้าใจความหมายของเขาได้อย่างรวดเร็ว

 

 

ถ้าเกิดรอยแผลเป็นบนตัวของเธอ เกิดขึ้นในตอนที่เธอคลอดเสี่ยวลิ่วลิ่วออกมา อย่างนั้นเรื่องไฟไหม้ของตระกูลสิงเมื่อสิบปีก่อนก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอทั้งสิ้น

 

 

เรื่องที่สิงลี่พูดว่าพ่อแม่บุญธรรมตายเพราะช่วยเธอ ก็ไม่ใช่เรื่องจริงสักนิด

 

 

“ฉันจำได้ว่าฉันเคยถามเปิงเปิง เธอบอกฉันเองว่าตอนที่เจอฉัน ฉันบาดเจ็บหนักมาก อีกอย่างตอนนั้นฉันเพิ่งคลอดลูก แต่ลูกของฉันหายตัวไป เธอกลัวว่าฉันจะรับความเจ็บปวดนี่ไม่ไหว แถมฉันก็ลืมเรื่องทุกอย่างไปหมดแล้ว เธอเลยปิดปังเรื่องที่ฉันเคยมีลูกเอาไว้……”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เอ่ยออกมาเบาๆ ราวกับกำลังนึกทบทวนอยู่

 

 

จากนั้นก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เงยหน้าขึ้น

 

 

“ถานเปิงเปิงเคยบอกฉันไว้ว่า แผลบนตัวฉันมีแผลที่เกิดจากไฟไหม้ แต่เพื่อที่จะปกปิดรอยผ่าคลอดของฉันเอาไว้ไม่ให้ฉันสงสัย เธอเลยช่วยลบรอยแผลส่วนอื่นๆ ที่ท้องของฉันออก เหลือไว้แค่ตรงนั้นที่เดียว”

 

 

เธอจำได้ตลอดว่าเธอเคยเห็นเหตุการณ์ไฟไหม้

 

 

ไฟไหม้รุนแรงมาก ในไฟนั้น มีคนคอยปกป้องเธอ เร่งให้เธอหนีไป

 

 

ดังนั้นเมื่อสิงลี่บอกกับเธอว่า พ่อแม่ของเธอตายเพราะช่วยชีวิตเธอ เธอเลยได้รับการกระทบกระเทือนใจเป็นอย่างมาก

 

 

แต่ว่าตอนนี้พอมาคิดดู สิงลี่พูดไม่ถูก!

 

 

รอยแผลไฟไหม้บนตัวของเธอเกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อน

 

 

แต่ทำไมเหตุการณ์ไฟไหม้ของตระกูลสิงเมื่อสิบปีก่อน คนในตระกูลตาย มีคนเสียโฉม แต่เธอกลับไม่เป็นอะไรเลยสักนิดเดียว

 

 

“สิงลี่ต้องมีเรื่องที่ปิดบังเอาไว้ อีกอย่างที่เธอออกมาเปิดโปง ก็เหมือนจะไม่ใช่ต้องการการชดใช้แต่อยากได้ชีวิตของคุณ!” ร่างสูงยาวของอวี๋เยว่หานยืนย้อนแสงอยู่ เอ่ยขึ้นนิ่งๆ

 

 

แววตาเปลี่ยนเป็นเย็นเยือก

 

 

ตระกูลสิงกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก คนปกติหากรู้ว่าสิงซิงจะได้เป็นนายหญิงของตระกูลอวี๋ก็ต้องรีบร้อนอยากแสดงตัวเป็นญาติ

 

 

เอาใจเหนียนเสี่ยวมู่ ให้เธอช่วยดูแลตระกูลสิง

 

 

แต่วิธีการที่สิงลี่ทำ กลับกลายเป็นไปเปิดโปงเหนียนเสี่ยวมู่กับพวกนักข่าว อยากให้เธอเสียชื่อเสียง

 

 

 

 

 

 ตอนที่ 652 ผมต้องการแค่เธอ!

 

 

มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ ที่ทำให้สิงลี่ยอมแลกทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่ลากเหนียนเสี่ยวมู่ให้ตกต่ำลงไปด้วย

 

 

อวี๋เยว่หานกับเหนียนเสี่ยวมู่ตกอยู่ในความเงียบพร้อมกัน

 

 

ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะนึกถึงเบาะแสที่มองข้ามไปออก ผู้ช่วยก็เดินเข้ามาด้านในอย่างรีบร้อน

 

 

“คุณชายหาย คุณชายอวี๋กับคุณนายอวี๋พาผู้ใหญ่คนอื่นๆ ในตระกูลมารออยู่ด้านล่าง บอกว่าต้องการพบคุณครับ”

 

 

คุณชายอวี๋ที่ผู้ช่วยพูดถึงก็คือลูกชายนอกสมรสที่ผู้เฒ่าอวี๋รับกลับเข้ามาในตระกูลก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต อวี๋ฮุยเหวยและภรรยาของเขาเฉิงซิ่วลู่

 

 

ก่อนหน้านี้เฉิงซิ่วลู่โดนเหนียนเสี่ยวมู่เล่นงาน

 

 

แต่เมื่อมีอวี๋เยว่หานออกหน้าอยู่ เธอเลยจัดการเหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้

 

 

คราวนี้เมื่อได้ยินว่าเหนียนเสี่ยวมู่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอจะปล่อยโอกาสแบบนี้ไปง่ายๆ ได้อย่างไรกัน เธอรีบยุแยงอวี๋ฮุยเหวย สองสามีภรรยาใช้ทุกวิถีทางในการพูดเป่าหูผู้ใหญ่ในตระกูลคนอื่นๆ ให้ช่วยกันออกมาคัดค้านการหมั้นของอวี๋เยว่หานกับเหนียนเสี่ยวมู่

 

 

พอมีข่าวออกไปเธอก็ยุ่งวุ่นวายจนถึงตอนนี้

 

 

เมื่อได้ยินว่าหุ้นของบริษัทตระกูลอวี๋ตก ก็รีบพาคนอื่นๆ มาที่คฤหาสน์อวี๋ในทันที

 

 

อวี๋เยว่หานกับเหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ได้ลงมาถึงชั้นล่าง ก็ได้ยินเสียงจากชั้นล่างดังแว่วมาแล้ว

 

 

“ผู้หญิงที่ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยสักอย่าง อยากจะแต่งเข้ามาในตระกูลอวี๋ ฉันก็ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกแล้ว แต่เยว่หานไม่ยอมฟัง ตอนนี้เป็นยังไงล่ะ พวกคุณเห็นแล้วใช่ไหมว่าข่าวบอกว่ายังไงบ้าง ตัวกาลกิณีที่ทำให้ครอบครัวตัวเองต้องตายกลายมาเป็นสมบัติของตระกูลอวี๋ของเรา พูดออกไปคนอื่นเขาจะไม่คิดว่าตระกูลเราโง่หรือไง”

 

 

“เรื่องนี้เดิมทีมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเยว่หาน เขาชอบ พวกเราที่เป็นผู้ใหญ่ก็พูดอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเขาอยากจะแต่งตัวกาลกิณีคนนี้เข้ามาในตระกูลอวี๋ของเราจริงๆ ทำลายตระกูลของเรา พวกเราก็คงจะทนมองอยู่เฉยๆ ไม่ได้……”

 

 

“ตอนนี้เยว่หานหลงผู้หญิงคนนั้นหัวปรักหัวปรำแล้ว คนที่อยู่ในที่นี้ล้วนเป็นญาติผู้ใหญ่ของเขา พวกคุณคงไม่อยากจะเห็นเขาเดินไปในทางที่ผิดแล้วไม่ห้ามเขาเอาไว้หรอกใช่ไหม……”

 

 

“……”

 

 

ปกติเฉิงซิ่วลู่ดูเป็นคนไม่ค่อยมีสมอง แต่คำพูดที่พูดออกมาวันนี้กลับดูฉลาดดีจริงๆ

 

 

แค่คำพูดไม่กี่คำก็ทำให้พวกผู้ใหญ่ต่างเข้าข้างเธอกันหมด

 

 

ทำให้เหนียนเสี่ยวมู่กลายเป็นปีศาจนำหายนะมาสู่ทุกคน เป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่หลอกล่อให้กษัตริย์หลงเสน่ห์

 

 

“โทรศัพท์ของฉันล่ะ” เหนียนเสี่ยวมู่ได้ยินคำพูดของเฉิงซิ่วลู่ ก็หันกลับวิ่งไปที่หัวเตียง หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา

 

 

เปิดหน้าเว็บ อ่านข่าวที่ลงล่าสุด

 

 

ภาพที่สิงลี่เดินลงมาจากรถ แล้วร้องไห้ต่อหน้านักข่าว โดนไลฟ์สดออกไปในตอนนั้น

 

 

เปรียบเทียบกับครั้งก่อนที่เธอสัมภาษณ์โดยไม่เปิดเผยหน้าตา ครั้งนี้สิงลี่ไม่ได้สนใจภาพลักษณ์ของตัวเองแม้แต่น้อย เปิดเผยให้เห็นใบหน้าที่ถูกไฟครอกอย่างชัดเจน

 

 

รอยแผลเป็นน่าเกลียด ประดับอยู่ที่ใบหน้าครึ่งซีก

 

 

ครึ่งนางฟ้า ครึ่งปีศาจ

 

 

แต่ก็เห็นได้ชัดว่า ประสบการณ์ที่น่าเวทนาทำให้คนทุกคนต่างก็เห็นใจเธอ

 

 

พริบตาเดียว คนที่ไม่รู้ความจริงต่างก็โพสต์โจมตีด่าเหนียนเสี่ยวมู่กันเป็นแถว

 

 

ต่างก็ด่าว่าเธอไม่ใช่คน

 

 

เป็นตัวซวย

 

 

ทำให้พ่อแม่ของตัวเองตาย แล้วยังจะมาทำร้ายอวี๋เยว่หานอีก

 

 

ไม่คู่ควรกับอวี๋เยว่หาน……

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กำโทรศัพท์ในมือไว้แน่น ไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา

 

 

วินาทีต่อมา ก็มีมือใหญ่ปิดลงที่ตาของเธอ

 

 

“เหนียนเสี่ยวมู่ คุณควรจะรู้ว่าผมไม่ยอมรับข้ออ้างใดๆ ทั้งสิ้นที่คุณจะอ้างเพื่อทิ้งผมไป”

 

 

อวี๋เยว่หานดึงโทรศัพท์ออกมาจากมือของหญิงสาว โยนไปบนเตียง จูงมือของเธอ สิบนิ้วประสานกันแน่นแล้วหมุนตัวเดินลงไปด้านล่าง

 

 

พอเดินมาถึงบันไดขึ้นสุดท้าย ได้ยินเสียงฝีเท้า คนที่อยู่ที่ห้องรับแขกต่างก็ลุกขึ้นยืน

 

 

เฉิงซิ่วลู่ยืนขึ้นเป็นคนแรก เดินเข้าไปด้านหน้า

 

 

มองเห็นคนทั้งคู่จับมือกันอยู่ ก็พูดเสียงแหลม “เยว่หาน เธอต้องการพูดหญิงแบบไหนก็มีทั้งนั้น เธอทิ้งตัวกาลกิณีนี่ไปเถอะ!”