ตอนที่ 253 สุนัขป่า

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 253 สุนัขป่า

“เรียนฮูหยินผู้เฒ่า ตัวยาที่บ่าวจัดซื้อมาได้บันทึกไว้ในนี้ทั้งหมดขอรับ”

ฮูหยินผู้เฒ่าเปิดดูจนถึงหน้าสุดท้าย เมื่อมิเห็นคำว่าขมิ้นถูกบันทึกไว้ในสมุดบัญชี สีหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นย่ำแย่ทันที

เมื่อหม่าห่าวเห็นสีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าก็เริ่มรู้สึกแตกตื่นอยู่ภายในใจ

เขาแค่แอบเก็บเงินส่วนต่างจากในบัญชีเล็กน้อย ฮูหยินผู้เฒ่าคงมิลงโทษเพราะสิ่งนี้หรอกกระมัง ?

ทว่าตำแหน่งจัดซื้อเป็นตำแหน่งที่สามารถหาผลประโยชน์ส่วนตนได้มากที่สุด มีผู้ใดบ้างที่มิคว้าผลประโยชน์จากสิ่งนี้ ?

เขาเริ่มกระวนกระวาย ผ่านไปชั่วครู่จึงได้ยินฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวอย่างมิเร็วมิช้าว่า “ช่วงนี้เจ้าได้ไปซื้อขมิ้นมาหรือไม่ ? ”

หม่าห่าวครุ่นคิดแล้วส่ายศีรษะอย่างมั่นใจ “เรียนฮูหยินผู้เฒ่า บ่าวซื้อของตามใบสั่งจากเจ้านายเท่านั้น ของที่มิอยู่ในใบสั่ง บ่าวมิกล้าซื้อมาหรอกขอรับ”

“เช่นนั้นก็แปลก ” เว่ยซื่อจ้องหม่าห่าว หวังได้เห็นพิรุธอันใดจากใบหน้าของเขาบ้าง “น้ำซุปที่ฮูหยินผู้เฒ่าดื่มไปมีขมิ้นอยู่ แต่เจ้าบอกว่าช่วงนี้มิเคยซื้อมันมาก่อน เช่นนั้นคงมีคนจงใจเปลี่ยนตัวยาเพราะอยากลอบ…หาผลประโยชน์ใช่หรือไม่ ? ”

นางเกือบหลุดคำว่าลอบสังหารฮูหยินผู้เฒ่าออกมา พอนึกถึงคำที่ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวกับป้าซุนก่อนหน้านี้ นางจึงรีบเปลี่ยนคำทันที พร้อมกับดวงตาที่ฉายแววเคร่งเครียด

ลอบหาผลประโยชน์ ประโยคนี้ทำให้หม่าห่าวกลัวขึ้นมา เขาจึงรีบคุกเข่าลงพื้น “ขอฮูหยินผู้เฒ่าให้ความเป็นธรรมด้วยขอรับ บ่าวเพียงรับเงินมาบ้างตอนซื้อตัวยา ทว่ามันคือการรับสินน้ำใจเล็กน้อยที่ผู้อื่นมอบให้ บ่าวมิเคยลงมือต่อตัวยาเหล่านั้นเลยขอรับ ! ”

“ไปนำตัวอย่างยาในคลังมา” ฮูหยินผู้เฒ่ามิได้มองหม่าห่าวที่อยู่บนพื้น เพียงสั่งจินหลิงข้างกายเท่านั้น

ในความคิดของฮูหยินผู้เฒ่าคือหม่าห่าวเป็นบุคคลน่าสงสัยเช่นกัน สำหรับผู้ที่มีความเป็นไปได้ว่าจักวางยาพิษตนนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าย่อมมิแสดงสีหน้าเมตตาออกมาได้หรอก

หม่าห่าวที่อยู่บนพื้นเห็นท่าทีของฮูหยินผู้เฒ่าก็ยิ่งกลัวมากขึ้น ทว่ามิกล้าเอ่ยอันใดอีก

ดวงตาของเขากลิ้งกลอกไปมา แต่พอเห็นหลี่ซื่อแล้ว ดวงตาของเขาก็สว่างวาบทันที

หม่าห่าวรีบส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปทางหลี่ซื่อ แต่อีกฝ่ายทำเป็นมองมิเห็นแล้วยืนก้มหน้าอย่างสงบเสงี่ยมประหนึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ไร้ความเกี่ยวข้อง

อันหลิงเกอเห็นสีหน้าเช่นนั้นของหลี่อี๋เหนียงก็รีบเดินไปหาทันที

“หลี่อี๋เหนียง ผู้จัดซื้อคนนี้เป็นคนของท่าน มิสู้ท่านช่วยสอบถามแทนท่านย่าว่าเขาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่”

นางกล่าวพลางโปรยบางอย่างไปข้างกระโปรงของหลี่ซื่อ

หลี่ซื่อยังมิรู้ตัว เพียงคิดว่าอันหลิงเกอคงอยากพูดเพื่อดึงนางลงหลุมไปด้วย มุมปากของนางจึงยกขึ้นพร้อมหัวเราะเย้ยหยัน “เขาเป็นเพียงบ่าวที่เก่งในเรื่องทำบัญชีเท่านั้น ข้าจึงมอบเรื่องนี้ให้เขารับผิดชอบ ตอนนี้คุณหนูใหญ่ให้ข้าสอบสวนเขา ข้ามิรู้ว่าต้องถามอันใดหรอก”

เมื่อครู่ฮูหยินผู้เฒ่าบอกเป็นนัยแล้วว่าให้พวกนางเก็บเรื่องยาพิษเป็นความลับ แม้หลี่ซื่ออยากใช้เรื่องนี้มาถามหม่าห่าวก็ต้องได้รับความยินยอมจากฮูหยินผู้เฒ่าก่อน

อันหลิงเกอยิ้มอย่างขอโทษไปทางฮูหยินผู้เฒ่า ใบหน้าแฝงความรู้สึกผิด “ท่านย่า หลานใจร้อนไปหน่อยเจ้าค่ะ”

เมื่อครู่นางได้ช่วยชีวิตฮูหยินผู้เฒ่าไว้แล้วนางจักกล่าวโทษอันหลิงเกอได้อย่างไร ?

“มิเป็นไร ย่ารู้ว่าเจ้าทำเพราะเป็นห่วง”

ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาก ดีจนหลี่ซื่อต้องแอบขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เสียแรงที่นางวางแผนนี้ไว้แต่ทำให้อันหลิงเกอได้หน้าไปอีก !

ตอนนี้นางกำลังหงุดหงิดและในขณะเดียวกันนางก็ได้ยินเสียงเห่าของสุนัขดังมาจากนอกประตู

“ป้าซุนกลับมาแล้วเจ้าค่ะ”

จินหลิงมองฮูหยินผู้เฒ่าทีหนึ่ง พอได้รับอนุญาตจึงเดินออกไปพาป้าซุนและสาวใช้เข้ามาด้วยกัน

ป้าซุนถือเชือกไว้ในมือเส้นหนึ่ง ส่วนปลายอีกด้านก็มัดคอสุนัขป่าเอาไว้

“เรียนฮูหยินผู้เฒ่า บ่าวนำสุนัขมาแล้วเจ้าค่ะ”

ป้าซุนเอ่ยด้วยความเคารพเสร็จก็เห็นหลี่ซื่อแสดงท่าทีรังเกียจสุนัขออกมาทันที และแอบถอยหลังไปอีกก้าวหนึ่ง

คนสูงส่งย่อมมิชอบสุนัขสกปรกเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดา

ป้าซุนจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ แต่นางเห็นอันหลิงเกอเดินเข้ามาแล้วยื่นมือไปลูบศีรษะสุนัขราวกับปลอบใจมันอยู่

“อีกครู่คงต้องพึ่งสุนัขตัวนี้ในการตามหาคนร้าย”

เว่ยซื่อยิ้มและดวงตาจ้องไปที่หลี่ซื่อ ความหมายในแววตาอธิบายได้มิชัดเจน

ระหว่างพวกนางย่อมมีเรื่องแค้นเคืองเป็นธรรมดา ป้าซุนเป็นแค่บ่าวคนหนึ่งจึงมิกล้าเอ่ยอันใด เพียงวางมือไว้ข้างกายแล้วยิ้มแห้ง

โชคดีที่จินหลิงเริ่มนำตัวอย่างยาแต่ละชนิดออกมาและวางเรียงบนโต๊ะต่อหน้าฮูหยินผู้เฒ่า การกระทำนี้ดึงดูดสายตาผู้คนมิน้อย

นั่นคือตัวอย่างยาที่นางไปเอามาจากคลังเก็บยาโดยนำออกมาเพียงบางส่วน

อันหลิงเกอรับสมุดบัญชีเล่มนั้นจากฮูหยินผู้เฒ่าแล้วอ่านรอบหนึ่ง จากนั้นก็วางไว้บนโต๊ะยาและเริ่มตรวจโดยการจับคู่

“*โสมซานซี *จินเฉียนเฉ่า…” นางหยิบยาบนโต๊ะขึ้นมาแล้ววางลง จากนั้นก็หยิบไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหยิบได้บางอย่างที่มีลักษณะยาวแห้งขรุขระเหมือนเปลือกส้มตากแห้ง

หลี่ซื่อเห็นนางหยุดจึงรีบมองไปที่มือของนางและเห็นว่าสิ่งที่อันหลิงเกอจับไว้คือขมิ้นจริงเสียด้วย หนังตาของหลี่ซื่อจึงกระตุกทันที

นางแค่สั่งให้เถ่าหงไปเปลี่ยนเปลือกส้มเป็นขมิ้นโดยมิให้ผู้ใดเห็น เดิมทีคิดว่าวันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าต้องตายแล้วอันหลิงเกอโดนตราหน้าว่าเป็นผู้ร้าย นางจึงมิได้ให้เถ่าหงเปลี่ยนยาที่เหลือกลับเหมือนเดิม

หากโดนอันหลิงเกอตรวจพบ…

หลี่ซื่อแอบกำมือไว้แน่น แววตาสั่นระริกอย่างห้ามมิได้

“คุณหนูใหญ่ นี่คืออันใด มันผิดปกติตรงไหนหรือ ? ” นางยังมิได้กล่าวออกมาแต่เว่ยซื่อชิงกล่าวขึ้นเสียก่อน

อันหลิงเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็ใช้เล็บขูดเจ้าสิ่งนั้นจึงเผยให้เห็นเนื้อด้านในที่มิเหมือนสีของเปลือกส้ม พอแกะออกก็ส่งกลิ่นแรงกระจายไปทั่วเรือน

“นี่มิใช่เปลือกส้มแต่เป็นขมิ้น” สีหน้าของอันหลิงเกอดูประหลาดใจ เมื่อก่อนนางเคยเห็นแต่ขมิ้นที่ผ่านการแปรรูปเป็นผงแล้ว นี่จึงเป็นครั้งแรกที่นางได้รู้ว่าขมิ้นแห้งคล้ายกับเปลือกส้ม !

เว่ยซื่อจดจ้องหม่าห่าว ใบหน้าที่อ่อนโยนมาตลอดเริ่มมีโทสะ “จงสารภาพมา ผู้ใดใช้ให้เจ้าแอบเปลี่ยนยาของฮูหยินผู้เฒ่า ใครสั่งให้เจ้าทำร้ายฮูหยินผู้เฒ่า ! ”

หม่าห่าวมีสีหน้าร้อนรน “บ่าวซื้อยาตามใบสั่ง เหตุใดจึงมีขมิ้นได้ขอรับ ? ”

เขาชี้ไปทางสมุดบัญชีในมือของอันหลิงเกอ “ในนั้นได้บันทึกไว้และเจ้าหน้าที่สามารถเป็นพยานให้ได้ บ่าวมิได้ซื้อขมิ้นขอรับ”

“แล้วขมิ้นเหล่านี้มาได้อย่างไร ? ” เว่ยซื่อมิเชื่อคำกล่าวของหม่าห่าวและนางกำลังจักเค้นถามอีกสองสามคำแต่ถูกอันหลิงเกอรั้งไว้

“เว่ยอี๋เหนียงอย่าเพิ่งรีบร้อน” อันหลิงเกอเม้มปากแล้วยิ้ม แววตาเหมือนมีแผนการใดอยู่ “เรายังมีสุนัขป่าของป้าซุน แค่ให้มันดม เราก็จักรู้ตัวคนร้ายเอง”

*โสมซานซี รักษาอาการบาดเจ็บจากการฟกช้ำ

*จินเฉียนเฉ่า ขับปัสสาวะ ขับนิ่ว ล้างพิษ ลดบวม