ตอนที่ 1242 รังแกคนอ่อนแอน่ะมันทำกันแบบนี้ (3)
จักรพรรดิแคว้นจิ้วด่าหยาบคายไปอีกชุดใหญ่ด้วยความโกรธ สีหน้าเกรี้ยวกราดดุร้ายอย่างเห็นได้ชัด
“ไอ้พวกโง่ ไร้ความสามารถ! ปล่อยให้คนหนีไปได้ทั้งกลุ่มต่อหน้าต่อตา แค่คนเดียวก็หยุดเอาไว้ไม่ได้!”
ทหารคนนั้นไม่กล้าพูดอะไรสักคำ และรู้สึกขมขื่นอยู่ในใจ พวกเขาอยากหยุดคนพวกนั้นจริงๆ แต่ผู้เยาว์พวกนั้นเก่งกาจเกินไป! ทุกคนมีพลังวิญญาณขั้นสีม่วง ทหารธรรมดาอย่างพวกเขาจะไปสู้เด็กพวกนั้นได้ยังไง?
ถ้าไม่ใช่เพราะคนร้ายพวกนั้นไม่ได้อยากต่อสู้ยืดเยื้อ แค่ทหารที่มีอยู่ในเมือง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องจะจับพวกเขาสักคนสองคนเลย โชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ถูกกวาดล้างทั้งกองทัพ
ทหารคนนั้นไม่สามารถเอ่ยถึงความยากลำบากที่เขาต้องเจอออกมาได้ ได้แต่คุกเข่าอยู่ตรงนั้นเงียบๆ
จักรพรรดิแคว้นจิ้วโกรธมาก แคว้นจิ้วใช้อำนาจข่มเหงผู้อื่นมาตลอด แต่กลับมีใครบางคนกล้าก่อเรื่องขึ้นในเมืองหลวงของเขาเอง แล้วเขาที่เป็นผู้ครองแคว้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
“สวะทั้งนั้น! ไสหัวออกไป! ถ้ายังจัดการอะไรไม่ได้ล่ะก็ เจ้าคงรู้นะว่าจะเป็นยังไง!”
ทหารคนนั้นตัวสั่น เขาถอยออกไปจากท้องพระโรงทันที
หลังจากเขาออกไปแล้ว ชายหลังค่อมผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นในท้องพระโรง
จักรพรรดิแคว้นจิ้วยังโกรธจัดอยู่ แต่เมื่อเห็นชายชรา เขาก็รีบเดินลงจากบัลลังก์เข้าไปหาทันที และกล่าวทักทายด้วยความเคารพว่า “ผู้อาวุโสหวง!”
ชายชราพยักหน้าเล็กน้อย เขาคือคนเดียวกับชายชราที่ไปยังลานแห่งนั้นพร้อมกับจักรพรรดิแคว้นจิ้วในวันนั้น
“ยังไม่ได้เรื่องงั้นรึ?” ผู้อาวุโสหวงถาม
ใบหน้าของจักรพรรดิแคว้นจิ้วแข็งทื่อ เขาพูดอย่างระมัดระวังว่า “ก็เพราะไอ้พวกนั้นมันไม่ได้เรื่อง ใช้การอะไรไม่ได้ จนถึงตอนนี้ก็ยังหาร่องรอยอะไรไม่ได้เลย แต่ผู้อาวุโสหวงโปรดวางใจ ข้าจะจับคนร้ายได้แน่! พวกมันบังอาจสร้างเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ขึ้นในเมืองหลวงแคว้นจิ้ว และยังเอาตัวจักรพรรดิน้อยแคว้นจัวเฉียวไปอีก ข้าไม่มีวันปล่อยเรื่องนี้ไปแน่!”
ผู้อาวุโสหวงชำเลืองมองจักรพรรดิแคว้นจิ้วแล้วพูดว่า “สามารถโจมตีตรงๆเข้าไปในลานนั้นได้ ฆ่าทหารของเจ้าไปเป็นพันคน และช่วยจักรพรรดิแคว้นจัวเฉียวก่อนจะหลบหนีไปจากที่นั่นได้แบบครบสามสิบสอง คนพวกนั้นย่อมไม่ใช่คนธรรมดา ข้าได้ยินว่าพวกนั้นมีสัตว์อสูรระดับผู้พิทักษ์ 2 ตัวด้วย เรื่องนี้ข้าว่าไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการได้ง่ายๆเลย……”
จักรพรรดิแคว้นจิ้วชะงักไปเล็กน้อย เขาก็ได้ยินเรื่องนั้นเหมือนกัน ในวันที่จักรพรรดิแคว้นจัวเฉียวถูกพาตัวไป มีคนมาที่ลานแห่งนั้นแค่ 6 คนเท่านั้น แต่ทุกคนล้วนเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง และยังมีสัตว์อสูรระดับผู้พิทักษ์อีก 2 ตัว ด้วยพลังรบขนาดนี้ พวกเขาย่อมไม่ใช่กองกำลังที่ทหารของเขาจะต้านทานได้ ที่ตอนนี้เขาระดมคนและทรัพยากรมากมายเพื่อตามสืบเรื่องนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็เพื่อแสดงให้ผู้อาวุโสหวงดูเท่านั้น
“ลืมมันไปเถอะ พักเรื่องนี้ไปก่อน เจ้าหนูแคว้นจัวเฉียวนั่นโดนพิษโลหิตแดงไปแล้ว มีชีวิตอยู่ได้ไม่นานหรอก ไม่ว่าคนพวกนั้นจะมาจากไหน ในเมื่อพวกมันมาที่นี่เพื่อช่วยเด็กนั่นแค่นั้น ก็ไม่จำเป็นต้องตามสืบต่อ ดูจากเวลาแล้ว ข้าว่าเจ้าหนูนั่นน่าจะตายไปแล้วล่ะ” ผู้อาวุโสหวงพูดพลางหัวเราะออกมา เขายังจำตอนที่เห็นเด็กนั่นครั้งแรกได้ ดวงตากลมโตที่ใสซื่อไร้เดียงสาและความมีชีวิตชีวานั่น กระตุ้นความอยากทำลายในใจเขาได้เสมอ
“ได้! ตามที่ผู้อาวุโสหวงสั่ง” จักรพรรดิแคว้นจิ้วรับคำ แล้วแอบเช็ดเหงื่อเย็นๆที่หน้าผาก
“จักรพรรดิสองคนสุดท้ายของแคว้นจัวเฉียวตายด้วยแผนการของเจ้าแล้ว ตอนนี้สายเลือดราชวงศ์ของแคว้นจัวเฉียวหมดสิ้นแล้ว ถึงแคว้นนี้จะเล็ก แต่ก็ยังใช้ประโยชน์ได้ เจ้าคิดจะจัดการกับพวกมันยังไง?” ผู้อาวุโสหวงถามพลางเหลือบมองจักรพรรดิแคว้นจิ้วด้วยหางตา
จักรพรรดิแคว้นจิ้วตกใจกับคำถามเล็กน้อย เขารีบตอบว่า “แคว้นจัวเฉียวก่อเรื่องสร้างความวุ่นวาย ทหารของพวกเขากล้าใช้กำลังในเมืองหลวงแคว้นจิ้ว เห็นชัดๆเลยว่าพวกเขาพยายามจะก่อสงคราม ข้าจะออกคำสั่งยกทัพไปบุกแคว้นจัวเฉียวในอีกไม่กี่วัน คิดว่าไม่นานเราก็จัดการพวกมันได้แล้ว”
กองทัพของแคว้นจัวเฉียวอาจจะไม่คู่ควรให้สนใจ แต่ประชาชนของแคว้นจัวเฉียวยังเอามาใช้งานได้อยู่ พวกเขาเหมาะที่สุดที่จะเปลี่ยนให้เป็นคนพิษ!
← ตอนก่อน