ลู่ฝานยังไม่ทันพูดอะไร ฉู่สิงตบไหล่เขา ยิ้มบางๆ แล้วเดินตามศิษย์พี่ฉู่เทียนออกไป
“ศิษย์พี่ทุกท่าน พวกพี่ทำเพื่ออะไร”
ลู่ฝานเอ่ยถาม
ฉู่สิงโผล่ตัวออกมาจากห้องครึ่งตัว มองลู่ฝานแล้วพูดว่า “ทำไมเหรอ เพราะนายคือศิษย์น้องของเรา!”
ฉู่สิงยิ้มอย่างผ่อนคลาย แล้วปิดประตูลง
ศิษย์พี่ใหญ่อู๋เหวย ศิษย์พี่รองฉู่เทียน ก็ปิดประตูลงเช่นกัน ทั้งลานบ้านเหลือลู่ฝานเพียงคนเดียว
ด้านหลังบ้านไม้ หานเฟิงเดินออกมาอย่างโมโห ในมือมีขาแกะหนึ่งขา ใบหน้าดำเป็นแถบ
เสื้อผ้าบนตัวโดนเผาจนเหลืออยู่ครึ่งเดียว หานเฟิงดับไฟที่กำลังไหม้ผมตัวเอง เงยหน้ามองลู่ฝานแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน พวกศิษย์พี่ะ กลับห้องหมดแล้วเหรอ”
ลู่ฝานพูดว่า “ใช่ พวกเขาให้พวกเราซึมซับพลังหมดเลย ศิษย์พี่หานเฟิง เรามาซึมซับพลังของเหรียญทองกันเถอะ”
หานเฟิงหัวเราะ กัดขาแกะหนึ่งคำ แล้วพูดอู้อี้ “ฉันไม่เอาหรอก เหรียญทองเป็นของนายแล้ว ให้นายทั้งหมดเลย พลังแล้วยังไง ศิษย์น้องช่วยชีวิตฉันไว้ เรื่องซึมซับพลัง ซึมซับเพียงคนเดียว ดีกว่าหลายคนอยู่แล้ว ศิษย์น้องลู่ฝานเก่งขึ้นอีกหน่อย ต่อไปฉันออกไปมีเรื่อง จะได้มีที่พึ่ง ฮ่าๆ ขาแกะไม่เลวจริงๆ กลับไปค่อยๆ กินดีกว่า”
หานเฟิงพูดพลาง รีบเดินกลับห้องตัวเอง
ลู่ฝานยืนอยู่ที่เดิม รอยยิ้มเป็นมิตรอยู่บนใบหน้า
ไม่ว่าศิษย์พี่ของเขาจะมีความผิดปกติอะไร ไม่ว่าจะหาเรื่องมากมายแค่ไหน ไม่ว่าคนอื่นมองยังไง ในสายตาลู่ฝาน พวกเขาคือศิษย์พี่ที่ดีที่สุดในโลก
ลู่ฝานนั่งลงหน้าเหรียญทองช้าๆ วางมือลงบนเหรียญทอง
ลู่ฝานสัมผัสถึงพลังบริสุทธิ์ แผ่ซ่านไปทั่วเหรียญทอง พลังที่สามารถซึมซับได้ ไหลเวียนเป็นอากาศอยู่บนเหรียญทอง
ลู่ฝานเปิดปราณชี่ของตัวเอง ทันใดนั้นพลังทั้งหมดเหมือนหาทางออกเจอ ทะลักเข้ามาหาลู่ฝาน
พลังเหล่านี้โดนร่างกายเขากลั่นอย่างรวดเร็ว เข้าไปในเม็ดไข่มุกเจ็ดสีในตันเถียนของเขา
เม็ดไข่มุกใหญ่ขึ้นอีก เหมือนเสียงหัวใจเต้น ดังทุ้มออกมานอกตัวเขา
ตอนนี้ตันเถียนของลู่ฝานเหมือนบึงเล็กๆ ในนั้นเป็นแสงเจ็ดสี นี่เป็นพลังของเซียนสือฟาง ลู่ฝานยังกลั่นพลังไม่เสร็จสมบูรณ์ เพราะเป็นผลการฝึกตนชั่วชีวิตของเซียนบำเพ็ญชี่ ลู่ฝานต้องถึงแดนอีกหนึ่งแดน ถึงจะกลั่นอีกส่วนหนึ่งได้ จนสักวันหนึ่ง เขาก้าวสู่แดนเซียนบำเพ็ญชี่ หรือมีแดนปราณฟ้าระดับเดียวกับเซียนบำเพ็ญชี่ ถึงจะซึมซับพลังทั้งหมดได้
มีพลังเหล่านี้กักเก็บไว้ในตันเถียนของเขา การฝึกของลู่ฝานจะเร็วขึ้นมาก ตันเถียนได้รับการหล่อเลี้ยง ไข่มุกที่ลู่ฝานก็ไม่รู้ว่าคืออะไรนั้น จะแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้นเหมือนกัน
ไม่สามารถซึมซับพลังพวกนี้ได้ชั่วคราว แต่พลังในเหรียญทอง สามารถเข้าไปในเม็ดไข่มุกได้ เมื่อเทียบกันแล้ว พลังในเหรียญทองอบอุ่นกว่า ซึมซับแล้วไม่มีอันตรายอะไร
เดาได้ไม่ยาก คนที่ใส่พลังเข้าไปในนี้ ต้องเป็นพลังของคนที่แดนสูงกว่าเซียนบำเพ็ญชี่
ไม่รู้ว่าเป็นแดนฟ้าดินหรือแดนหยินหยาง
สามารถกลั่นพลังถึงระดับนี้ ซึมซับง่ายกว่าพลังฟ้าดิน ฝีมือแข็งแกร่งจริงๆ
ลู่ฝานหลับตาลง จมอยู่กับการซึมซับพลัง
เห็นได้ชัดเจนว่า พลังสีเงินในเหรียญทองสว่างขึ้นมา จากนั้นเข้าไปในฝ่ามือลู่ฝาน
ปล่อยปราณชี่ออกมา ชุดที่ก่อตัวจากปราณคลุมตัวลู่ฝานเอาไว้ บนปราณมีลวดลายค่ายกลหยินหยางชัดเจน ถ้ามองดูดีๆ จะเห็นค่ายกลเบญจธาตุด้านล่างค่ายกลหยินหยาง
ไม่มีใครรู้ หลังจากลู่ฝานได้รับการถ่ายทอดจากเซียนสือฟาง เขาเข้าสู่แดนปราณนอกอย่างเป็นทางการแล้ว อีกทั้งไม่ใช่ขั้นหนึ่ง แต่เป็นผลการฝึกตนแดนปราณนอกขั้นสอง
ลู่ฝานระงับมันเอาไว้อย่างสุดกำลัง ไม่ได้พุ่งข้ามขั้นแบบรวดเร็ว
เพราะไม่ใช่พลังของตัวเอง ถ้าพุ่งไปอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถควบคุมได้ จะได้ไม่คุ้มเสีย
ความแข็งแกร่งของพละกำลัง ไม่เพียงแค่ระดับสูงต่ำ สิ่งสำคัญกว่านั้นคือการใช้และควบคุมพลัง